พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 32 ไปที่วิลล่าหลั่งเยว่
เขาไม่ใช่เซียวจ้าน ที่จะสามารถระงับอารมณ์โกรธได้!
สวีเฟินถูกตบครั้งนี้จนมึนไปเลย เธอปิดแก้มที่บวมของเธออย่างรวดเร็ว และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจียงเสวโป๋ด้วยความกลัว ไม่กล้าส่งเสียง
เหตุผลหลักก็คือออร่าของหลงอีนั้นแรงเกินไป และเขาเป็นจ้าวแห่งการฆ่า เพียงแค่แสดงสายตา ก็สามารถทำให้คนกลุ่มหนึ่งตกใจตายได้!
“รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ! มิฉะนั้น ฉันจะลงมือจัดการเองแล้ว ! ”หลงอีพูดอย่างเย็นชา
เจียงเสวโป๋และคนอื่น ๆ ตกใจมากจนพวกเขาถอยหลังไปหลายก้าว ในใจตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
เจียงเฉินยังคงต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้า ชี้ไปที่หลงอี และตะโกน “แกเป็นใครกัน ? แกก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสุนัขเฝ้าบ้าน !กล้าดียังไงมาพูดกับพวกเราแบบนั้น ? แกรู้ไหมว่าเราเป็นใคร ! พวกเราคือคนของตระกูลซูหางเจียง ฉันชื่อเจียงเฉิน เป็นน้องชายของเจียงอวี่โหรว ! แกรีบไปพาเธอออกมาเร็ว ๆ ! ”
ฮ่าฮ่า ด้วยเสียงหัวเราะที่เย็นชา ดวงตาของหลงอีฉายแววเจตนาฆ่า และเตะไปที่ท้องของเจียงเฉินอย่างรุนแรง!
ปัง !
ร่างกายของเจียงเฉินบินกลับหัวเหมือนกุ้ง และกลิ้งไปบนพื้นสองสามครั้งก่อนที่จะล้มลง
“โอ๊ย ! ฉันเจ็บแทบตายแล้ว แม่ เขาเป็นแค่สุนัขเฝ้าบ้านแต่กลับกล้าตีฉัน ! ” เจียงเฉินรู้สึกราวกับว่าท้องของเขาถูกค้อนหนักทุบ ท้องเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สีหน้าของเขาแดงราวกับลูกมะเขือเทศ และเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของเขาก็ออกมาราวกับฝน
สวีเฟินร้องเสียงดัง และรีบไปช่วยเจียงเฉินลุกขึ้นมา จากนั้นชี้ไปที่หลงอีด้วยความโกรธและตะโกน “แก……แกทำร้ายคนได้ยังไง! แกมันก็เป็นแค่หมาเฝ้าบ้านยัง กล้าทำรุนแรง ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก !”
หลงอีพ่นน้ำลายและหัวเราะ ก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่า พวกคุณจะไม่ยอมไป ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องลงมือเองแล้ว ”
ต่อมา ก็มีเสียงปังปังปัง ผสมเสียงกรีดร้องของสวีเฟินและเจียงเฉิน ทั้งคู่ถูกหลงอีโยนออกจากวิลล่า ราวกับว่าพวกเขากำลังแบกขยะ !
มีเพียงเจียงเสวโป๋เท่านั้นที่เดินออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อเหลือบมองสวีเฟินและเจียงเฉินที่ถูกโยนลงบนพื้น เขาก็พูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ขายหน้า ! รีบกลับไปกับฉัน!”
และทางนี้ เซียวจ้านที่อยู่บนชั้นสองของวิลล่า เขามองเห็นทุกอย่าง
ข้างหลัง เจียงอวี่โหรวกำลังเล่นเกมกับเข่อเข่อ สองแม่ลูกกำลังพูดคุยและหัวเราะกัน มีความสุขมาก
“เซียวจ้าน คุณว่า คุณปู่กับพ่อแม่ฉันจะมาจริง ๆ หรือเปล่า ? ฉันกังวลนิดหน่อย เพราะคุณปู่อายุมากขนาดนั้นแล้ว ถ้าพวกเขามาจริง ๆ สามารถให้คุณปู่ไม่ขอโทษได้ไหม เมื่อก่อนเขาเคยดีกับฉันมาก ฉันไม่ต้องการให้ปู่ขอโทษฉันต่อหน้าคนมากมาย ……”
ทันใดนั้นเจียงอวี่โหรวกูดขึ้นมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยต่อตระกูลเจียง
หญิงสาวผู้โง่เขลาผู้นี้ ทำไมถึงเอาแต่คิดถึงคนอื่น ทำไมถึงจิตใจดีขนาดนี้นะ
เซียวจ้านหันกลับมา ยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ตระกูลเจียงจะไม่ปล่อยโอกาสสำหรับความร่วมมือในโครงการในครั้งนี้หรอก เราก็แค่รอ”
“อืม” เจียงอวี่โหรวพยักหน้า แต่ก็ยังคงกังวลเล็กน้อย
ในห้องนั่งเล่นของวิลล่าตระกูลเจียง
สวีเฟินและเจียงเฉินสองแม่ลูก แกำลังบ่นเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมที่พวกเขาได้รับในวิลล่าหลั่งเยว่
ยิ่งกว่านั้น ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและร่างกาย โดยเฉพาะเจียงเฉิน ระหว่างทางยังไปคลินิกเล็ก ๆ และเอาผ้าพันหน้าไว้ราวกับเกี๊ยว ในขณะนี้เขาได้คุกเข่าน้ำตาคลอดเบ้าต่อหน้าเจียงไท่ชาง ร้องไห้พูดว่า “คุณปู่ ดูผมสิครับ โดนตีจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว !เจียงอวี่โหรวคนนั้น ใจร้ายเกินไปแล้ว ยังไงผมก็น้องชายเธอนะ แต่เธอกลับให้รปภที่เฝ้าประตู ทุบตีผมกับแม่จนกลายเป็นแบบนี้ ”
เจียงไท่ชางมองดูหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ด้วยสายตาที่วิตกกังวล และพูดอย่างโกรธเคือง “เจียงอวี่โหรวดีจริง ๆ นะ ! โต้ตอบกลับแล้ว!”
“พ่อคะ ครั้งนี้พ่อจะใจอ่อนไม่ได้แล้วนะคะ !เจ้าเจียงอวี่โหรวคนนี้ตอนนี้ไม่เห็นตระกูลเจียงของเราอยู่ในสายตา ยิ่งไม่เห็นพ่ออยู่ในสายตาแน่ !
พวกเราไป แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เจอ ก็ถูกรปภที่เธอส่งมาพาออกไป พ่อ พ่อต้องให้ความเป็นธรรมแก่พวกเรานะคะ……”
สวีเฟินร้องไห้พูดอึกอัก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในวัยสามสิบสี่ แต่งกายดีและสวยงาม เมื่อร้องไห้แล้วช่างทำให้คนปวดใจจริง ๆ
สีหน้าของเจียงไท่ชางดูแย่มาก และมองเจียงเสวโป๋ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วถามว่า “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”
เจียงเสวโป๋ ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และพูดว่า “พ่อครับ พวกเราไม่ได้เจอหน้าเจียงอวี่โหรว ก็ถูกคนไล่ออกมาแล้ว บางที ถ้าคุณพ่อไม่ไป เกรงว่าก็คงจะไม่เจอ”
ปัง ปัง ปัง !
ไม้ค้ำยันในมือของเจียงไท่ชาง กระแทกกับพื้นกระเบื้องอย่างแรง และพูดด้วยความโกรธ “เอาล่ะ ฉันอยากจะดูว่า เจียงอวี่โหรว ต้องการให้คนแก่อย่างฉันขอโทษเธอหรือไม่ ! ”
หลังจากนั้น เจียงไท่ชางก็ลุกขึ้น และพาคนตระกูลเจียงตรงไปยังวิลล่าหลั่งเยว่ !
ข่าวนี้ แพร่กระจายไปทั่วทั้งวิลล่าตระกูลเจียงและเจียงซื่อ กรุ๊ป และทุกคนล้วนมีสีหน้าที่ตกใจเป็นอย่างมาก
“ข่าวใหญ่ ! ข่าวใหญ่ ! นายท่าน ไปหาเจียงอวี่โหรวแล้ว ! ”
“ได้ยินมาว่า ครอบครัวของเจียงเสวโป๋สามคนไปขอโทษ และโดนซ้อมออกมา ! เจียงอวี่โหรวคนนี้จิตใจโหดร้ายพอตัวเลยนะ ! แม้แต่พ่อแม่ตัวเองกับน้องชายก็ยังไม่เจอ!”
“ถ้าฉันพูด จะต้องเป็นความคิดของเซียวจ้านคนนั้นแน่ ๆ หมาไร้ญาติคนนั้น ยังกล้าที่จะอวดงพลังต่อตระกูลเจียงจริง ๆ !”
ตระกูลเจียงผู้ยิ่งใหญ่ นำโดยเจียงไท่ชาง มาถึงยังประตูของวิลล่าหลั่งเยว่
เมื่อพวกเขาทั้งหมดลงจากรถและเห็นวิลล่าหลั่งเยว่อันงดงาม ทุกคนก็ล้วนตกตะลึง !
“โอ้พระเจ้า ! นังสารเลวเจียงหยูโหรวคนนี้อาศัยอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอ ? ”
“ให้ตายเถอะ ! วิลล่าหลังนี้ มีมูลค่าเท่ากับสิบตระกูลเจียงของเราใช่ไหม ? นี่เธอมีรายชื่ออยู่บนตระกูลร่ำรวยไหนแล้ว ?”
“นี่……คงไม่ใช่ทรัพย์สินของครอบครัวเซียวจ้านหรอกนะ ?เป็นไปได้ไหมว่าตอนนั้นตระกูลเซียวยังคงเก็บทรัพย์สินของตระกูลไว้บางส่วน ? ”
กลุ่มคนรุ่นหลังกลุ่มหนึ่งจากตระกูลเจียงพูดคุยกันในกลุ่มคนไม่หยุด
เจียงไท่ชางมองไปที่วิลล่าหลั่งเยว่ขนาดใหญ่ และในใจของเขาก็เต้นแรงทันที !
เจียงเหม่ยเหยียนยืนอยู่ข้างเจียงไท่ชาน ดวงตาของเธอแดงเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เธอกัดริมฝีปากสีแดงแน่น และสาปแช่งเสียงดัง : “ทำได้ดีมาก เจียงอวี่โหรว ! แกอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ดีขนาดนี้ และยังแสร้งทำเป็นน่าสงสารต่อหน้าเรา ช่างน่าสมเพชเสียนี่กระไร ! ”
เธออิจฉาอยู่ในใจ คงจะดีไม่น้อย หากตัวเธออาศัยอยู่ที่นี่ !
เจียงเหวินฉีและเซียเหมยก็มองตากัน ในดวงตามีความรู้สึกหนาวเย็นซ่อนอยู่
“รีบไปบอกเจียงอวี่โหรว ว่าตระกูลเจียงมาแล้ว ให้เธอออกมาต้อนรับ ! ”เจียงเหม่ยเหยียน พูดกับเรปภที่ประตูด้วยความหยิ่งยโส โดยไม่มีท่าทีว่าจะมายอมรับผิดและขอความช่วยยเหลือเลย
รปภรีบแจ้งให้คนในวิลล่าทราบ จากนั้นจึงตอบกลับไปว่า “พวกคุณกรุณารอสักครู่ คุณเจียงไม่ ไปช็อปปิ้งกับคุณเซียวแล้วครับ ”
“อะไรนะ ? พวกเขาไปช็อปปิ้งแล้ว ? โว๊ะ ! ”
เจียงเหม่ยเหยียนโกรธมาก หันหน้าไปหาเจียงไท่ชางแล้วพูดว่า “คุณปู่ ดูสิคะ พวกเขาหมายความว่าอย่างไร ? เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการทำให้เราอับอาย ! ”
“ใช่ค่ะ คุณท่าน เช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะค่ะ จะอยู่โมโหโกรธที่นี่ไปทำไมกัน ?”
“เจียงอวี่โหรวและเซียวจ้านผู้นี้ หยิ่งทะนงน่าโมโหเกินไปแล้ว !”
อย่างไรก็ตาม ด้วยใบหน้าบูดบึ้งและไม้เท้าอยู่ในมือเจียงไท่ชาง พูดเพียงแค่ว่า “พวกเรารอ”
ในเมื่อคุณท่านพูดแล้ว สมาชิกทั้งหมดยี่สิบคนกว่าคนในตระกูลเจียง ก็ล้วนทำได้เพียงยืนเงียบ ๆ ที่ประตูและรอ
รถที่วิ่งไปมาบนถนนเส้นนี้ บางครั้งก็โผล่หัวออกมาดู ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น
บางคนยังจำพวกเจียงไท่ชางได้ ในทันที ภาพถ่ายเหล่านี้ก็แพร่กระจายไปยังกลุ่มตระกูลซูหาง ซึ่งสร้างความฮือฮาปั่นป่วนได้ชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากรอมาครึ่งชั่วโมง สมาชิกตระกูลเจียงก็ตากแดดจนแทบจะหายใจไม่ออก และเหงื่อออกทั่วร่างกาย
อากาศเริ่มร้อนและอาบอ้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
หลายคนที่ได้รับการเอาอกเอาใจ เช่น เจียงเฉินและเจียงเหม่ยเหยียน ซึ่งไม่สามารถยืนขึ้นได้ในขณะนี้ ก้มตัวและทุบเข่า ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
แม้แต่เจียงไท่ชางก็ตากแดดจนมีผิวสีแทนเพียงพอแล้ว และในท้ายที่สุด ด้วยการประคองจากคนใช้ของเขา จึงนั่งรอข้างแปลงดอกไม้
ในเวลานี้ เซียวจ้านอุ้มเข่อเข่อและจับมือเล็ก ๆ ของเจียงอวี่โหรว ยิ้มหัวเราะ และเดินมาอย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบ
“อ่า ! เจียงอวี่โหรว ! เซียวจ้าน ! ในที่สุดพวกเธอก็กลับมาแล้ว ! กล้าดียังไงที่ปล่อยให้พวกเรารอนานขนาดนี้ เธอพร้อมที่จะแก้แค้นแล้วใช่ไหม ! เธอดูสิ คุณปู่เหนื่อยมากจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว ! เธอมันโหดร้ายเกินไปแล้ว ! ”
เจียงเหม่ยเหยียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ชี้ไปที่เจียงอวี่โหรวกับเซียวจ้านและเริ่มดุด่า
หลังจากนั้น ทุกคนในตระกูลเจียงก็ดุด่า !
“อุกอาจเกินแล้ว ! คุณพ่อมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่เธอกลับยังมีใจที่จะไปช้อปปิ้ง ! ”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณพ่อละก็ เธอจะรับผิดชอบได้ไหม ? ! ”
“ยังไงก็ได้รับการเลี้ยงดูมาโดยตระกูลเจียง และแท้จริงแล้วกลับเป็นหมาป่าตาขาว ! ”
เจียงอวี่โหรวไม่สนใจความคิดเห็นของคนอื่น เมื่อเห็นเจียงไท่ชางมีสีหน้าไม่สู้ดี หอบหายใจขณะที่นั่งอยู่ข้างเตียงดอกไม้ หัวใจก็เต้นแรงทันที เธอรีบวิ่งไปหยิบกระดาษทิชชู เพื่อเช็ดเหงื่อของเจียงไท่ชาง “คุณปู่คะ หนูขอโทษ หนูไม่รู้ว่าพวกคุณจะมาจริง ๆ ……”
เพี๊ยะ !
เจียงเหม่ยเหยียนตบกระดาษทิชชูที่เจียงอวี่โหรวมอบให้ จ้องมองเธอและพูดอย่างเย็นชาว่า “หยุดเสแสร้งตรงนี้เสียที ! คณปู่เกือบเป็นลมแดด ก็เพราะเธอ นังสารเลว ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เจียงเหม่ยเหยียนก็ตบเธออย่างรุนแรง !
การตบนี้ เจียงอวี่โหรวตกตะลึงอยู่กับที่ ไม่สามารถหลบหนีได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงหลับตาตามสัญชาตญาณ