พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 48 เหรียญเกียรติยศ
“ตึกๆๆ!”
ทหารถือปืนสิบกว่านาย พุ่งเข้ามาแบบทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกหนาวเหน็บสุดๆ ล้อมเจียงไท่ชางและคนอื่นเอาไว้ทันที
ผู้กองฟางคนนั้น สีหน้าอึมครึมดุจน้ำแข็ง หางตามีความอาฆาตแค้นแวบผ่าน จ้องเจียงไท่ชางและคนอื่นไว้ ตะโกนถามว่า “ทำอะไร?”
ในใจของเจียงไท่ชางและคนอื่นเต้นรัว ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่า ผู้กองฟางของกองบัญชาการหลักแห่งกองทัพซูหาง จะปรากฏตัวที่ตระกูลเจียงกะทันหัน
“คือว่า……ผู้กองฟาง ทำไมท่านถึงเข้ามากะทันหันกันครับ? ผมขอโทษครับต้อนรับไม่ดีแล้ว” ความหนาวเหน็บบนหน้าของเจียงไท่ชาง ชั่วพริบตาถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มประจบประแจง จากนั้นพูดว่า “ผู้กองฟางครับ ถ้าไม่อย่างนั้นท่านไปรอข้างในบ้านของผมก่อน ผมขอจัดการเรื่องในครอบครัวสักหน่อย”
พูดจบ เจียงไท่ชางตวาดใส่บอดี้การ์ดพวกนั้น “อึ้งกันอยู่ทำอะไร! ยังไม่รีบไล่พวกเขาสองคนออกไปจากตระกูลเจียงให้ฉันอีก!”
“ผมจะดูสิว่าใครกล้า!”
ผู้กองฟางตะโกนอย่างโมโหออกมา ความรู้สึกเฉียบขาดของทหารที่อยู่บนตัว พุ่งทะยานขึ้นสูง
ชั่วขณะนั้น ทหารสิบกว่าคน ถือปืนเล็งเป้าทุกคนของตระกูลเจียง
นี่ทำเอาเจียงไท่ชาง เจียงเหวินฉีทั้งครอบครัวตกใจกันจนตัวสั่นเทาไปหมด
“นี่ๆๆ……ผู้กองฟาง พวกเรามีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า? ท่านใจเย็นๆ นะครับ” เจียงไท่ชางก็สับสนแล้ว เขาอยู่มาเจ็ดสิบกว่าปี ยังไม่เคยคบค้าสมาคมกับกลุ่มสู้รบมาก่อน
“เหอะ!” ผู้กองฟางคนนั้นทำเสียงเย็นชาใส่ บอกว่า “เจียงไท่ชาง! คุณนี่แก่แล้วตาฝ้าฟางแล้ว ยังหูหนวกอีกด้วย! ไม่ได้ยินที่ผมเพิ่งพูดเมื่อกี้เหรอ? ใครกล้าลงมือต่อคุณเซียว นั่นคือศัตรูกับกองทัพแห่งซูหางของพวกผม! ทำไม เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน พวกคุณลืมคำพูดที่ผมเคยพูดแล้ว? คุณเซียวเป็นเพื่อนของผู้พันหานลี่หมิน! พวกคุณกล้าใช้ความรุนแรงต่อเขา คือไม่เห็นผู้พันหานอยู่ในสายตาสินะ!”
ท่าทางคำรามแบบนี้ สั่นสะเทือนจนเจียงไท่ชางสีหน้าซีดเซียว สั่นเทาไปทั้งตัว
“นี่……ผู้กองฟาง ท่านเข้าใจผิดแล้วครับ ผม……ผมก็แค่……”
เจียงไท่ชางอยากจะอธิบาย แต่ว่าเดิมทีผู้กองฟางไม่ให้โอกาสเขา กลับโบกมือขึ้น ทหารด้านหลังยื่นสัญญาฉบับหนึ่งมาให้โดยตรง บอกว่า “คุณเจียงครับ นี่คือสัญญาการร่วมงานของคุณกับลี่หมิน กรุ๊ปครับ ผมนำมาส่งให้คุณด้วยตัวเอง ถึงแม้ผมจะไม่รู้ชัดว่าตระกูลเจียงของพวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ว่าผมจำเป็นต้องเตือนคนกลุ่มหนึ่งเอาไว้ สัญญาฉบับนี้ เป็นสัญญาของคุณกับลี่หมิน กรุ๊ป นอกจากคุณแล้ว ใครก็เซ็นชื่อไม่ได้ครับ! ไม่อย่างนั้น คือหลอกลวงและปกปิดลี่หมิน กรุ๊ป! ผมจะไม่นั่งดูเฉยๆ โดยเด็ดขาดครับ!”
ซี้ดๆ!
คำพูดพวกนี้ของผู้กองฟาง คือประกาศว่าการร่วมงานกับลี่หมิน กรุ๊ปในครั้งนี้ ได้เพียงให้เจียงอวี่โหรวรับผิดชอบคนเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย
สีหน้าของเจียงไท่ชางนั้น ชั่วพริบตาหนักหน่วงถึงขีดสุด
เจียงเหม่ยเหยียนสามคนพ่อแม่ลูก ยิ่งตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
“ผู้กองฟาง! หรือว่าลี่หมิน กรุ๊ปของพวกคุณไม่คำนึงถึงคุณสมบัติและประสบการณ์ของคนที่ร่วมงานด้วยหน่อยเหรอ? เจียงอวี่โหรวคนนี้ ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่เป็นอะไรสักอย่าง มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการร่วมงานครั้งนี้ไป? ฉันไม่ยอม!”
เจียงเหม่ยเหยียนเดือดดาลขึ้นแล้ว ความไม่พอใจข้างใน เวลานี้ระเบิดออกมาโดยตรง
เจียงเหวินฉีตกใจจนรีบดึงลูกสาวของตนเองไว้ พูดเตือนว่า “เหม่ยเหยียน ลูกบ้าไปแล้วเหรอ! รีบขอโทษผู้กองฟางเร็วเข้า!”
แต่ว่า ผู้กองฟางยกมือขึ้นทันที ขัดจังหวะของเจียงเหวินฉีแล้ว จากนั้นจ้องเจียงเหม่ยเหยียนด้วยสีหน้าเย็นชา บอกว่า “เธอไม่ยอม?”
“ใช่! ฉันไม่ยอม!” เจียงเหม่ยเหยียนไม่สนใจแล้ว ไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นแล้ว
ป้าบ!
ผู้กองฟางเหวี่ยงฝ่ามือตบเข้าไปโดยตรง ตะโกนว่า “ไม่ยอมก็กลั้นไว้!”
การตบครั้งนี้ ตบจนเจียงเหม่ยเหยียนได้สติกลับมา หล่อนจับหน้าเอาไว้ หลบอยู่ข้างหลังแบบสั่นเทา ไม่กล้าสบตา
จากนั้น ผู้กองฟางพูดกับเซียวจ้านว่า “คุณเซียวครับ ผู้พันหานบอกแล้ว นี่คือการดูแลพิเศษสำหรับทหารที่ปลดประจำการ ต่อไป ถ้าคุณเจอเรื่องยุ่งยากใดๆ ล้วนมาหาผมได้ครับ”
พูดอยู่ ผู้กองฟางหยิบกล่องผ้าปักลายขนาดเล็กกล่องหนึ่งออกมาจากด้านหลัง เปิดออกต่อหน้าทุกคนตระกูลเจียง
ด้านใน เป็นเหรียญที่แสงสีทองประกายแวววาวเหรียญหนึ่ง
เหรียญเกียรติยศ
“ยังมีสิ่งนี้อีกครับ เหรียญเกียรติยศที่กองบัญชาการหลักแห่งกองทัพซูหางมอบให้คุณโดยเฉพาะ” ผู้กองฟางพูดอยู่ ยื่นให้เซียวจ้านอย่างเคารพมาก
เซียวจ้านทำหน้างุนงง หานลี่หมินคนนี้หมายความว่าอะไรกัน?
แต่ว่า เซียวจ้านยังรับเอาไว้แล้ว
จากนั้น ผู้กองฟางมองเจียงอวี่โหรวอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตร บอกว่า “คุณเจียงครับ ตอนนี้คุณยังมีอะไรอยากจะให้ผมจัดการแทนคุณอีกหรือเปล่าครับ?”
เจียงอวี่โหรวตะลึงครู่หนึ่ง มองเจียงไท่ชางแบบกลัวๆ อยู่บ้าง
“ผู้กองฟางคะ ขอบคุณความหวังดีของคุณมากค่ะ เพียงแต่ว่า ความสามารถของฉันไม่เพียงพอจริงๆ ดังนั้น ให้พี่สาวของฉันเข้าร่วมการร่วมงานครั้งนี้ได้หรือเปล่าคะ?” เจียงอวี่โหรวถามขึ้น
เดิมเธอมีจิตใจดี แต่คำพูดประโยคนี้เมื่อเข้าหูของเจียงเหม่ยเหยียนไป ก็เหมือนว่ากำลังให้ทาน ทำให้หล่อนไม่สุขใจอย่างมาก
แต่ว่า ตอนนี้หล่อนก็ไม่กล้าพูดอะไร
ผู้กองฟางขมวดคิ้ว บอกว่า “ผมไม่มีปัญหาครับ คุณเป็นผู้รับผิดชอบหลักของการร่วมงานครั้งนี้ คุณอยากให้ใครเข้าร่วมด้วยก็ไม่เป็นไรครับ”
ได้ยินถึงตรงนี้ เจียงเหวินฉีและเซียเหมยโล่งอกไปทีหนึ่ง ในใจแอบดีใจแทนเจียงเหม่ยเหยียน
ตามมาด้วย ผู้กองฟางถลึงตาใส่เจียงไท่ชางและคนอื่นอย่างเย็นชา และจึงพาคนออกไปจากตระกูลเจียง
ทุกคนตระกูลเจียงถึงโล่งอกกันแล้ว มองเซียวจ้านด้วยสายตาหวาดกลัว
พวกจนตรอกคนนี้ ทำไมสามารถทำให้หานลี่หมินมาช่วยเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเพียงทหารปลดประจำการธรรมดาแค่นั้นจริงเหรอ?
“เซียวจ้าน แกกับผู้พันหานสรุปมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่? ยังมีเหรียญเกียรติยศนี้……” เจียงไท่ชางทนไม่ไหว เอ่ยปากสอบถาม
ไม่เพียงแค่เขา ทั้งครอบครัวเจียงเหวินฉีสามคนนั้น ยังมีเจียงเสวโป๋ สวีเฟินและเจียงเฉินที่ได้ยินแล้วจึงรีบตามเข้ามา และเจียงอวี่โหรวที่อยู่ด้านข้างอีกคน ล้วนมองเซียวจ้านแบบสงสัยเต็มที่ รอคอยคำอธิบายของเขาอยู่
เซียวจ้านหัวเราะเบาๆ ตอบว่า “เพราะผมรบเพื่อประเทศมา เหรียญเกียรติยศอันนี้ เป็นสิ่งที่ผมสมควรได้ โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ผมกับหานลี่หมินก็เป็นเพื่อนร่วมรบกันมา เพียงแต่ว่า เขาเลื่อนขั้นเร็วกว่าผม ส่วนผมเลือกปลดประจำการแล้ว”
พูดจบ เซียวจ้านดึงเจียงอวี่โหรวที่ยังทำท่าทางมึนงงกลับไปทันที
ทุกคนตระกูลเจียงที่เหลือ สีหน้าดูแย่มาก ขณะเดียวกันในใจรู้สึกโล่งไปทีหนึ่ง
ยังคิดว่าเซียวจ้านเก่งกาจมากมาย ดูท่าทาง เพียงแค่อาศัยบารมีของหานลี่หมิน
น้ำใจแบบนี้ พวกเขาก็รู้ว่า ใช้ได้ไม่กี่รอบหรอก
เจียงเหม่ยเหยียนกระทืบเท้าแบบเกลียดชัง พูดโวยวาย “เชอะ! ฉันไม่อยากรับทานจากนังตัวดีคนนั้นหรอก!”
เจียงไท่ชางถลึงตาใส่หล่อนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง พูดด้วยเสียงทุ้ม “ทำงานไม่สำเร็จไม่พอยังทำให้เรื่องราวมันแย่กว่าเดิมอีก! ในเมื่ออวี่โหรวเอ่ยปากแล้ว แกก็ตามหล่อนเข้าไปร่วมงานด้วยกัน! ถือโอกาสจับตาดูหล่อนไว้ให้ฉันดีๆ! ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น รายงานฉันทันที!”
พูดจบ คุณปู่เจียงกุมไม้เท้าเดินออกไปจากบ้านของเจียงเหวินฉีแล้ว
เมื่อกลับดูที่เซียวจ้านและเจียงอวี่โหรวทางนี้ หลังจากพวกเขากลับมาถึงบ้านน้อยของตนเอง สวีเฟินและเจียงเฉินก็เคาะประตูด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอเต็มที่
“ลูกสาว ลูกสาวแสนดีของแม่ ถือว่าเอาการร่วมงานมาได้แล้วนะ เธอว่า ต้องหาตำแหน่งบริหารสักตำแหน่งให้เจียงเฉินของพวกเราแล้วหรือเปล่า ดีเลวยังไงเขาก็เป็นน้องชายเธอนะ”
เวลานี้สวีเฟินกระตือรือร้นได้มากเท่าไรก็กระตือรือร้นมากเท่านั้น เหมือนว่าเจียงอวี่โหรวเป็นลูกแท้ๆ ของหล่อน
เจียงเฉินก็หน้าตายิ้มแย้มเช่นกัน พูดว่า “พี่ การร่วมงานครั้งนี้ ไม่ว่าพูดยังไง พี่ก็ต้องจัดผมเข้าไปด้วยนะ”
เจียงอวี่โหรวรู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง มองเซียวจ้านสักหน่อย ลังเลตั้งนาน เพิ่งอยากเอ่ยปากตอบรับ เซียวจ้านกลับเอ่ยปากบอกแบบเย็นชา “อยากได้ตำแหน่งบริหารสักตำแหน่ง ได้ แต่พวกคุณจำเป็นต้องขอโทษต่ออวี่โหรว สำหรับพฤติกรรมก่อนหน้านี้!”
เวลานี้ สีหน้าของสวีเฟินและเจียงเฉิน ชั่วพริบตาเปลี่ยนไปดูแย่มากๆ