พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 50 นี่คือเซียวจ้าน
จ้าวเจิ้งหมิงแหวกฝูงชนออก ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ชี้หน้าเซียวจ้านแบบสีหน้าอึมครึม พูดอย่างโมโห “เซียวจ้าน! ตอนนี้แกยังบ้าอะไรอีก! คุกเข่าให้ฉัน แล้วคำนับขอโทษซะ!”
แม่ง!
จ้าวเจิ้งหมิงก็นึกไม่ถึงเช่นกัน พวกจนตรอกคนหนึ่ง ยังกล้าอวดดีขนาดนี้
วันนี้ เขาต้องทำให้เซียวจ้านคุกเข่าลงมา ลบล้างความอัปยศให้ได้
แต่ทว่า เกินความคาดหมายของทุกคน แม้จะเผชิญหน้ากับนักเลงที่ถือกระบองและมีดเป็นร้อยคน บนหน้าเซียวจ้านไม่มีความหวาดหวั่นและเกรงกลัวใดๆ กลับมีการเหยียดหยามนิดๆ บอกว่า “จ้าวเจิ้งหมิง นายมีคนมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
พอได้ยิน จ้าวเจิ้งหมิงขมวดคิ้ว ตะโกนแบบไม่อยากเชื่อเท่าไร “แกว่าอะไรนะ?”
ตามมาด้วย มองเห็นเซียวจ้านอุ้มเข่อเข่อด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งกุมกระบองไม้จากด้านข้างด้ามหนึ่งเอาไว้ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “เข่อเข่อ หลับตาไว้ ไม่ว่าได้ยินอะไร อย่าลืมตาขึ้นมาเลยนะ อีกเดี๋ยว พ่อจะพาหนูไปกินขนมเค้ก”
เข่อเข่อหลับตาลงอย่างเชื่อฟังมาก “ได้ค่ะคุณพ่อ”
เห็นเหตุการณ์ฉากนี้เข้า จ้าวเจิ้งหมิงโกรธแล้ว เกาๆ ศีรษะ ตะคอกแบบอารมณ์แปรปรวน “เชี่ย! เชี่ยๆ! ลุยเดี๋ยวนี้เลย ตีมันให้ตาย!”
ชั่วขณะนั้น นักเลงกลุ่มหนึ่งที่หนาแน่น ถือกระบองและมีดไว้ ร้องตะโกนแล้วพุ่งมาทางเซียวจ้าน
และเผชิญหน้ากับนักเลงที่พุ่งมาพวกนี้ แรงอาฆาตบนตัวของเซียวจ้าน ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
ตึง!
ทันใดนั้น เซียวจ้านขยับแล้ว ราวกับเทพสังหารมาเยือน ถีบเท้าใส่นักเลงด้านหน้าคนหนึ่ง กระเด็นออกไปสิบเมตรโดยตรง ชนสิบกว่าคนที่อยู่ข้างหลังล้มไปแล้ว
จากนั้น กระบองไม้ที่เขากุมไว้ในมือ พอเหวี่ยงตัว ก็ฟาดบนศีรษะของนักเลงคนหนึ่งที่ถือมีดฟันมาด้านหลังเสียงดังปึง
ทันใดนั้น เลือดพุ่งกระฉูด
นักเลงคนนั้นล้มลงพื้นแบบคอพับแต่ยืนตรง
การเผชิญหน้าแบบนี้ ทำเอานักเลงพวกนั้นตกใจค้างกันแล้ว ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน
แม่งเอ๊ย แกร่งเกินไปแล้วมั้ง
เห็นเหตุการณ์ฉากนี้เข้า จ้าวเจิ้งหมิงตกใจยกใหญ่ เข้าไปถีบหลังเอวของนักเลงหลายคนนั้นสักที ตวาดใส่ “ลุยสิ! พวกแกแม่งคนมากขนาดนี้ ยังจัดการไอ้สวะคนหนึ่งไม่ตาย?”
“ย่าห์ๆๆ!”
ชั่วพริบตาเดียว นักเลงพวกนี้พุ่งไปทางเซียวจ้านอีกครั้ง
แต่ว่า ในเวลานี้เอง เสียงกึกก้องดังขึ้น รถจิ๊ปทหารจำนวนมาก ชนประตูกันขโมยของทางเข้าออกทุกแห่งพังไปทันใดแล้วพุ่งเข้ามา
มองเห็นฉากนี้เข้า นักเลงพวกนั้นหลบหลีกอย่างว่องไว แต่มีบางส่วนที่หลบไม่ทัน โดนชนลอยออกไปโดยตรง
“ตึกๆๆ!”
ตามมาด้วย ด้านหลังประตูกันขโมยที่พังเสียหายพวกนั้น ชั่วพริบตาเดียวมีทหารหน่วยพิเศษหลายสิบนายที่สวมชุดทหารสีดำ ใส่หมวกผ้าสักหลาดไม่มีปีก ใส่รองเท้าคอมแบต และถืออาวุธปืนครบครันกรูกันเข้ามาแล้ว
การเคลื่อนไหวของพวกเขาพร้อมเพรียงเป็นแบบเดียวกัน พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ด้านหลัง ยังมีรถกันระเบิดสำหรับออกรบสีดำเจ็ดแปดคัน แสงไฟสีแดงฟ้ากะพริบอยู่แล้วพุ่งเข้ามา
“วางอาวุธลง! เลิกขัดขืน!”
“เลิกขัดขืน! ผู้ขัดขืนก็ยิงทิ้งตรงนี้!”
“วางอาวุธลง! วางอาวุธลง!”
ปัง
ทหารส่วนหนึ่งในบรรดานั้น ยกเท้าขึ้นโดยตรง ถีบนักเลงที่จับมีดด้านหน้าจนคว่ำ จากนั้นพลิกมือกดพวกเขาลงบนพื้น
มีบางคน ก็คือทุ่มข้ามไหล่ไป ปลดอาวุธทั้งหมดในมือคนพวกนี้ทิ้ง
ใช้เวลาไม่นานเท่าไร นักเลงทั้งชั้นหนึ่งนี้ ก็โดนทหารหน่วยพิเศษที่ใส่ชุดทหารสีดำเหล่านี้ควบคุมเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
“ทีมหนึ่งควบคุม!”
“ทีมสองควบคุม!”
“ทีมสามควบคุม!”
จ้าวเจิ้งหมิงมึนงงแล้ว ยกมือกุมศีรษะแล้วคุกเข่าลงที่พื้น กำลังสั่นเทาไปทั้งตัว
เวรเอ๊ย!
นี่แม่งมันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมทหารหน่วยพิเศษพุ่งเข้ามามากขนาดนี้
นี่คือแสดงละครเหรอ?
จากนั้น ในสายตาของเขาและนักเลงทั้งหมดตื่นตระหนก หัวหน้าที่นำทีมคนหนึ่ง สวมชุดทหารสีดำ เดินมาทางเซียวจ้าน ยืนตรงทำความเคารพ พูดเสียงดังฟังชัด “คุณเซียวครับ ควบคุมที่เกิดเหตุไว้เรียบร้อยแล้วครับ เชิญท่านสั่งการครับ!”
ซี้ดๆ!
วินาทีนี้ จ้าวเจิ้งหมิงเบิกดวงตาโต ไม่อยากเชื่อฉากตรงหน้าโดยสิ้นเชิง
ทหารหน่วยพิเศษเหล่านี้ เป็นคนที่เซียวจ้านจัดหามา?
เป็นไปได้อย่างไร!
เขาไม่ได้เป็นพวกจนตรอกของตระกูลเซียวเหรอ?
ไม่ใช่ว่าเขาแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงของตระกูลเจียงเหรอ?
เซียวจ้านพยักหน้านิ่งๆ ก้าวเท้าเดินมาด้านหน้าจ้าวเจิ้งหมิงที่เวลานี้หวาดผวาไปตั้งแต่แรกแล้ว ก้มหน้า ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “จ้าวเจิ้งหมิง ตอนนี้นายคิดว่า นายยังมีความสามารถอะไรทำให้ฉันคุกเข่าคำนับขอโทษนายได้อีก?”
จ้าวเจิ้งหมิงกลัวแล้ว กลัวถึงที่สุดแล้ว
เขาเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้ที่ไหน คุกเข่าหมอบอยู่ด้านหน้าของเซียวจ้านทันที โขกศีรษะไม่หยุดแล้วพูดว่า “เซียวจ้าน ขอร้องนายปล่อยฉันไปเถอะ! ผม…..ผมก็แค่เลอะเลือนชั่ววูบ ผมมันสารเลว ผมไม่รู้จักเจียมตัว! ได้โปรดท่านเมตตาต่อคนตัวเล็กๆ ด้วยนะ ให้อภัยผมสักครั้ง! ต่อไป ให้ผมเป็นอะไรก็ยอม ล้วนเป็นคนของท่าน! ขอร้องท่านนะครับ……”
พูดอยู่ เขายังตบหน้าของตนเองไปอีก ชั่วขณะหนึ่งบนหน้าก็แดงขึ้น มุมปากมีเลือดไหล
ถึงแม้เขาจะไม่รู้สถานะแท้จริงของเซียวจ้าน แต่ว่าเขาเข้าใจ เซียวจ้านย่อมไม่ใช่พวกจนตรอกธรรมดาขนาดนั้นโดยเด็ดขาด
ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมถึงมีทหารหน่วยพิเศษมากขนาดนี้พุ่งเข้ามา?
ใครสามารถเรียกใช้กำลังพิเศษเหล่านี้ได้?
เซียวจ้านพูดอย่างเย็นชาแล้ว “จ้าวเจิ้งหมิง ทุกอย่างล้วนเป็นนายหาเรื่องใส่ตัวเอง มาอ้อนวอนตอนนี้ สายไปแล้ว!”
พูดจบ เขาหันหน้ามองทางหัวหน้าคนนั้น พูดด้วยเสียงหนาวเหน็บ “พาตัวไป รีบตรวจสอบและอายัดตระกูลจ้าว! ตรวจดูหลักฐานความผิดทุกอย่าง ส่งให้สำนักงานตำรวจในพื้นที่จัดการ! ยังมีอีก สถานะที่เกี่ยวกับผมในวันนี้ จัดการเงียบๆ! อย่าทำให้เกิดการคาดเดาของโลกภายนอกมากเกินไป!”
“ครับ!” หัวหน้าคนนั้นรับปาก
และได้ยินคำพูดที่ราวกับคำพิพากษาอันนี้ จ้าวเจิ้งหมิงหวาดกลัวถึงที่สุด รีบหมอบตัวคุกเข่าตรงหน้าเซียวจ้าน โขกศีรษะพูดขอร้องไม่หยุด “เซียวจ้านเซียวจ้าน ขอร้องนายแหละ อย่าเลย ผม……ผมคำนับต่อท่านแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ขอร้องท่านไว้ชีวิตผมสักครั้ง ไว้ชีวิตตระกูลจ้าวของผมสักครั้งนะ……”
แต่ทว่า โดนถีบเสียงดังปึง
หัวหน้าคนนั้นถีบจ้าวเจิ้งหมิงจนคว่ำ พูดด้วยเสียงหนาวเหน็บ “เอาตัวพวกเขากลับไปทั้งหมด!”
“อ่าๆๆ! เซียวจ้าน ต่อให้ฉันเป็นผีก็จะไม่ปล่อยแกไป!” จ้าวเจิ้งหมิงแผดเสียงร้องคำราม แต่ว่าไม่ช่วยอะไร
จากนั้น เซียวจ้านก็ออกไปจากร้านของแต่งบ้านแล้ว
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ที่ซูหางเกิดเรื่องใหญ่โตอันน่าตื่นตกใจเรื่องหนึ่งแล้ว
ซ่งห้าวเลี่ยงแห่งสำนักงานตำรวจซูหาง นำทีมด้วยตนเอง ตรวจสอบและอายัดตระกูลจ้าวที่เป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ของกิจการที่อยู่อาศัยของซูหางแล้ว
ครั้งนี้ เป็นสำนักงานตำรวจสำนักงานตรวจสอบและศาลร่วมมือกันลงมือ
เรื่องนี้ ทำให้เกิดกระแสที่สาธารณชนถกเถียงกันไม่น้อยในซูหาง ผู้คนทั่วทุกแห่งหนล้วนกำลังถกเถียงกัน
เซียวจ้านเพิ่งกลับถึงบ้าน เจียงอวี่โหรวก็พุ่งเข้ามาแบบรอไม่ไหว ถามว่า “เซียวจ้าน นายไม่เป็นไรนะ?”
“ทำไมเหรอ?” เซียวจ้านถามแบบไม่เข้าใจ
เจียงอวี่โหรวพูดแบบเป็นห่วง “เมื่อกี้ในข่าวบอกว่า ที่ร้านของแต่งบ้านเกิดเรื่องแก้แค้นชกต่อยกันรุนแรงขึ้นแล้ว ที่เกิดเหตุคนเจ็บมากมาย ตระกูลจ้าวก็ถูกตรวจสอบด้วย”
พูดอยู่ เจียงอวี่โหรวชี้ไปที่ภาพข่าวในโทรทัศน์ สิ่งที่ไม่ถูกจังหวะมากคือ ภาพที่หัวหน้าหน่วยพิเศษคนนั้นทำความเคารพเซียวจ้านฉายซ้ำไปมาอยู่พอดี
ถึงแม้เป็นภาพด้านหลัง แต่ว่าตอนที่เจียงอวี่โหรวมองเห็น ยังตกใจยกใหญ่
“เอ๋ เซียวจ้าน นายไม่คิดว่าภาพด้านหลังของคนคนนั้นคุ้นตามากเหรอ? ทำไมเหมือนกับนาย……วันนี้นายก็ไปที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ?” เจียงอวี่โหรวถามอย่างสงสัย สายตาสอบสวนตกอยู่บนตัวเซียวจ้าน