พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 118 เจียงเทาตาย
จ้านเป่ยเซียวมองเฟิ่งชิงหัวด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้นราวกับกำลังพูดว่า อยากตายหรือ?
รังสีความเย็นชาในร่างกายของเขาแรงเป็นพิเศษ กระจายไปยังคนรอบข้าง เจียงหยูหวันและเจียงเทาที่อยู่ใกล้ที่สุด ทั้งสองคนต่างตกใจจนตัวสั่น
“มะ ไม่ ไม่เช่นนั้น ละ ลง ลงคะแนนที่ข้าเถอะ” เจียงเทาพูดออกมาด้วยความระมัดระวัง
เฟิ่งชิงหัวรี่ตาพูด “เจียงเทา เช่นนั้นเจ้ายอมรับว่าเจ้าคือมนุษย์หมาป่าหรือ?”
เจียงเทารีบตอบกลับ “ข้าไม่ใช่”
“ท่านอ๋อง ขอมีจิตวิญญาณของเกมสักนิดเถอะ ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้เป็นเรื่องธรรมดาของทหาร เรื่องแค่นี้ไม่ถึงกับแพ้ไม่ได้หรอกใช่หรือไม่?” เฟิ่งชิงหัวหันไปยิ้ม
จ้านเป่ยเซียวไม่พูดอะไรต่อ ดังนั้นเกมนี้จึงให้คะแนนเป็นเอกฉันท์ว่าเป็นจ้านเป่ยเซียว เมื่อมองดูบนกระดาษที่เขาหยิบออกมา ด้านบนกลับเขียนว่าคำว่าชาวบ้านเอาไว้
สีหน้าของเฟิ่งชิงหัวมืดไปทันที ทันใดนั้นก็หันหน้าไปทางเจียงเทา เจียงเทาจึงได้เอากระดาษที่เขียนว่ามนุษย์หมาป่าออกมา พูดอย่างระมัดระวัง“ข้าไม่ได้ ทำลายกฎของเกมใช่หรือไม่?”
“……” เฟิ่งชิงหัวมองไปทางจ้านเป่ยเซียว อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะมองหน้านางเสียด้วยซ้ำ
เฟิ่งชิงหัวยิ้มอย่างกังวลใจ “ท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้พวกเราไม่ได้คุยกันไว้แล้วหรอกหรือ สามารถป้องกันตัวเองได้ก่อนที่จะลงคะแนน เหตุใดคุณเอาแต่จ้องมองผู้คนไม่ยอมพูดจาเล่า?”
จ้านเป่ยเซียวไม่อยากจะพูดกับนางอีก จึงหันไปหาจ้านถิงเฟิงที่เป็นมนุษย์หมาป่าข้าง ๆ จับกลุ่มกันหัวเราะอย่างร่าเริงเป็นพิเศษ “เสด็จพี่ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจกฎใช่หรือไม่ ฮ่า ๆ เล่นอีกสักสองรอบก็เข้าใจเอง ฮ่า ๆ คาดไม่ถึงว่าเกมนี้จะสนุกเช่นนี้ เล่นต่อ ๆ”
เฟิ่งชิงหัวคิดไปคิดมา “ไม่เช่นนั้นพวกเรามาเปลี่ยนเกมเล่นกันเถอะ”
จ้านถิงเฟิงเลิกคิ้ว “เหตุใด เกมที่เจ้าเสนอขึ้นมาเอง กลับไม่อยากเล่นเสียแล้ว?”
เฟิ่งชิงหัวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “เช่นนั้นก็มาเล่นกันอีกสักรอบ เริ่มเลย”
พูดจบ ก็รวบรวมกระดาษมาอีกครั้ง ให้แต่ละคนจับไปคนละแผ่น
เมื่อถึงคราวมนุษย์หมาป่าลืมตาขึ้น เฟิ่งชิงหัวลืมตาขึ้น สายตาประสานกลับจ้านเป่ยเซียว ทั้งสองคนชี้ไปยังจ้านถิงเฟิงอย่างไม่ลังเล
แม่มดช่วยจ้านถิงเฟิงเอาไว้
จ้านถิงเฟิงรีบเอ่ยพูด “ต้องเป็นการฆ่าล้างแค้นแน่นอน! เฟิงเซียว เป็นเจ้าใช่หรือไม่?”
เฟิ่งชิงหัวยกมือขึ้นฟาดจ้านถิงเฟิงไปทีหนึ่ง เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเป็นที่สุด “เจ้าทำผิดกฎแล้ว! เจ้าถูกฆ่าแล้วไม่ควรพูดออกมา”
ฝ่ามือนี้เป็นการตบที่จริงแท้แน่นอน ต่อให้จ้านถิงเฟิงจะมีศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ได้อ่อนแอก็ยังถูกตีจนตัวสั่น
เฟิ่งชิงหัวเอ่ยปาก “นักพยากรณ์สามารถรายงานได้แล้ว”
ในเวลานี้เอง จ้านถิงเฟิงชี้ไปยังเจียงเทา “ข้าคือนักพยากรณ์ พบว่าเขาคือคนดี”
เจียงเทารีบเอ่ยขอบคุณทันที “ขอบพระทัยองค์ราชทายาท”
เฟิ่งชิงหัวเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ “ข้าต่างหากที่เป็นนักพยากรณ์ เมื่อคืนตรวจพบว่าการฆ่าองค์ราชทายาท เขาน่าจะฆ่าตัวเองเพื่อโกงยาถอนพิษ”
จ้านถิงเฟิงได้ฟังเช่นนั้นก็รีบพูด “ไม่ใช่! เฟิงเซียว เจ้านั่นแหละที่เป็นมนุษย์หมาป่า”
ทุกคนต่างสับสนมึนงงเมื่อได้ยินว่ามีนักพยากรณ์สองคน สายตาสอดส่องไปมาระหว่างคนทั้งสอง ชั่วขณะหนึ่ง กลับยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครคือตัวจริง
ในเวลานี้ทำได้เพียงปฏิบัติตามกฎเท่านั้น นักพยากรณ์สองคนต่างก็ยังอยู่ ทิ้งการลงคะแนน
มนุษย์หมาป่าออกฆ่าคนอีกครั้ง ครั้งนี้คนที่ถูกฆ่าคือเจียงหยูหวัน เจียงหยูหวันก่อนตายยังเอาหนานกงเยว่หลีไปด้วย
เฟิ่งชิงหัวเมื่อเห็นการกระทำที่สุดยอดดเช่นนี้ก็แอบยอมรับอยู่ในใจ ที่แท้สงครามระหว่างแม่หญิงจะประมาทไม่ได้
จ้านถิงเฟิงอ้าปากทันที “ฆ่าจ้านเป่ยเซียว เป็นมนุษย์หมาป่า”
เฟิ่งชิงหัวหัวเราะพร้อมกับตบลงบนบ่าของจ้านถิงเฟิง “อืม ข้าแน่ใจแล้วว่าเจ้าเป็นนักพยากรณ์ตัวจริง แต่ว่า ตอนนี้หมาป่าทั้งสองตัวยังอยู่ ต่อให้เจ้าลงคะแนนไปหนึ่งคน เมื่อถึงเวลากลางคืนข้าแค่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งและฆ่าอีกคนหนึ่ง ก็ยังเป็นมนุษย์หมาป่าที่ชนะอยู่ดี พวกเราขอขอบคุณ แม่มดผู้นี้ที่ช่วยกำจัดชาวบ้านไปหนึ่งคน”
เจียงหยูหวันสีหน้าซีดเผือด ฝืนเอ่ยปากอธิบาย “ขอโทษด้วย ข้าคิดว่า คิดว่าคุณหนูหนานกงเป็นคนฆ่าข้า”
ในขณะนั้นเอง ลมเย็นกระโชกก็พัดผ่าน พัดเอาแสงไฟในดับไปหมด
เมฆปกคลุมมืดมิด แสงจันทร์เพียงดวงเดียวก็ยังถูกบดบัง ทั่วทั้งห้องมืดสนิท
ทันใดนั้น ที่ด้านนอกมีเงาหนึ่งก็ลอยไปอย่างรวดเร็ว ราวกับวิญญาณก็ไม่ปาน ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงกรีดร้องที่น่าขนลุกออกมา
ในเวลาเดียวกัน เสียงกรีดร้องของเจียงเทาก็ดังขึ้นในห้อง เสียงนั้นดูเหมือนจะถูกใครบางคนบีบคอ และน้ำเสียงนั้นก็อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ
ด้วยสายตาที่เฉียบคมและมือที่ฉับไวเฟิ่งชิงหยิบหัวตะบันไฟออกมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแสงก็สว่างขึ้น
เงาและเสียงนั้นก็หายไปพร้อมกันด้วย
เห็นว่าเจียงหยูหวันกับหนานกงเยว่หลีล้มลงกับพื้น กอดตัวเองเอาไว้แน่น และคนอื่น ๆ ก็ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรอตั้งรับอยู่เต็มกำลัง และไม่มีใครออกจากตำแหน่งของตนเอง
มีเพียงเจียงเทาที่นั่งอยู่กับพวกเขาแต่เดิมเท่านั้น ไม่รู้ว่าเขาล้มลงตรงเสาที่อยู่ไม่ไกลตั้งแต่เมื่อใด มือของเขาบีบคอของตนเอง และคอของเขาก็เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ตาถลนออกมา ราวกับเห็นบางอย่างที่น่ากลัวอย่างมาก และถูกสิ่งนั้นบีบคอจนตาย
“เป็นวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิต เป็นวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิตจริง ๆ ด้วย!” หนานกงเยว่หลีตะโกนด้วยความตกใจพร้อมกับถอยห่างออกมาให้ไกลจากศพของเจียงเทา
“มันคือผู้หญิงคนนั้น เป็นผู้หญิงคนนั้นที่มาแก้แค้น ฆาตกรก็คือเจียงเทา คือเจียงเทาที่ฆ่าผู้หญิงคนนั้น” เจียงหยูหวันก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน สีหน้าไร้เลือดฝาด
เฟิ่งชิงหัวสอดส่องไปรอบ ๆ ห้อง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ
นางเดินไปที่ข้างกายของเจียงเทา พอเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นอ่อน ๆ
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เหล่าเจ้าพนักงานที่เฝ้าอยู่ไม่ไกลก็พุ่งเข้ามาเช่นกัน หลังจากที่เห็นศพบนพื้น สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก “ท่านชายเฟิ่ง นี่มันเรื่องใดกัน หรือว่าจะมีวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิตจริง ๆ?”
เฟิ่งชิงหัวขมวดคิ้ว “วิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิตอะไร นี่แค่ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือมนุษย์”
“เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อครู่เราก็อยู่ใกล้ ๆ ตามคำสั่งของท่านแล้ว ไม่พบใครที่เข้ามาใกล้ที่นี่” เจ้าพนักงานรีบเอ่ยพูด กวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง“หรือว่า ฆาตกรจะอยู่ภายในห้องนี้?”
ทันใดนั้น สายตาของเขาจับจ้องไปยังองค์ราชทายาทที่เงียบมาตลอดด้วยความสงสัย
ถึงอย่างไร ในตอนแรก สัญญาณทั้งหมดชี้ไปที่องค์ราชทายาท
จ้านถิงเฟิงใบหน้าหม่นลงทันที “ข้านั่งอยู่ที่นี่ตลอด จะฆ่าคนได้อย่างไร?”
“ต้องเป็นวิญญาณอาฆาตแน่ เป็นเจียงเทา เดิมทีเขาก็เป็นคนเจ้าตัณหาอยู่แล้ว เขาต้องฆ่าผู้หญิงคนนั้นแน่ ผู้หญิงคนนั้นจึงมาแก้แค้นต้องเป็นเช่นนั้นแน่” หนานกงเยว่หลีรีบเอ่ยปากพูดทันที “เมื่อครู่นี้เราต่างก็เห็นกันทุกกคนไม่ใช่หรือ? เงาวิญญาณนั้น ยังมีเสียงกรีดร้องอีก นอกจากนางแล้ว มีใครอีกบ้างที่สามารถฆ่าคนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น? เห็นได้ชัดว่าเจียงเทาถูกควบคุมโดยวิญญาณอาฆาต และรัดคอตัวเองจนตาย”
หลังจากนั้นเหล่าเจ้าพนักงานค้นหาไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ แม้เพียงเล็กน้อย
หนานกงเยว่หลีเอ่ยขึ้น “เอาล่ะ ความจริงปรากฏขึ้นแล้ว ฆาตกรก็คือเจียงเทา ตอนนี้เขาถูกวิญญาณอาฆาตมาเอาชีวิต เช่นนั้นพวกเราทุกคนก็สามารถรอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว พวกเรารีบลงจากเขากันเถิด เพื่อหลีกเลี่ยงวิญญาณอาฆาตตนนั้นที่อาจจะไม่ปล่อยพวกเราไปด้วยก็เป็นได้”
เป็นเรื่องยากที่เจียงหยูหวันจะไม่ขัดคอกับคำพูดของนาง พยักหน้าติดต่อกัน กลุ่มคนรีบออกไปเรียกรวมพลคนของตนเองเพื่อเตรียมออกเดินทาง
เฟิ่งชิงหัวไม่ได้รั้งเอาไว้ แต่กลับตรวจสอบร่างกายของศพเจียงเทาอยู่ข้าง ๆ แทน
จ้านเป่ยเซียวขมวดคิ้ว “ที่จริงแล้วมันใช้วิธีใดกันแน่?”