CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 190 หากพูดกับท่านถือว่าข้าเป็นหมู

  1. Home
  2. พลิกชะตาหมอยา
  3. บทที่ 190 หากพูดกับท่านถือว่าข้าเป็นหมู
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 190 หากพูดกับท่านถือว่าข้าเป็นหมู
ไทเฮาเห็นฮองเฮาเชื่อฟังตนเองเช่นนี้ ความโมโหภายในใจก็ลดลงมาเล็กน้อย และมองเฟิ่งชิงหัวด้วยแววตายั่วยุ

เฟิ่งชิงหัวมองสบสายตาของไทเฮาด้วยความประหลาดใจ

ทำไมนางคิดว่า นางเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องเลย

ตอนแรกบอกว่านางยุแยงตะแคงรั่ว ตอนนี้กลับบอกว่านางไร้ประโยชน์ ลูกสะใภ้ของราชวงศ์มันน่าหดหู่เช่นนี้เชียวหรือ?

ในตอนที่เฟิ่งชิงหัวกำลังครุ่นคิดว่า ตนควรที่จะอ่อนข้อเพื่อให้เรื่องนี้ผ่านไป หรือเผชิญหน้ากับไทเฮาอย่างเต็มที่อยู่นั่นเอง ก็ได้ยินไทเฮากล่าวขึ้นมา: “เจ้าเจ็ด เจ้าเขียนหนังสือหย่า หย่าร้างกับนางเสีย!”

เมื่อเฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นหัวใจก็เต้นตูมตามขึ้นมา รู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด

ดวงตาลึกซึ้งของจ้านเป่ยเซียวจ้องมองไปยังไทเฮา ความเย็นยะเยือกแวบผ่านไปในดวงตา

ไทเฮาถูกสายตาของเขาจับจ้องจนรู้สึกเหมือนวัวสันหลังหวะ

ไทเฮาฝืนทนต่อความเย็นยะเยือกนี้: “จะไม่หย่าก็ได้ แต่ว่า พระชายาของเจ้ามีวิสัยทัศน์คับแคบ วันนี้เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะให้นางอยู่ที่วังหลวงสักสองสามวัน อบรมสั่งสอนนางแล้วค่อยส่งนางกลับไป”

ได้ยินดังนั้น เฟิ่งชิงหัวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มอบให้ไทเฮาอบรมสั่งสอน ไทเฮาถืออะไรมาอบรมสั่งสอนนาง?

ในขณะเดียวกัน เฟิ่งชิงหัวก็รู้สึกว่าอุณหภูมิที่อยู่โดยรอบได้เย็นยะเยือกขึ้นมา แม้แต่กายใจก็ยังรู้สึกได้ถึงความอึดอัดกดดัน

คนที่รู้สึกหายใจไม่ออกนั้นมิได้มีเพียงเฟิ่งชิงหัว แม้แต่จ้านชิงอิง ฮ่องเต้ฮองเฮา ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือก จนแทบจะขาดอากาศหายใจ

จ้านเป่ยเซียวหัวเราออกมาอย่างเย็นชา ไม่พูดใด ๆ และดึงมือของเฟิ่งชิงหัวออกไปทันที

ไทเฮารู้สึกว่าร่างกายได้ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง นิ้วมือที่สั่นเทาได้ชี้ไปยังทางที่ทั้งสองคนเดินจากไปตวาดขึ้นมาด้วยความโมโห: “ฮ่องเต้ เจ้าดูสิ ดูลูกชายของเจ้าขัดคำสั่งของข้าเพียงแค่ไหน ข้า ข้าเป็นถึงเสด็จย่าของเขาเชียวนะ”

สายตาที่ฮ่องเต้เซวียนถ่งมองไทเฮาในตอนนี้ก็ได้จางลงไปมาก ลุกขึ้นยืนและกล่าว: “ลูกนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีสาส์นกราบทูลที่ยังมิได้ดู ต้องขอตัวกลับก่อน ฮองเฮาเจ้าอยู่คุยเป็นเพื่อนไทเฮานะ”

จ้านชิงอิงเองก็ได้รีบกล่าวขึ้นมา: “เสด็จย่า นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาห้ามออกนอกพื้นที่แล้ว หลานเองก็ขอตัวกลับก่อน วันหลังค่อยเข้าวังมาอยู่เป็นเพื่อนท่าน”

ไทเฮาถูกท่าทางเย็นชาของฮ่องเต้เซวียนถ่งกระทบกระเทือนจิตใจ ชี้ไปทางประตูและกล่าวกับฮองเฮา: “ฮองเฮา เจ้าดูสิ พ่อลูกคู่นี้ มิได้เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยสักนิด ไม่นึกเยว่าพวกเขาแต่ละคน จะกล้าปฏิบัติเช่นนี้กับข้า”

ฮองเฮาเย้ยหยันอยู่ภายในใจ แต่ภายนอกกลับได้กล่าวปลอบประโลม: “เสด็จไม่ทำใจกว้างเข้าไว้ เจ้าเจ็ดมีนิสัยเช่นนี้มาโดยตลอด เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย เขาก็ไม่ได้เติบโตมาที่วังหลวง มีนิสัยป่าเถื่อนอยากที่จะสั่งสอนก็เป็นเรื่องธรรมดา”

ไทเฮาทำเสียงเย้ยหยัน: “ให้กำเนิดโดยสตรีชาวป่าชาวเขา ย่อมไม่มีมารยาทเป็นธรรมดา แต่ฮ่องเต้กลับเห็นเขาเป็นไข่ในหิน ใส่หน้ากากอยู่ตลอดวัน ในเมื่อไม่มีหน้าจะพบผู้คน ก็อย่าเข้ามาเดินเตร็ดเตร่อยู่ในวัง”

ฮองเฮาเห็นไทเฮาไม่ชอบหน้าจ้านเป่ยเซียวเช่นนี้ ภายในใจก็รู้สึกยินดีไม่น้อย

จู่ ๆ ไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมา: “ในเมื่อชายาเจ็ดผู้นี้ไม่เชื่อฟัง เช่นนั้นก็หาชายารองที่ว่านอนสอนง่ายมาสักสองสามคน เรื่องนี้มอบให้เจ้าเป็นคนไปจัดการ”

ฮองเฮายิ้มอย่างขมขื่น: “แต่ว่าท่านอ๋องเขา เกรงว่าคงจะไม่ร่วมมือกระมังเพคะ”

ไทเฮาตวาดขึ้นมาด้วยความโมโห: “เขากล้าปฏิเสธ? ข้าเป็นถึงเสด็จย่าของเขา! ตกลงเช่นนี้แหละ พอดีกับที่ชิงอิงเองก็จะต้องคัดเลือกพระชายา เจ้าไปจัดการพร้อมกันเถอะ”

ฮองเฮาพยุงไทเฮาไปนั่งที่ด้านหลัง พลางกล่าว: “เพียงแต่แม้ว่าท่านอ๋องจะหายดีแล้ว แต่หน้าตากลับเสียโฉม เกรงว่า คงไม่มีบุตรสาวเอกของตระกูลใดยอมแต่งด้วย นอกจากนี้แล้วยังเป็นเพียงแค่ตำแหน่งพระชายารอง”

ตอนนี้ไทเฮากำลังอยู่ในความโมโห จึงได้กล่าวขึ้นมา: “เขายังคิดอยากได้บุตรสาวเอกอีกหรือ? เจ้าหาบุตรสาวรองคนที่มีตำแหน่งสถานะที่ไม่น่ารังเกียจจนเกินไป รูปร่างหน้าตาและความสามารถเป็นเรื่องรองลงมา ขอแค่เชื่อฟังว่านอนสอนง่ายเป็นอันพอ”

เดิมทีฮองเฮาก็จงใจทำเช่นนี้ ขาทั้งสองข้างของจ้านเป่ยเซียวหายดี สำหรับนางแล้วนับว่ามีความอันตรายมาก แต่ตอนนี้ไทเฮาดิทรงตรัสแล้ว ว่าให้หาบุตรสาวภรรยารอง คนตระกูลเหล่านั้นเมื่อลองเทียบกันแล้วก็จะเข้าใจเอง จะไม่ให้ความสำคัญกับเขาอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ใบหน้าของจ้านเป่ยเซียวมีโอกาสที่จะหายดีในวันหน้า ก็ไม่มีทางที่จะแย่งชิงบัลลังก์กับรัชทายาทของนางได้อย่างแน่นอน

ฮองเฮากล่าวอย่างเคารพนอบน้อม: “เพคะ เสด็จแม่โปรดวางพระทัย”

ส่วนอีกต้านหนึ่งนั้น เฟิ่งชิงหัวถูกจ้านเป่ยเซียวลากมาตลอดทางตั้งแต่ออกมาจากตำหนักบรรทมของไทเฮา มิได้เรียกเกี้ยว เดินอยู่อย่างนี้เป็นเวลาหนึ่งเค่อ (สิบหน้านาที) มือเป็นเหมือนดั่งครีมเหล็กจับมือของนางเอาไว้ ทำให้เฟิ่งชิงหัวไม่สามารถสะบัดหลุดได้

บุรุษหนุ่มมีรูปร่างสูงขายาว แถมยังเดินเร็ว เฟิ่งชิงหัวได้แต่วิ่งเหยาะๆ ถึงสามารถตามทัน เห็นว่าบุรุษหนุ่มมิได้มีท่าทีว่าจะลดความเร็วลง จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมาอย่างร้อนใจ: “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ท่านเดินช้า ๆ หน่อย”

บุรุษหนุ่มทำเป็นหูทวนลม

“จ้านเป่ยเซียว ท่านหยุดก่อน ข้าเดินไม่ไหวแล้ว!” เฟิ่งชิงหัวได้แต่ย่อตัวลงใช้พลังทั้งหมดของร่างกายต่อต้านจ้านเป่ยเซียว

ในที่สุดจ้านเป่ยเซียวก็ได้หยุดลง หันกลับไป จ้องมองนางด้วยดวงตาเย็นชา ริมฝีปากบาง ๆ เม้มสนิท ความไม่พอใจกระจายไปทั่วทั้งตัว

เฟิ่งชิงหัวทำท่าทางน่าสงสาร: “ข้ามิใช่ว่าวเสียหน่อย ท่านจะเดินเร็วแค่ไหนข้าก็ไม่สามารถลอยขึ้นได้”

“เจ้ายืนทึ่มอยู่อย่างนั้นไม่ยอมเดิน รอให้นางดึงเจ้าไปอบรมสั่งสอนหรืออย่างไร?” จ้านเป่ยเซียวก้มต่ำมองดูเฟิ่งชิงหัว

“หา?”

“ปกติแล้วเวลาคุยกับข้าก็ยั่วโมโหมากมิใช่หรือ? เหตุใดเมื่อสักครู่ถึงได้เป็นเหมือนเต่าหดหัวเลยเล่า เจ้าต่อต้านไม่เป็นหรืออย่างไร?”

“เอ่อ?”

ต่อต้านใคร? ไทเฮา?

ไม่ใช่ควรเคารพผู้อาวุโสรักและเมตตาเด็กหรอกหรือ?

“ถ้าหากวันนี้ข้าไม่อยู่ เจ้าก็คงถูกรังแกเสียแล้ว”

เฟิ่งชิงหัวลูปหน้าฝากของตัวเอง: “แต่ว่า นางเป็นเสด็จย่าของท่ามิใช่หรือ?”

“ไม่ใช่เสด็จย่าแท้ ๆ เสียหน่อย” จ้านเป่ยเซียวพูดสั้น ๆ แต่กินความครอบคลุม

“อะไรนะ?” ดังนั้นก็สามารถต่อปากต่อคำได้ตามอำเภอใจ?

จ้านเป่ยเซียวมีสีหน้าเยือกเย็น: “ไม่ต้องเห็นนางเป็นผู้อาวุโส นางไม่คู่ควร”

ในขณะที่บุรุษหนุ่มกล่าวคำพูดนี้นั้น ไอสังหารแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว จ้านเป่ยเซียวแบบนี้ เป็นแบบที่เฟิ่งชิงหัวไม่ค่อยจะได้เห็น

แม้เขาจะเย็นชา แต่นั่นเป็นเพียงปฏิกิริยาที่เขามีต่อเรื่องราวโดยทั่วไป แต่น้ำเสียงเหยียดหยามอย่างเมื่อพูดถึงไทเฮา ทำให้เฟิ่งหัวไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

ในตอนที่เฟิ่งชิงหัวใจลอยอยู่นั่นเอง จ้านเป่ยเซียวก็ได้ดึงนางลุกขึ้นมาจากพื้นแล้ว และเดินมุ่งหน้าไปยังนอกวังหลวงต่อไป เพียงแต่ว่าคราวนี้นั้นฝีเท้าได้ลดช้าลง

เฟิ่งชิงหัวมีความคิดอยากจะสอบถามเรื่องราวให้ชัดเจนอย่างพบเห็นได้ยาก เดินตามเขาไปอย่างให้ความร่วมมือ พลางหันไปมองสีหน้าของจ้านเป่ยเซียว และเอ่ยขึ้นมาอย่างระมัดระวัง: “เหตุใดท่านถึงได้เกลียดชังไทเฮาเช่นนั้นเล่า? เป็นเพราะนางไร้ซึ่งเหตุผลหรือ?”

จ้านเป่นเซียวปิดปากเงียบไม่พูดอะไร

เฟิ่งชิงหัวจิ้มที่คางเบา ๆ : “ข้ารู้สึกตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าเหมือนว่านางจะไม่ชอบข้ามาก เพราะเหตุใดหรือ เหมือนว่าข้าจะมิเคยล่วงเกินนางมาก่อนนะ”

จ้านเป่ยเซียวยังคงไม่สนใจนาง ปล่อยให้นางพูดไม่หยุดอยู่ที่ข้างหูของเขาราวกับผึ้ง

เพิ่งชิงหัวเอ่ยถามไม่หยุด จ้านเป่ยซียวกลับมิได้ตอบใด ๆ เลย ตัวเฟิ่งชิงหัวเองก็รู้สึกเบื่อ ยื่นมือออกไปและสะบัดมือของจ้านเป่ยเซียวออก และกล่าวอย่างโมโห: “นับตั้งแต่ตอนนี้ไป หากข้าพูดกับท่านอีกถือว่าข้าเป็นหมู!”

กล่าวจบ เฟิ่งชิงหัวก็วิ่งจากไปด้วยความโกรธ เหลือเพียงจ้านเป่ยเซียวยืนอยู่ที่เดิม บนใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้เลยสักนิดว่า เหตุใดจู่ ๆ นางถึงได้โมโหขึ้นมา

เฟิ่งชิงหัวเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เดินไปอย่างเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน อย่างไรเสียพระราชวังก็เชื่อมต่อทุกทิศทุกทาง นางไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีจ้านเป่ยเซียวนางจะเดินออกไปจากวังหลวงไม่ได้

หลังจากนั้นก็พบว่า วังหลวงแห่งนี้ มันอ้อมค้อมสลับซับซ้อนมากจริง ๆ เป็นอย่างที่คิด นางหลงทางเข้าเสียแล้ว

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 190 หากพูดกับท่านถือว่าข้าเป็นหมู"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์