พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 250 ตัวกรอง
พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว บทที่ 250 ตัวกรอง
“ใช่ พวกข้ามองเจ้าขัดตาเพื่อร้องของความเป็นธรรมให้พระชายาเจ็ด มันน่าขยะแขยงที่เห็นคนอย่างเจ้าวิ่งตามชายที่แต่งงานแล้วตลอดเวลา” เจียงฟางเฟยที่อยู่ข้างหลังรีบกล่าวเสริม
เฟิ่งชิงหัวได้ยินถึงตรงนี้อดไม่ได้ที่จะไอสองครั้ง มองไปยังเจียงฟางเฟย นางจำไม่ได้ว่าตอนที่นางแต่งงานได้รับความเคารพนับถือจากสตรีผู้สูงศักดิ์เหล่านี้มากเพียงใด
แต่ละคนจ้องมองนาง ด้านหลังวิจารณ์เสียงเบาว่านางถูกองค์รัชทายาทถอนหมั้นแต่งกับอ๋องพิการ ยังมีคนสาปแช่งนางให้มีชีวิตรอดไม่เกินสามเดือน และยังมีบางคนข้างหลังด่านางว่าไม่มีความสามารถ แต่ตอนนี้กลับใช้นางเป็นข้ออ้างเรียกร้องความยุติธรรมแทนนาง
สรรหาข้ออ้างจริง ๆ
“เพื่อพระชายาเจ็ด ? หรือว่าพระชายาเจ็ดให้พวกเจ้ามา ?” เฟิ่งชิงหัวเลิกคิ้วกล่าวถาม
“แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกข้าเองที่…”
หนึ่งคนในนั้นยังไม่ทันพูดจบ อีกคนก็หยุดคำพูดของคนคนนั้นทันที : “ใช่แล้ว พระชายาเจ็ดฝากให้พวกข้ามาสั่งสองเจ้าแทน ข้าเป็นคนสนิมของพระชายาเจ็ด หากเจ้ารู้จักเอาตัวรอดก็รีบเก็บของกลับเป่ยเว่ยไป มิฉะนั้นพวกข้าจะให้เจ้าเห็นดี”
เฟิ่งชิงหัวมองดูผู้หญิงคนนี้ที่ลืมตาก็พูดโป้ปด เหมือนจะเป็นลูกสาวของรองเจ้ากรมพลเรือน ? เป็นลูกสาวของใต้เท้าเจียงที่ครั้งที่แล้วโดนนางใช้แผ่นกระดานตี ?
ทำให้รู้สึกรังเกียจเหมือนกันจริง ๆ
“หากข้าไม่กลับไป พวกเจ้าจะทำเช่นไร ?” เฟิ่งชิงหัวกล่าวเสียงเย็น
“เจ้าดูว่านี่คืออะไร” เมี่ยวเถียนเถียนแกว่งสิ่งของในมือ เป็นป้ายคำสั่งนั่นเอง
เฟิ่งชิงหัวใจเต้นเล็กน้อย แต่กลับไม่แสดงออกใด ๆ
“ป้ายคำสั่งนี้ของข้า สามารถขึ้นไปถึงชั้นหก เจ้ามิได้อยากเข้าไปรึ ? เช่นนั้นพวกเรามาพนันกัน หากเจ้าแพ้ ก็ไสหัวกลับเป่ยเว่ย หากเจ้าชนะ ข้าจะคุ้มกันไปส่งถึงชั้นหก เป็นอย่างไร ?”
“เจ้าจะพนันอะไร ?”
“ง่าย ๆ เข้ามาสิ” เมี่ยวเถียนเถียนกวักมือเรียกพรรคพวกที่อยู่ข้างหลังสองสามคน คนกลุ่มหนึ่งก็ตรงเข้าไปในหอไล่ตามเมฆา
“องค์หญิง พวกเรากลับกันเถอะ ท่านอยากมาหาองค์ชายใหญ่รอสักหน่อยเมื่อเขาเสร็จธุระจะต้องมาหาท่านแน่ คนกลุ่มนี้ดูไปแล้วยากจะรับมือนะเพคะ นอกจากนี้ หากเกิดอันตรายขึ้นที่นี่จะทำอย่างไร ?” เหลียนซินกล่าวอย่างกังวลใจ
“จะมีอะไร เข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เฟิ่งชิงหัวตามไปทันที เหลียนซินเองก็รีบตามไปติด ๆ
คุณหนูตรงหน้าสองสามคนกำลังไล่ตามประจบประแจงผู้หญิงที่ชื่อเมี่ยวเถียนเถียนเสียงงุ้งงิ้ง
“เถียนเถียน เจ้าเก่งจริง ๆ นึกไม่ถึงว่ามีป้ายคำสั่งถึงชั้นหก”
“ใช่แล้ว หอไล่ตามเมฆาแห่งนี้เข้ามายากนัก พ่อข้ามีชิ้นหนึ่ง ทว่าไปได้แค่ชั้นสาม”
เมี่ยวเถียนเถียนกล่าวอย่างลำพองใจ : “ลุงของข้าคือเจ้าพระยาเวยหย่วน เขารักข้ามาก ข้ายืมเขามาใช้สองสามวัน เขาไม่พูดมากทำเพลงให้ข้ามาเลย เพียงแต่ กำชับข้ามิให้ล่าวเกินใครที่นี่ อารมณ์ท่านอ๋องเจ็ดไม่ดีนัก และคนที่นี่ก็มิใช่คนธรรมดา จะต้องรอบคอบอีกสักครู่พวกเจ้าขึ้นไปก็อย่าวิ่งไปเรื่อยเด็ดขาด”
“ได้ พวกข้าเข้าใจแล้ว”
“เถียนเถียนเก่งจริง ๆ ข้าได้ยินว่าแม้แต่องค์หญิงในวังก็ไม่มีป้ายคำสั่งระดับสูงเช่นนี้” ระหว่างที่เจียงฟางเฟยพูด ก็เหลือบมองเหยียดหยามเฟิ่งชิงหัวที่อยู่ข้างหลัง
แม้กระทั่งองค์หญิงแคว้นตนยังไม่มี เจ้าที่เป็นองค์หญิงต่างแคว้น แม้กระทั่งประตูก็ยังเข้ามาไม่ได้
เดิมทีนางคิดว่าองค์หญิงซีหลันได้ยินเช่นนี้จะน้อยเนื้อต่ำใจ ทว่าอีกฝ่ายแม้แต่สายตายังไม่ชายตามองนาง ราวกับไม่ได้ยิน
เหอะ เสแสร้งเก่งจริง
รอดูอีกเดี๋ยวเจ้าจะแสร้งอย่างไร
หลังจากขึ้นมาชั้นสาม องครักษ์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นหก รับป้ายคำสั่งไปดู เทียบดูตัวตน จากนั้นกำชับผู้หญิงสองคนพาพวกนางไปที่ห้องรับรอง
เฟิ่งชิงหัว มองดูอย่างใกล้ชิดและพบว่าแม้ว่าผู้หญิงสองคนนี้จะเป็นเพียงผู้นำทางแต่พวกเธอก็มีใบหน้าที่สะอาด กิริยาท่าทางที่สง่างาม และย่างก้าวที่เชื่องช้า ดูเหมือนว่าพวกเธอจะมีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้มาก่อน
หลังจากพามาที่ห้องแล้ว ผู้หญิงสองคนก็เปิดหน้าต่างออก จุกน้ำมันหอมระเหยในห้อง ทันใดนั้นควันลอยสะบัดพลิ้วขึ้น ลอยเข้ากับผ้าโปร่งบางสีชมพูอ่อนขาวที่จัดไว้ในห้อง หรูหราเป็นพิเศษ
เฟิ่งชิงหัวกวาดตามอง พบว่าห้องกว้างประมาณ 80 ตารางเมตร แบ่งเป็นสองห้อง ข้างนอกเป็นโต๊ะอาหาร ด้านในมีฉากกั้น บนพื้นมีเบาะนั่งทรงกลมหลายใบ
เมี่ยวเถียนเถียนและคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจเฟิ่งชิงหัว แต่เริ่มสั่งอาหาร เฟิ่งชิงหัวไปดูมาครู่หนึ่ง เดิมทีคิดว่ามีอะไรที่แตกต่าง ในตอนที่มองดูชื่ออาหารเหล่านั้นก็รู้ว่าเป็นเต้าหู้ขาวเขียวเหล่านั้น ทันใดนั้นก็ไม่มีความรู้สึกอยากจะดู
เมี่ยวเถียนเถียนมองดูท่าทางที่จองหองนั้น กล่าวอย่างโมโหทันที : “องค์หญิงซีหลัน สายตานั้นของเจ้าหมายความว่าอะไร ?”
เฟิ่งชิงหัวมองนาง : “ไม่มีสายตาอะไร ก็แค่มองดูเท่านั้น”
“เจ้ามองดูตามอำเภอใจหรือ ? เจ้าเข้าใจอาหารเหล่านี้ไหม ?”
“ใช่แล้ว เจ้าเข้าใจไหม นี่เป็นอาหารเฉพาะของหอไล่ตามเมฆา ที่โรงเหล้าอื่นต่างก็ไม่มี”
“ใช่แล้ว มาที่นี่กินอาหารหรือ ที่กินน่ะคือความรู้สึกต่างหาก !”
“เจ้ากินปลาและเนื้อมากมายตลอดทั้งวัน ไม่รู้เลยสิว่าอะไรคือความยากลำบากของประชาชน วันนี้พวกข้าจะพาเจ้ามารับรู้ประสบการณ์ เจ้ายังไม่ซาบซึ้งในบุญคุณพวกข้าอีก ไม่เข้าใจอะไรเลยจริง ๆ”
เฟิ่งชิงหัวอาหารเหล่านี้ที่ให้การสนับสนุนจัดโดยจ้านเป่ยเซียว ในหัวมีแค่สองคำ
ตัวกรอง แฟนคลับสมองโง่ ๆ กลวง ๆ