พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 11
บทที่ 11 วิลล่าฟ้าอนงค์
ธายุกรอึ้งไป จากนั้นก็เบะปากใส่อารียา “อารียา ถ้าจะพูด โกหก ก็ทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อย เธอยังไม่ทันจะเดินออก จากประตู ก็พูดว่าตัวเองยืมที่นั่นได้แล้ว เธอยืมยังไงเพ้อฝัน เหรอ”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมา
“สมองมีปัญหาหรือเปล่าเลยเพ้อเจ้อขนาดนั้น” ชรินทร์ ทิพย์พูดเหน็บแนม
อารียาไม่สนใจคนพวกนั้น แต่เธอเอามือถือไปให้นภทีป์ดู แล้วพูดว่า “คุณปู่คะ ผู้จัดการใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์ฟ้า อนงค์ส่งข้อความมาหาฉัน เขาบอกว่ายอมให้เรายืมสถานที่ ค่ะ”
นภทีป์จ้องมือถือของเธอ จากนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วลูบ เคราของตัวเอง “ฉันบอกแล้วว่าพวกเขาต้องให้ยืม ในเมื่อ พวกเขาให้ยืมแล้ว อารีอย่างนั้นเรื่องจัดแสดงวัตถุโบราณ ของฉัน ก็ยกให้แกจัดการแล้วกัน หลังจากนี้ฉันจะให้เงิน เดือนแกครึ่งปีเพื่อเป็นรางวัล”
“ขอบคุณค่ะคุณปู่” อารียารีบตอบกลับ
ธายุกรและคนอื่นๆ ต่างพากันตกตะลึง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนภทีป์ มันไม่เหมือนการพูดล้อเล่น สิ่งที่อารียาพูดเป็น ความจริง
“อย่างนั้นเรื่องในวันนี้ก็จบแค่นี้ละกัน ถ้าพวกแกมีเวลา ว่างก็ไปช่วยอารีเตรียมงานด้วย อารีคือคนที่มีความสามา รถในตระกูลของเรา พวกแกก็เรียนรู้จากเธอด้วย” นภทีป์พูด ไม่กี่คำก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นไปพักผ่อนข้างบน
อารียายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วมองไปยังธายุกรและชริน ทร์ทิพย์ จากนั้นเธอก็หันกลับไปพารพีพงษ์เดินออกจาก
คฤหาสน์
ธายุกรโกรธจัด เขาทุบหมัดลงไปบนโซฟา
“ไอ้เลว โชคดีจริงๆ นะ แม้แต่วิลล่าฟ้าอนงค์ก็สามารถยืม มาได้ มันคงจะมีความสุขมากสินะ” ธายุกรกัดฟันกรอด
“ที มันโชคดีเหลือเกิน ใครจะไปรู้มันอาจจะใช้วิธีที่ สกปรกก็ได้” ชรินทร์ทิพย์ก็พูดอย่างไม่พอใจเช่นกัน
ธายุกรส่งเสียงในลำคอ แววตาของเขาฉายแววร้ายกาจ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “มันยืมที่นั่นได้แล้วยังไง ฉันมีวิธีจัด ded การกับมันก็แล้วกัน เจน เธอรอดูอะไรสนุกๆ ได้เลย ครั้งนี้ฉัน จะทำให้มันเสื่อมเสียชื่อเสียง!”
ระหว่างทางกลับบ้าน อารียาลังเลอยู่สักพักก่อนจะถาม ออกไปว่า “ที่หัวหน้าผู้จัดการส่งข้อความมาหาฉัน เพราะนายหรือเปล่า”
“ข้อความอะไรเหรอ ผมไม่รู้” รพีพงษ์หัวเราะออกมา
เหอะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณปู่อยากจัด แสดงวัตถุโบราณจะไม่ใช่ความลับ แต่อสังหาริมทรัพย์ฟ้า อนงค์ก็ไม่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่เพิ่งจะ พูดจบว่าให้ฉันไปยืมวิลล่าฟ้าอนงค์ หัวหน้าผู้จัดการก็ส่งข้อ ความมาหาฉันพอดี ฉันไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ” อารี ยาพูดไปตามหลักเหตุผล
เมื่อเห็นว่าเธอถามอย่างนั้น เขายิ้มแล้วพูดว่า “อย่างนั้น ผมก็ไม่ปิดคุณแล้ว จริงๆ แล้วผมคือเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์” เธอหยิกเอวของชายหนุ่มแล้วบ่นว่า “นี่ฉันพูดจริงจังนะ
นายอย่ามากวน”
เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่เชื่อ เขาเลยพูดอย่างเซ็งๆ ขึ้นมาว่า “ผมบอกแล้วไงว่าผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่น ผมให้เพื่อนช่วยก็ไม่ใช่ เรื่องใหญ่อะไรนิ”
เมื่อพูดเช่นนี้เธอจึงยอมเชื่อ จากนั้นก็ถามอย่างจริงจัง “รพีพงษ์ นายมีเพื่อนเก่งขนาดนี้ก็ไม่เบาแฮะ จะต้องขอบคุณ เขาหน่อยแล้วล่ะ ชื่อเสียงของนายไม่ค่อยจะดี นายอย่า ทำให้เพื่อนคนสำคัญเช่นนี้หลุดลอยไปล่ะ”
“โอเค รู้แล้ว” รพีพงษ์ตอบ
บ่ายวันนั้น เรื่องที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ ยินดีที่จะให้ ตระกูลฉัตรมงคลยืมสถานที่ดังไปถึงตระกูลฉัตรมงคลอีก ครั้ง แถมยังมีคนเอากุญแจมาให้อารียาอีกต่างหาก
นี่ทำให้คนที่ไม่เชื่อเธอตอนแรกรีบหุบปากกันไปเป็นแถว แต่สิ่งที่ทำให้คนในตระกูลฉัตรมงคลคาดไม่ถึงก็คือ หลัง จากที่มีคนมายืนยันเรื่องยืมสถานที่ แถมยังมีข่าวดังก็คือ เจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญหญิงสาวที่สวยที่สุดใน ตระกูลฉัตรมงคล ไปทานข้าวด้วยกันในวันงานนิทรรศการ วัตถุโบราณ
เรื่องนี้ดังไปทั่วตระกูล ทุกคนต่างพากันคาดเดากันว่า ผู้ หญิงที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญไปทานข้าวจะเป็นใคร
ช่วงแรกผู้หญิงในตระกูลต่างก็คิดว่าคนที่เขาจะเชิญเป็น ตัวเองทั้งนั้น
แต่ทว่าเขาบอกว่าจะเชิญผู้หญิงที่สวยที่สุดในตระกูลฉัตร
มงคล
ตอนนี้คนที่ยังไม่แต่งงานและโดดเด่นกว่าใครก็คงจะหนี
ไม่พ้น ชรินทร์ทิพย์
ถึงแม้ว่าอารียาดูโดดเด่นกว่าชรินทร์ทิพย์ แต่ไม่มีใครคิด ว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
คนจำนวนมากคาดเดากันไปถึงขั้นที่ว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ชอบชรินทร์ทิพย์ จึงทำแบบนี้
หลังจากที่รู้เรื่องนี้ ชรินทร์ทิพย์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนได้ขึ้น สวรรค์ เธอแน่ใจว่าคนที่เจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์เชิญก็คือเธอ แถมยังไปบอกคนอื่นว่าการที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ลด
ราคาตึกและให้ยืมสถานที่ก็เพราะเห็นแก่หน้าของเธอ
คนในตระกูลฉัตรมงคลต่างพากันเชื่อคำพูดของเธอ เพราะฉะนั้นทั้งตระกูลฉัตรมงคลคงจะเป็นเธอที่ถูกเชิญ
เพราะเหตุนี้ ชรินทร์ทิพย์ จึงตั้งใจไปหาอารียาเพื่อจะโอ้ อวด เธอพูดดูถูกและพูดทำร้ายจิตใจของอารียา
“น่าเสียดายจัง ถ้าเธอไม่แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่าง รพีพงษ์ไม่แน่คนที่เขาเชิญอาจจะเป็นเธอก็ได้”
“น่าเสียดายที่เธอสวยขนาดนี้ แถมยังมีความสามารถอีก แต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับคนไร้ประโยชน์อย่างรพีพงษ์ แต่ยังไงฉันก็ขอบคุณเธอนะ”
เมื่อคิดเรื่องที่ชรินทร์ทิพย์มายืนพูดเยาะเย้ยเธอ ในใจ ของอารียาก็รู้สึกโกรธ
เดิมทีเธอคิดว่าการที่คุณปู่ให้เธอเตรียมนิทรรศการวัตถุ โบราณ เพราะคุณปู่เห็นความสำคัญของเธอ แต่ที่ไหนได้เธอ กลับทำงานให้ชรินทร์ทิพย์ซะอย่างนั้น
“เพราะไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างแกแท้ๆ มาทำลายอนาคตที่สดใสของลูกสาวฉัน ถ้าไม่ใช่แกลูกสาวฉันก็คงจะได้รับ การเชิญจากเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์แล้ว!” ศศินัดดานั่งจ้อง รพีพงษ์อยู่บนโซฟาด้วยสายตาดุร้าย
“ถ้าไม่ใช่แก มีหรือเรื่องดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นกับชรินทร์ ทิพย์ไอ้เด็กนั่นมันเทียบไม่ได้กับแคลร์ด้วยซ้ำ รอให้มันแต่ง งานไปอยู่ในวิลล่าฟ้าอนงค์ มันต้องไม่ปล่อยครอบครัวเราไว้ แน่ๆ ทั้งหมดก็เพราะแกคนเดียว ไอ้ตัวซวย!”
รพีพงษ์ปรายตามองศศินัดดา เขาหมดคำจะพูด “เขายัง ไม่ได้บอกเลยว่าคนที่เขาเชิญคือใคร แม่รู้ได้ยังไงว่าคือชริน ทร์ทิพย์ ทำไมคนที่ถูกเชิญถึงเป็น แคลร์ไม่ได้ล่ะ”
“ทำไมถึงเป็นแคลร์ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ แกไม่รู้อะไรจริงๆ เหรอ ก็เพราะคนไร้ประโยชน์อย่างแกไงที่เป็นอุปสรรคยัง มีหน้ามาพูดอีก!” ศศินัดดาก่นด่า
รพีพงษ์หงุดหงิดเล็กน้อย เขาเกือบจะหลุดปากออกไปแล้ว ว่าตัวเองคือเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์
คนที่เขาจะเชิญคืออารียาไม่ใช่ชรินทร์ทิพย์
“พอเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย” อารียาเดินเข้ามา เดิมที เธอก็หงุดหงิดอยู่แล้ว มาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันอีก ก็ยิ่ง ปวดหัวเข้าไปอีก
“ลูกยังจะพูดแทนมันอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ตอนนี้ลูกก็มีโอกาสแต่งเข้าไปอยู่ในบ้านผู้รากมากดีแล้ว!” ศศินัด ดายังไม่ยอมหยุด
อารียาไม่สนใจแม่ของตัวเอง เธอดึงรพีพงษ์เดินไปใน
ห้อง
รพีพงษ์มองท่าทางของอารียา เขาคิดในใจว่าครั้งนี้จะ ต้องทำให้เธอเซอร์ไพรส์ รอให้ถึงงานวันนั้นก่อน เขาจะ ทำให้ชรินทร์ทิพย์รู้ว่าคำว่าขายหน้ามันเป็นอย่างไร!