พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 113
บทที่ 113 เกี่ยวอะไรกับเขา
ธายุกรและชรินทร์ทิพย์ต่างก็อึ้งไปหมด ไม่รู้ว่า ทำไมอยู่ดีๆ นภทีปัถึงพูดแบบนั้น
“ปู่อย่าเชื่อที่ไอ้นี่สร้างขึ้นมา ที่เขาเอามานั้นเป็น ของปลอม อย่าไปเชื่อ” ธายุกรพูด
“ฉันให้พวกแกสองคนคุกเข่า! ” นภทีป์เสียงดังกว่า เดม สายตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ในใจของธายุกรและชรินทร์ทิพย์ต่างก็ตกใจ สอง คนสบตากัน จำเป็นต้องเดินไปตรงหน้าเขาแล้วคุกเข่า
พวกญาติๆ มองไปทางนภทีป์ด้วยความสงสัย ไม เข้าใจว่าทำไมต้องให้ทั้งสองคุกเข่า
“พ่อ เรื่องพวกนั้นไอ้นั่นเป็นคนสร้างขึ้นมา พ่อ อย่างข้าใจเจนและธายุผิด” คิมหัตต์เดินไปตรงหน้า แก้ตัวแทนชรินทร์ทิพย์และธายุกร
“ใช่นะสิคุณท่าน คำพูดของรพีพงษ์เชื่อไม่ได้ เขา อยากจะใส่ร้ายให้ธายุและเจนนะ”
“เรื่องพวกนั้นรพีพงษ์เป็นคนสร้างขึ้นมาแน่ๆ เขา อยากได้สมบัติในบ้านไม่ใช่หนึ่งวันสองวันแล้ว คุณ ท่านอย่าไปหลงกลเขา”
พวกญาติๆ เริ่มแก้ตัวแทนทั้งสองคน
ครั้งนี้นภทีป์ได้ยินคนพวกนั้นแก้ตัวแทนทั้งสองสีหน้าของเขายิ่งดูแย่กว่าเดิม
“หุบปาก! จะใช่ไม่ใช่ฉันจะดูไม่ออกหรอ?” นภทีป์ เฮอะใส่
ทุกคนเงียบไปทันที
นภทีปัมองไปทางธายุกรและชรินทร์ทิพย์พูดว่า “ธายุให้ฉันให้แกและอารีรับผิดชอบโปรเจคพร้อมกกัน วันที่สองก็มีเงินเข้าบัญชีส่วนตัวแกหนึ่งรายการแกเอา เงินพวกกนั้นไปทำอะไร?”
ที่หน้าผากของธายุกรมีเหงื่อใหลทันที พูด ตะกุกตะกักว่า “ผม….ผมเอาเงินไปซื้อของที่ต้องใช้ไง ปู่ ผมไม่ได้ใช้เงินไปมั่วนะ”
นกที่ป์ตบไปที่โต๊ะแรงๆ ตะโกนเสียงดัง “แก
โกหก! ของพวกนั้นอารีซื้อก่อนหนึ่งวันแล้ว แถมยัง รายงานฉันด้วย แล้วทำไมแกต้องซื้ออีกครั้ง? ของที่ ซื้อหล่ะ? ” ในรายจ่ายที่รพีพงษ์ให้นภทีป์ ทำให้ที่ผิดปกติเด่น
ขึ้น แถมบอกที่ไปที่มา นภทีป์เองก็รู้เรื่องเกี่ยวกับโปร
เจคนี้ แค่ดูก็รู้แล้วว่ามีปัญหา
ธายุกรตกตะลึงทันที เมื่อกี้เป็นเหตุผลที่เขาคิดมั่ว ไม่คิดว่าจะถูกแฉเร็วขนาดนี้
“ปู่ เงินพวกนั้นผมเอาเตรียมไว้ กลัวว่าอารียาจะ โกงเงินบริษัทไง กลับไปผมจะเอาไปคืนทันที” แก้วตา ของธายุกรมองซ้ายแลขวา
“ฮ่าๆ อย่ามาแก้ตัวเลย ฉันตรวจอย่างชัดเจนแล้ว ครึ่งเดือนที่แล้วมีเงินเข้าไปที่สถานบันเทิงแรกกิ้ง ไฟร์ วันนั้นมีคนบอกว่าแกเรียกสาวมาสิบกว่าคน ใน บัญชีคงไม่มีเงินตั้งนานแล้วมั้ง”
สีหน้าของธายุกรเปลี่ยนไปทันที ไม่คิดว่าเขาจะ ตรวจได้ละเอียดขนาดนี้
“แกพูดไปมั่ว ฉันไม่เคยไปที่แบบนั้น แล้วถึงคือ ใครกล้ามายุ่งเรื่องตระกูลเรา!” หน้าตาของธายุกรน่า กลัว
“อะไรนะ กล้าก็พูดอีกครั้ง” ไออ้วนใจร้อนทันที
รพีพงษ์มองไปทางเขา เขาถึงจะไม่ไปตีกับธายุกร “พอแล้ว! ไอ้ไม่ได้เรื่อง ยังจะกล้าโกหกอีก! บนนี้มี หลักฐานชัดขนาดนี้ แถมยังมีภาพอีก แกมีอะไรจะพูด อีก!” นภที่ป์โยนเอกสารไป
ธายุกรก้มหน้าดู เป็นภาพที่เขาถูกสาวสิบคนล้อม รอบอยู่
หน้าของเขาซีดไปทันที ตอนนี้ไม่ว่าพูดยังไงก็ไม่มี ประโชยน์แล้ว
“ยังมีเธออีกชรินทร์ทิพย์! ” นภที่ปั้มองไปทาง ชรินทร์ทิพย์ “บ้านใหม่ที่เอซื้อ แค่จ่ายครั้งแรกก็จ่าย ไปแปดแสนกว่า ระหว่างนี้สี่แสนก็เอาจากบริษัท ในนั้น เขียนว่าให้รางวัล เธอทำอะไรให้บริษัท ทำไมบริษัทถึง ให้รางวัลเยอะขนาดนั้น?”
บนใบหน้าของชรินทร์ทิพย์เต็มไปด้วยความยาก ลำบาก เงินพวกนั้นหล่อนเป็นคนให้ธายุกรโอนไป ตอนนั้นธายุกรบอกว่าใช้เหตุผลนี้ดี ไม่อย่างงั้นจะ อธิบายยาก
แต่ชรินทร์ทิพย์ก็รู้สึกว่าตัวเธอทำออะไรให้บริษัท มากเหมือนกัน อย่างน้อยก็ทำให้คุณท่านมีความสุข ก็ เลยให้เขียนเป็นรางวัล
“ปู่ ฉัน…
”
“หูปปาก! วันๆ อยู่แต่บ้านไม่ทำอะไร ไม่เคยยุ่ง เรื่องบริษัท แถมยังมีหน้าให้รางวัลตัวเองมากขนาดนี้ เป็นหลานที่ดีของฉันจริงๆ ! ” นภทีป์พูดด้วยความ โมโห
ชรินทร์ทิพย์รีบก้มหน้าลง ในใจแช่งรพีพงษ์เป็น
ร้อนๆ รอบ
ทุกคนมองไปที่ภาพนี้อย่างตกตะลึง ทีแรกพวก เขามาดูรพีพงษ์ถูกไล่ออกจากตระกูล แต่ไม่คิดว่า สุดท้ายคนที่ซวยคือธายุกรและชรินทร์ทิพย์
ญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มากก็น้อยเคยเอาเงิน จากบริษัท แต่โปรเจคนี้อารียาเป็นคนดูแล พวกกเขาก็ เลยไม่มีโอกาส ก็เลยตรวจเจอแต่สองคนนี้
“ปู่หนูตั้งใจทำงานให้บริษัท โปรเจคนี้ที่รายุกรมา ทำให้มีเรื่องกิดขึ้นมากมาย กลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปคงจะสงสัยในความสามารถของบริษัทเรา ดังนั้นขอให้ปู่ไม่ต้องให้ธายุกรร่วมงานนี้ แล้ว” อารียาฉวยโอกาสนี้พูดความในใจออกมา
ธายุกรรีบพูดอย่างเร่งรีบ “อารียาอย่ามาแกล้งเป็น คนดีเลย มือเท้าเธอสะอาดหรือไง? เธออยากจะไล่ฉัน ออกและจะเอามากกว่านี้น่ะสิ”
“พอแล้ว! ” นะที่ป์พูดแทรกทั้งสอง “บัญชีของ อารีสะอาด ฉันเชื่อว่าหล่อนไม่เคยเอาเงินบริษัทครั้งนี้ ธายุทำเกินไปแล้วจริงๆ โปรเจคนี้ไม่ต้องร่วมแล้วเจน ด้วย กลับไปเลย ไปคิดทบทวนตัวเอง ดีๆ”
“รู้แล้วค่ะปู่” ชรินทร์ทิพย์ได้ยินนภทีป์ แค่ให้เธอ
ไปคิดทบทวนก็เลยรีบพยักหน้า
ธายุกรในใจไม่ยอม แต่ก็ไม่มีวิธีอื่น ก็เลยต้อง
ตกลง
“คุณท่าน พวกเขาสองคนทำเรื่องแบบนี้ ท่านแค่ ลงโทษแบบนี้คงจะเบาเกินไปแล้วมั้ง?” พูด อารียา ก็รู้สึกไม่ยุติธรรม ถ้าเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นเขา
และเธอคงจะถูก ไล่ออกจากบ้านแล้ว
นภทีป รีบจิกตาไปทางรพีพงษ์ ถามด้วยน้ำเสียงที่ เย็นชา “ทำไม? เรื่องในตระกูลของฉัน คนนอกอย่าง แกก็มีสิทธิ์มายุ่งหรอ? เรื่องนี้ถึงแค่นี้พอ ห้ามใครพูดถึง อีก ถ้าต่อไปทั้งสองทำแบบนี้อีก ฉันจะลงโทษเอง”
“ปู่ ครั้งนี้ที่รู้ว่าบัญชีมีปัญหาเพราะรพีพงษ์คน เดียว ปู่ทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับเขามากเลยนะ” อารียาพูดแทนรพีพงษ์
ศศินัดดาหยุดแล้ว รีบไปดึงที่แขนของอารียาและ พูดว่า “ลูก ครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหนูก็ถือว่าโชคดีแล้ว ยังจะเป็นห่วงรพีพงษ์ทำไม”
นกที่ป์มองไปทางอารียาและพูดว่า “เรื่องครั้งนี้คง ไม่เกี่ยวกับเขา ถ้าทายไม่ผิด คนที่เช็คบัญชีคงจะเป็น คนที่ยืนข้างๆเขา?”
ไออ้วนได้ยินพูดถึงเขาก็รีบเดินไปตรงหน้าหนึ่ง
เก้า “ใช่ ฉันเป็นคนตรวจเอง ถ้าอยากจะตรวจที่อื่นก็
สามารถมาหาฉันได้ เรื่องราคาคุยกันได้”
พวกญาติๆ ได้ยินคำพูดของเขาก็รีบส่ายหัวบริษัท ไม่ต้องตรวจเช็คบัญชี
นภทีปก็ทำตัวไม่ถูก เขาเองก็รู้ว่าคนในบ้านมี ปัญหา แต่ถ้าจะตรวจจริงๆ คนทั้งครอบครัวคงหนีไม่ พ้น ถึงเวลาก็ไม่สามารถลงโทษได้อีก แถมยังกระทบ บริษัท
“ขอบคุณคุณมากๆ พวกเรายังไม่ต้องการที่จะ ตรวจเช็คบัญชี ถ้ามีจะหาคนแน่นอน” นภที่ป์พูด
ไออ้วนเป้ปากอยากจะเอาราคาพวกเขาสูงๆ ดู จากแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้
“เธอเองก็ได้ยินแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรพีพงษ์ แม้แต่น้อย สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรไม่ยุติธรรม ถ้าเขา อยากจะอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรที่ทำไม่ได้”นภทีปพูด
อารียา กัดริมฝีปากไม่คิดว่ารพีพงษ์ทำเพื่อตระกูล ขนาดนี้นภทีป์ยังจะบอกว่าพูดลอยๆ มาตลอด รพีพงษ์มองไปทางอารียายิ้มและพูดว่า “ช่างมัน
เถอะ มาเพื่อ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอและฉันก็ไม่
ได้ทำอะไรด้วย”
ไออ้วนทำหน้างง เขารู้ว่ารพีพงษ์ เก่งขนาดไหน แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์ต้องอดทนอยู่ที่ ตระกูลนี้
เขามองไปทางอารียา หรือจะเป็นเพราะผู้หญิงคน นี้?
เรื่องบัญชีบริษัทได้จบลงและทุกคนก็กลัวว่าจะ สื่อมาถึงตัวเอง ไม่กล้าจะพูดเรื่องนี้อีก
คิมหัตต์ รู้สึกว่าขายขี้หน้ามาก พูดไปพูดมา สุดท้ายคนที่ใช้เงินส่วนกลางคือครอบครัวเขา
ถึงแม้นภูทีป์ไม่ได้ลงโทษชรินทร์ทิพย์ แต่ในใจ ของเขาก็ยังโกรธอยู่ เวลานี้เหมือนจะนึกอะไรได้ พูด ไปว่า “พ่อ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้เงินส่วนกลาง แต่บ้านและ รถก็ซื้อไปแล้วจริงๆ ครอบครัวเขาฐานะอะไรพ่อก็ คงจะรู้ดี แล้วเงินพวกนั้นมาจากไหน?”
ผู้คนได้ยินเขาพูดถึงเรื่องนี้ต่างก็มีสายตาที่สงสัย “ปู่หนูพูดไปหลายรอบแล้วว่าเงินพวกนั้นเป็นเงิน
ของรพีพงษ์ ถึงแม้เขาจะเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา แต่ก็ไม่แน่หมายความว่าเขาไม่มีเงินเก็บ” อารียาพูดอีกครั้ง
“อารียา อย่ามาพูดมั่ว ถ้ารพีพงษ์ มีเงินเก็บ 1000 กว่าล้านเขาจะมาอยู่บ้านเราหรอ? อย่ามาตลกเลย” มี คนโต้กลับทันที
อารียา ไม่รู้จะโต้กลับยังไงเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะ อธิบายยังไงว่ารพีพงษ์มีเงินได้ยังไงแล้ว ทำไมฉันอยู่ ในบ้านนี้”
นภทีป์ก็มองไปทางอารียา “อารี พูดตามความจริง
มาว่าเงินพวกนี้มาจากไหน?”
ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าอารียา ช่วยโอกาสโปร เจคนี้เพื่อโกงเงิน
เรื่องแบบนี้เขาจะไม่มีทางให้เกิดขึ้นแน่นอน ใน ความคิดของเขา ทุกอย่างที่อารียาใช้เป็นของตระกูล เงินที่ได้ก็ควรจะให้ตระกูล
ตอนนี้ศศินัดดาคิดไปคิดมาเดินไปตรงหน้าและ อธิบายว่า “คุณท่าน เงินพวกนี้บอกได้ว่าเป็นของรพี พงษ์ แต่เป็นของที่คุณหญิงให้ไว้ ไม่ว่ายังไงก็เป็นของ ตระกูล”
ผู้คนอึ้งไปหมด ไม่คิดว่าเงินที่ซื้อวิลล่าและรถเป็น เงินที่คุณหญิงให้
อารียาก็อึ้งไปเลย เงินของรพีพงษ์กลายเป็นเงินที่ ย่าให้ได้ยังไง?
“เกิดอะไรขึ้น พูดให้รู้เรื่อง” นภทีป์พูด
“เรื่องราวคือแบบนี้ ตอนนั้นคุณหญิงอยากให้รพี่ พงษ์เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ใครๆ ก็รู้ว่ารพีพงษ์เป็นคนไร้ ประโยชน์ บ้านฉันเองก็ไม่ยอม อารียิ่งไม่ยอม”
“เพื่อที่จะให้พวกเรายอมรับ คุณหญิงก็เลยเอาเงิน หนึ่งก้อนให้เรา หลังจากที่แต่งงานสามปีถึงจะใช้เงินนี้ ได้ พอดีวันครบรอบถึงเมื่อไม่นานที่ผ่านมา พวกเราก็ เลยเอามาซื้อเงินและบ้าน”
“ที่จริงเงินของคุณหญิงก็ไม่ได้มีมาก ทั้งหมดรวม เป็นห้าล้าน พวกกเราซื้อรถ เงินที่เหลือไปกู้ยืมมาและ ซื้อบ้าน ตอนนี้อารียังจะต้องจ่ายหนี้ทุกๆ เดือน”
ตอนที่ศศินัดดาอธิบาย เธอเองก็เกือบเชื่อแล้ว
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปหมด ไม่คิดว่าตอนนั้นที่รพี พงษ์เข้ามาอยู่จะมีดีแบบนี้ ม่คนไม่น้อยเริ่มอิจฉา
อารียารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ศศินัดดาสร้างขึ้นมา แต่ เธอเห็นรพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร เธอก็เลยไม่รู้ควรจะพูด ยังไง
รพีพงษ์รู้ว่าในใจของอารียากำลังโต้แย้งกันอยู่ “เรื่องน้อยดีกว่าเรื่องเยอะ แม่ชอบพูดยังไงก็พูดไปเฮอ ะ”
อารียาก็เลยพยักหน้า
ตอนนั้นที่คุณหญิงยังมีชีวิตอยู่ นภทีป์ไม่สามารถ ยุ่งเรื่องเงินในบ้านได้ ตอนนี้ได้ยินศศินัดดาพูดแบบนี้ ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่เคยสงสัย
เพราะเป็นไปได้ที่คุณหญิงจะทำแบบนี้
ตอนนี้คุณหญิงตายไปแล้ว ขาถึงจะเป็นเจ้าของ ที่แท้จริง เขาก็เลยคิดว่าของที่เงินก้อนนั้นซื้อก็ควรจะ เป็นของเขา เขาสามารถใช้ได้ตามสบาย
เขามองไปทางศศินัดดาและพูดว่า “เงินก้อนนั้นก็ เป็นของตระกูลฉัน ของที่ซื้อมาจะเขียนชื่อของรพี พงษ์ไม่ได้ หาเวลาไปเปลี่ยนชื่อให้ธายุ อย่าให้รพีพงษ์ ที่เป็นคนนอกเอาเปรียบ”