พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1150 คุณผู้ชาย รถของคุณจอดไว้เรียบร้อยแล้ว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1150 คุณผู้ชาย รถของคุณจอดไว้เรียบร้อยแล้ว
“คุณผู้ชายครับ ถ้าจะเข้าไปข้างในเกาะนี้ ไม่สามารถนำรถเข้าไปได้ คุณจะต้องจอดไว้ข้างนอกครับ”
มีใครบางคนเข้ามาพูดกับรพีพงษ์ด้วยท่าทางนอบน้อม
ตอนนี้คนหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่จะมีท่าทีนอบน้อม ขนาดแววตาของเขายังเต็มไปด้วยความนับถือ นี่เป็นรถแลมโบกินีเชียวนะ เป็นรถหรูมีระดับ ถึงรถBMWกับรถเบนซ์จะเป็นรถที่หรู แต่ทว่ารถประเภทนั้นมีเงินล้านสองล้านก็ซื้อได้ ราคาถูกสุดมีเงินไม่กี่แสนก็ซื้อได้แล้ว ถ้าคุณบอกว่าซื้อรถแลมโบกินีในเงินไม่กี่แสนได้ นั่นแสดงว่าคุณกำลังพูดเพ้อฝัน ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นรถแลมโบกินีรุ่นอาเวนทาดอร์ที่มีราคาสูงมาก
“งั้นผมขอถามหน่อยว่าที่จอดรถอยู่ตรงไหน ผมยังไม่ค่อยรู้จักที่นี่”
นี่เป็นครั้งแรกที่รพีพงษ์มาที่นี่ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าที่จอดรถอยู่ตรงไหน
“ที่นี่มีบริการรับจอดรถครับ โดยเฉพาะรถหรูๆ แบบคุณ พวกเราจะระมัดระวังอย่างดี คุณสบายใจได้เลย ฝีมือการขับรถของผมดีมากครับ”
คนหนุ่มคนนั้นยิ้มและพูดกับรพีพงษ์ เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น รพีพงษ์จึงพยักหน้า อีกอย่างโรงแรมทั่วไปก็มีบริการรับจอดรถอยู่แล้ว เขาเดินลงมาจากรถแล้วพูดกับชายหนุ่มคนนั้น
“งั้นผมจะรอตรงนี้”
“ครับ คุณช่วยรับนามบัตรนี่ไว้ด้วยนะครับ อีกเดี๋ยวถ้าคุณจะรับรถสามารถโทรหาผมได้เลยนะครับ”
ชายหนุ่มคนนั้นโค้งเก้าสิบองศา แล้วเอานามบัตรออกมาและยื่นให้รพีพงษ์ เมื่อรพีพงษ์รับนามบัตรมาก็ให้ชายหนุ่มคนนั้นไปที่จอดรถ ส่วนตัวเขายืนรออยู่ที่เดิม
ห่างจากตรงที่รพีพงษ์ยืนอยู่ไม่ไกล นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนั้นมาถึงที่นี่เป็นที่เรียบร้อย พวกเขามาร่วมงานเสวนาในครั้งนี้ เมื่อคนพวกนั้นเห็นบรรยากาศบนเกาะแห่งนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“บรรยากาศที่นี่ดีมากเลย ถ้าสามารถซื้อบ้านพักอากาศที่นี่สักหลังก็คงจะดีมากเลย”
“เธอนี่บ้านนอกจริงๆ เลย บรรยากาศของที่นี่ไม่นับว่าดีมากนะ ฉันเคยเจอที่ที่บรรยากาศสวยกว่านี้อีก”
จารุดาพูดอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ราวกับว่าเธอต้องการเอาชนะคนอื่นตลอดเวลา และทำตัวให้โดดเด่นอยู่เสมอ
ส่วนคนที่อยู่รอบๆ ต่างพากันพูดเยินยอจารุดาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เจ๋งสุดๆ ไปเลย เธอได้เห็นบรรยากาศสวยๆ ตั้งเยอะ ถ้าฉันได้เห็นสักครั้งก็คงจะดี”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่คนอื่นเยินยอตัวเอง จารุดารู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ไปที่สวยๆ อะไรมากมาย แล้วมันจะเป็นอะไรไป เธออยากจะพูดอะไรก็พูด ตอนนี้เธอกำลังชื่นชมกับคำชมของคนรอบกาย
“ใช่ ที่ที่ฉันไปครั้งที่แล้วสวยกว่าที่นี่ตั้งเยอะ”
จริงๆ แล้วจารุดาจะได้ไปพบกับบรรยากาศอันสวยงามแล้ว แต่เกิดเรื่องน่าเสียดายก่อนที่เธอจะไป ไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะจับผู้ชายรวยๆ ได้แต่ทว่าจู่ๆ บ้านของเขาก็ล้มละลายอย่างกะทันหัน ไม่งั้นเธอคงจะได้เห็นบรรยากาศอันสวยงาม และไม่ต้องมาพูดโม้อยู่ที่นี่
“โอ้ จารุดา เธอนี่เจ๋งจริงๆ เคยเห็นที่ที่สวยกว่านี้อีกเหรอ”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่จารุดาพูด เขาก็คิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่จารุดาทำให้อารียาอับอาย จู่ๆ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาและพูดอย่างมีลับลมคมในอยู่ข้างๆ เมื่อจารุดาได้ยินเช่นนั้น เธอเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังชื่นชมเธอ แต่เมื่อเธอมาคิดดูดีๆ ก็รู้สึกทะแม่งๆ ทำไมในคำพูดของเขาเหมือนกำลังประชดประชัน อีกอย่างทำไมน้ำเสียงนี้มันถึงคุ้นๆ ขนาดนี้
เธอหันหลังมา ทันใดนั้นสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและตวาดใส่รพีพงษ์
“รพีพงษ์ สวะอย่างนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ก็ไม่มีอะไรนิ ฉันก็แค่มาร่วมงานเสวนา”
น้ำเสียงของรพีพงษ์ราบเรียบ
“จารุดา เธอรู้จะเขาเหรอ”
ทันใดนั้นเพื่อนที่อยู่ข้างๆ จารุดาเอ่ยถามขึ้น แล้วมองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาประเมิน พบว่าเสื้อผ้าบนตัวของรพีพงษ์ไม่เพียงแต่จะธรรมดา หนำซ้ำยังบ้านนอกอีกด้วย จู่ๆ เธอก็พูดประชดประชันออกมา
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนอย่างจารุดาจะรู้จักคนบ้านนอกแบบนี้”
พวกคนที่ไม่ชอบจารุดามานานพูดประชดขึ้นมาทันที
“ให้ตายเถอะ ใครจะไปรู้จักไอ้คนบ้านนอกแบบนี้!”
เมื่อจารุดาได้ยินเสียงประชดจากคนพวกนี้ เธอจึงมองรพีพงษ์แล้วตวาดใส่ด้วยความโมโห
“แกรีบไสหัวไปเลยนะ!”
“เหอะๆ ที่นี่เป็นถิ่นของเธอหรือไง ทำไมฉันจะต้องไปด้วย เธอจะไล่ฉันยังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ”
รพีพงษ์พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ใช่สิ ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้าจารุดาบอกให้นายออกไปนายก็ต้องออกไป นายมันก็แค่สวะ การที่จารุดาพูดกับนายก็ถือว่าไว้หน้านายแล้วนะ นายยังจะยืนอยู่ทำไม ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
หนึ่งในคนที่ตามจีบจารุดามาตลอดได้โอกาสจึงรีบตวาดใส่รพีพงษ์
“ใช่ จารุดาคุยกับนายก็ถือว่าเป็นบุญของนายไปสามชาติ ทางที่ดีนายอย่าทำเป็นไม่รู้อะไรดีอะไรชั่ว รีบไสหัวไปซะ คนบ้านนอกอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาอยู่ที่นี่ ถ้านายยังไม่ไสหัวไป ฉันจะโยนนายไปเป็นอาหารปลา!”
คนรอบๆ เริ่มพากันพูดประชดประชันรพีพงษ์ ขณะนั้นชายหนุ่มที่นำรถของรพีพงษ์ไปจอด วิ่งเข้ามาหารพีพงษ์ เมื่อเขามาถึงข้างตัวรพีพงษ์ เขาโค้งให้และพูดอย่างนอบน้อมว่า
“คุณผู้ชายครับ ผมจอดรถของคุณเรียบร้อยแล้ว นี่กุญแจรถของคุณครับ”