พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1197 แดนเทพชั้นสูงสุด
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1197 แดนเทพชั้นสูงสุด
“นี่คือ?”
รพีพงษ์คิ้วขทวดเล็กน้อย แต่ในสายตาเขาแล้ว มันเป็นยาเพิ่มพลังแน่
เพียงแต่ว่า ไม่เหมือนยาของฝั่งตน ยาทวีปโอชวินสีทองเหลือง แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา
หลังจากโจซี่กลืนเม็ดยาลงไป พลังเพิ่มพูดขึ้นเยอะมาก
รพีพงษ์เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
เพราะแค่ใช้ตามอง รพีพงษ์กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่เพิ่มขึ้นบนตัวโจซี่
พลังเปลี่ยนแปลงเร็วมา! นี่…มันน่ากลัวเกินไปหน่อยละ!
ไม่คิดเลยว่าโจซี่จะมีไม้ตายแบบนี้อีก
แต่ธนูถูกดึงแล้ว ต้องปล่อยออกไปอยู่ดี!
ในจังหวะคับขันแบบนี้ ต่อให้อีกฝ่ายพลังเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว แล้วยังไงล่ะ!
ท่านี้ รพีพงษ์ใช้พลังทั่วทั้งร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นการโจมตีที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่ตัวเขาในตอนนี้จะทำได้
“พัง!”
รพีพงษ์ตะโกนดัง พุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมกับมังกรทั้งเก้าและกระบี่สยบเซียน
“เหอะเหอะ เด็กน้อย เรื่องฝีมือเหมือนแกจะไม่รู้อะไรเลยนะ!”
โจซี่เยาะหยัน
เธอแค่ดีดนิดเดียว ลูกบอลสีทองที่สร้างด้วยพลังจิตที่เพิ่มขึ้น
ลูกบอลขนาดเท่าลูกแก้วที่เล่นดีดกันปกติพุ่งตรงแน่วเข้าหารพีพงษ์
“แค่เจ้านี่ แกคิดว่าจะป้องกันการโจมตีของฉันได้? ฝันกลางวันแล้วมั้ง!”
รพีพงษ์พุ่งตรงเข้าหาลูกบอลลูกนี้
จากนั้นพอเข้าใกล้ลูกแก้วนี่เท่าไหร่ รพีพงษ์ก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงแรงกดดันของมันที่มากขึ้นทีละนิด
กระบี่สยบเซียน กระบี่มังกรเลื้อย ผสานรวมกับจิตวิญญาณเทพ
รพีพงษ์เชื่อว่า ในโลกนี้คนที่จะสามารถรับมือการโจมตีทั้งสามแบบนี้ด้วยกันมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ
บรึ้ม!
วินาทีที่ปะทะกัน เกิดความหวาดกลัวขึ้นในสายตารพีพงษ์ครั้งแรก
นี่มันพลังอะไรกันแน่!
รพีพงษ์เบิกตาค้าง ลูกแก้วที่สร้างจากพลังจิตเล็กแค่นี้ลูกเดียว กลับมีอานุภาพร้ายแรงขนาดนี้
แค่พริบตาที่กระทบเข้า การโจมตีของรพีพงษ์ก็เกิดแตกกระจายระเบิดดัง!
“อวดดีเกินไปแล้ว!” โจซี่ยิ้มเย็นบอก
หมอกค่อยๆจางไป รพีพงษ์ล้มลงบนพื้นที่ห่างไกลจากโจซี่หลายสิบเมตร
เขากุมหน้าอก กระบี่สยบเซียนเกิดรอยร้าวขึ้นในจุดที่ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้วเพราะการปะทะครั้งนี้
เวลาของวิชาลับหมดแล้ว รพีพงษ์ในตอนนี้ ต่อให้เป็นร่างเทพชูรา อีกยังฝึกฝนพลังวิเศษเสนไปด้วยในเวลาเดียวกัน วินาทีนี้เขาก็ยังไม่สามารถประมาทได้แม้แต่นิดเดียว
“แกสามารถบีบคั้นฉันจนถึงขนาดนี้ได้ ถือว่าฝีมือไม่ธรรมดาแล้วล่ะ”
โจซี่เดินเข้ามาช้าๆพร้อมรอยยิ้มหยัน
ทุกย่างก้าว ทั้งภูเขาและแม่น้ำล้วนเปลี่ยนสี!
รพีพงษ์ล้มลงที่พื้น พยายามใช้มือดันพื้น เพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นมา
การโจมตีรุนแรงของตนกลับพ่ายแพ้ให้กับลูกบอลพลังจิตเม็ดเล็กแค่นี้ ทำเอารพีพงษ์ต้องปรับคงวามคิดใหม่เลยทีเดียว
หรือว่า นี่คือฝีมือที่แท้จริงของคนจากทวีปโอชวิน?
รพีพงษ์เงยหน้าขึ้นมองโจซี่ที่อยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยสายตาดุร้าย
เขาพยายามปรับอารมณ์ตน ต่อให้จิตวิญญาณเทพของเขาฟื้นฟูเร็วมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฝีมือที่แท้จริงของโจซี่ ต่อให้รพีพงษ์สามารถฟื้นฟูจนถึงระดับสุด ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโจซี่อยู่ดี
“ฉันว่านะ อัจฉริยะบนโลกนี้ก็แค่มดเท่านั้นแหละ เทียบกับทวีปโอชวินของพวกเราแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย” โจซี่ยิ้มบางพูด
“น่าตายนัก เพราะพวกคนทวีปโอชวินอย่างพวกแก ตอนนั้นมายึดปราณทิพย์ของโลกเรา วิธีกองโจรแบบนี้ มีแต่โจรอย่างพวกแกเท่านั้นแหละที่ทำได้” รพีพงษ์ด่า
“แล้วยังไงล่ะ!”
โจซี่พูดอย่างเย็นชาว่า “ปราณทิพย์มีค่าพวกนี้ ให้คนบนโลกอย่างพวกแกใช้ สิ้นเปลืองกันเห็นๆ ถ้าเป็นแบบนั้น สู้เอาไปให้คนอื่นดีกว่า!”
“เถียงหน้าด้านๆ คนทวีปโอชวินอย่างพวกแก หน้าด้านจริงๆ!” รพีพงษ์กัดฟันบอก
“เหอะ โลกเราน่ะเอาฝีมือเป็นหลัก คนบนโลกอย่างพวกแก ฝีมือแย่จะตาย โดนคนทวีปโอชวินอย่างพวกเราเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าก็สมควรแล้วนี่!” โจซี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“งั้นหรือ?”
รพีพงษ์ยิ้มเยาะ “ในเมื่อคนทวีปโอชวินอย่างพวกแกฝีมือเก่งขนาดนั้น งั้นหลายร้อยปีก่อน ทำไมถึงหนีตายกันจ้าละหวั่นล่ะ โดนจอมมารชูราคนเดียวก็ทำพวกแกหนีหัวซุกหัวซุน จนหลายร้อยปีมานี้ไม่กล้ามาเหยียบโลกเราเลยไม่ใช่หรือไง?”
“แก!”
เห็นได้ชัดว่า โจซี่โกรธมากกับการเหยียดหยามทวีปโอชวินของรพีพงษ์
แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องจริง เนื่องจากตอนนั้นมีจอมมารชูราอยู่ เขาแค่คนเดียว ก็เพียงพอให้ทวีปโอชวินสะท้านเยือก
“จอมมารชูรา เก่งมากจริงๆ แต่นั่นมันก็เป็นอดีตไปแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่า พวกแกที่นี่ยังจะมีคนแบบจอมมารชูราอีก!” โจซี่พูดอย่างเดือดจัด
รพีพงษ์กำหมัดแน่น เขายืนตัวตรงหลังจากพลังฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว
“แกผิดละ จอมมารชูรา ยังไม่ตาย!”
“อะไร? ไม่ตาย?” โจซี่ตกใจมาก “เป็นไปไม่ได้ พ่อบอกฉันแล้ว จอมมารชูราตายตั้งนานแล้ว! แกหลอกฉัน!”
รพีพงษ์ยิ้มเย็นบอก “ใช่ ร่างเนื้อเขาสลายไปแล้ว แต่จิตวิญญาณเขายังอยู่ในใจของพวกเราทุกคน สำหรับคนที่กล้ามารุกรานบ้านเรา ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มีฝีมือแค่ไหน พวกเราจะขับไล่มันออกไป!”
“ซึ่งหน้าที่นี้ฉันยินดีทำอย่างยิ่ง!”
ในฐานะผู้สืบทอดจอมมารชูรา รพีพงษ์มีหน้าที่รับภารกิจของเขามาด้วย
“ฮะฮะ รพีพงษ์ ความมั่นใจของแกไม่มีค่าอะไรในสายตาฉันสักนิด!” โจซี่ยิ้มเย็นบอก
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ในมือสร้างดาบยาวสีทองจากพลังจิตออกมา
“ต่อให้…ต้องตาย ฉันก็จะ…หยุดแก!”
รพีพงษ์สองมือถือดาบบาวแน่น สายตาเคร่งเครียด
เขาในตอนนี้ เนื่องจากการต่อสู้เมื่อกี้ เป็นแค่ฝีมือระดับสุดฮั่วจิ้ง แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็จะพยายามยับยั้งอีกฝ่ายให้ได้ ต่อให้เขาจะต้อง…ตายก็ตาม!
“อวดดีนัก!”
โจซี่บอกเสียงเบา ทันใดนั้นสายตาเธอกลับเคร่งเครียดขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมอง ปราณทิพย์ในมือรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
“งั้นต่อไปฉันจะให้แกได้รู้ความแตกต่างของฉันกับแก ทำให้แกรู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของแดนเทพชั้นสูงสุด!”
“แดนเทพชั้นสูงสุด?”
แค่ยาเม็ดเล็กแค่นี้กำลังทำให้พลังโจซี่เพิ่มมากขึ้นขนาดนี้?
เท่าที่รพีพงษ์เข้าใจ ต่อให้เป็นยาชั้นเลิศแค่ไหน ก็ไม่มีทางให้ผลลัพธ์ได้แบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ฝีมือยิ่งแกร่ง ใช้ยาชั้นเลิศเข้าไป ก็เพิ่มเลเวลได้ยิ่งน้อยขึ้นเท่านั้น
ส่วนในฐานะระดับสุดฮั่วจิ้งอย่างโจซี่ กลับเพิ่มเลเวลได้ถึงแดนเทพชั้นสูงสุด นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!
“ถึงแดนเทพชั้นสูงสุดของฉันจะมีฤทธิ์อยู่ได้แค่ห้านาที แต่ฆ่าแกน่ะพอแล้ว!”
ระหว่างพูด ปราณทิพย์ที่รวมตัวกันระหว่างสองมือเธอยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
บนท้องฟ้า เมฆแน่นหนามาก ความหนาของเมฆบดบังท้องฟ้ามิด ซึ่งระหว่างนี้เสียงฟ้าผ่ามาถี่ ๆ
“ผู้เป็นแดนเทพชั้นสูงสุดจะสามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและแม่น้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นของอะไรในโลกจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ตามใจนึกทั้งสิ้น”
ตามคำบอกเล่าจากปากโจซี่ ภูเขาและแม่น้ำทั้งสองข้างของเธอระเบิด เกิดการโกลาหลขึ้น
ภาพนี้รพีพงษ์ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“แกเก่งมาก แต่เพื่อทวีปโอชวินฉันจำเป็นต้องกำจัดแก!”
โจซี่พูดเสียงดัง สายตามาดร้ายวาบขึ้น
บวกกับการที่ปราณทิพย์รวมตัวกันจนถึงขีดสุด หินใหญ่ที่เกิดจากภูเขาแม่น้ำระเบิดตกลงมาทับตัวรพีพงษ์เอาดื้อๆ
ก่อนหน้านี้ รพีพงษ์เคยเคลื่อนย้ายหินใหญ่จากทั้งภูเขามา แต่ครั้งนี้ของโจซี่กลับระเบิดภูเขาลูกหนึ่งเป็นหินก้อนใหญ่
“ไปตายซะเถอะ!”
โจซี่พูด หินทั้งหมดก็ลงมาทับรพีพงษ์พอดี