พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1225 ความลับของทวีปโอชวิน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1225 ความลับของทวีปโอชวิน
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในร่างกายของจางเหลย และโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์
ตอนแรก ตอนที่ชัชพิสิฐย้ายจิตวิญญาณ รพีพงษ์ก็ใช้กระบวนท่านี้เพื่อฆ่าจิตวิญญาณของชัชพิสิฐโดยตรง
“คุณใช้ตราคุมจิตได้?” ชิงจู๋กล่าว
เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เมื่อเทียบจิตวิญญาณเทพแล้ว ชิงจู๋ต่างจากรพีพงษ์เป็นอย่างมาก
“แล้วไงล่ะ!”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย นี่คือสิ่งที่ชัชพิสิฐมอบให้ตนเอง ชิงจู๋ในฐานะคนของทวีปโอชวินก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
ภายใต้การควบคุมของจิตวิญญาณเทพที่ยิ่งใหญ่ของรพีพงษ์ ทำให้ชิงจู๋ถูกกดจนแทบจะหายใจออก
แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนเทพขั้นแรกแต่พลังจิตและการปลุกจิตวิญญาณเทพของเขานั้นด้อยกว่าของรพีพงษ์มาก
กระบี่สยบเซียนพุ่งจากบนลงล่างอย่างช้า ๆ และแทงตรงไปที่หัวใจของจิตวิญญาณเทพของอีกฝ่าย
“โอ๊ย!”
เสียงที่กรีดร้อง จิตวิญญาณเทพของชิงจู๋ฝันสลาย และจางเหลยก็ทรุดตัวลงกับพื้นและหมดสติไป
รพีพงษ์ค่อย ๆลืมตาขึ้น และรู้สึกว่ารอบ ๆตัวเขาไม่มีอันตรายแล้ว
ในบ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก บนที่นั่ง ร่างของชิงจู๋นั่งอยู่ตรงนั้น
ทันใดนั้น ดวงตาที่แดงก่ำก็ค่อย ๆ ลืมขึ้นมา จากนั้นเลือดที่เต็มปากก็พ่นไปยังผนังสีขาวของฝั่งตรงข้าม
“รพีพงษ์!”
ชิงจู๋อ่อนแอมาก และจิตวิญญาณเทพของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หากไม่ใช่ว่าจิตวิญญาณเทพของเขาตอบสนองเร็ว และโชคดีที่หลบหนีทัน มิเช่นนั้นเกรงว่าตอนนี้จิตวิญญาณเทพของเขาคงจะดับสูญไปแล้ว
เขายากินเข้าไปหนึ่งเม็ดในขณะที่ตัวสั่น จากนั้นชิงจู๋ก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
เขาลองกำหมัด หลังจากนั้น ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“นี่……มันเป็นไปได้ยังไง!”
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ จิตวิญญาณเทพของชิงจู๋ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ทำให้พลังความแข็งแกร่งลดลงไปมาก
เขาในตอนนี้ แค่ถึงระดับแดนดั่งเทพชั้นยอดเท่านั้น
นี่มันทรมานยิ่งกว่าการฆ่าเขาให้ตายเสียอีก
น้ำตาแห่งความอับอายก็ไหลออกมา ชิงจู๋รู้สึกทุกข์ใจ
เขาฝึกฝนอย่างหนักมาเกือบร้อยปี ในที่สุดก็ถึงระดับแดนเทพ ตอนนี้ให้เขากลับไปอยู่ที่ระดับแดนดั่งเทพ เขาจะยอมรับช่องว่างดังกล่าวได้อย่างไร
ตนเองคิดว่ารพีพงษ์นั้นเป็นเหมือนมด แต่เขากลับทำให้ตนเองเป็นเช่นนี้ได้
ชิงจู๋อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ เมื่อตนเองเทียบกับรพีพงษ์ ใครคือมดกันแน่?
ประตูเปิดออก ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
“องค์หญิงน้อย!”
ชิงจู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก้มหน้าลง
เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เห็นสภาพของเขาในตอนนี้
“ดูเหมือนว่า อาการบาดเจ็บของคุณจะไม่เบา”
หญิงสาวนั่งตรงข้ามกับชิงจู๋ และกล่าวเบา ๆ
“องค์หญิงน้อย ผมทำงานที่คุณมอบหมายไม่สำเร็จ อีกอย่างตอนนี้พลังความแข็งแกร่งของผมลดลงไปมาก ทำให้ผมไม่มีหน้าจะเจอคุณอีก”
ขณะที่พูด ชิงจู๋ก็ยกฝ่ามือขึ้น และกางฝ่ามือเป็นกรงเล็บ กำลังจะซัดไปที่กลางกะโหลกศีรษะของตนเอง
“หยุดก่อน!”
เพียงแค่หญิงสาวสะบัดแขนเสื้อ ร่างของชิงจู๋ก็กระเด็นไปอยู่ข้าง ๆ
“คุณคืออัจฉริยะของทวีปโอชวินของพวกเรา คุณจะตายแบบนี้หรือ มันเป็นการสูญเสียของในทวีปโอชวินของพวกเรา” หญิงสาวกล่าว
“อัจฉริยะ?”
เขายิ้มอย่างขมขื่น และตอนนี้ สำหรับเขาแล้วคำพูดเหล่านี้ ดูเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ยมากกว่า
“องค์หญิงน้อย ผมรู้ว่าผมไม่คู่ควรกับคุณอีกต่อไปแล้ว คุณไม่ต้องพูดหรอก ผมจะกลับไปอธิบายให้พวกผู้ใหญ่ฟังและยกเลิกสัญญาแต่งงาน” ชิงจู๋กล่าวอย่างท้อแท้สิ้นหวัง
หญิงสาวยิ้ม และลุกขึ้นยืน
“ชิงจู๋ คุณทราบดี ฉันในฐานะองค์หญิงน้อยแห่งทวีปโอชวิน ฉันพร้อมที่จะรับใช้ทวีปโอชวินไปตลอดชีวิต ส่วนสัญญาการแต่งงานที่คุณกล่าวถึง ฉันไม่เคยสนใจเลย”
“นอกจากนี้ คราวนี้ฉันมาที่นี่ เพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้อาวุโสฝันถึง ตอนนี้เริ่มมีวี่แววแล้ว แต่รพีพงษ์อาจจะทำลายงานของฉัน ดังนั้นฉันจึงให้คุณคอยตามเขา และลงมือจัดเขา ฉันหวังว่าคุณจะไม่ถือสา” หญิงสาวกล่าวเบาๆ
เมื่อพูดถึงรพีพงษ์ ชิงจู๋กำหมัดและชกพื้นอย่างดุเดือด
“น่าเสียดายที่ชิงจู๋ไร้ประโยชน์ ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะมีพลังจิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้!” ชิงจู๋กล่าวอย่างโกรธจัด
“เขาเหมาะสมกับสมญานามอัจฉริยะ”
หญิงสาวกล่าวเบา ๆ และเดินไปหาชิงจู๋
แล้วนั่งลง กลิ่นหอมสดชื่นก็แทรกซึมเข้ามาที่ปลายจมูกของชิงจู๋
“ชิงจู๋ ถ้าฉันให้โอกาสคุณอีกครั้ง คุณจะเต็มใจฆ่ารพีพงษ์หรือไม่?” หญิงสาวกล่าวถาม ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ผมแทบรอไม่ไหวที่จะสับไอ้หมอนั้นให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น!”
ชิงจู๋กล่าวอย่างดุเดือด จากนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลง
พลังในตอนนี้ ไม่สามารถแม้แต่จะพูดว่าระดับแดนดั่งเทพชั้นยอด และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้ กว่าจะไปถึงระดับแดนเทพ ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานสักเท่าไหร่
เมื่อรู้สิ่งที่ชิงจู๋กำลังคิด เขาก็พยุงอีกฝ่ายขึ้นจากพื้น แล้วไปนั่งบนโซฟา
จากนั้นก็กล่าวว่า “ถ้าฉันสามารถทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่ต้องแลกด้วยชีวิตของคุณ คุณจะยินยอมไหม?”
“ขอแค่สามารถฆ่ารพีพงษ์ได้ ผมยอมทุกอย่าง!” ชิงจู๋กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เมื่อก่อนตนเองมีพลังแดนเทพ ชีวิตอยู่ในจุดสูงสุด และชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์ แต่ตอนนี้ มันเหมือนกับตกลงไปในเหว ซึ่งทำให้ชิงจู๋รับไม่ได้
การแสวงหาพลังความแข็งแกร่ง บางครั้งมันมีค่ามากกว่าชีวิต!
“โอเค เมื่อคุณพูดเช่นนี้ ฉันก็วางใจ”
ขณะที่พูด หญิงสาวก็หยิบหนังสือออกมาจากเสื้อ หน้าปกหนังสือที่กลายเป็นสีเหลือง สามารถพิสูจน์อายุของหนังสือได้เป็นอย่างดี
“นี่คือ……”
ชิงจู๋รับหนังสือโบราณมาด้วยท่าทางที่หวาดกลัว “องค์หญิงน้อย นี่มันคัมภีร์กู่หลิงไม่ใช่หรือ? ทำไมคุณ….. ”
“ทำไม คัมภีร์กู่หลิงถึงมาอยู่ในมือของฉัน คุณรู้สึกแปลกใจมากเหรอ? ” หญิงสาวกล่าวอย่างเย็นชา
“ไม่ องค์หญิงน้อย เพียงแต่วผมไม่คิดว่า คุณจะเอาเคล็ดคลับวิชาของทวีปโอชวินมาให้ผม” ชิงจู๋กล่าว
หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย และเดินไปที่หน้าต่าง “เคล็ดลับวิชาที่อยู่ในคัมภีร์กู่หลิง สามารถเร่งศักยภาพของร่างกายมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ในเวลาอันสั้น ฉันคิดว่า คุณเป็นอัจฉริยะในทวีปโอชวิน และพรสวรรค์ทำให้คุณสูงกว่าคนอื่นอีกระดับ พูดตามตรง ฉันต้องการดูว่าคุณจะมีศักยภาพในระดับใดหลังจากที่คุณพัฒนาเต็มที่แล้ว”
“ขอบคุณองค์หญิงน้อยสำหรับชีวิตใหม่” ชิงจู๋กล่าว
หญิงสาวชำเลืองมองเขา “แต่เธอควรรู้ไว้ด้วยว่า ถึงแม้คัมภีร์กู่หลิงจะมีความวิเศษ และสามารถเพิ่มพลังได้มาก แต่ผลสะท้อนก็ค่อนข้างน่ากลัวเช่นกัน เพราะสุดท้ายผิวหนังจะเป็นแผลเน่าและตาย ถ้าคุณปฏิเสธฉันตอนนี้ ฉันจะไม่โทษคุณ”
มุมปากของชิงจู๋กระตุกอย่างเห็นได้ชัด
เขามองคัมภีร์กู่หลิงที่อยู่ในมือของเขา และประกายแสงสีทองจากกระบี่สยบเซียนของรพีพงษ์ก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
“องค์หญิงน้อย ผมตัดสินใจแล้ว ต่อให้สุดท้ายจะต้องตาย ผมก็จะต้องให้รพีพงษ์ตายก่อนผม” ชิงจู๋กัดฟันกล่าว
“ดี”
องค์หญิงน้อยถอนหายใจ “คุณต้องรู้ว่า ที่พวกเราทำเช่นนี้ ก็เพื่อทวีปโอชวิน”
ชิงจู๋มองดวงตาที่ล่องลอยขององค์หญิงน้อย เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “เพื่อทวีปโอชวิน!”
“ช่วงนี้คุณพักรักษาตัวอยู่ในบ้านนี้ก่อน ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอวันที่คุณฝึกฝนสำเร็จ”
เมื่อพูดจบ หญิงสาวก็หันหลังและเดินออกไป จากนั้นชิงจู๋ก็รวบรวมความกล้าเพื่อเปิดคัมภีร์กู่หลิง!
หลังจากอ่านหน้าแรก ชิงจู๋ก็ไม่สามารถขยับสายตาได้อีกต่อไป
สำหรับผู้ฝึกเซียนเช่นพวกเขา แม้จะรู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายคือความตาย แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ เพราะพวกเขาไม่สามารถต้านทานสิ่งที่บันทึกไว้ในคัมภีร์กู่หลิงได้
หลังจากที่เธอเดินออกจากบ้าน มีน้ำตาหนึ่งหยดไหลออกมาจากดวงตาของหญิงสาว
แต่ไม่นานเธอก็เช็ดน้ำตา
“ด้วยพรสวรรค์ของชิงจู๋ ต้องใช้เวลาสองเดือนกว่าจะฝึกสำเร็จ และฉันควรเร่งดำเนินการต่อไป”
พูดจบ เธอก็เดินไปทางสำนักเทพยาเซียน….