พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1242 ปยุตรับลูกศิษย์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1242 ปยุตรับลูกศิษย์
“รพีพงษ์?”
หลังจากลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนที่อยู่ข้างๆได้ยินเข้า ก็ตกอกตกใจกันมาก
“คุณพระช่วย เขาก็คือรพีพงษ์?”
“นี่มันไอดอลของข้าไม่ใช่เหรอ?คิดไม่ถึง วันนี้ได้เจอแล้ว?”
“คุณพระ เมื่อกี้ข้ายังว่าเขาว่ากลั่นยาแบบไม่รู้เรื่องอะไรอยู่เลย ตอนนี้ดูเหมือนว่า ข้าต่างหากที่เป็นคนโง่ไม่มีสมอง !”
……
จิลลาก็ตกอกตกใจเหมือนกัน
“เจ้าปยุต คุณพูดว่า เขาคือรพีพงษ์?”
“ใช่นะสิ สองวันมานี้เขาอยู่ด้วยกันกับข้า ข้าจะจำผิดได้อย่างไรกัน” ปยุตหัวเราะพร้อมพูดกล่าว
“เจ้าคือรพีพงษ์ แล้วทำไมเจ้าถึงไม่พูดตั้งแต่แรกล่ะ!” จิลลาพูดกล่าว
รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า : “เจ้าไม่ได้ถามสะหน่อย ข้าจำเป็นต้องพูดด้วยเหรอ”
“เจ้า……” จิลลากัดริมฝีปาก
รพีพงษ์ สำหรับผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดในโลกใบนี้แล้ว คือการดำรงอยู่ของชั้นยอด
หลังจากที่คนหนุ่มสาวทุกคนได้รู้ถึงพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวของรพีพงษ์แล้ว ล้วนแต่แสดงความอิจฉาและเลื่อมใสศรัทธาออกมา
จิลลาก็ไม่มีข้อยกเว้นไปโดยปริยาย
“คิดไม่ถึงจริงๆ พรสวรรค์ในการกลั่นยาของเจ้าจะสูงส่งเช่นนี้ ทำให้ผู้คนศรัทธาจริงๆ” จิลลาพูดกล่าว ที่นำพามาซึ่งคำขอโทษนิดๆ
“เจ้าลุกขึ้นได้แล้ว ก่อนหน้านี้ที่พูดจาแรงไปหน่อย ก็เพราะหวังดีกับเจ้า” รพีพงษ์พูดอย่างราบเรียบ
หยกไม่เจียระไนก็หาค่าประโยชน์ไม่ได้ ในเรื่องของการปรุงยาจิลลาค่อนข้างมีพรสวรรค์อย่างมาก เพียงแค่ต้องทำการขัดเกลาให้เงาสักหน่อย
“พอแล้ว ลุกขึ้นเถอะ รพีพงษ์ให้อภัยเจ้าแล้ว” ปยุตยิ้มพร้อมพูด ประคองจิลลาให้ลุกขึ้นยืน
“ไปกันเถอะ เราควรจะกลับไปทานข้าวกันได้แล้ว” รพีพงษ์พูดไปยังปยุต
ปยุตพยักหน้า คิดจะเดินออกไปพร้อมกับรพีพงษ์
“ช้าก่อน!”
จิลลาเร่งฝีเท้าเดินตามมา ขวางกั้นรพีพงษ์เอาไว้
“จิลลา เจ้าจะทำอะไรอีก อย่าเสียมารยาท!”จิรภัทรพูดด้วยความโมโห
“เจ้ายังมีธุระอะไรอีก?”รพีพงษ์พูดอย่างเยือกเย็น
จิลลามองไปยังนัยน์ตาทั้งสองข้างของรพีพงษ์ พูดอย่างกล้าหาญว่า : “การประลองเมื่อกี้นี้ข้าแพ้แล้ว ก่อนหน้านี้เราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อแพ้แล้ว ข้าก็จะยอมรับบทลงโทษ เจ้าว่ามาสิ ต้องการให้ข้าทำอะไร แม้ว่า ……ปรนนิบัติเจ้า ข้าก็ยอม”
หลังจากลูกศิษย์ของสำนักเทพยาเซียนที่อยู่ข้างๆได้ยินเข้า ต่างก็พูดคุยกัน
นี่ก็ยังเป็นองค์หญิงอำมหิตที่พวกเขารู้จักกันอยู่ไหม?
“เรื่องของตัวข้าเองข้าก็จะต้องจัดการด้วยตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาปรนนิบัติ” รพีพงษ์พูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
พูดแล้วก็หันหลังเดินออกไป
“ไม่ เจ้าไปไม่ได้” จิลลาขวางกั้นไว้อีกครั้ง : “ข้าไม่สนใจ แพ้แล้วก็ต้องยอมรับบทลงโทษ เจ้าจะต้องตั้งเงื่อนไขให้ข้าทำ ไม่อย่างงั้น งั้นพวกลูกศิษย์กลุ่มนี้จะว่าข้าหน้าไม่อายได้!”
“ศิษย์พี่ เราไม่กล้าว่าเจ้าว่าหน้าไม่อายหรอกนะ ข้าว่า เจ้าอยากเข้าไปพัวพันกับพี่ใหญ่รพีพงษ์มากกว่านะ!”
ชุติน้อยพูดกล่าวพร้อมหัวเราะฮิฮิ
“ชุติเดชคนอย่างเจ้า พูดมากเกินไปแล้วนะ!” จิลลาจ้องมองไปยังชุติเดชอย่างโหดเหี้ยม แต่ในเวลาเดียวกัน เหมือนโดนพูดแทงใจดำยังไงอย่างนั้น หน้าแก้มก็แดงระเรื่อขึ้นมาแล้ว
สาวน้อยล้วนแต่รักไอดอลทั้งนั้น รพีพงษ์เป็นไอดอลของผู้บำเพ็ญตนรุ่นเยาว์ จิลลาก็มีความรู้สึกดีแบบพิเศษกับรพีพงษ์ไปโดยปริยาย
รพีพงษ์มองไปยังจิลลาแวบหนึ่ง จนใจยอม และในเวลาเดียวกัน ปยุตที่อยู่ข้างๆก็เร่งอย่างไม่หยุดหย่อน ทันใดนั้น ในสมองของรพีพงษ์ก็เกิดความคิดอย่างนึงขึ้นมาได้
“เจ้า……ยอมรับบทลงโทษจริงใช่ไหม?”รพีพงษ์พูดถาม
“ใช่ พี่ใหญ่รพีพงษ์ เจ้าว่ามาเถอะ ข้าจะทำตามเจ้าทั้งหมด ” จิลลาพูดกล่าว
รพีพงษ์พยักหน้า ยกมุมปากขึ้นมา มองไปยังปยุตที่อยู่ข้างๆ
“เจ้ามองมาที่ข้าทำไมกัน รู้สึกเหมือนคิดไม่ดีเลย” ปยุตพูดกล่าว
“เจ้า จะถือสาอะไรไหมถ้าจะรับลูกศิษย์สักคน?”รพีพงษ์ยิ้มเบาๆพร้อมพูดกล่าว
“รับลูกศิษย์สักคน?คุณหมายถึงจิลลา?” ปยุตพูดอย่างประหลาดใจ
“ใช่”
รพีพงษ์ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ก็นำเอาวิธีการฝึกฝนเมื่อสองวันก่อนของเจ้ามาทำการฝึกฝนให้จิลลา”
“นี่ มันไม่โหดร้ายกันเกินไปหน่อยเหรอ” ปยุตพูดอย่างลังเล
วิธีการนี้ของตัวเอง สำหรับคนธรรมดา นั่นมันคือฝันร้ายอย่างแน่นอน
เรื่องนั้น จิลลาไม่ได้ให้ความสนใจเลย ตอบรับปากทันทีว่า : “พี่ใหญ่รพีพงษ์ ข้าเชื่อฟังเจ้า จะคอยเรียนรู้จากเจ้าปยุต”
“ไม่ได้ๆ ฉันเป็นคนไม่มีวินัยใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่อยากเอาตัวเข้าไปพัวพันกับเรื่องเหล่านี้ ” ปยุตพูดปฏิเสธทันที
“พอแล้ว เจ้าปยุต แม้ว่าจิลลาจะมีพรสวรรค์ไม่เท่ากับรพีพงษ์ แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าแน่นอน”จิรภัทรก้าวขึ้นมาพร้อมพูดว่า : “เจ้าก็รับเธอมาเป็นศิษย์หน่อยแล้วกัน พอดีเลยนะ สามารถขัดเกลานิสัยไปเธอด้วย ข้าเชื่อใจเจ้า”
“ช่างเถอะ ไอจิรภัทร ข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลอกข้าอยู่ ถ้าจะสอนเจ้าก็สอนเองแล้วกัน ข้าไม่ทำหรอกนะ ” ปยุตพูดปฏิเสธ
“เจ้าปยุต ขอเพียงแค่เจ้ายอมรับข้าเป็นศิษย์ ข้าจะทำของอร่อยๆให้เจ้ากินทุกวันเลย” จิลลาพูดกล่าว
“ใช่ ฝีมือในการทำอาหารของรุ่นพี่จิลลา มันสุดยอดมาก คนอื่นๆไม่มีทางทำออกมาแบบของเธอได้อย่างแน่นอน เจ้าปยุต เราต่างก็เป็นพยานให้ได้!”
ชุติเดชยิ้มพร้อมพูด คนรอบข้างก็คล้อยตามไปด้วย
“อย่างงั้นเหรอ……” ปยุตเกิดอาการเปรี้ยวปาก อาหารรสเลิศ ไวน์ชั้นดี เป็นสิ่งที่เขาตามหามากที่สุด
“งั้นก็ได้ ข้าจะรับคเจ้าไว้ อนุญาตให้คุณเข้าไปในถ้ำนั้นของข้าได้ทุกวันอย่างอิสระ แต่ว่า เจ้าห้ามลืมทำอาหารอร่อยให้ข้าด้วย” ปยุตยิ้มพร้อมพูดกล่าว
“ขอบคุณมากค่ะเจ้าปยุต”
จิลลามีความสุขอย่างมาก พูดพร้อมประสานมือเข้าหากันที่หน้าอกแสดงถึงความเคารพ มองไปยังรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆ
ตัวเองสามารถเข้าไปในถ้ำได้ งั้นก็พูดได้ว่า ก็มีเวลาที่จะได้อยู่กับไอดอลในทุกๆวันแล้วน่ะสิ
คิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของจิลลาก็แดงก่ำขึ้นมา
สิ้นสุดการประลอง รพีพงษ์และปยุต แล้วก็จิรภัทรพวกเขาได้ออกไปจากหลิงฉวนแล้ว
เช้าของวันรุ่งขึ้น จิลลาถือกล่องอาหารมาถึงที่ในถ้ำตั้งแต่เช้าตรู่
“อรุณสวัสดิ์ค่ะเจ้าปยุติ” จิลลาพูดตะโกนเสียงดัง
ปยุตปีนลงมาจากเตียง พูดอย่างตื่นเต้นว่า : “เจ้ามาแล้วเหรอ เอาของกินอร่อยๆอะไรมาให้ข้าเหรอ”
พูดแล้ว เขาก็กำลังจะเปิดกล่องอาหารออก
“อย่ารีบร้อนสิคะ เจ้าปยุต พี่รพีละคะ?” จิลลาเอ่ยถาม ก้มตัวลงมองเข้าไปที่ข้างใน
“เจ้าหมายถึงเขาเหรอ เขาย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ไอจิรภัทรได้ทำห้องเดี่ยวในสำนักให้เขาแล้ว เขาไปอยู่ที่นั่นแล้ว” ปยุตพูดกล่าวตามที่คิด
“อะไรนะ!ย้ายออกไปแล้ว?”
จิลลาประหลาดใจอย่างมาก พูดด้วยความโมโหทันที : “เจ้าบอกว่าสามสี่วันนี้เขาจะอยู่กับเจ้าไม่ใช่เหรอ เจ้าเป็นคนสอนเทคนิคการกลั่นยาให้เขาไม่ใช่เหรอ?”
“ข้าสอนเขา?”
ปยุตฝืนยิ้ม : “เมื่อวานเขากลั่นเม็ดยาทั้งสามเม็ดออกมาได้เพียงครั้งเดียวดุจเทพนิรมิต เจ้าคิดว่า ข้าจะมีความสามารถไปสั่งสอนเขาเหรอ?”
“นี่……”
จิลลาทำหน้ามุ่ย แผนการวิ่งตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ความหวังของตัวเองพังทลายลงหมดแล้ว
และทางนี้ ปยุตก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เผชิญหน้ากับอาหารรสเลิศ ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เปิดกล่องอาหารอย่างดีอกดีใจ อาหารข้างในที่ปยุตรอคอยที่จะได้เห็น ตามมาด้วย ตกใจจนหน้าถอดสีเลย
“จิลลา นี่คืออาหารที่เจ้าทำ?”
อาหารในกล่อง ไข่ทอดสองฟองที่ทอดจนดำเกรียม อาหารในส่วนที่เหลือเห็นแล้วก็ไม่เกิดความอยากอาหารเลย
“ทำไม เจ้าจะบอกว่าข้าทำไม่ดีเหรอ?” จิลลาเอ่ยถาม ในเวลานี้เธอยังครุ่นคิดถึงเรื่องที่รพีพงษ์ย้ายออกไปในคืนๆนั้นเลย
ปยุตฝืนยิ้ม นี่ถึงจะเข้าใจได้ทันที อาหารที่จิลลาทำ ไม่มีใครสามารถทำออกมาได้จริงๆด้วย!
ในสำนักเทพยาเซียน รพีพงษ์นั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะหนังสือ
ห้องนี้จิรภัทรเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้เขา ภายในตกแต่งแบบงดงามและแปลกตาแบบโบราณ
ควันสีเขียวของไม้จันทน์โชยออกมา ทำให้จิตใจของรพีพงษ์สงบลงมาก ในเวลานี้ เขากำลังอ่านสูตรที่อยู่ในมือ
นี่เป็นสูตรยาชั้นเลิศที่ปยุต มอบให้แก่เขาเมื่อคืนนี้
“ยาเม็ดไป่หลิง!”
รพีพงษ์พูดอ่านในปากเบาๆ อ่านสมุนไพรยาทั้งสามชนิดที่จำเป็นต้องมีด้านบน
สองชนิดในนั้น รพีพงษ์เคยเห็นมันที่ในถ้ำแล้ว แต่ชนิดสุดท้าย รพีพงษ์กลับมาว่าไม่รู้จักเลย
“ยาผงหลิงซี?นี่มันคืออะไรกัน?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่นอน เมื่อวานออกมาอย่างรีบร้อน ก็ไม่ทันได้สอบถามปยุต
ในเวลานี้ จิรภัทรเดินเข้ามาพอดีเลย
“รพีพงษ์ อยู่ที่นี่คุ้นชินดีไหม?”
รพีพงษ์ยิ้มพร้อมมองไปที่จิรภัทร มาก่อนไม่สู้มาพอดี สามารถสอบถามจิรภัทรได้เลยพอดี เกี่ยวกับเรื่องของยาผงหลิงซี