พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1348 ไปอีกครั้ง
นีย์เงยหน้าขึ้นมองพ่อของตนเอง ตั้งแต่เล็กจนโต คนที่เธอเคารพมากที่สุดก็คือผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นีย์จึงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อทวีปโอชวินและเพื่อพ่อของตนเอง แต่เธอไม่เคยได้รับความชื่นชมแม้แต่น้อย
คืนนั้น ฉันท์ชนกได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอทราบแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการมาเยี่ยมของชาคริตกับเมฆอย่างกะทันหัน เกรงว่าตนเองคงจะถูกฉันท์ชนกผู้หญิงที่ชั่วร้ายคนนี้ฆ่าตายแล้ว
ที่แท้ ที่จิรกิตติ์มองข้ามตนเอง เพราะแม่ของเธอเสียชีวิตจากการคลอดเธอ ด้วยเหตุผลนี้ จิรกิตติ์จึงเอาความโกรธแค้นทั้งหมดไปไว้ที่ตัวนีย์ และเรียกนีย์ว่าเป็นสิ่งอัปมงคล
“ท่านพ่อ ลูกเคยไปอยู่ที่นั่นนาน ตอนนี้ในทวีปโอชวิน ไม่มีใครรู้จักที่นั่นดีไปกว่าลูก ดังนั้นลูกคิดว่า ลูกไปที่นั่นเหมาะสมที่สุดแล้ว” นีย์กล่าว
เธอเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นฉันท์ชนกซึ่งนั่งถัดจากพ่อ กำลังยิ้มให้เธอ แต่รอยยิ้มนั้นมีความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
ทั้งคู่เป็นลูกสาวของพ่อ ทำไมฉันท์ชนกสามารถนั่งอยู่ข้างพ่อได้อย่างสง่างาม ในขณะที่นีย์ยืนอยู่ในห้องโถง ก้มหัวกราบไหว้จิรกิตติ์ แต่ไม่เคยได้รับความรักความเอ็นดูจากพ่อเลยสักนิด
“ท่านพ่อ ลูกคิดว่านีย์พูดถูก นีย์เหมาะสมที่สุดแล้ว ที่จะไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบว่าวิญญาณของจอมมารชูร่าสลายไปหรือไม่”
ฉันท์ชนกกล่าวแล้วมองไปที่นีย์ “น้องสาว คราวนี้ลำบากคุณอีกครั้ง คุณต้องระวังตัวให้มาก ไม่เพียงแต่ต้องระวังจอมมารชูร่า อย่าลืม ยังมีรพีพงษ์ด้วย”
นีย์มองไปที่ฉันท์ชนกอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร
เธอรู้ว่า ฉันท์ชนกเป็นคนปากหวานก้นเปรี้ยว บอกว่าให้ตนเองระวังตัว แต่เธอเองเป็นคนผลักตนเองเข้าไปในกองไฟ
ครั้งก่อนที่ตนเองไปยังโลก เหลือแค่เศษวิญญาณกลับมา และคราวนี้อันตรายมากกว่าคราวที่แล้ว
เป็นเพราะว่า นีย์ได้หมดใจจากพ่อและพี่สาวแล้ว ในเมื่อทวีปโอชวินไม่มีที่ให้เธออยู่อีกต่อไป ดังนั้นเธอจะจากที่นี่ไป!
“นีย์ ฉันท์ชนกห่วงใยคุณมากเช่นนี้ ทำไมคุณไม่ตอบเธอสักคำ? ช่างเป็นคนที่ไม่รู้จักบุญคุณ!” ธีภพที่อยู่ด้านข้างกล่าว
นีย์กล่าวเบาๆ ว่า “ขอบคุณพี่สาวสำหรับความห่วงใย ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น”
“อืม ถ้าไม่ใช่เพราะว่ายังมีเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่องในทวีปโอชวินที่ฉันต้องจัดการ มิฉะนั้นฉันจะไปโลกพร้อมกับคุณ แล้วก็ฆ่าคนที่เก่งในโลกนั้น ด้วยวิธีนี้ มันจะเป็นการปูทางสำหรับการโจมตีให้ทวีปโอชวินของพวกเรา” ฉันท์ชนกแสร้งทำเป็นโศกเศร้า
จิรกิตติ์มองฉันท์ชนกด้วยความรัก “ใช่ ตอนนี้งานหลายอย่างในทวีปโอชวินส่วนมากมอบให้ลูกดูแลอยู่ ลูกทำงานหนักจริง ๆ”
“ท่านพ่อ ไม่เป็นไร ใครให้ลูกเกิดมาเป็นองค์หญิงใหญ่ล่ะ เมื่อลูกมีสถานะนี้ ลูกก็ควรทำมากกว่านี้” ฉันท์ชนกกล่าว
“ฉันท์ชนเป็นคนช่างคิด!”
“พี่ใหญ่ คุณโชคดีมาก!”
สองพี่น้องที่อยู่ด้านข้างกล่าวชม
นีย์ที่อยู่ด้านล่างมีสายตาที่เย็นชา และดูการแสดงที่ไร้ที่ติของฉันท์ชนก หากเธอไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของฉันท์ชนก คงถูกผู้หญิงคนนี้หลอกได้ง่าย
“ท่านพ่อ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ลูกขอตัวก่อน และตอนบ่ายลูกจะออกทางช่องทางเดินไปยังโลก” นีย์กล่าว หันหลังและเตรียมจะเดินจากไป
“ช้าก่อน”
ฉันท์ชนกเรียกนีย์ด้วยรอยยิ้ม “น้องสาว คุณไปที่นั่นต้องเจอความยากลำบากมาก แม้ว่าพี่สาวคนนี้จะไม่สามารถไปกับคุณได้ พี่ก็เลยจัดผู้ช่วยสองคนให้ไปกับคุณด้วย”
“ฉันไม่ต้องการ” แม้ว่านีย์จะไม่รู้ว่าฉันท์ชนกมีเจตนาอะไร แต่เธอก็ปฏิเสธทันที
“ได้อย่างไร คุณอย่าทำให้พี่สาวคนนี้เสียน้ำใจสิ”
จากนั้น ฉันท์ชนกจึงกล่าวกับเจ้าทวีปกิตติ์ว่า “ท่านพ่อ พ่อคิดว่าลูกพูดถูกหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของน้อง ส่งคนอีกสองคนไปเป็นเพื่อนเธอ”
จิรกิตติ์มพยักหน้า “พี่สาวของลูกพูดถูก เธอทำเพื่อลูก ลูกอย่าปฏิเสธน้ำใจ ถ้าจิตวิญญาณของจอมมารชูร่ายังไม่สลาย เขาเป็นคนที่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นพีค ลูกคิดว่าลูกจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้หรือ?”
นีย์ไม่ได้พูดอะไร แต่คิดอยู่ในใจว่า จิตวิญญาณของจอมมารชูร่าสลายไปนานแล้ว และตอนนี้รพีพงษ์เป็นผู้ครอบครองกระบี่สยบเซียน
เพียงแต่ เมื่อเผชิญหน้ากับรพีพงษ์ นีย์รู้ตัวดีว่าเธอไม่มีโอกาสชนะร้อยเปอร์เซ็นต์
เหตุผลที่ออกจากทวีปโอชวิน เป็นเพราะว่านีย์ถูกทวีปโอชวินทำร้ายจิตใจเป็นอย่างมาก
จิรกิตติ์ไม่สนใจสิ่งที่นีย์คิด เขามองไปที่ฉันท์ชนกและกล่าวว่า “ฉันท์ชนก ลูกลองบอกมาสิ ว่าจะให้ใครไปกับน้องจะดีที่สุด”
“ลูกขอคิดดูก่อน……..” ฉันท์ชนกมองลงไปที่ข้างล่างและกล่าวทันทีว่า “ลูกคิดว่า เมฆและชาคริตสองคนนี้ไม่เลว พวกเขาอยู่ในระดับแดนเทพ ถ้าให้พวกเขาปกป้องนีย์ คงไม่มีปัญหาอะไร”
หลังจากนั้น ฉันท์ชนกก็กล่าวว่า “เมฆและชาคริต พวกคุณสองคนยินดีที่จะไปกับองค์หญิงน้อยหรือไม่?”
ทั้งสองมองหน้ากันและกล่าวว่า “ผู้ใต้บังคับบัญชาเต็มใจ!”
“ดีมาก!” จิรกิตติ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม “หายากที่จะมีคนที่คิดได้รอบคอบอย่างฉันท์ชนก เมื่อมีพวกคุณสองคนเดินทางไปด้วย ทำให้ผมวางใจ เรื่องก็ตกลงตามนี้ พวกคุณกลับไปจัดเตรียมข้าวของ แล้วก็ออกเดินโดยเร็วที่สุด”
นีย์ยืนนิ่ง จ้องไปที่ฉันท์ชนก ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีแผนร้ายอะไรอีก
ในห้องโถง กลับมาสงบอีกครั้ง
ขณะที่นีย์กำลังจะกลับไปเก็บข้าวของที่หอสว่างจันทร์แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังอยู่ข้างหลังเธอ
เธอหันไปมอง เห็นฉันท์ชนกกำลังยิ้มอยู่ข้างหลังเธอ นีย์กล่าวอย่างระวัง “ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่ เก็บรอยยิ้มของคุณเถอะ”
สีหน้าของฉันท์ชนกเปลี่ยนไปทันที และแววตาของเธอดูโหดเหี้ยม
“พูดมาสิ ทำไมคุณถึงได้ให้เมฆและชาคริตไปกับฉันด้วย คุณมีแผนการอะไร!”
ฉันท์ชนกฮึ่มด้วยความเย็นชา “น้องสาว คุณเข้าใจฉันผิด ฉันทำเพื่อประโยชน์ของคุณเอง ที่โลกนั้นอันตรายมาก คุณต้องดูแลตนเองให้ดี”
“คุณไม่ต้องมาหน้าซื่อใจคดเหมือนมีเมตตา!” นีย์กล่าวอย่างเย็นชา
ฉันท์ชนกไม่แยแส และเดินมาอยู่ตรงหน้านีย์แล้วกล่าวว่า “คุณก็ยังมองไม่เห็นความตั้งใจของคนอื่น จำไว้ว่าเมื่อคุณไปถึงที่นั่นคุณต้องระมัดระวังตัว อย่าลืมว่า ร่างที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ ใช้ได้เพียงครั้งเดียว”
พูดจบ ฉันท์ชนกแสดงดวงตาที่ขี้เล่น หันหลังและเดินจากไป
นีย์นิ่งอยู่ที่เดิม มองไปที่แผ่นหลังของฉันท์ชนก ตอนนี้เธอแทบอยากจะฆ่าอีกฝ่าย
แต่เธอก็รู้ดีว่า ถึงแม้พี่สาวของเธอจะชั่วร้าย แต่เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก ได้เข้าสู่ระดับแดนเทพไปนานแล้ว และกำลังจะเข้าสู่ระดับแดนเทพขั้นกลาง!
นอกจากนี้ นีย์ยังรู้ว่า ฉันท์ชนกเป็นที่โปรดปรานของพ่อมาก ไม่เพียงแต่จุดแข็งที่สามารถมองเห็นได้ เธอยังมีท่าไม้ตาย ที่แม้ว่าตนเองยังไม่รู้
ถ้าลอบโจมตี มีเพียงตนเองเท่านั้นที่จะได้รับบาดเจ็บ และมันทำให้ฉันท์ชนกมีข้ออ้างในการฆ่าตนเองอีกด้วย
นีย์ตัดสินใจที่จะอดทน เพราะถึงยังไงวันนี้เธอก็จะไปจากทวีปโอชวินแล้ว ส่วนฉันท์ชนกจะปฏิบัติต่อตนเองอย่างไร เธอไม่แยแสอีกต่อไป
เทือกเขาคุนหลุน
รพีพงษ์กำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง พยายามลองทะลวงเส้นลมปราณ ช่วงเวลานี้ ช่องทางเดินสงบไม่มีอะไรปกติ แต่รพีพงษ์รู้ว่าภายใต้ความสงบมีคลื่นปั่นป่วน เมื่อทวีปโอชวินรู้ว่ากระบี่สยบเซียนไม่ได้อยู่ในมือของจอมมารชูร่าแล้ว ไม่ช้าก็เร็ว ผนึกของช่องทางเดินก็จะต้องถูกพวกเขาเปิดออกแน่นอน
ขณะที่รพีพงษ์ทะลวงเส้นลมปราณอีกสองเส้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู
รพีพงษ์เดินไปที่ประตู เห็นมังกรยืนอยู่ที่ประตู แล้วกล่าวย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าสำนัก มีความผิดปกติในช่องทางเดิน!”