พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1379 กลับไปไม่ได้แล้ว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1379 กลับไปไม่ได้แล้ว
จนถึงขณะนี้ จิรกิตติ์ซึ่งอยู่บนยอดเทือกเขาคุนหลุนในประเทศจีนยังไม่ยอมเชื่อว่า ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นที่รักมาตั้งแต่เด็กได้ละทิ้งตนเอง
เขายังคงสั่งให้ผู้คนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเข้าไปในช่องทางทางเดิน
อย่างไรก็ตาม ระลอกคลื่นไม่มีการเคลื่อนไหวเลย และช่องทางเดินก็ยังคงสงบเหมือนปกติ
จนกระทั่งทุกคนท้อแท้หมดกำลังใจ พวกเขาไม่ตั้งความหวังกับฉันท์ชนกอีกต่อไป
“เจ้าทวีปกิตติ์……..ไม่ใช่ว่าองค์หญิงใหญ่……ไม่คิดที่จะรับพวกเรากลับไปน่ะ” คนคนหนึ่งของทวีปโอชวินมองไปที่จิรกิตติ์ และถามเบา ๆ
หลังจากนั้น ผู้ฝึกตนหลายสิบคนจากทวีปโอชวินที่ล้อมรอบช่องทางเดินทั้งหมดมองไปที่จิรกิตติ์ที่อยู่กลางฝูงชน
ในเวลานี้ บนยอดเทือกเขาคุนหลุน ทุกคนที่ต้องการกลับไปยังทวีปโอชวินที่รวมตัวกันในช่องทางเดินก็พบปัญหานี้
และบนช่องทางเดินของทวีปโอชวิน ไม่มีการเคลื่อนไหวของพลังใด ๆ และคนที่รับผิดชอบในการรับส่งตนเองกลับไปที่ทวีปโอชวินก็คือองค์หญิงใหญ่ฉันท์ชนกนั่นเอง
ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ สามารถอธิบายได้เพียงอย่างเดียวคือ ฉันท์ชนกละทิ้งพวกเขา!
“เป็นไปไม่ได้! ฉันท์ชนกจะไม่ทำเช่นนี้!”
จิรกิตติ์ตะโกนด้วยเสียงแหบ “เธอเป็นลูกสาวที่ผมรักที่สุด แล้วก็เป็นองค์หญิงใหญ่แห่งทวีปโอชวิน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทรยศผม!”
“เจ้าทวีปกิตติ์…….”
“ฉันท์ชนก! พ่อเอง! พ่อเป็นพ่อของลูกน่ะ! รีบมารับพวกเรากลับไปเร็ว!”
จิรกิตติ์มองขึ้นไปที่ช่องทางเดินและตะโกนเสียงดัง
อย่างไรก็ตาม เสียงที่ตะโกนออกไปแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือช่องทางเดินที่เยือกเย็น
“เจ้าทวีปกิตติ์ พวกเรา……กลับไปไม่ได้แล้ว”
ผู้ฝึกตนของทวีปโอชวินเหล่านี้กล่าว พวกเขาได้ตระหนักถึงปัญหาร้ายแรงนี้แล้ว
มีแต่จิรกิตติ์เป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่เชื่อ ดวงตาของเขาเหม่อลอย แล้วเขาก็ส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ ฉันท์ชนกจะไม่ทอดทิ้งฉัน เธอจะไม่ทรยศฉัน เธอคงเจอปัญหาอะไรบางอย่าง ใช่! ต้องเจอปัญหาอะไรบางอย่าง!”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่า คนเหล่านี้ของทวีปโอชวินพูดถูก แต่จิรกิตติ์ก็ยังทำใจไม่ได้ และเลือกที่จะหลอกตนเอง
ทันใดนั้น เสียงของชายชราก็ดังมาจากข้างหลัง “จิรกิตติ์ จนถึงตอนนี้คุณทำผิดแล้วยังไม่สำนึกอีกหรือ?”
ผู้ฝึกตนของทวีปโอชวินและจิรกิตติ์หันหลังกลับไปมองพร้อมกัน
ฝั่งตรงข้าม ธีรพัฒน์มองมาทางที่ตนเองอยู่อย่างดุเดือด
มียอมฝีมือระดับแดนเทพอย่างรพีพงษ์และธัชธรรมอยู่ด้านซ้ายและด้านขวา
และข้างหลังสามคนนี้ มีคนของกลุ่มสิงโตที่เหลือทั้งหมด
สายตาของทุกคนแสดงออกถึงความตื่นเต้นและโกรธเคือง พวกเขาจ้องมองทุกคนของทวีปโอชวินที่อยู่ตรงหน้า
“มีทางไปสวรรค์แต่คุณไม่ไป นรกไม่มีทางแต่คุณกลับวิ่งเข้ามาเอง!”
รพีพงษ์ใช้กระบี่ชี้ไปที่อีกฝ่าย “วันนี้ ไม่มีใครหนีไปได้สักคน!”
จิรกิตติ์และทุกคนในทวีปโอชวินตื่นตระหนก ยอดฝีมือระดับแดนเทพหลายคนที่กินยาเม็ดแล้วต่อสู้ต้านธีรพัฒน์เมื่อสักครู่ได้ล้มลงบนพื้นแล้ว และพวกเขาก็คือยอดฝีมือระดับแดนเทพชุดสุดท้ายที่มายังโลกนี้
ความพยายามหลายร้อยปี หลายร้อยปีที่สะสมมา จิรกิตติ์ไม่คิดว่า สิ่งที่ได้มาจะเป็นผลลัพธ์ดังกล่าว!
ร่างกายของเขาทรุดตัวลง และผู้ใต้บังคับบัญชาของทวีปโอชวินที่อยู่ทั้งสองฝั่งก็พยุงเขาไว้
ถ้าสมมุติว่า นำเรื่องของวันนี้เขียนเป็นไดอารี่ สำหรับจิรกิตติ์แล้ว นี่คงเป็นไดอารี่ที่น่าเศร้าที่สุดในโลก
การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้สิ่งที่สะสมมาหลายร้อยปีในทวีปโอชวินไม่มีอะไรเหลือ ไม่เพียงแค่นั้น น้องชายสองคนของเขาถูกฆ่าตายบนยอดเทือกเขาคุนหลุน และสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดและผิดหวังเป็นอย่างมาก คือถูกลูกสาวคนโตที่ตนเองรักที่สุดทรยศ!
“จิรกิตติ์ วันนี้เป็นวันตายของคุณ!”
ธัชธรรมเดินไปข้างหน้า และชี้ไปที่จิรกิตติ์และกล่าว
ทุกคนในกลุ่มสิงโตต่างตื่นเต้น
การเข้าร่วมกลุ่มสิงโต และต่อสู้กับทวีปโอชวินเป็นจุดประสงค์ดั้งเดิมของพวกเขา ตอนนี้ทวีปโอชวินถูกทำลาย! นี่ก็หมายความว่า ภารกิจของพวกเขากำลังจะสิ้นสุด ในที่สุดงานก็สำเร็จ แล้วจะไม่ให้ผู้ฝึกตนเหล่านี้ตื่นเต้นได้อย่างไร?
“เจ้าทวีปกิตติ์……. ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
ผู้ฝึกตนที่มีพลังอยู่ในระดับแดนดั่งเทพขั้นกลางถามจิรกิตติ์
จิรกิตติ์มองไปที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ในฝั่งของตนเอง ไม่มียอดฝีมือระดับแดนเทพเหลือแล้ว และมีคนที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพขึ้นไปอยู่เพียงแค่ประมาณสามสิบคนเท่านั้น
แม้ว่าจำนวนจะไม่น้อย แต่จิรกิตติ์ก็รู้ว่า ตอนนี้อีกฝ่ายมียอดฝีมือระดับแดนเทพที่ไม่บาดเจ็บอีกสามคน
ต่อหน้ายอดฝีมือระดับแดนเทพ ไม่ว่าจะมีคนที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพมากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ มันแค่เปลืองพลังจิตวิญญาณของอีกฝ่ายเล็กน้อยเท่านั้น
พ่ายแพ้ วันนี้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
จิรกิตติ์ถอนหายใจอย่างจำใจ เขาโยนความผิดทั้งหมดไปให้แสงสีแดงแปลกประหลาดนั้น ไม่ใช่ว่าฉันท์ชนกไม่พาพวกเขากลับไปที่ทวีปโอชวิน
จิรกิตติ์สงสัยอย่างมาก เกี่ยวกับแสงสีแดงนั้น
มันเป็นพลังชนิดใดที่สามารถผนึกพลังจิตวิญญาณของสามยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคได้ในคราวเดียว?
หรือว่า เขาไปถึง……..ระดับนั้นแล้ว?
จิรกิตติ์มองไปที่รพีพงษ์อย่างตะลึง เพราะเขารู้ว่าแสงสีแดงก่อนหน้านี้มาจากทางของรพีพงษ์
“มีคนเช่นนั้นช่วยเหลือ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไอ้หมอนี้จะจองหองได้ขนาดนี้!” จิรกิตติ์ถอนหายใจเบา ๆ
“เจ้าทวีปกิตติ์!”
ผู้คนในทวีปโอชวินตะโกน พวกเขาหวังว่าจิรกิตติ์จะสามารถให้คำอธิบายแก่พวกเขาได้
ยังไงก็ต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย จิรกิตติ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทุกคน วันนี้ฉัน
พาพวกคุณมา แต่ไม่มีวิธีที่จะพาพวกคุณกลับไปได้ ตอนนี้พลังจิตวิญญาณของฉันค่อยๆ ฟื้นตัว เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถปลดผนึกได้ ตอนนี้อยากให้พวกคุณทำอะไรเล็กน้อย”
“คุณต้องการให้พวกเราทำอะไร”
หนึ่งในนั้นถาม
จิรกิตติ์มองดูฝูงชน และดูเหมือนยากที่จะพูดออกมาจากปาก
“เจ้าทวีปกิตติ์ คุณบอกมาเถอะ”
“ใช่ มีวิธีใด ก็รีบพูดออกมาเถอะ ขอแค่มันสามารถฟื้นพลังของคุณได้ พวกเราจะได้ไม่กลัวพวกเขาอีกต่อไป!”
……
ทุกคนแสดงความคิดเห็น จิรกิตติ์กำหมัดแน่น จากนั้นพยักหน้าและกล่าวว่า “เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็จะพูด”
หลังจากนั้น เขามองไปที่ทุกคนอีกครั้งและกล่าวว่า “ทุกคน…….ระเบิดตนเอง!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็แตกตื่น
แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีว่าการระเบิดตนเองหมายถึงอะไร และยังรู้ว่าตนเองในฐานะระดับแดนดั่งเทพ หากระเบิดตนเองแล้วพลังทำลายล้างใหญ่แค่ไหน
“นี่เป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถคิดได้ พวกคุณทุกคนระเบิดตนเอง เชื่อว่าจะทำให้คนในกลุ่มสิงโตจะตายมากกว่าครึ่ง เมื่อกำลังของฉันฟื้นคืนแล้ว ฉันจะล้างแค้นให้พวกคุณเอง!” จิรกิตติ์กล่าว
คนในทวีปโอชวินต่างมองหน้ากัน และหนึ่งในนั้นก็กล่าวว่า “เจ้าทวีปกิตติ์ คุณหมายความว่า ให้พวกเราทุกคนทำลายตัวเอง แล้วเปลี่ยนให้คุณปลอดภัยใช่ไหม”
หลังจากที่จิรกิตติ์ฟัง ก็ขมวดคิ้วจนแน่น “ใช่ ทำไมหรือ? นี่คือสิ่งที่พวกคุณควรทำไม่ใช่หรือ? พวกคุณต้องรู้ว่า สิ่งที่พวกคุณทำทั้งหมดก็เพื่อทวีปโอชวิน และฉันก็เป็นตัวแทนของทวีปโอชวิน!”
ดวงตาของทุกคนมีรอยย่น พวกเขาดูลังเลมาก
ช่วยปกป้องจิรกิตติ์โดยการระเบิดตนเอง และพวกเขาคิดว่า มันไม่มีประโยชน์ที่ตนเองจะทำเช่นนั้น
“ทำไม พวกคุณต้องการเป็นกบฏหรือ? กล้าขัดแม้แต่คำสั่งของฉัน!”
จิรกิตติ์กล่าวอย่างโกรธเคือง
ในทวีปโอชวิน ทุกคนต้องเคารพ และทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา!
ฝั่งกลุ่มสิงโต หงส์กระซิบอยู่ข้างหลังรพีพงษ์ “ไม่โจมตีตอนนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่?”
รพีพงษ์จ้องมองอีกฝ่าย และกล่าวเบา ๆ ว่า “ผมเคยมีประสบการณ์ที่หุ่นเชิดอยู่ที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพชั้นยอดระเบิดตนเอง ด้วยพลังดังกล่าว แม้แต่ผมเองก็ต้องใช้พลังอย่างมากเพื่อปกป้องตนเอง”
“รพีพงษ์พูดถูก พลังของการระเบิดตนเองนั้นรุนแรงมาก และแม้แต่ยอดฝีมือระดับแดนเทพก็ต้องรับมืออย่างระมัดระวัง”
ธัชธรรมกล่าวเช่นกัน
ธีรพัฒน์จ้องไปที่อีกฝ่าย “พวกเขาที่อยู่ในระดับแดนดั่งเทพสามสิบกว่าคน หากพวกเขาพุ่งเข้ามาและระเบิดตนเองพร้อมกัน พวกเราที่อยู่ที่นี่จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน!”
“แต่พวกเราไม่สามารถรออยู่ตรงนี่ได้” หงส์เริ่มกังวลเล็กน้อย
เธอรีบร้อนที่จะกวาดล้างทวีปโอชวิน แต่เธอก็รู้ว่า ในเมื่อธีรพัฒน์กล่าวเช่นนั้น การระเบิดตนเองจะต้องมีพลังการทำลายล้างยิ่งใหญ่แน่นอน
รพีพงษ์มองไปที่อีกฝ่าย แล้วรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“วางใจเถอะ จิรกิตติ์จะต้องตายแน่นอน พวกคุณเชื่อหรือไม่ ผมแค่พูดประโยคเดียว พวกเขาจะฆ่าจิรกิตติ์ด้วยตนเอง” รพีพงษ์กล่าวเบา ๆ
หงส์มองรพีพงษ์อย่างสงสัย “เป็นไปได้อย่างไร คนเหล่านั้นของทวีปโอชวินจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณหรือ?”
“เรื่องนี้มันก็ไม่แน่นะ”
รพีพงษ์กล่าวอย่างมั่นใจ จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
เมื่อคนของทวีปโอชวินเห็นรพีพงษ์เดินเข้ามา พวกเขาทั้งหมดดูตื่นตระหนก
จิรกิตติ์กล่าวอย่างกังวล “ฟังฉัน มีเพียงการระเบิดตนเองเท่านั้นที่สามารถหยุดไอ้หมอนี้ได้!”