พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1394 ช่วยชีวิตอารียา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1394 ช่วยชีวิตอารียา
“ฉันจะจดจำพวกแกทุกคนเอาไว้ในหัว แม้ว่าฉันจะเป็นผี ฉันก็จะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!อีกอย่าง อย่าคิดล่ะว่าพวกแกฆ่าพวกเราแล้ว แล้วพวกแกจะได้มีชีวิตที่ดีนะขอแค่พวกแกยังอยู่บนโลกใบนี้ รพีพงษ์จะต้องตามหาพวกแกเจอแน่ เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะต้องช่วยฉันแก้แค้นแน่ ฉันเชื่อ!”
หลังจากที่คนเหล่านี้ได้ฟัง ความลังเลก็แวบเข้ามาในดวงตาของพวกเขา
ยิ่งพวกเขาอยู่ในประเทศจีนนานเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งรับรู้ถึงตำแหน่งในจีนหรือแม้แต่ในโลกใบนี้ของรพีพงษ์มากขึ้น
ระหว่างทาง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ที่เกียวโต พวกเขาต่างพบว่าไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารน้อยใหญ่ต่างๆล้วนแต่เป็นทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ทั้งนั้น
ผู้คนต่างได้ทิ้งตำนานเล่าขานของรพีพงษ์เอาไว้ ซึ่งทำให้มันน่าพิศวงขึ้นไปอีก
ในหัวใจของพวกเขา ไม่มีอะไรที่จะเทียบได้กับลูกเขยอายุสามขวบที่เติบโตขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลลัดดาวัลย์ และในขณะเดียวกันก็มีเครือข่ายและฐานการฝึกฝนที่แข็งแกร่ง นี่ช่างเป็นเรื่องราวแรงบันดาลใจชั้นดีเลยล่ะ
สิ่งที่น่าชื่นชมยิ่งกว่านั้นก็คือ รพีพงษ์นั้นเป็นคนมีคุณธรรม ปฏิบัติต่อภรรยาของเขาอย่างดี สิ่งนี้มันทำให้ผู้คนเคารพและชื่นชมรพีพงษ์มากยิ่งขึ้น
หากจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับรพีพงษ์นี่แหละ นี่เป็นคำพูดในหมู่ของสาวชาวจีน แต่หากเป็นชายหนุ่มชาวจีนล่ะก็ รพีพงษ์นั้นจะเป็นเหมือนกับเป้าหมายที่พวกเขาต้องทำตามเป็นแบบอย่าง!
“ที่เธอพูดมาก็มีเหตุผล หากรพีพงษ์รู้ว่าเราได้ฆ่าภรรยาและลูกสาวของเขา เขาจะต้องไม่ปล่อยพวกเราเป็นแน่”
ชายวัยกลางคนกล่าวท่ามกลางผู้คนนับสิบ
คนเหล่านี้เริ่มลังเล
อารียาเห็นโอกาสจึงรีบคว้าไว้ทันที
“ทำไม พวกแกรู้จักกลัวกันแล้วเหรอ ดูเหมือนว่ารีพงษ์คงสร้างความเจ็บปวดให้พวกแกมากเลยสินะ ฉันแนะนำให้พวกนายปล่อยฉันกับลูกสาวไป ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่!” อารียาพูด
คนเหล่านี้มองไปที่อารียาและหนูลิน พวกเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ในชั่วขณะหนึ่ง
“บ้าจริง นี่พวกนายไม่เคยคิดกันมาก่อนเลยเหรอ ต่อให้เราปล่อยตัวภรรยากับลูกสาวของมันไป แต่ถ้ารพีพงษ์มันรู้ว่าเป็นเราที่ลักพาตัวมา มีเหรอที่มันจะให้อภัยเราไป?”
คำพูดเหล่านี้เหมือนกับก้อนหินที่โยนลงไปในน้ำที่สงบ หลังจากที่คนเหล่านี้ได้ยิน พวกเขาจึงพูดอย่างรวดเร็วว่า “ก็จริง จะทำยังไงก็ตายอยู่ดี ตราบใดที่เราสามารถทำให้รพีพงษ์ไม่สบายใจไปได้ในชั่วขณะหนึ่ง จ่ายราคาให้สมกับสิ่งที่เขาทำ!”
“ใช่ๆ ส่วนเรื่อง ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง!”
คนเหล่านี้กลายเป็นคน‘ฮึกเหิม’ในทันที
อารียาเองก็ตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหลอกคนกลุ่มนี้
“ได้ ฉันจะฆ่าเธอเอง!”
หนึ่งในนั้นยกกริชขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ ดวงตาของเขาแน่วแน่และดูเหมือนว่าเขาได้ทำการตัดสินใจแล้ว
“แม่คะ พ่อจะมาช่วยพวกเราไหม หนูลินกลัว!”
อารียาน้ำตาคลอ พร้อมกับพูดว่า “มาแน่ พ่อเขาจะต้องมาแน่…”
ใบมีดที่เย็นเฉียบพุ่งเข้ามาหวังที่ตัดคอของอารียา
อารียาปิดตาของเธอลง เธอแค่เกลียดตัวเองที่จนวินาทีสุดท้ายก็ไม่สามารถปกป้องหนูลินตัวน้อยที่น่ารักนี้ไว้ได้
หากยังสามารถเลือกได้ เมื่อวานเธอคงพาหนูลินออกไปข้างนอกไปแล้ว
“รพีพงษ์ ฉันขอโทษ ฉันขอนำไปก่อนนะ”
อารียาพูดพึมพำ ในเวลานี้ มีภาพจำนวนมากผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
ทุกๆอย่างในเจียงเฉิง หัวใจวีตัสที่เจิดจรัส ปราสาทที่สร้างขึ้นโดยรพีพงษ์เพื่อพวกเขาทั้งสอง งานวิวาห์อันแสนโรแมนติกของทั้งคู่ที่ถูกจัดขึ้นที่ปราสาทหลังนั้น…
มีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปากของออารียาในขณะนั้น ในฐานะผู้หญิง เธอพอใจมากที่ได้อยู่กับผู้ชายอย่างรพีพงษ์
“รพีพงษ์ หากได้เกิดมาอีก ฉันจะตามหาคุณ”
อารียาได้แต่คิดในใจ เธอพร้อมที่จะตายแล้ว
ในขณะนี้ ประตูโรงงานถูกเปิดออก
“วางมีดลงซะ!”
คมกริชตะโกนเสียงดัง ในขณะที่ศรีใสไม่ได้มีการขยับตัวแต่อย่างใด ได้แต่ดึงพลังจิตวิญญาณออกมาโดยตรง จากนั้นลูกดอกพุ่งออกไปโดนชายที่ถือกริชอยู่
ชายจากทวีปโอชวินที่ต้องการจะระดมพลังวิญญาณในร่างกายของตัวเอง แต่กลับมีเสียงกรีดร้องออกมา
เข็มทิ่มกระดูกนั้นสกัดพลังวิญญาณไว้ นั่นทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดตั้งแต่แรก
ชายคนนั้นตะโกน ลูกดอกตัดเข้าไปที่คอของเขาโดยตรง
อารียาลืมตาขึ้น พร้อมกับมองไปที่สองคนนั้น “พวกคุณคือ?”
“เจ้านายหลินส่งเรามา”
คมกริชพูด ลมหายใจมาอยู่ที่ด้านข้างของอารียา
อารียามีรอยยิ้มสบายๆอยู่บนใบหน้า น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตาของเธอ “ฉันรู้ ฉันรู้ว่าเขาจะมาช่วยฉัน…”
คมกริชใช้แรงดึง พันธนาการที่ผูกอารียาและหนูลินไว้ก็ฉีกขาดออกจากกัน
“คุณอารียา เพื่อนของฉันจะพาคุณออกไปจากที่นี่ คุณตามเขาไปซะ” คมกริชพูด พร้อมกับอุ้มหนูลินขึ้น พาอารียามาส่งที่ประตู
ในโรงงาน มีคนของทวีปโอชวินกว่าสิบคน อารียากล่าวอย่างเป็นกังวล “ที่นี่มีคนเยอะเกินไป หากเราไป คุณจะ…”
คมกริชยิ้มเยาะ พร้อมกับมองไปที่คนเหล่านั้นดวงตาที่เฉียบแหลมราวกับคมดาบ
“คุณอารียาวางใจได้เลย ฉันคนเดียวก็สามารถจัดการพวกเขาได้แล้ว!”
ศรีใสยังกล่าวอีกว่า “ไม่ต้องกังวลหรอก คนพวกนี้หนีไปไหนไม่พ้นหรอก!”
อารียาไม่ได้พูดอะไรต่อ ขณะเดียวกันเธอก็พอรู้ว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดต่อไปคงเป็นฉากสังหารหมู่เป็นแน่ อีกทั้งหนูลินก็อยู่ที่นี่ การพาหนูลินออกไปจากที่มันคงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
วิธีนี้ มันยังสามารถลดความเสียหายต่อจิตใจของหนูลินได้อีกด้วย
เมื่อเห็นอารียาและหนูลินออกไป ดวงตาของคมกริชก็ดูเย็นเยือกลงเรื่อยๆ
มีเสียงปึ้งดังขึ้น ประตูโรงงานถูกคมกริชปิดอย่างแรง โรงงานถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ฝุ่นลอยขึ้นไปเต็มไปหมด
“คนอย่างพวกนาย ทางสวรรค์มีให้ไม่ไป ภรรยาและลูกของเจ้านายหลินเป็นสิ่งที่พวกนายจะมายุ่งได้เหรอ?”
คนเหล่านี้มองไปที่คมกริช หากเป็นแต่ก่อนก็เป็นแค่ปรมาจารย์ที่เก่งกาจคนหนึ่ง คนเหล่านี้ไม่มองคมกริชไว้ในสายตาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ พวกเขารู้ดีว่าได้สูญเสียการฝึกพลังไปแล้ว ในเงื้อมมือของคมกริช พวกเขาไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ
“จากนี้ไป ฉันจะมาสนุกกับพวกนายเอง”
ขณะที่พูด คมกริชก็ยิ้มเยาะ ในมือแกว่งมีดยาวไปมา พร้อมกับเดินเข้าไปหาคนเหล่านี้ราวกับเทพเจ้าแห่งความตาย…
ภายในถ้ำของกลุ่มสิงโต ความอดทนของรพีพงษ์กำลังจะหมดลง
“ตอนนี้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ได้แล้ว ฉันจะไปเกียวโต!” รพีพงษ์พูดเสียงดัง
“รพีพงษ์!”
หงส์พูดอย่างรวดเร็ว เธอรู้ดีว่าหากเป็นตัวเธอเอง เธอคงกังวลมากกว่ารพีพงษ์เป็นแน่
“งั้นฉันจะไปกับคุณเดี๋ยวนี้เลย!” ขณะที่หงส์พูด เธอก็เดินตามหลังของรพีพงษ์ไป
ในเวลานี้ บรรณารักษ์ของห้องสมุดก็วิ่งตามเขาไปจนสุดทาง
“เจ้านายหลิน หงส์ โทรศัพท์..โทรศัพท์มาแล้วครับ!”
รพีพงษ์เดินอย่างรวดเร็วไปที่โทรศัพท์ดาวเทียม พร้อมกับรับสาย
“เจ้านายหลิน ภรรยาและลูกของคุณปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกังวลไป!”
คำพูดสั้นๆของศรีใส ทำให้รพีพงษ์ปล่อยวางก้อนหินที่หนักอึ้งในใจของเขาลง
“อารียาล่ะ ให้เธอรับสายหน่อย” รพีพงษ์พูด
“ตอนนี้ภรรยาและลูกของคุณกำลังตกใจ ไม่อยากจะ…พูดอะไรในตอนนี้เลยครับ” ศรีใสกล่าว
รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ อารียาจะโทษตัวเองเป็นแน่
ไม่ว่าจะพูดยังไง ตัวเขาคือสาเหตุที่ทำให้คนเหล่านั้นไปเกียวโตสร้างความเดือดร้อนให้อารียาและลูก
“เอาล่ะ ศรีใส ครั้งนี้รบกวนด้วยนะ” รพีพงษ์กล่าว
“ช่วยจัดการให้เจ้านายหลิน ไม่ใช่เรื่องที่รบกวนอะไรหรอกครับ” ศรีใสตอบกลับ
รพีพงษ์พยักหน้า “ดี ฉันจะจัดเฮลิคอปเตอร์ไปให้ เพื่อที่พวกนายจะได้กลับมาที่กลุ่มสิงโตโดยเร็วที่สุด”
ขณะที่เขาพูด ดวงตาของรพีพงษ์ก็เต็มไปด้วยความโกรธ “อีกอย่าง เอาหุ่นเชิดทั้งสองตัวนั้นกลับมาด้วย!”
“รับทราบครับ เจ้านายหลิน!”
ศรีใสพูด จากนั้นวางสายไป
รพีพงษ์เดินออกจากห้องกระจก จากนั้นพูดกับหงส์ว่า “อารียาและหนูลินไม่เป็นอะไรแล้ว”
เมื่อหงส์ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา “ฉันบอกแล้วไง พวกเขาน่ะจะได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ไม่เป็นอะไรหรอก”
รพีพงษ์ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เขาคว้ามือทั้งสองข้างของหงส์
“คุณ…คุณทำอะไรคะ?” หงส์อายเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแดงก่ำ
“วันนี้ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ถ้าไม่มีเธออยู่กับฉันล่ะก็ ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรไปบ้าง” รพีพงษ์พูด
หงส์เอามือออกอย่างระมัดระวังพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่ช่วยเจ้านายหลินเอง เป็นสิ่งที่ฉันควรทำอยู่แล้ว จริงด้วย คุณจ่ายเงินให้ศรีใสกับคมกริชอย่างอู้ฟู้ขนาดนั้น คุณจะมาขี้งกกับฉันไม่ได้นะ ฉันเสียสละเวลาอยู่กับคุณนานเลยนะ”
รพีพงษ์ยิ้มและพูดว่า “วางใจได้ ฉันคิดเอาไว้แล้ว”