พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1482 ภาพที่ล้ำค่า
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1482 ภาพที่ล้ำค่า
จากนั้น ทั้งสองก็เดินมาถึงทางเข้าลิฟต์
ในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มีทั้งหมดสี่ชั้น ดังนั้นรพีพงษ์จึงได้ติดตั้งลิฟต์เอาไว้
ห้องของรพีพงษ์และอารียาอยู่ชั้นบนสุด เมื่อเปิดประตูห้องนอน อารียาเอามือปิดปากของตนเองด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจไม่ใช่ความกว้างขวางและความหรูหราของห้องนี้ เพราะห้องของเธอและรพีพงษ์ในคฤหาสน์ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ไม่เล็กไปกว่านี้
แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือ มีภาพจำนวนมากอยู่บนผนังรอบ ๆ ห้อง ภาพเหล่านี้ไม่ใช่ภาพของคนอื่น แต่เป็นภาพงานแต่งงานของตนเองและรพีพงษ์ ตอนที่พวกเขาจัดงานแต่งงานในปราสาทคริสตัล!
“นี่คือ……คุณไปเอามาจากไหน?” อารียากล่าวอุทาน
พื้นหลังของภาพช่างชวนฝัน ภาพการจุมพิตระหว่างเจ้าหญิงกับเจ้าชายก็ถูกขยายใหญ่ขึ้น และอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของห้อง
“ก่อนหน้านั้นตอนอยู่ที่เมืองริเวอร์ ผมหาช่างกล้องที่ช่วยพวกเราถ่ายภาพในวันแต่งงาน และขอรูปเหล่านี้มา” รพีพงษ์กล่าวตามความจริง
“รพีพงษ์ ขอบคุณมาก”
อารียารู้สึกประทับใจ จนน้ำตาคลอเบ้า
ภาพแต่ละใบเหล่านี้ เป็นเหมือนเรื่องราวที่ค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนขึ้นมา
“อารียา แม้ว่าภาพเหล่านี้จะมีค่า แต่สำหรับผมแล้ว ภาพที่มีค่าที่สุดไม่ใช่ภาพเหล่านี้”
รพีพงษ์เดินมาอยู่ด้านข้างอารียา และกล่าวเบา ๆ
“ค่ะ? แล้วคือ?” อารียาถามด้วยความประหลาดใจ
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วหยิบรูปถ่ายที่บางส่วนเสียหายออกจากกระเป๋าเสื้อ
ในภาพ ตอนที่หนูลินยังเด็กมาก รอยยิ้มของเธอและรอยยิ้มของอารียาช่างสดใสและอบอุ่นมาก
“ยังจำได้ไหม ตอนที่คุณถูกวางยาพิษ และก่อนที่ผมไปหายาที่สำนักเทพยาเซียน คุณได้ให้รูปถ่ายใบนี้กับผม”
รพีพงษ์กระซิบ “ตั้งแต่นั้นมา ภาพนี้ก็อยู่กับผมตลอด ผมทะนุถนอมมันเหมือนชีวิตของตนเอง เมื่อใดก็ตามที่ผมเจอปัญหาและอุปสรรค ตอนที่ผมเหนื่อยล้า เพียงแค่มองภาพนี้ ความยากลำบากทั้งหมดก็ไม่ถือเป็นอะไร เพราะผมรู้ว่าผมกำลังต่อสู้เพื่อใคร!”
อารียาน้ำตาคลอเบ้า เธอมองรูปถ่ายที่เสียหายใบนี้ ทำให้เธอสามารถจินตนาการถึงอันตรายที่รพีพงษ์เคยเจอมาก่อน!
“รพีพงษ์ ก่อนหน้านั้นคุณเผชิญเรื่องราวมากมายเพียงลำพัง แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร พวกเราจะจับมือแล้วเดินไปด้วยกัน” อารียากล่าวด้วยอารมณ์ที่ตื้นตัน
“คุณลืมคนไปคนหนึ่งแล้ว เจ้าหญิงน้อยผู้น่ารักของพวกเรา” รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
อารียาพยักหน้า และถูกรพีพงษ์สวมกอดด้วยความอบอุ่น
ริมฝีปากสัมผัสกัน จากนั้นรพีพงษ์ก็อุ้มอารียาไปนอนลงบนเตียงที่นุ่ม……
“หงส์ ตกลงคุณจะเลือกห้องไหน รีบบอกมา”
ธมกรเดินตามหลังหงส์ และพูดขณะเดิน
“ฉันเลือกห้องไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?” หงส์หันกลับมากล่าวอย่างเย็นชา
“เกี่ยวแน่นอน คุณพักอยู่ห้องไหน ผมก็จะพักอยู่ห้องข้าง ๆ” ธมกรหรี่ตา ยิ้มแล้วกล่าว
“ทำไมคุณถึงตามฉัน แล้วทำไมต้องมาพักข้างห้องฉันด้วย? ฉันไม่ชอบ” หงส์กล่าวอย่างเย็นชา กดลิฟต์แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์
ธมกรเดินตามมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเล็ก ๆของเขายังคงยิ้ม
“คุณคิดดูสิ ผมพักอยู่ข้างห้องคุณ บอกได้เลยว่ามีประโยชน์มากมาย ถ้าเกิดมีอันตราย ผมจะปกป้องคุณเป็นอันดับแรก คุณว่าถูกไหม?”
ธมกรกล่าวขณะอยู่ในลิฟต์
“คุณคิดมากไปแล้ว ป่าหมอกไม่มีอันตรายใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น มีเจ้าสำนักอยู่ที่นี่ ใครกล้ามารังควาน? ก็เท่ากับรนหาที่ตาย?” หงส์กล่าว
ธมกรเบ้ปาก “คุณพูดถูก ผมเทียบกับเจ้าสำนักไม่ได้ เรื่องแน่นอนมันไม่น่ากลัว กลัวแต่เหตุไม่คาดฝัน ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาทจะดีกว่า”
“หลีกไป!”
หงส์หันมากล่าวกับธมกร เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก “ฉันขอเตือนคุณ อย่าตอแยฉันอีก ที่นี่มีสี่สิบห้อง คุณอยากพักห้องไหนก็ได้”
ธมกรต้องการออกจากลิฟต์ ก็มีกริชปรากฏขึ้นในมือของหงส์ “ถ้าคุณเข้ามาอีกก้าว อย่าโทษว่าฉันไร้ความปรานี!”
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ธมกรตอแยหงส์ด้วยความมานะอุตสาหะ ไม่คิดว่า ตนเองมาถึงป่าหมอก ไอ้หมอนี้ก็ยังตามมาอีก
“โอเค โอเค ไม่ต้องตื่นเต้น มีอะไรก็พูดกันดี ๆ” ธมกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่ว่าเขากลัวหงส์โจมตีตนเอง เพราะเมื่อพูดถึงความแข็งแกร่ง ตนเองนั้นมีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าหงส์
ประตูลิฟต์ปิดลง หงส์ถอนหายใจ รู้สึกว่าบริเวณโดยรอบเงียบสงบขึ้นมาทันที
เธอมองทางเดินที่ว่างเปล่า ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจเจตนาของธมกร แต่ไม่มีทางที่ตนเองจะเกิดความประทับใจกับชายตาเล็กและยังอัปลักษณ์ผู้นี้ได้
“คนที่ตนเองชอบ แต่งงานมีภรรยาและลูกแล้ว และคนที่ดีต่อตนเอง ได้เสียชีวิตอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนแล้ว ตอนนี้ไอ้ธมกรตื๊อตนเองไม่ปล่อย หงส์เอ๋ยหงส์ ทำไมเส้นทางความรักของเธอ ถึงไม่ราบรื่นเช่นนี้?”
หงส์กล่าวพึมพำ
สำหรับรพีพงษ์ เธอถูกบุคลิกและความแข็งแกร่งอันทรงพลังของรพีพงษ์ดึงดูด เกิดความประทับใจโดยไม่รู้ตัว และในวันนั้น เพื่อปกป้องตนเอง เต๋าก็เลยถูกชายชุดดำที่ฉันท์ชนกส่งมาฆ่าตาย และมันเป็นสิ่งที่ทำให้หงส์ไม่สามารถลืมได้
“หงส์ คุณเป็นอะไรไป?”
ขณะนี้เอง ที่ด้านข้างของทางเดิน ฝนสุดาเดินเข้ามาหาหงส์
“คุณฝนสุดา”
“ไม่คิดว่า คุณและฉันมาจะมาอยู่ที่ชั้นสามเหมือนกัน” ฝนสุดากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ ทำไมคุณไม่ไปพักที่ชั้นบนสุดล่ะ นอกจากห้องที่เจ้าสำนักพักแล้ว ยังมีว่างเหลืออีกมากมาย” หงส์กล่าว
“แล้วทำไมคุณถึงไม่ไปล่ะ?” ฝนสุดากล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้น เธอก็เดินมาอยู่ข้างหงส์ จับมือของหงส์แล้วกล่าวว่า “อันที่จริง พวกเราสองคนมีความคิดคล้ายกัน พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกมาฝึกในสถานที่ที่วิเศษเช่นนี้ การที่พวกเขาให้พวกเรามาพักอยู่ด้วยก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ชั้นบนสุด ปล่อยให้ครอบครัวพวกเขาอยู่เถอะ พวกเราอย่าไปรบกวนพวกเขาเลย”
หงส์พยักหน้าเห็นด้วย “เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราสองคนมาพักห้องติดกันเถอะ? มิเช่นนั้น ไอ้คนที่น่ารำคาญมันจะคอยตอแยฉันเรื่อย ๆ ”
“ไอ้คนที่น่ารำคาญ? คุณกำลังพูดถึงธมกรหรือเปล่า?” ฝนสุดากล่าวถาม
“นอกจากเขาแล้วยังจะมีใครอีกล่ะ” หงส์กล่าวอย่างเย็นชา “ไอ้หมอนี้มีรายชื่ออยู่ในอันดับรางวัลนำจับในกลุ่มสิงโตของพวกเรา ถ้าไม่ใช่เพราะความเอื้ออาทรและความเมตตาของเจ้าสำนัก ไอ้หมอนี้คงจะถูกพวกเราฆ่าไปนานแล้ว ตอนนี้เขาเข้าร่วมกลุ่มสิงโตแล้ว และตามมาที่ป่าหมอก ไม่รู้ว่าเขาโชคดีเช่นนี้ได้ยังไง”
“ฉันคิดว่าเขาก็ดีน่ะ คุณสามารถลองดูได้ ถ้าไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร” ฝนสุดากล่าวติดตลก
“ช่างมันเถอะ ถ้าคุณอยากลอง ฉันจะยกให้คุณ ฉันจะได้หมดปัญหาใหญ่ไปเรื่องหนึ่ง” หงส์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันหรือ? ช่างมันเถอะ”
ฝนสุดามองขึ้นไปที่ชั้นบน แล้วอุทาน “ฉันเคยเห็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกใบนี้มาแล้ว แล้วคนอื่นจะเข้ามาอยู่ในหัวใจของฉันได้อย่างไร”