พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1491โครงกระดูก
เมื่อมองปัณฑาที่ไม่ได้เรื่อง รพีพงษ์ก็รับปาก และเดินตามปัณฑาไปอย่างใกล้ชิด
ตามที่ปัณฑาเคยพูดกับตนเองก่อนหน้านั้น สถานที่ที่ต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่ ไม่เพียงแต่มีโอกาสที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอันตรายด้วย หากไม่ระวังตัว แม้ว่ารพีพงษ์ที่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นพีค ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พลังของปัณฑายังไม่ฟื้นคืน ถ้าเจอศัตรูหนึ่งหรือสองคน มันก็จะจบลงจริง ๆ
หลังจากเดินลึกเข้าไปในถ้ำไม่รู้นานเท่าไหร่ รพีพงษ์ซึ่งตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน รพีพงษ์ก็สามารถรับรู้ได้ชัดเจนว่า ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังชีวิตอยู่รอบตัวมากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ว่า พวกเขากำลังเข้าใกล้ต้นไม้ตายหมื่นปีอย่างแน่นอน
“พรึบ…..”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว และคว้าปัณฑาเอาไว้ เขาใช้พลังทิพย์สร้างเกราะป้องกันขึ้นรอบตนเองและปัณฑาทันที แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัณฑารู้สึกตกใจ
“คุณทำอะไรอยู่? ข้างหน้าไม่ไกลเป็นสถานที่ที่ต้นไม้ตายหมื่นปีอยู่ รีบไปกลับกันเถอะ”
รพีพงษ์ส่ายศีรษะ ใช้มือทำสัญญาลักษณ์ให้เงียบ จากนั้นค่อย ๆ หันทิศทางของไฟฉายไปที่มุมบางมุมของทางเดินในถ้ำ แต่ไม่พบอะไรเลย
“โอ้ อย่ากระต่ายตื่นตูมขนาดนั้น ถ้าที่นี่จะมีอะไร ก็คงจะเป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดเล่นเหลือจากเมื่อพันปีก่อน การที่จะเจอพวกมันไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราไปกันเถอะ”
พูดจบ ปัณฑากระโดดลงมาจากไหล่ของรพีพงษ์ ขณะที่เธอลงสู่พื้น ก็รู้สึกว่าเหยียบอะไรบางอย่าง เมื่อมองลงไป ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“โอ๊ย! รพีพงษ์ รีบเอาแมลงที่อยู่บนเท้าของฉันออกไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รพีพงษ์ก็ก้มศีรษะลงและมองเข้าไปใกล้ ๆ เห็นแมลงสีดำปืนขึ้นไปอยู่บนขาของปัณฑา ฟันอันแหลมคมกำลังจะกัด แต่ถูกรพีพงษ์ใช้พลังทิพย์โจมตี ทำให้แมลงตกลงไปสู่พื้น แล้วก็ตาย
“ฮ่า ๆ……”
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแปลกๆ ก็ออกมาจากถ้ำ
เสียงหัวเราะดังกล่าวน่าขนลุกเป็นอย่างมาก!
รพีพงษ์ใช้มือข้างหนึ่งอุ้มปัณฑาเอาไว้ แล้วมองไปรอบ ๆ พื้นดิน ถึงรู้ว่า พวกเขาทั้งสองถูกแมลงล้อมไว้
ปัณฑามองแมลงเหล่านี้ด้วยความรู้สึกขยะแขยง กอดคอของรพีพงษ์ ตัวสั่นเล็กน้อยและกล่าวว่า “พวกนี้คืออะไร? ฉันไม่เคยได้ยินว่าที่นี่มีแมลง ฉันกลัวแมลงมากที่สุด รีบจัดการพวกมันเลย”
รพีพงษ์พยักหน้า แม้ว่าแมลงเหล่านี้จะมีจำนวนมาก แต่พลังของแมลงพวกนี้ไม่สูง แค่พวกมันไม่มาเข้าใกล้พร้อมกัน รพีพงษ์ก็สามารถจัดการได้
หลังจากคิดจบ เขาอุ้มปัณฑาด้วยมือขวาไว้แน่น กระบี่สยบเซียนปรากฏอยู่ในมือซ้ายของรพีพงษ์ และพลังทิพย์อันทรงพลังก็ปกคลุมพื้นผิวของดาบกระบี่สยบเซียนทันที จากนั้นสะบัดกระบี่ ฝูงแมลงจำนวนมากถูกฆ่าตายเต็มพื้น
“ไม่ไหว! แมลงเหล่านี้มากมายมหาศาล ปัณฑาขึ้นมาอยู่บนหลังของผม แล้วก็จับไว้แน่น ๆ พวกเราจะเข้าไปข้างในถ้ำกัน” รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา
ปัณฑาพยักหน้า แล้วปีนขึ้นไปบนไหล่ของรพีพงษ์ กอดคอของรพีพงษ์ไว้แน่น เธอหลับตาลง ไม่กล้ามองแมลงเหล่านี้
รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึก ๆ จับกระบี่สยบเซียนไว้แน่น เขาใช้พลังทิพย์ล้อมรอบเท้า สกินเป็นเปลวไฟ และเผาแมลงที่เข้ามาใกล้
เห็นแมลงถอยหนีเพราะกลัวเปลวเพลิง รพีพงษ์จึงวิ่งลึกเข้าไปในถ้ำทันทีโดยลังเล
มีเสียงแปลกดังมาจากทิศทางที่แมลงออกมา บางทีข้างหน้าอาจมีวิธีจัดการกับแมลงเหล่านี้ก็ได้
เมื่อพลังชีวิตรอบข้างเพิ่มขึ้น รอบรพีพงษ์ก็มีแมลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดรพีพงษ์ก็พบว่านี่มันเป็นรังของแมลง คราวนี้ตนเองถูกปัณฑาหลอกล่ะ
“รพีพงษ์ ข้างหน้ามีไอของคน แมลงเหล่านี้อาจถูกคนควบคุม คุณรีบเดินไปข้างหน้า ไปจัดการไอ้หมอนั้นซะ” ปัณฑากล่าวอย่างเร่งรีบ หัวใจเธอเต้นเร็วเพราะแมลงเหล่านี้
รพีพงษ์พยักหน้า และรีบไปในทิศทางที่ปัณฑาชี้ ที่มุมหนึ่ง เขาเห็นเป็นเงาดำ
“ฮ่า ๆไม่คิดว่าพวกคุณจะสามารถบุกทะลุด่านแมลงของผม แล้วเข้ามาถึงที่นี่ได้ ดีมาก! พวกคุณมีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับผม”
เมื่อเผชิญหน้ากับเงาดำที่พูดอย่างกะทันหัน รพีพงษ์ก็หยุดทันที และพลังทิพย์ที่อยู่รอบข้างก็ลุกไหม้ ทำให้แมลงล่าถอยไป ขณะเดียวกันก็ส่องสว่างถ้ำที่มืด
โครงกระดูกหนึ่งโครง!
รพีพงษ์ขมวดคิ้วเมื่อมองโครงกระดูกที่ยืนอยู่ตรงมุม ดูเหมือนว่า คนที่ส่งเสียงแปลก ๆ เมื่อสักครู่เป็นโครงกระดูกนี้หรือ?
ปัณฑารู้สึกสับสนเล็กน้อย มองดูโครงกระดูก ครุ่นคิดอยู่นาน และกล่าวว่า “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง คุณกล้าที่จะกลืนผลไม้จากต้นไม้ตายหมื่นปีโดยตรงเลยหรือ?”
“พลังชีวิตที่มีอยู่ในผลไม้นั้นอุดมสมบูรณ์มาก หากคุณกินมันโดยไม่มีแนวทาง ร่างกายของคุณจะรับไม่ไหวแน่นอน แต่ฉันไม่นึกว่า คุณจะไม่มีร่างกาย เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แต่ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้”
หลังจากโครงกระดูกฟังแล้ว มองมาที่ปัณฑา มีความอยากรู้ และกล่าวว่า “สาวน้อยคนนี้ดูแปลกประหลาด ถึงได้รู้มากเช่นนี้ แต่รู้มากก็ไร้ประโยชน์ พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อผลไม้ใช่ไหม”
รพีพงษ์ประสานมือทั้งสองแล้วโค้งคำนับ และกล่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อผลไม้ของต้นไม้ตายหมื่นปีจริง ๆ ขอให้ผู้อาวุโสหลีกทาง หลังจากที่พวกเราเอาผลไม้ได้แล้วจะจากไป และจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อาวุโส”
เมื่อมองท่าทีที่สุภาพของรพีพงษ์ โครงกระดูกแปลกใจเล็กน้อย ก็ผิวปาก แมลงทั้งหมดที่อยู่รอบรพีพงษ์และปัณฑาก็ถอย และดำดิ่งเข้าไปในกำแพงหินโดยรอบ
“คุณไม่เหมือนพวกคนไร้เหตุผลพวกนั้นเมื่อพันปีที่แล้ว แต่น่าเสียดาย ในเมื่อพวกคุณมาเพราะผลไม้ของต้นไม้ตายหมื่นปี ผมก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ ถ้าพวกคุณอยากได้ผลไม้ เอาชนะผมให้ได้ พวกคุณถึงจะสามารถเข้าไปข้างหน้าได้”
พูดจบ โครงกระดูกสกินกระบี่เล่มหนึ่งอยู่ในมือ และเจตนาฆ่าอย่างแรงก็ปกคลุมทั่วทั้งถ้ำทันที
ยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีค!
รพีพงษ์ขยับเล็กน้อย ไม่คิดว่าในถ้ำนี้จะมียอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคพิทักษ์อยู่
ปัณฑามองไปที่โครงกระดูก และจำสิ่งที่โครงกระดูกพูดได้ อดไม่ได้ที่จะมีความคิดที่กล้าหาญในสมอง เธอเข้าไปใกล้หูของรพีพงษ์ แล้วกระซิบว่า “รพีพงษ์ คุณต้องระวังตัว ฉันประเมินถ้ำนี้ต่ำเกินไป โครงกระดูกนี้อาจจะเป็นยอดฝีมือเมื่อพันปีก่อน เกิดข้อผิดพลาดอะไรบางอย่าง เลยกลายเป็นผู้พิทักษ์สถานที่แห่งนี้”
รพีพงษ์พยักหน้า ไม่กังวลอะไรมาก ตนเองเคยฆ่ายอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคไปไม่น้อย
ปัณฑาเห็นว่ารพีพงษ์ประเมินโครงกระดูกต่ำเกินไป และกล่าวเสริมว่า “หากเขาเป็นยอดฝีมือเมื่อพันปีก่อนจริง เขาต้องมีวรยุทธที่ไม่เหมือนใคร เมื่อพันปีก่อน สิ่งที่ไม่ขาดมากที่สุด ก็คือวรยุทธ วิชากังฟูเสนที่คุณคิดอยู่ตลอดเวลาก็เป็นเพียงวรยุทธระดับต่ำเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รพีพงษ์ก็ตื่นตัวทันที วิชากังฟูเสนเป็นเพียงวรยุทธระดับต่ำเท่านั้น?
นักฝึกตนเมื่อหลายพันปีก่อนเป็นสัตว์ประหลาดชนิดใด
รพีพงษ์รู้สึกตกใจกับระดับผลของการฝึกตนมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นดังที่ญานิดาเคยกล่าวว่า ระดับแดนเทพขั้นพีค ถือได้ว่าเป็นแค่นักฝึกตนที่มีคุณภาพเท่านั้น
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ รพีพงษ์ก็ไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป ถือกระบี่สยบเซียนในมือขวาไว้แน่น พลังอันล้ำลึกในมือซ้ายพุ่งขึ้น และพร้อมที่จะลงมือตลอดเวลา