พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1554 อันตรายในถ้ำ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1554 อันตรายในถ้ำ
“แต่ว่า แต่ว่าผลินจะทำยังไง เธอยังรอให้รพีพงษ์ไปช่วยเธออยู่นะ บนตัวของพ่อบ้านเตชิตนั่นมีแต่พลังด้านร้าย ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ๆ”
นราธิปให้หยกกับปัณฑา พูดกล่าว : “คุณพกสิ่งนี้ติดตัวไว้ สามารถช่วยยัยเด็กคนนั้นออกมาได้”
ปัณฑารับมาอย่างประหลาดใจ พูดกล่าว : “หยกกนก?”
“ใช่ คุณลองดูสิมีสิ่งของชิ้นนี้ คุณจะช่วยเธอออกมาได้ไหม?”
“แม้ว่าคนที่พ่อบ้านเตชิตพามาจะเก่งกาจ แต่ว่ามีของชิ้นนี้อยู่ในกำมือ พวกเขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้เลย คุณวางใจได้ ฉันจะต้องช่วยผลินออกมาอย่างปลอดภัยแน่”
หยิบหยกแล้วรีบออกไปทันที ตอนที่ออกไปก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง ให้นราธิปรับรองความปลอดภัยของรพีพงษ์ให้ดี
เขามายังสวรรค์พร้อมกับรพีพงษ์ เพราะงั้นกลับสู่โลก ก็จะต้องกลับพร้อมกัน
นราธิปไม่ได้สนใจอะไรเขา และท่ามกลางตำหนักพระวิหาร ทุกสิ่งอย่างถูกกำหนดท่ามกลางความมืดวิเวกวังเวงแล้ว สิ่งที่ควรมาก็มักจะมาเสมอ
พระจันทร์ที่กลมเป็นพิเศษของวันนี้ ส่องไปทั่วทั้งภูเขาสองกระบี่อย่างชัดเจนมาก คนชุดดำกว่าหลายคนแอบเข้าไปยังภูเขาสองกระบี่อย่างเงียบๆ
พวกเขาก็มีความกังวล ตอนที่มา นรเทพได้กำชับมาเป็นพิเศษ ห้ามสร้างปัญหาอื่นๆเด็ดขาด
เห็นพวกเขาเดินขวักไขว่ที่ภูเขาสองกระบี่ ไม่ได้อะไรเลย
จู่ๆก็ได้ยินเสียงของนราธิปขึ้นมาทันที : “ทุกท่านมาถึงอาณาเขตของฉัน ทำสิ่งของตกหล่นไว้ที่นี่เหรอ?”
“ตาแก่ พวกเรามาหาคนน่ะ ที่นี่ยังมีคนอื่นอยู่อีกไหม?”
“ภูเขาสองกระบี่มีเพียงฉันคนเดียว ไม่เลวเลยนะ พวกคุณทำอะไร ลับๆล่อๆ อยากจะมาขโมยสิ่งมีค่าที่ภูเขาสองกระบี่ใช่ไหม?”
รพีพงษ์ออกจากถ้ำแต่กลับว่าถูกปิดกั้นด้วยตาข่ายป้องกัน ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็เปิดไม่ออก
ในเวลานี้บวรวิทย์ก็ออกมาแล้ว พูดกล่าว : “เหมือนว่าจะได้ยินเสียงจากด้านนอกนะ”
“คนของนรเทพมาที่นี่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่เข้าใจ ทำไมอาจารย์ธิปถึงได้สร้างแนวป้องกัน เขาต้องการที่จะซ่อนพวกเราเอาไว้”
“แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว รพีพงษ์ ฉันคิดว่า พวกเราไม่สามารถอยู่ที่ภูเขาสองกระบี่ได้แล้ว คุณและฉันเราสองคนไม่ใช่อาศัยได้แค่ที่นี่เท่านั้น ความยิ่งใหญ่ของสวรรค์ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าจะไม่มีที่หลบภัยให้กับพวกเรา”
เขากลัวว่าจะทำให้นราธิปพลอยติดร่างแหมาด้วย และกลัวว่าเพราะเหตุนี้จะดึงตระกูลภูสรีดาวออกมาด้วย แม้แต่ตระกูลภูสรีดาวก็พลอยติดร่างแหมาด้วยเช่นกัน
รพีพงษ์ไม่คุ้นชินกับสวรรค์ ฟังคำพูดของเขา กลับรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่จะทำแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
“ทุกอย่างต้องให้พวกเราออกไปแล้วค่อยว่ากัน ออกไปตอนนี้ก็เป็นปัญหาทั้งนั้น สิ่งเดียวที่เราทำได้มีเพียงการฝึกฝนให้ดีๆ ยกระดับผลการฝึกตน ไม่อย่างนั้นสิ่งที่อาจารย์ธิปพยายามมาอย่างหนักก็สูญเปล่า”
ได้ยินเสียงจากด้านนอก ในใจของรพีพงษ์รู้สึกละอายใจ
ถ้าหากเป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้นราธิปพลอยติดร่างแหไปด้วยจริงๆ งั้นเขาจะสบายใจได้อย่างไรล่ะ?
รพีพงษ์หยิบมุกมังกรเม็ดนั้นออกมา กลืนลงไปทันทีเลย ถ้ำที่เขาอยู่ บวรวิทย์กลับว่าเข้าไปไม่ได้ ทำได้เพียงแต่คนต่างกลับไปยังที่ของตัวเอง
เมื่อถึงในถ้ำแล้ว รพีพงษ์ก็ค้นพบว่าตอนนี้ดอกบัวที่ในถ้ำกำลังเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็วโดยที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เขาตกใจอย่างมาก จับจ้องไว้ตลอด เพียงแค่เห็นกลีบดอกร่างหล่น ข้างในเม็ดบัวมีอยู่มุกหนึ่งเม็ด ส่องแสงกะพริบระยิบระยับ
มุกเหล่านั้นทำให้ถ้ำดูสดใสเป็นประกาย เขาก้าวขึ้นไปอย่างมีความสุขพร้อมหยิบมาหนึ่งเม็ด พูดกับตัวเองว่า : “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ตอนที่ฝึกอยู่ภายในถ้ำ เขาก็รู้สึกถึงว่าจะเข้าสู่ดินแดนแห่งอิทธิฤทธิ์ในไม่ช้า แต่เหมือนว่ามีของบางอย่างปิดกั้นไว้ที่นั่นยังไงอย่างนั้น ไม่สามารถเข้าถึงได้
เขาก้าวขึ้นไปอย่างระมัดระวัง หยิบเอามุกที่วิบวายระยิบระนับในเม็ดบัวนั่นออกมา
เม็ดบัวนั่นลอยขึ้นมา เข้าสู่ร่างกายของเขาไปเลย
ร่างกายของรพีพงษ์ว่างเปล่า ลอยขึ้นไป มุกที่อยู่ในเม็ดบัวทั้งหมดนั่นราวกับต้องมนต์สะกดล้วนตกลงไปในบ่อน้ำหมดเลย ค่อยๆรวมตัวกัน พุ่งไปทางรพีพงษ์
รพีพงษ์รู้สึกแปลกประหลาดมาก รีบหลบหนีทันที
ควบคุมเม็ดบัวเหล่านั้นไม่อย่างนั้นพวกมันจะเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง แต่กลับพบว่าพลังเทพของตัวเองอ่อนแอลงทุกที ไม่สามารถควบคุมทิศทางที่จะไปของเม็ดบัวได้เลย
เม็ดบัวทั้งหมดแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา เขาเพียงแค่รู้สึกค่อนข้างมึนศีรษะเล็กน้อย ในสมองปรากฏร่างเงาของอารียาขึ้นมา ตามมาด้วยรูปร่างลักษณะของหนูลิน
เขาส่ายหน้าอย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย
นั่งลงบนพื้นด้วยสองขาที่อ่อนแรง ขมวดคิ้ว พูดอย่างหมดแรงว่า : “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขารู้สึกว่าหนังตาหนักมาก หรี่ตาลงเล็กน้อย และตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นหนูลินที่มีสีหน้าซีดเซียวยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
“พ่อ หนูจะตายแล้ว พ่อ เมื่อไหร่พ่อจะกลับมา?”
เขาอยากจะเอ่ยปากพูด ปากขยับ เพียงแต่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ เห็นหนูลินค่อยๆหายไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อภาพฉากเปลี่ยน ราวกับว่ากลับมาถึงหุบเขาราชาโอรสแล้ว อารียากำลังป้อนยาให้หนูลิน แต่เมื่อหันหลังไป อารียาก็ร้องไห้กอดกับหนูลินแล้ว
เขารู้สึดหมดหนทางทำอะไรไม่ถูก เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขากลับว่าทำอะไรไม่ได้เลย
คนที่เหมือนกับเขามากยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของเขา : “รพีพงษ์ แกเอาร่างกายของแกมาให้ฉัน ฉันจะดูแลหนูลิน ดูและภรรยาให้แกเอง แกว่าเป็นไง แกฆ่านรเทพไม่ได้ แต่ฉันฆ่าได้”
รพีพงษ์มองไปยังไอ้หมอนั่น ค่อยๆเรียกสติกลับมา ถูกจิตมารของเขาครอบงำอีกแล้ว
เขาไม่อยากพูดอะไร ในใจคิดเพียงแค่ว่า ผ่านเรื่องนี้ไปได้ จะต้องขอความช่วยเหลือนราธิป กำจัดจิตมาร
เขาวาดกระบี่ออกมาแล้ว ยกกระบี่ขึ้นกำลังจะฆ่าเขา เขาก็หัวเราะเสียงดังฮ่าๆออกมา : “แกอยากจะฆ่าฉันเหรอ ฉันก็คือแก แกฆ่าฉัน ก็เป็นการฆ่าตัวแกเอง”
“ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้”
รพีพงษ์ไม่ยินยอม ทิ่มแทงกระบี่ออกไปแล้ว แต่ว่ากระบี่นั่นเพิ่งจะทิ่มแทงไปยังหัวใจของอีกฝ่าย รพีพงษ์เห็นตัวเองกำลังใช้กระบี่ทิ่มแทงตัวเองในภาพสะท้อนที่บ่อน้ำนั่น
ความรู้สึกที่เจ็บปวดชัดเจนขนาดนั้น เขาวางกระบี่ลง ก้มหน้ามองไปยังบาดแผลของตัวเอง บาดแผลที่แวววาวปรากฏต่อหน้าของเขา
อีกฝ่ายหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง : “หยิบกระบี่ขึ้นมา ฆ่าฉันสิ ฆ่าฉันสิ แกก็จะได้มีวันที่เงียบสงบ”
รพีพงษ์รู้สึกเหมือนสมองกำลังจะระเบิดแล้ว น้ำเสียงของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นในสมองของเขาไม่หยุดหย่อน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารู้สึกร่างกายร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งเส้นเลือดฝอยแล้ว
เขากระโดดลงไปในบ่อน้ำเลยทันที น้ำเย็นในบ่อน้ำทำให้เขาได้สติโดยสิ้นเชิง ดำดิ่งลงไปก้นลึกสุดของบ่อน้ำเลย
ใต้บ่อน้ำ โลกอีกใบหนึ่ง มีเสียงคำรามขัดจังหวะความคิดของเขาแล้ว : “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ในเขตอิทธิพลของฉันได้?”
เขาหันหน้าไปมอง ปลาฉลามทองตัวหนึ่งอยู่ข้างหลัง รูปร่างใหญ่โตหนักประมาณห้าร้อยกิโล
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหากทำให้ขุ่นเคือง ได้โปรดให้อภัยด้วย”
เขาใช้ความสามารถว่ายทวนขึ้นไป แต่เหมือนว่าด้านบนจะถูกปิดแล้วยังไงย่างนั้น ปลาฉลามทองหัวเราะเสียงดังฮ่าๆๆ : “คนที่เข้ามาที่นี่ ไม่มีใครสามารถออกไปได้ แกไม่ใช่คนแรก”
“ที่นี่ไม่ใช่ภูเขาสองกระบี่เหรอ?”
เขาถามอย่างประหลาดใจ ถ้ำของภูเขาสองกระบี่ทำไมถึงได้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น?
“ฉันถูกนราธิปไอ้หมอนั่นปราบปรามมากว่าหลายหมื่นปีแล้ว ฉันอยากจะออกไป ฉันเห็นว่าแกมีผลการฝึกตนที่ไม่เลวเลย ฉันอยากจะกินแก”
เขาพูดจบแล้ว อ้าปากกว้างที่ราวกับอ่างโลหิตพุ่งตรงไปยังรพีพงษ์ อย่างรวดเร็ว……