พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน
บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ บนพื้นเย็น ซึ่งล้อมรอบไปด้วยเสียงของกลุ่มคนหนึ่ง เมื่อมี คนเดินผ่านเขาก็จะรู้สึกว่าเขาขวางทาง ก็จะเตะขาของ เขาออก
รพีพงษ์ลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องมืดและชื้น ห้องนี้เหมือนกับคุก มีกำแพงสามด้าน และรั้วเหล็กอีกด้าน หนึ่ง
คนรอบตัวเขาดูเลอะเทอะเล็กน้อย คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ มีหน้าตาโหด เมื่อมองแวบเดียว ก็รู้ว่าที่นี่ไม่มีคนดีเลย
ที่นี่คือคุกลับกักขังศัตรูของหอการค้าสมน. ผู้คนที่ รุกรานหอการค้าสมน. หลังจากถูกจับมาแล้ว จะถูกขังที่นี่ เป็นระยะเวลาหนึ่ง จะไม่มีอิสรภาพ หอการค้าสมุน. จะทำ ยังไงกับคนพวกนี้ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเอง
หลายปีผ่านไป มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีปัญหากับหอ การค้าสมน. และมีเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถูกขังอยู่ที่นี่ มี หลายคน หายไปจากโลกนี้นานแล้ว
พวกที่สามารถอยู่ที่นี่ ทำผิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หอการ ค้าสมน.ขังพวกเขาไว้ที่นี่ ซึ่งถือเป็นการลงโทษสำหรับพวก เขา และถ้ายังมีพวกที่มีมูลค่าผลประโยชน์ ถึงจะถูกปล่อย ออกไป
เมื่อคืนก่อน รพีพงษ์ติดกับดักของวีธรา หลังจากสลบไป แล้ว ก็ถูกส่งมอบให้กับหอการค้าสมน.
ตามหลักคือความผิดของรพีพงษ์คือฆ่าคุณหนูใหญ่ของ หอการค้าสมน. ดังนั้นหลังจากที่คนของหอการค้าสมน.จับ ตัวรพีพงษ์ได้ ก็คงไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายๆแน่
แต่ว่าหลายวันมานี้ประธานของหอการค้าสมน. ไม่ได้อยู่ ที่เกียวโต คนของหอการค้าสมน.ก็ไม่มีใครกล้าที่จะกำจัด เขา ดังนั้นเขาจึงถูกคุมขังไว้ในคุกแห่งนี้ รอให้ประธาน กลับมาก่อน ค่อยมาลงมือจัดการกับรพีพงษ์เอง
หลังจากที่รพีพงษ์ลืมตาขึ้น เขาก็ยืนขึ้นจากพื้น เขารู้สึก ว่าตัวเองยังคงมีความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรงอยู่ ดูเหมือนว่ายาที่ เขาถูกจักรพันธ์วางนั้นไม่เหมือนปกติทั่วไปจริงๆ รพีพงษ์ รู้สึกว่าในขณะนี้เขาสามารถใช้เรี่ยวแรงได้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น
ก็ไม่รู้ว่าฤทธิ์ยานี้อยู่ได้นานแค่ไหน
เมื่อผู้คนรอบข้างเห็นรพีพงษ์ฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็ล้อม รอบเข้ามาทันที จ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างดุร้าย
พวกเขาถูกขังอยู่ในคุกแห่งนี้ และไม่มีอะไรทำทั้งวัน สิ่ง ที่มีความสุขที่สุด คือการกลั่นแกล้งผู้มาใหม่
รพีพงษ์ดูผอมและอ่อนแอ เนื่องจากฤทธิ์ยา ดูไปแล้วคน ทั้งคนเหมือนอ่อนแอมาก คนพวกนี้คิดว่ารพีพงษ์คือไก่อ่อน ดังนั้นรอรพีพงษ์ฟื้นขึ้นมา จะทำลายเขา
“ในที่สุดไอ้ไก่อ่อนก็ฟื้นขึ้นมา กรอมาตั้งนานแล้ว นานแค่ ไหนที่ไม่มีคนใหม่เข้ามาที่นี่ ครั้งที่แล้วคนที่ถูกเราทุบตีสอง ครั้ง ก็ตาย หวังว่าคนนี้จะทนการทุบตีได้ ให้พวกเราได้ สนุกกันสองสามวันเถอะ”
“ดูเหมือนจะบอบบางอ่อนแอ เกรงว่าทุบตีครั้งเดียวก็ตาย เดี๋ยวเราลงมือคงต้องเบามือกันหน่อย อย่าชกหมัดเดียวก็ ทำให้เขาตายล่ะ”
“เชี่ย ชกหมัดเดียวก็ตาย ทุกวันนี้พวกเราก็มีของกินกัน แค่นิดเดียว เพิ่มมาอีกหนึ่งปาก ก็ยังแบ่งของกินออกไป หนึ่งคำ ชกให้ตายก็ดี”
รพีพงษ์จ้องมองคนเหล่านี้ แววตานิ่งสงบ แม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้เรี่ยวแรงได้เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ต้องการที่จะ จัดการกับคนพวกนี้ที่นี่ก็เกินพอแล้ว
จากรูปลักษณ์ของคนพวกนี้ จะเห็นได้ว่าคนพวกนี้ไม่มี อะไรพิเศษ และรพีพงษ์ไม่จำเป็นต้องกลัว
“ที่นี่คือที่ไหน?”รพีพงษ์จ้องมองไปที่คนเหล่านั้นและ
ถาม
“แกถูกจับตัวมา ยังไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนอีกเหรอ ที่นี่คือคุก ของหอการค้าสมน. เอาไว้ขังคนที่ชอบหาเรื่องหอการค้า สมน.โดยเฉพาะ ไอ้น้อง แกทำไมถึงเข้ามาได้? หรือว่าไป ลวนลามป้าคนกวาดพื้นของหอการค้าสมุน. ดังนั้นจึงถูก ขังเข้ามา?”
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าของเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม และเมื่อคนรอบข้างได้ยินคำพูดของเขา ก็หัวเราะเสียงดัง มาทันที
“ระวังปากเน่าๆของแกหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แก หัวเราะไม่ออกทั้งชาติเลย”รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา
เมื่อชายคนนั้นได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็จ้องมองมาที่ เขาทันที และด่า: “เย็*แมร่ง กล้าอวดเก่งกับกู แกรู้หรือไม่ ว่าเมื่อทำอะไรมาก่อน? กูตัดคนของหอการค้าสมุน.ถึง ได้เข้ามา แกเองก็อยากจะลิ้มลองรสชาติของการถูกตัด ด้วยใช่มั้ย?”
ผู้คนรอบข้างต่างก็จับจ้องไปที่รพีพงษ์ ผู้มาใหม่กล้าที่จะ ตะโกนใส่พวกเขาแบบนี้ และพวกเขาก็ต้องทำให้ผู้ที่มา ใหม่คนนี้มีสีสันขึ้นมาหน่อย
“รุมมันพร้อมกัน ทำให้ผู้ที่มาใหม่คนนี้รู้กฎของที่นี่”
“แมร่ง ตีมันให้ตายเลย ก็เป็นแค่ไอ้ไก่อ่อนยังกล้ามาอวด เก่ง ดูเหมือนตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ใน สถานการณ์ไหน”
“ทุบตีมันก่อน จากนั้นให้เขาไปเลียห้องน้ำให้สะอาด ดูสิ มันยังจะกล้าอวดเก่งอีกหรือเปล่า”
ไอ้หน้าบากและคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นความวุ่นวายแล้วไม่ กังวลต่างก็พุ่งไปหารพีพงษ์ จะไปจับตัวรพีพงษ์ไว้
รพีพงษ์ตะคอกอย่างเย็นชา และไม่ได้ที่จะเกรงใจคน พวกนี้ อยู่ในสถานที่แบบนี้ มีเพียงหมัดเท่านั้นที่เป็นคำพูด ที่มีเหตุผล ปล่อยให้พวกเขาลิ้นลองความทรมานสักหน่อย และพวกเขาก็ไม่กล้าจะหาเรื่องอีกแล้ว
“หีนี้ แขนขาผอมๆแบบนี้ ฉันชกหมัดเดียวก็….”
ไอ้หน้าบากยังอยากจะพูดจาโอ้อวด น่าเสียดายที่คำพูด ยังพูดไม่หมด ก็ถูกรพีพงษ์ชกไปหนึ่งหมัดตรงบนหน้า ฟัน ทั้งปากของเขาก็หลุดออกมาหมด คนทั้งคนก็หมุนรอบตัว อยู่ในอากาศสามร้อยหกสิบองศา แล้วก็ตกลงไปที่พื้น อย่างรุนแรง
ทุกคนตกตะลึง และพุ่งเข้าหาตะครุบจับรพีพงษ์ แม้ว่า รพีพงษ์จะไม่สามารถใช้เรี่ยวแรงได้จนถึงขีดจำกัด แต่เขา ก็ยังมีเล่ห์เหลี่ยม และทักษะบางอย่างด้วย เหล่านี้ก็กรีด ร้องขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ในไม่ช้า ผู้คนที่ต้องการจะลงมือจัดการกับรพีพงษ์ก็ล้ม ลงกับพื้น ส่วนคนที่เหลือทั้งหมดก้าวถอยหลังสองก้าวด้วย ความกลัว ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้ารนาหาที่ตาย
“ยังมีใครอยากจะเป็นเหมือนพวกเขาอีก?”รพีพงษ์กล่าว อย่างเย็นชา
ในเวลานี้ลมหายใจของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย และไม่ สามารถออกแรงได้ ทำให้ความทนทานของเขาแย่ลงเล็ก น้อย เพียงแค่จัดการกับคนพวกนี้ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าใช้แรงไปมาก
ถ้าหากคนอื่นๆที่เหลืออยู่ในคุกนี้จะลงมือกับ เขาจะ จัดการกับคนพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ร่างกายของเขาก็จะ ล้มเหลวกะทันหัน
กลุ่มคนจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างระมัดระวัง ชายร่างผอมๆ สูงๆคนหนึ่งก็พูดว่า: “แก.. แกอย่าได้ใจไปหน่อยเลย บอกแกให้นะ ว่าลูกพี่ของเรานั้นสุดยอดมา ในตอนนั้นเป็น เพราะเขาทำร้ายประธานหอการค้าสมน. จึงถูกคุมขัง ความแข็งแกร่งของเขาเป็นสิ่งที่แกคาดไม่ถึง พวกเรา ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เป็นคนขอลูกพี่ แกทำร้ายพี่น้องของเรา มากมายขนาดนี้ ลูกพี่ของเราจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่!”
รพีพงษ์จ้องมองเขาอย่างเย็นชา และพูดว่า: “อย่างนั้นก็ เรียกลูกพี่ของพวกแกมาหาฉัน ฉันอยากเห็นว่า เขาจะทำ อะไรกับฉันได้บ้าง”
ชายร่างผอมสูงรีบวิ่งไปที่มุมคุกทันที และทุกคนก็หลีก ทางให้เขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนจ้องมองไปที่ด้วยความยินดี ในความโชคร้ายของรพีพงษ์
“ลูกพี่ไม่ได้ออกแรงมือมาตั้งนาน คราวนี้ไอ้ไก่อ่อนนี้ก็ ถือว่ามีฝีมือไม่เบา ลูกพี่ต้องสนใจเขาอย่างแน่นอน ถึงเวลา ไอ้ไก่อ่อนนี้แย่แน่ๆ”
“ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ เคยเห็นลูกพี่ออกแรงมือไปแค่สอง ครั้ง สองครั้งนั้น สุดท้ายคู่ต่อสู้ของเขาถูกแบกออกไป แม้แต่คนของหอการค้าสมน.เจอเขา ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ง่ายๆ เลย”
“ลูกพี่แค่ออกแรงมือ ไอ้เด็กนี่ก็จะไม่สามารถอวดเก่งได้ อีกแล้ว ต่อให้ไอ้เด็กนี่จะสู้ได้แล้วยังไง ลูกพี่เราก็สามารถ จัดการเขาได้ในหมัดเดียว”
รพีพงษ์ฟังคนพวกนี้พูดถึงคนที่เรียกว่าลูกพี่ และในส่วน ลึกของใจก็ไม่แน่ใจ ถ้าหากอยู่ในที่สภาพปกติ รพีพงษ์จะ ไม่กลัวสิ่งใด แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงในร่างกายยังไม่ฟื้นตัว ถ้า หากเขาเจอกับคนที่สามารถสู้ได้จริงๆ ผลจะเป็นอย่างไร คาดเดาไม่ได้จริงๆ
เขาเหลือบมองไปยังสถานที่ที่ชายร่างผอมสูงวิ่งผ่านไป ตรงหัวมุม ชายคนหนึ่งผมแสกกลาง และเสื้อผ้าซอมซ่อ ดู ไปแล้วเหมือนกับผู้ชายที่จรจัดนอนกรนอยู่ที่นั่น
หลังจากที่ชายร่างผอมสูงวิ่งไป ก็ใช้มือสะกิดชายคนนั้น เบาๆ แล้วพูดเบาๆ: “ลูกพี่ เรามีคนเข้ามาใหม่ที่นี่ อวดเก่ง มาก และก็ทุบตีคนของพวกเรา มันยังท้าทายลูกพี่ด้วย พี่ ว่าน่าจะออกแรงมือสั่งสอนเขาหน่อยมั้ย?”
ชายคนนั้นหยุดกรนทันที จากนั้นยกมือขึ้นตบหน้าชาย รูปร่างผอมสูง และก่นด่าว่า: “เย็*แมร่ง ใครกล้ารบกวน การนอนของกู ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง ชายร่างผอมสูงชี้ไปที่ รพีพงษ์ ด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ และพูดว่า: “คือมัน ลูกพี่ ไม่เกี่ยวกับ ผม ถ้าพี่จะสั่งสอน ก็น่าจะไปสั่งสอนเขา”
พี่ใหญ่หันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ ใบหน้าของเขาเต็มไป ด้วยฝุ่น รพีพงษ์ก็เลยมองไม่ออกว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง
หลังจากที่พี่ใหญ่คนนั้นมองเห็นรพีพงษ์ ก็ลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบเข้าไปหารพีพงษ์
เมื่อทุกคนมองไปที่ท่าทางของพี่ใหญ่ ต่างยินดีกับความ โชคร้ายของรพีพงษ์ โดยคิดว่าลูกพี่ของพวกเขาจะต้อง จัดการรพีพงษ์อย่างแน่นอน “ลูกพี่ไม่เคยมีท่าทางแบบนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าเขาจะ
โกรธไอ้เด็กนี้มาก ตอนนี้ไอ้เด็กนี้จบแน่”
“พวกแกดูสายตาของลูกพี่ มันเหมือนเห็นเหยื่อเลย เป็น สิ่งที่ลูกพี่ชอบมากที่สุด ก็คือสั่งสอนคนที่คิดว่าตัวเอง %3D แข็งแกร่ง ไอ้เด็กคนนี้เป็นผู้ท้าชิงที่ดีที่สุด”
“แมร่งเอ้ย ให้ลูกพี่ทุบตีเขาตายไปเลยก็ดี ฟันที่เต็มปาก ของฉัน เจ็บปวดมาก”ไอ้หน้าบากลุกขึ้นจากพื้น แล้วพูด อย่างเบลอๆ
รพีพงษ์จ้องไปที่ลูกพี่คนนี้ด้วยความประหม่าเล็กน้อย
เขาสามารถสัมผัสถึงรัศมีที่ฝีมือที่ยอดเยี่ยมจากลูกพี่คนนี้
ได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นลูกพี่ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม
ผู้ๆ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่ตอนนี้ไม่ สามารถเอาชนะได้ในสำหรับสถานการณ์เช่นนี้
หลังจากที่ลูกพี่เดินไปข้างหน้ารพีพงษ์ ก็หยุด จากนั้นมือ สั่นทั้งสองของเขายกขึ้นมา พยายามจับมือของรพีพงษ์
สีหน้ารพีพงษ์เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่ร้ว่าลกพี่คนนี้จะมาแนวไหน
ทุกคนในคุกต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า นี่ คงจะเป็นวิธีใหม่ที่พี่ใหญ่ของพวกเขาคิดขึ้นมา
“นี่คงเป็นวิธีใหม่ของพี่ใหญ่ ค่อยดูเถอะ ไอ้เด็กนี่ถูกพี่ ใหญ่สั่งสอนให้เป็นผู้เป็นคนแน่”คนคนหนึ่งตะโกน
ในขณะนี้ ลูกพี่คนนั้นจู่ๆก็จับมือของรพีพงษ์ สีหน้าเต็ม ไปด้วยความดีใจแล้วเรียก: “พี่รพี ใช่พี่หรือเปล่า ฉันคิดถึง พี่เหลือเกิน”