พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 253 ทำตามใจคุณได้เลย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 253 ทำตามใจคุณได้เลย
เกียวโต ในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
จักรพันธ์ขว้างแก้วชาลงกับพื้น แล้วด่าอย่าง เกรี้ยวกราดว่า “คนของแม่ทำงานยังไง คนตัวใหญ่ ขนาดนั้นยังให้มันหนีไปได้ ผมอยู่ห้องใต้ดินนั่นตั้ง นาน หวังทุกวันที่จะได้เจอกับคุณหนูของหอการค้า สมน. สุดท้ายแม่บอกผมว่าคุณหนูหายไปแล้ว แม่ง แม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”
วิธรามองไปที่จักรพันธ์อย่างเสียใจ แต่กลับไม่รู้ สึกว่าการกระทำของเขานั้นเกินเหตุแต่อย่างใด “จักรพันธ์ เรื่องนี้แม่ทำพลาดเอง แม่ดูคุณหนูของหอ การค้าสมน.ไม่ดีเอง ที่สำคัญคือแม่ดันไปเชื่อใจไอ้ สวะหอการค้าสมุนนั่นเอง ใครจะรู้ว่าแค่คนๆเดียว มันจะดูไว้ไม่ได้ ตอนนี้แม่ติดต่อเขาไป เขาก็ไม่ตอบ แม่แล้ว”
“งั้นแม่พูดสิว่าจะเอาไงต่อไป ผมรอมาตั้งนาน ไอ้สวะรพีพงษ์เป็นตัวตายตัวแทนให้ผมก็แล้ว สุดท้ายเมื่อผมออกมา อยากจะปลดปล่อยให้สบาย สักหน่อย คนกลับไม่อยู่แล้ว คนพวกนั้นที่แม่หาให้ ผมก็เป็นพวกไม่ได้เรื่องทั้งนั้น ไม่สนุก แม่จะให้ผม ปลดปล่อยได้ไงกัน?” จักรพันธ์พูดอย่างไม่เกรงใจวีธราแต่อย่างใด เขาคิดแค่เพียงว่านี่เป็นสิ่งที่วีธราจะ ต้องทำอยู่แล้ว
วีธรายิ้มแบบมีเลศนัยต่อจักรพันธ์ แล้วกล่าว
“จักรพันธ์ ถึงแม้คุณหนูหอการค้าสมน.จะหนีไป แต่ ลูกก็ยังมีอีกตัวเลือกหนึ่งหนิ คนนี้ทำให้ลูกตื่นเต้น แน่นอน”
จักรพันธ์ชั่วัก แล้วถาม “ใคร?”
วีธราหัวเราะ แล้วกล่าว “แน่นอนว่าต้องเป็น ภรรยาคนนั้นของรพีพงษ์ไงล่ะ เมื่อก่อนลูกบอกว่า อยากลิ้มลองภรรยาของรพีพงษ์ไม่ใช่หรอ ตอนนี้ คุณหนูของหอการค้าสมน.หนีไป รพีพงษ์ก็ตายไป กับน้ำมือของคนหอการค้าสมน.แล้วด้วย ลูกเล่นกับ ภรรยาของมัน รับรองไม่มีใครกล้าขัดขวางเป็นแน่” วีธรายังไม่รู้ว่ารพีพงษ์ได้หนีออกจากห้องของหอ การค้าสมุนแล้ว เธอยังคิดว่าคนของหอการค้า สมน.ได้ฆ่ารพีพงษ์ไปแล้วเสียอีก
เมื่อจักรพันธ์ได้ยินคำพูดของวีธราแล้ว ตาเป็น ประกายขึ้นมา แล้วตบไปที่หน้าขา กล่าว “ใช่ ผมยัง เอาภรรยาของรพีพงษ์ได้หนิ ได้ยินมาว่าภรรยาของ ไอ้สวะนั่นก็สวยมิใช่น้อย ถ้าได้ลิ้มลองแล้ว จะต้อง ตื่นเต้นแน่นอน เสียดายที่ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นได้ตาย ไปแล้ว ไม่งั้น ผมจะต้องให้มันเห็นเองกับตา”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ แม่จะซื้อตั๋วให้ลูกไปเมืองริ เวอร์เดี๋ยวนี้ แล้วจัดคนติดตามไปสองสามคน เมือง เล็กๆอย่างเมืองริเวอร์นั้น หลังจากที่ลูกถึงแล้ว อยาก ทำอะไรก็ทำล่ะกัน” วีธรากล่าวพลางยิ้ม
จักรพันธ์หลับตาลง แล้วกล่าว “แม่ไม่ต้องจัดคน ให้ผม ผมไปเองก็ได้ รพีพงษ์คือไอ้สวะ แต่ผมไม่ใช่ ผมไปอยู่ที่นั่น จะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าทันแน่นอน ไม่แน่ ภรรยาหลงเสน่ห์ผม อาจจะมอบกายถวายตัวให้เลย ก็ได้นะ”
วีธราลังเลสักพัก ความจริงเธอกลัวว่าจักรพันธ์ เมื่อออกไปข้างนอกแล้วจะโดนรังแกได้ แต่ในเมื่อ เห็นจักรพันธ์เชื่อมั่นขนาดนี้ เธอก็ไม่อยากขัด จักรพันธ์ ดังนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วย
“โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ ลูกไปคนเดียวก่อนล่ะ กัน ถ้าลูกมีปัญหาที่นุ่น ต้องโทรหาแม่เลยนะ แม่จะ จัดคนไปในทันที จำได้ใช่ไหมจักรพันธ์?”
“พอล่ะ ผมรู้แล้ว อย่าดูถูกผม ผมจักรพันธ์ผู้ เก่งกาจเหนือใคร จะเอาไปเทียบกับไอ้สวะรพีพงษ์ นั่นไม่ได้ ถ้าเจอกับปัญหาผมก็แก้ได้อย่างง่ายดาย” จักรพันธ์พูดอย่างรำคาญ
วีธรามองจักรพันธ์ด้วยความรัก แล้วกล่าว “คำ พูดนี้พูดได้ไม่เลว จะเอาจักรพันธ์ของแม่ไปเปรียบกับไอ้สวะรพีพงษ์นั่นได้ไงกัน ได้ยินคำพูดนี้ของลูก แล้ว แม่ก็หมดห่วง แม่จะไปซื้อตั๋วเครื่องบินเดี่ยวนี้ แหละ”
จักรพันธ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วออกไปหาอะไร สนุกๆทำ
ขณะนี้เองที่โยษิตาเดินเข้ามาในห้อง เธอจ้องไป ที่วีธรา แล้วถาม “แกจะให้จักรพันธ์ไปเมืองริเวอร์ จริงๆหรอ”
“อะไรที่จักรพันธ์ชอบ ฉันก็ต้องส่งเสริมเขาเป็น ธรรมดา ผู้คนในที่เล็กๆอย่างเมืองริเวอร์ ก็เป็นได้ เพียงของเล่นของจักรพันธ์เท่านั้นแหละ ทำไม หรือ แกรับไม่ได้?”วีธราถาม
โยษิตายิ้ม แล้วกล่าว “จะเป็นไปได้ยังไง เพียง แค่รู้สึกว่าภรรยานั่นของรพีพงษ์ไม่เลวจริงๆ ถ้า จักรพันธ์ได้เห็นจะต้องชอบแน่ๆ”
“งั้นก็ดี ยังไงรพีพงษ์ก็ตายไปแล้ว ให้จักรพันธ์ ไปดูแลภรรยาเขาหน่อยแล้วกัน ถ้าเขารู้ เขาจะต้อง ซาบซึ้งใจเป็นแน่” วีธรากล่าว
โยษิตาไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึก ว่ารพีพงษ์ไม่ได้ตายง่ายดายขนาดนั้น แต่วีธราได้ส่ง รพีพงษ์ให้กับหอการค้าสมน.แล้วจริงๆ การที่รพีพงษ์ จะหนีออกมาจากหอการค้าสมุน.ได้นั้น มีความเป็นไปได้ต่ำมาก
หรืออาจจะคิดผิดไปเอง โยษิตาพึมพำในใจ
กลางคืนของวันเดียวกันนั้น จักรพันธ์ก็ได้นั่ง เครื่องไปถึงเมืองริเวอร์
หลังจากที่ออกมาจากสนามบินแล้ว จักรพันธ์ได้ ดูวิวทิวทัศน์ยามราตรีของเมืองริเวอร์ กล่าวพลางยิ้ม ว่า “ถึงแม้สถานที่ตรงนี้เทียบไม่ได้กับเกียวโต แต่ก็ ไม่ถือว่าล้าหลัง ในเมืองน่าจะพัฒนาไปไม่น้อย รพี พงษ์ ไม่รู้ว่าภรรยาแกจะเป็นยังไงบ้างนะ เดี๋ยวก็จะ ได้เจอภรรยาของแกแล้ว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”
ก่อนมาโยษิตาได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับ ที่นี่ให้จักรพันธ์ฟังบ้างแล้ว ดังนั้นจักรพันธ์จึงรู้ว่ารพี พงษ์อาศัยอยู่ที่ไหน เขานั่งรถไปที่ดงเย็นโดยตรง
เขาวางแผนปลอมตัวเป็นรพีพงษ์ เพราะเขาและ รพีพงษ์มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกัน ถ้าไม่ดูโดย ละเอียดล่ะก็ ไม่มีทางดูออกอย่างแน่นอน ถ้าอารียา เอาเขาเป็นรพีพงษ์ตามที่เขาคิดไว้ล่ะก็ อนาคตเขา ค่อยเปิดเผยตัวตน เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ถึงประตูดงเย็น เห็นที่กั้น จักรพันธ์ก็รู้สึกเซ็งขึ้น มาทันที เขาไม่มีแม้แต่กุญแจของที่นี่ เขาไม่คิดว่า ก้าวแรกเมื่อเขามาถึง ก็จะต้องถูกกีดกันเสียแล้ว
หลังจากที่ยามเฝ้าประตูเห็นจักรพันธ์แล้วนั้น คิดว่าเขาคือรพีพงษ์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆก็เปิด ประตูให้ทันที ยังยิ้มต่อจักรพันธ์ แล้วกล่าว “คุณรพี ลืมเอากุญแจมาใช่ไหม เข้าไปได้เลยครับ คุณอยู่ดง เย็นอยู่แล้ว ไม่ต้องขวางคุณไว้ก็ได้ครับ”
จักรพันธ์ไม่ได้เกรงใจแต่อย่างใด ก็เดินเข้าไป ข้างในโดนตรง เพียงแค่ในใจรู้สึกสงสัยขึ้นมา ทำไม รพีพงษ์ถึงได้รับการเคารพขนาดนี้ เขาไม่ใช่ไอ้สวะ หรอกหรอ?
เขาไม่ได้คิดมาก คิดเพียงว่ายามของหมู่บ้านนี้ เป็นมิตรเท่านั้น
ตรงดิ่งตามถนนไปยังวิลล่า จักรพันธ์เดินเข้าไป โดยตรง ประตูของวิลล่าไม่ได้ปิดไว้ เขาก็เดินตรง เข้าไปเลย
ศศินัดดาและศักดานั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เห็นว่ามี คนเดินเข้ามา ก็รีบหันไปดู เห็นว่าเป็นรพีพงษ์แล้ว ก็ รีบลุกขึ้นมา
“รพีพงษ์ คุณกลับมาแล้วหรอ ธุระของคุณทำ เสร็จเร็วขนาดนี้เลยหรอ รีบเข้ามาเปลี่ยนรองเท้า พักผ่อน คุณหิวหรือยัง เดี่ยวฉันจะไปทำอาหารให้ คุณเดี๋ยวนี้”ศศินัดดาพูดอย่างกระตือรือร้น
หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์คือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น ท่าทีของศศินัดดาและศักดาที่มีต่อ รพีพงษ์ก็เปลี่ยนไปต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ตอนนี้ที่ ศศินัดดายังไม่ได้ทำก็คือดูแลรพีพงษ์ดั่งลูกน้อยใน อ้อมกอดเท่านั้น
จักรพันธ์รู้สึกแปลกใจ เขาคิดว่าหลังจากที่เขา กลับมาแล้วนั้น ครอบครัวของรพีพงษ์จะต้องทำไม่ดี ต่อเขาแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าท่าทีของพวกเขาจะดีขนาดนี้ ดูๆแล้วในครอบครัวรพีพงษ์ก็มีจุดยืนที่ไม่เลวนะ
ในเมื่อท่าทีของพวกเขาดีขนาดนี้ งั้นเขาก็ไม่ จำเป็นต้องเกรงใจอะไรอีกต่อไปแล้ว เขาเดินไป ข้างๆโซฟา แล้วพูดกับศักดา “ไอ้แก่ แกไปนั่งตรงนู้น ไป ให้ฉันเอนตัวตรงนี้หน่อย”
ศักดาไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะกล้าทำแบบนี้กับ เขา ก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร รีบลุก ไปนั่งที่อื่น
“แล้วก็แก ทำอะไรอร่อยๆให้ฉันกินหน่อย ไม่ อร่อยฉันไม่กิน”จักรพันธ์หันไปพูดกับศศินัดดา
ศศินัดดาไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของรพีพงษ์มา ก่อน คิดในใจว่าไอ้เด็กนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ นี่ถ้า เป็นเมื่อก่อน เขาจะกล้าพูดแบบนี้ได้ไง
แต่ศศินัดดานึกถึงตัวตนของรพีพงษ์ที่เป็น ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ เธอยังต้องพึ่งรพีพงษ์เพื่อถีบตัวเองขึ้นไปอยู่อีกระดับ เพื่ออนาคตที่ สวยงาม ตอนนี้เธอจึงทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น
ไม่นาน อารียากลัมมาจากข้างนอก เมื่อเธอเห็น คนที่นอนอยู่บนโซฟาคือรพีพงษ์แล้ว ก็สะดุ้ง ยิ้มด้วย ความตกใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คุณกลับมาไม่บอก ฉันสักคำ”
จักรพันธ์หันไปมอง หลังจากที่เห็นรูปร่างของ อารียาแล้ว ตาก็เป็นประกายขึ้นมา ภรรยาคนนี้ของ รพีพงษ์ชั่งพอดีจริงๆ ไม่คิดว่าจะสวยได้ขนาดนี้ รพี พงษ์มันชั่งฌชคดีจริงๆ
เขายืนขึ้นจากโซฟา ยิ้มแล้วพูดกับอารียา “ผมก็ แค่อยากเซอร์ไพรส์คุณ ภรรยา รีบมาให้ผมจับ หน่อย”
อารียาเขินอาย ถึงแม้เมื่อก่อนรพีพงษ์ไม่เคยทำ แบบนี้มาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจใดๆ เพียงแค่คิดว่ารพีพงษ์ไปทำธุระกลับมา คิดถึงเธอ จึง ได้เป็นแบบนี้
“คุณพูดบ้าอะไรกัน พ่อก็อยู่นะ รอให้กลับห้อง ก่อนค่อยว่ากัน” อารียากล่าวอย่างเขินอาย
จักรพันธ์หัวเราะ แล้วกล่าว “ใช่ใช่ใช่เรื่องแบบนี้ ต้องกลับไปทำที่ห้อง”
ไม่นาน ศศินัดดาก็เตรียมอาหารเสร็จ ยกมาให้ รพีพงษ์ ให้เขาและอารียากิน
ในขณะกินข้าว จักรพันธ์จ้องอารียาตลอดเวลา จ้องจนอารียารู้สึกเขินอายแล้ว
แล้วอารียาก็ยังรับรู้ได้ว่ารพีพงษ์เปลี่ยนไปไม่ เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เธอนู สึกประหลาดใจ แต่ก็พูดไม่ออกว่าแปลกตรงไหน
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว จักรพันธ์รีบคว้าตัว ของอารียาเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว หลังจากปิด ประตูแล้ว จักรพันธ์ได้ผลักอารียาลงบนเตียง ยิ้ม แบบมีเลศนัย แล้วกล่าว “ภรรยา ไม่เจอผมนาน ขนาดนี้ น่าจะคิดถึงผมมากสินะ ไม่ต้องรีบนะ ผมจะ ทำให้คุณสบายเอง รับรองว่าสบายกว่าเมื่อก่อน แน่นอน”
“ไอ้หยา คุณพูดบ้าอะไร เมื่อก่อนพวกเราเคยทำ เรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน” อารียาพูดอย่างเขินอาย
จักรพันธ์สะดุ้ง เมื่อก่อนไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ นั่น ก็หมายความว่า ภรรยาคนนี้ของรพีพงษ์ ยังซิงอยู่ หรอ?
แม่ง ครั้งนี้มันชั่งได้กำไรจริงๆ จักรพันธ์ตื่นเต้น ขึ้นมาทันที
“แต่ก่อนครั้งที่แล้วหน้าที่คุณจะไป ฉันบอกแล้ว ว่า ให้คุณกลับมา แล้วจะมีลูกให้คุณ ดังนั้น ….วันนี้ ทำตามใจคุณได้เลย”