พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้
บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้
ศศินัดดาหันไปมองที่หน้าประตู เห็นธีรศานติ์อยู่ ในชุดสูท บนตัวของเขามีรัศมีที่ไม่เหมือนคนทั่วไป เธอพอเดาได้ว่าคนคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่นอน แต่ตอนนี้เธอมีนคินทร์คอยหนุนหลังอยู่จึง ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
นคินทร์เป็นคนของหอการค้าสมน. ในเกียวโต หอการค้าสมน.มีอิทธิพลเทียบเท่ากับตระกูลลัดดา วัลย์ ถึงแม้นคินทร์จะเป็นเพียงผู้รับผิดชอบหอการ ค้าสมน.สาขาเมืองริเวอร์ แต่ใครจะมายั่วโมโหเขาก็ ไม่ใช่เรื่องง่าย
สำหรับศศินัดดา ผู้รับผิดชอบสาขาอย่าง นคินทร์ยังเก่งกว่าหัวหน้าตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองริ เวอร์อย่างตระกูลกุลสวัสด์เสียอีก
“คุณอบรมลูกยังไง ไม่มีมารยาทแม้แต่น้อย คุณ รู้ไหมว่าตอนนั้นยัยเด็กนี่มันผลักฉัน เกือบทำให้ฉัน เอวหัก คุณรีบให้ลูกสาวที่ไม่รู้ความขอโทษฉันเดี่ยว นี้ อีกอย่างพวกคุณต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฉันห้า แสน ไม่งั้นวันนี้พวกคุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” ศศิ นัดดาพูดด้วยท่าทีโมโห
ธีรศานติ์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณว่าใครไม่ได้รับ การสั่งสอน ถ้าลูกสาวของผมทำผิด ผมจะให้เธอ ขอโทษคุณ แต่ตอนนี้ท่าทางของคุณดูเหมือนคนที่ ไม่ได้รับการสั่งสอนยิ่งกว่าลูกสาวผมอีกนะ”
“พ่อ ที่หนูผลักเขาเพราะเขาหน้าไม่อาย รั้งไม่ให้ พวกเราไปช่วยคน แถมยังขอเงินจากรพีพงษ์ หนูคิด ว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิด หนูจึงไม่ขอโทษ” จารุณีเอ่ย ขึ้น
“นังเด็กนี่ แกว่าใครหน้าไม่อาย แกมานี่เลยนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ตบแก แกคงไม่รู้ฤทธิ์ของฉัน”
ศศินัดดาพูดพลางยกมือจะตบจารุณี ธีรศานติ์ จับข้อมือของศศินัดดาเอาไว้ จากนั้นจึงใช้แรงผลัก เธอกลับไป
ศศนัดดาเกือบจะล้มลงบนพื้น หลังจากที่เธอยืน ได้อย่างมั่นคง เธอมองสองพ่อลูกด้วยสายตา เคียดแค้น “นี่มันพ่อลูกอะไรกัน พวกแกสองคนคง ไม่ใช่คนดีอะไรสินะ แกกล้ามาผลักฉัน ไอ้พวกตา ต่ำ!”
“ฉันจะบอกแกให้นะ คนที่ยืนอยู่ข้างฉันคือคน ของหอการค้าสมน. แกเคยได้ยินชื่อหอการค้า สมน.หรือเปล่า ชื่อเสียงของที่นั่นเทียบเท่าตระกูล ลัดดาวัลย์เลยนะ เขาคือเพื่อนเก่าของฉัน เมื่อกี้เขาบอกว่าจะช่วยฉันจัดการพวกแก พวกแกรีบขอโทษ ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นไม่ว่าพวกแกจะทำอะไร เพื่อนของ ฉันแค่ยกหูโทรศัพท์ครั้งเดียวก็สามารถทำให้พวก แกล้มละลายได้!”
พูดจบศศินัดดาก็ทำหน้าเย่อหยิ่ง เธอเข้าใจว่า หลังจากที่ธีรศานติได้ยินว่านคินทร์เป็นคนของหอ การค้าสมน. แล้วจะรีบมาขอโทษเธอ
แต่เธอไม่ได้สังเกตว่านคินทร์ที่ยืนอยู่ข้างเธอ ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก สีหน้าซีดเผือด
นคินทร์คิดไม่ถึงว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็น ประธานของหอการค้าสมน. วันนี้เขาเตรียมรถให้ ประธาน เขานึกว่าประธานจะไปทำเรื่องสำคัญอะไร คิดไม่ถึงว่าจะมาโผล่ที่บ้านของศศินัดดา
และเด็กสาวที่ศศินัดดาจะจัดการก็คือลูกสาว ของประธาน ถึงจะมอบความกล้าให้นคินทร์ขนาด ไหน เขาก็ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับลูกสาวของประธาน หอการค้าสมุน.อย่างแน่นอน
ธีรศานติ์หันไปมองนคินทร์แล้วแสยะยิ้ม “เหรอ ฉันจะรอดูว่าเขาจะทำยังไงให้ฉันล้มละลาย”
ศศินัดดาเห็นธีรศานติไม่เป็นเดือดเป็นร้อน จึง หงุดหงิดขึ้นมาทันที เธอหันไปพูดกับนคินทร์ที่ยืน อยู่ข้างๆ “เพื่อนรัก มันยังไม่เชื่อ ในเมื่อมันรนหาที่ตาย งั้นนายทำให้มันรู้ฤทธิ์ของนายหน่อย โทรไปหา คนของหอการค้าสมุน. ให้มันล้มละลายซะ”
นคินทร์ยังไม่พูดอะไร ตอนนี้เขาโดนคำพูดของ ศศินัดดาทำให้ตกใจนเป็นใบ้ไปแล้ว อยากพูดแต่ก็ พูดไม่ออก
ศศินัดดาเห็นนคินทร์ยังไม่พูดอะไร จึงรู้สึก ประหลาดใจเล็กน้อย “เพื่อนรัก นายเป็นอะไรไป เมื่อ กิ้นายบอกว่าจะช่วยฉันจัดการมันไม่ใช่เหรอ พวกหอ การค้าสมน.เก่งมาไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงไม่พูดอะไร เลยล่ะ”
นคินทร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “คน ที่อยู่ตรงหน้าเธอคือประธานหอการค้าสมน. เขาพูด แค่คำเดียวก็กำจัดฉันได้แล้ว ครั้งนี้เธอทำให้ฉันซวย แล้ว หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องลูกรักของประธาน ฉันว่าเธอสมควรโดนแล้วล่ะ”
พูดจบ นคินทร์รีบเดินเข้าไปหาธีรศานติ์ “ประธานครับ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคน นี่มันเป็นเรื่อง เข้าใจผิดครับ เพื่อนของผมสมองมีปัญหา คุณอย่า ไปอะไรมากกับเธอเลยครับ”
“ใครสมองมีปัญหา นคินทร์ นายบอกว่านายเป็น ผู้รับผิดชอบสาขาเมืองริเวอร์ไม่ใช่เหรอ แล้ว ประธานนี่โผล่มาจากไหน” ศศินัดดาเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“เขาคือประธานสำนักงานใหญ่ของหอการค้า สมน. มาจากเกียวโต คนในหอการค้าทั้งหมดต้องฟัง เขา ตอนนี้เธอรู้แล้วหรือยังว่ากำลังยั่วโมโหใครอยู่!” นคินทร์ตะโกนด้วยความโกรธ
ศศินัดดาอึ้งไป คนทั้งหอการค้าสมน.ต้องฟังเขา เหรอ อย่าบอกนะว่าคนคนนี้มีฐานะเทียบเท่ากับ ตระกูลลัดดาวัลย์อย่างนั้นเหรอ
ศศินัดดาคร่ำครวญอยู่ในใจ คิดว่าตัวเองซวย แล้ว ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็เจอแต่พวกมีอำนาจ คน แรกก็โยษิตา นี่ก็ประธานหอการค้าสมน.อีก เธอคง ไม่สามารถผ่านวันนี้ไปได้อีกแล้ว
เธอหันไปมองรพีพงษ์ เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วย รอยยิ้มได้ใจ เธอโมโหขึ้นมาในใจ คิดในใจว่าการที่ เธอซวยขนาดนี้ก็เพราะว่ารพีพงษ์ ไม่แน่รพีพงษ์อาจ จะจงใจก็ได้
“เธอรีบขอโทษประธานกับลูกสาวของเขาเลย นะ ถ้าฉันต้องโดนไล่ออกเพราะเธอ เรื่องนี้ไม่จบแน่!” นคินทร์ตะโกนใส่ศศินัดดาท่าทางแตกต่างกับตอน ที่นั่งคุยกันที่โซฟาโดยสิ้นเชิง
ศศินัดดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอมองไปยัง สองพ่อลูกแล้วพูดออกมาว่า “ขะ ขอโทษ”
จารุณีเห็นศศินัดดาขอโทษ เธอรีบแลบลิ้นปลิ้น ตาใส่ศศินัดดา “เมื่อกี้เธอเก่งมากไม่ใช่เหรอ ยังจะ ทำให้บ้านฉันล้มละลาย ทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าพูด แบบนั้นแล้วล่ะ”
สีหน้าของศศินัดดาเต็มไปด้วยความลำบากใจ ตอนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของจารุณี เธอไม่กล้าพูด อะไรจริงๆ
“ขอโทษจริงๆ นะคะท่านประธาน เธอเป็นแม่ ของฉันค่ะ บางครั้งเธอก็ไม่มีเหตุผล หวังว่าคุณจะไม่ ถือสานะคะ” อารียาพูดกับธีรศานติด้วยสีหน้ารู้สึก ผิด
หลังจากที่ธีรศานติ์รู้ว่าศศินัดดาเป็นแม่ของอารี ยา เขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเคลียร์กันได้ก็ พอแล้ว ฉันไม่ได้อยากทำให้แม่ของเธอลำบากใจ เหมือนกัน”
“ประธานเป็นคนใจกว้าง แน่นอนว่าเขาไม่มาคิด เล็กคิดน้อยกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอก” รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดออกมา
ศศินัดดาจ้องเขา คิดในใจว่าตอนนั้นเขาไม่พูด แต่ตอนนี้กลับเสแสร้ง ตอนนี้เธอกำลังอดกลั้นความ โกรธ หลังจากนี้จะระบายกับเขาอย่างแน่นอน
นคินทร์เห็นว่าเคลียร์เรื่องนี้ได้แล้ว เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ในเมื่อเคลียร์กันได้แล้ว งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้อง อยู่ที่นี่อีกแล้ว ฉันต้องรีบกลับเกียวโต ครั้งนี้มาสร้าง ความวุ่นวายให้พวกคุณแล้ว” ธีรศานติ์มองรพีพงษ์ “กลับไปครั้งนี้ ฉันจะต่อสู้กับตระกูลลัดดาวัลย์อย่าง ถึงที่สุด ถึงลูกสาวของฉันจะไม่เป็นอะไร เรื่องนี้ก็ไม่ ควรปล่อยไปแบบนี้”
รพีพงษ์พยักหน้า เรื่องนี้แลกกับการได้ผู้ช่วยที่ มากความสามารถอย่างหอการค้าสมน. สำหรับเขา แล้วถือเป็นเรื่องที่ดี
ขณะที่รพีพงษ์กำลังส่งธีรศานติ์กับจารุณีกลับ จู่จารุณีก็วิ่งเข้ามาจับแขนของรพีพงษ์
“พ่อ หนูไม่กลับ หนูจะอยู่กับรพีพงษ์ เขาไปไหน หนูก็ไปด้วย พ่ออย่าได้คิดแยกเราออกจากกัน”