พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 51
บทที่ 51 ทำไมนายรังแกคนแบบนี้
“ฮี นี่นายคิดว่าฉันจะแพ้งั้นหรือ? ฝันไปเถอะ”เจสสิก้าพูด อย่างเหยียดหยาม “คนอย่างนายนี่มันหน้าด้านจริงๆ คิด อยากจะเป็นปรมาจารย์ของฉันยังไม่พอ แล้วยังคิดจะเป็น อาจารย์ของอาจารย์ฉันอีกเนี่ยนะ?”
รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าฉันบอกว่าแท้ที่จริงแล้วฉันเป็น คนสอนหมากล้อมให้อาจารย์ของเธอ หรือในอีกแง่หนึ่งก็ คือฉันเป็นอาจารย์ของเขา เธอจะเชื่อไหม?”
“เชื่อกับผีน่ะสิ!”เจสสิก้าพูดอย่างหนักแน่น “นายถึง ขนาดบอกว่าตัวเองเป็นอาจารย์ของอาจารย์ฉัน ฉันคิดว่า นายคงฝันกลางวันแล้วจริงๆ”
จนกระทั่งตอนนี้เจสสิก้าก็ยังคงคิดว่ารพีพงษ์เป็นแค่ไอ้ เศษสวะคนหนึ่ง เธอเชื่อว่าที่ชุติเทพช่วยรักษาอาการป่วย เนื่องจากรพีพงษ์และชุติเทพเป็นญาติกัน
“งั้นถ้านายแพ้ฉัน นายจะต้องยอมรับฉันเป็นอาจารย์ และนายจะต้องเชื่อฟังฉันนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” เจสสิ ก้าพูดต่อ
“พูดแล้วไม่คืนคำ” รพีพงษ์ตอบตกลง
เจสสิก้ายิ้มเยาะเย้ยอย่างเย็นชา พลางมองรพีพงษ์ ราวกับว่ามองเหยื่อ เธอไม่เคยกลัวการประลองหมากล้อม ไม่ว่ากับใครก็ตาม
ตอนนี้ฝีมือของเธอพัฒนาไปในระดับสูงมากแล้ว แม้กระทั่งอาจารย์ของเธอยังต้องใช้ความคิดอยู่สักพักเพื่อ เอาชนะเธอให้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไอ้เศษสวะอย่างรพีพงษ์ คนนี้หรอก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่รพีพงษ์พูดกับเธอนั้นไม่ได้เป็นเพียง การโอ้อวด แท้ที่จริงแล้วรพีพงษ์เป็นคนสอนหมากล้อมให้ ชุติเทพจริงๆ
ทั้งสองเริ่มต้นอย่างรวดเร็วโดยมีไตรทศคอยดูอยู่ข้างๆ เขาไม่กล้าพูดอะไรในตอนนี้
ขณะที่เริ่มเจสสิก้ายังคงดำเนินเกมอย่างดุดันและ
รวดเร็ว และคิดแค่ว่าแม้รพีพงษ์จะเล่นหมากล้อมเป็น แต่
อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นมือสมัครเล่น
ทว่าในระหว่างที่เดินหมากล้อม เจสสิก้าก็พบว่าในตอน แรกเธอดูถูกการวางหมากของรพีพงษ์ แต่ตอนนี้ตัวเอง กลับตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เธอเกาหัวเล็กน้อย
การเดินหมากแต่ละครั้ง เจสสิก้าพยายามจับตามองรพี พงษ์อยู่นานเพื่อพยายามที่จะเดาความคิดของเขาผ่าน ดวงตา
อย่างไรก็ตามใบหน้าของรพีพงษ์ก็ยังคงเผยให้เห็นแต่ รอยยิ้มอยู่เสมอ แววตานิ่งสงบเหมือนสายน้ำทำให้คนคาด เดาไม่ได้
รพีพงษ์เดินหมากต่อไปอย่างระมัดระวัง หมากล้อมทั้ง กระดานล้วนเป็นสนามรบของเขา ตั้งแต่ที่เขาวางหมากลง ไปครั้งแรก สนามรบทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ความสามารถในการคำนวณในใจของเขานั้นทรงพลัง อย่างมาก ระหว่างการเดินหมากแต่ละครั้ง เขาได้คำนวณ สถานการณ์หลังจากที่เดินหมากเป็นร้อยครั้งแล้ว และคู่ ต่อสู้ของเขาก็ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่นก็คือเจสสิก้า พูดได้ว่าเขาสามารถชนะหมากกระดานนี้โดยไม่ต้องใช้ ความพยายามใดๆ
ความภาคภูมิใจของเจสสิก้าที่มีในตอนแรกได้หายไป เธอใช้ความคิดอยู่เป็นเวลานานในการเดินหมากครั้งต่อไป
การเดินหมากของเธอในแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ผ่าน ไปสักพักรพีพงษ์ก็ได้ปิดทางหนีเธอโดยตรง ทำให้ขั้นตอน ที่เธอวางแผนไว้ในตอนแรกถูกปิดตาย
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากโดนรพีพงษ์คนนี้ดูถูกเธอ หากว่า
ตามลักษณะการเล่นหมากล้อมของเจสสิก้าและชุติเทพ
แล้ว เกรงว่าเดินหมากพลาดแล้วจะเริ่มหวนกลับมาเดิน
หมากใหม่อีกครั้ง
แม้ว่าไตรทศจะไม่ค่อยเข้าใจการเล่นหมากล้อม แต่เมื่อ สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของทั้งสองคนแล้ว ก็พอ จะเดาออกได้ว่าใครเป็นผู้คุมเกม
เมื่อเห็นเจสสิก้าแทบจะเป็นบ้า ไตรทศก็รู้สึกชื่นชมรพี พงษ์ขึ้นมา โดยคิดว่ารพีพงษ์เป็นคนที่มีความสามารถรอบ ด้านจริงๆ ภายใต้รูปลักษณ์ที่เงียบขรึมนั้น ไม่รู้ว่ายังมีอีกกี่ ความสามารถที่เขาคิดไม่ถึง
รพีพงษ์ทิ้งหมากตัวสุดท้ายเสร็จก็หันไปมองเจสสิก้า เขา พูดอย่างเรียบๆ “เธอแพ้แล้ว”
เจสสิก้าจ้องมองไปยังกระดานหมากล้อมอย่างไม่พอใจ เธอพยายามหาหนทางเพื่อกู้สถานการณ์ แต่สุดท้ายสิ่งที่ ทำให้เธอหมดหวังก็คือ แท้ที่จริงแล้วความเฉลียวฉลาด ของเธอก็ไม่อาจหาวิธีใดมาแก้กลอุบายของรพีพงษ์ได้
เธอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ รพีพงษ์ด้วยแววตาอาฆาต ในใจพลางคิดว่าผู้ชายคนนี้ ต้องดวงดีมากแน่ๆ เขาถึงชนะเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงของเรา ยอมรับฉันเป็นอาจารย์แล้วหรือยัง?”รพีพงษ์ยิ้ม
ใบหน้าของเจสสิก้ามองออกว่าไม่เต็มใจ และแน่นอนว่า เธอไม่อยากนับไอ้เศษสวะอย่างรพีพงษ์เป็นอาจารย์
ในเวลานี้ชุติเทพได้ลากแขนธฤตญาณเดินไปหารพีพงษ์ และคนอื่นๆทางด้านนั้น
เมื่อเจสสิก้าเห็นชุติเทพเดินเข้ามา แววตาของเธอก็ สว่างไสวราวกับว่ามองเห็นดวงดาวนำทาง เธอลุกขึ้น “อาจารย์ คุณมาช่วยฉันสั่งสอนไอ้คนหยิ่งยโสนี่เร็วเข้า เขาอยากเป็นอาจารย์ฉัน นี่ถือว่าเป็นการลบหลู่คุณ”
พอพูดจบเธอก็หันไปทางรพีพงษ์ “นายจะให้ฉันยอมรับ นายเป็นอาจารย์ก็ได้! แต่นายต้องเอาชนะอาจารย์ฉันให้ ได้แล้วกัน แบบนี้ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกันหน่อย ไม่อย่างนั้น ฉันไม่มีทางยอมรับนายเป็นอาจารย์เด็ดขาด”
รพีพงษ์หันหน้าไปมองชุติเทพแล้วยิ้ม “ก็ได้ หมอเทพ คุณมาเล่นกับผมสักตาเถอะ”
ชุติเทพรีบเบิกตาโพล่ง เขานั่งลงเล่นหมากล้อมกับรพี พงษ์ นี้ไม่ใช่การรนหาที่ตายจริงๆใช่ไหม ตอนนั้นเขาคิดว่า ตัวเองมีไหวพริบสติปัญญาที่ยอดเยี่ยม แต่หลังจากได้ เรียนรู้จากรพีพงษ์มามากพอแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขาสามารถ เอาชนะรพีพงษ์ได้
ผลก็คือทั้งสองคนเล่นหมากล้อมทั้งหมด 100 กระดาน เขาแพ้ไป 99 กระดาน และอีกกระดานสุดท้ายเขาอ้างว่า ตัวเองปวดท้องจึงเล่นไปได้ครึ่งทางก็ไม่กล้าเล่นต่อ
ตอนนี้เด็กสาวอย่างเจสสิก้าเล่นหมากล้อมกับรพีพงษ์ ทั้ง ยังเพิ่มเดิมพัน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นหลุมพรางของเขา
ก่อนหน้านี้รพีพงษ์มักจะบอกว่าเขาเป็นอาจารย์ของชุติ
เทพ แต่ชุติเทพยังไม่ยอมรับจนถึงตอนนี้ ถ้าหากครั้งนี้เขา
เล่นหมากล้อมกับรพีพงษ์แล้วแพ้ รพีพงษ์ก็จะกลายเป็น
อาจารย์ของเขาโดยปริยาย
ชุติเทพถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น จึงได้ยอมรับชะตาแล้วนั่งตรงข้ามรพีพงษ์
เมื่อเจสสิก้าเห็นว่าชุติเทพกำลังจะออกโรง ในใจของเธอ ก็เริ่มมีความหวังและหันไปมองรพีพงษ์ “อาจารย์ของฉัน ผูกสัมพันธ์กับนักหมากล้อมที่มีชื่อเสียงอย่างนนทภูแห่ง เมืองริเวอร์ นายชนะฉันได้ แต่กับอาจารย์ของฉัน ไม่มี ทาง!”
“จริงหรือ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากเห็นความสามารถอั้น แข็งแกร่งของเขาจริงๆว่าจะอยู่สูงระดับไหน” รพีพงษ์ มอง ชุติเทพอย่างติดตลก
ใบหน้าของชุติเทพเต็มไปด้วยความกระดากอาย อยาก จะปิดปากไม่มีหูรูดของเจสสิก้าเสียจริง
นนทภูนับว่าเป็นอะไร คนที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้สิถึงจะ เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ของแท้
เธอให้ฉันเล่นหมากกับเขาก็เหมือนกับลากฉันไปตาย
แต่อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นอาจารย์ ชุติเทพก็พูด อะไรมากไม่ได้ เขาทำได้เพียงแสยะยิ้มและเริ่มเดินหมาก กับรพีพงษ์
ธฤตญาณก็เดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆไตรทศเพื่อดูหมาก ล้อม
เขาเคยศึกษาเรื่องหมากล้อมพวกนี้มาบ้างจึงพอเข้าใจ การเล่นหมากล้อมอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเขาเห็นการประลองระหว่างรพีพงษ์กับชุติเทพ ใน
ใจก็รู้สึกผวาอย่างอธิบายไม่ถูก นี่เป็นการเล่นหมากล้อม ระดับสูงที่มีแต่ระดับปรมาจารย์ชั้นสูงเท่านั้นถึงจะเล่นได้ ธฤตญาณมองอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาสมทบ ในขณะนี้ ทั้งสองก็ลงหมากไปมากกว่าหนึ่งโหลแล้ว
ธฤตญาณมองไปทางรพีพงษ์ด้วยแววตาที่ซับซ้อน คิด อยู่ในใจ “ผู้ชายคนนี้เป็นคนอย่างไรกันแน่ เขาคือรพีพงษ์ คนนั้นที่ใครๆต่างก็เรียกเขาว่าไอ้เศษสวะจริงๆหรือ?”
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงชุติเทพก็ขมวดคิ้ว เหงื่อเขาไหลไม่ หยุด สุดท้ายไม่สามารถทนอีกต่อไปได้ เขาลุกขึ้นยืนและ พูดด้วยความโกรธ “ไม่เล่นแล้ว ทำไมนายรังแกคนแบบนี้ ไม่เหลือทางรอดไว้ให้สักทาง วันหลังถ้าเล่นหมากล้อมกับ นายอีก ฉันจะห้อยชื่อชุติเทพของฉันไว้ข้างหลัง”