พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 71
บทที่ 71 เซียนพนัน
ชายร่างใหญ่รีบเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ เขาจ้องชายคน นั้นเขม็ง “แกพูดว่าอะไรนะ ใช้เงินสิบหยวนชนะการพนัน ในกาสิโนเนี่ยนะ”
“ชะ ใช่ครับ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป กาสิโนของเรา ต้องล้มละลายแน่ๆครับ” ชายคนนั้นพูด
ชายร่างใหญ่กลืนน้ำลายลงคอ คิดไม่ถึงว่าคนที่ ไตรทศพามาจะเก่งขนาดนี้
“รีบพาฉันไปหามัน ฉันจะไปดูว่ามันเก่งแค่ขนาดไหน ถึงจะทำให้กาสิโนของฉันล้มละลาย!”
ชายทั้งส่องคนรีบเดินออกมาข้างนอกด้วยท่าทีร้อนรน
ในห้องพนันที่อยู่บนชั้นสอง
ไตรทศและธฤตญาณโยนชิปที่อยู่ในมืออันสุดท้าย ออกไปอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด เงินหมื่นถูกพวกเขาใช้ไป จนหมดภายในเวลาอันสั้น แถมยังแพ้ราบคาบ
สำหรับธฤตญาณแล้ว การที่พวกเขาชนะได้เงินหมื่น โดยใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างพวกเขา ต่อให้เอาเงินสิบล้าน มากองไว้ ก็อาจจะพนันแพ้ภายในเวลาสิบนาที
“ให้ตายเถอะ ไอ้อ้วนนั้นมันไม่ออกมาเจอเราจริงๆ ครั้ง หน้าถ้าฉันเจอหน้ามัน จะซัดหน้าให้สักหมัด” ไตรทศพูด ด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง
“ไปหารพีพงษ์กันก่อนเถอะ ดูว่าฝั่งนั้นเป็นอย่างไร บ้าง” ธฤตญาณเอ่ยขึ้น
“จะเป็นอย่างไรล่ะ เขาเอาชิปราคาสิบหยวนไป ขอเดา ว่าเพิ่งเริ่มก็แพ้แล้ว ตอนนี้อาจจะไปนั่งอยู่มุมไหนสักมุม” ไตรทศพูดขึ้น
ขณะนั้นเอง จู่ๆ โต๊ะที่อยู่ไม่ไกลก็ส่งเสียงเชียร์ดังขึ้น มา ไตรทศและธฤตญาณหันไปดูตามเสียงนั่น ไม่รูว่า เกิดอะไรขึ้น
ทั้งสองเบียดเข้าไปในกลุ่มคน เพราะอยากจะรู้ว่าเกิด อะไรขึ้น
ทั้งสองมาถึงข้างๆ โต๊ะ เห็นว่ารพีพงษ์กำลังโดนกลุ่ม คนยืนล้อมอยู่ และตรงหน้าเขาคือกองกาสิโนซิปขนาด
ย่อมๆ
ไตรทศและธฤตญาณอึ้งไปในทันที
เมื่อกี้รพีพงษ์เอาชิปราคาสิบหยวนไปนี่ ทำไมถึงมีชิป กาสิโนอยู่ตรงหน้าเขาเยอะขนาดนั้น
ไตรทศรีบเดินเข้าไปข้างๆ รพีพงษ์ จากนั้นก็เอ่ยปาก ถาม “พี่รพี มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมกาสิโนชิปพวกนี้ถึงมา อยู่ตรงหน้าพี่ พวกเขาไม่เอาแล้วเหรอ”
เมื่อรพีพงษ์เห็นทั้งคู่ก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ในที่สุดพวก นายก็มาแล้ว ถ้ายังไม่มาพวกเขาก็จะไม่เล่นกับฉันแล้ว”
นักพนันที่ยืนอยู่หน้ารพีพงษ์มีสีหน้าแสดงความโกรธ เขาคิดในใจว่าไอ้นี่จะทำให้กาสิโนของเราล้มละลาย แล้ว ถ้ายังเล่นกับมันอีกก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวแล้ว
“รพีพงษ์ ชิปพวกนี้เป็นชิปที่นายเล่นชนะมาเหรอ” ธ ฤตญาณจ้องชิพกาสิโนเหล่านั้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะ เชื่อ
รพีพงษ์พยักหน้า
“ว้าว พี่รพี เจ๋งสุดๆ ไปเลย ชิปพวกนี้รวมแล้วได้เท่าไร ถึงห้าแสนไหม” ไตรทศเอ่ยขึ้น
“น่าจะประมาณห้าล้าน” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบ
เรียบ
ทั้งไตรทศและธฤตญาณต่างก็ผงะ ทั้งคู่สูดหายใจลึก
“หะ ห้าล้าน ให้ตายเถอะ พี่รพี พี่ใช้เงินสิบหยวนพนัน ชนะได้ห้าล้านเนี่ยนะ” ไตรทศพูดเสียงสั่น
ธฤตญาณรีบไปนับชิปกาสิโนพวกนั้น พบว่าเมื่อรวม กันแล้วมันมีค่าถึงล้านจริงๆ
“ไอ้หมอนี่ มันไม่ใช่ปีศาจจริงๆ ใช่ไหม” ธฤตญาณพูด
พิมพ์
จนกระทั่งตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ว่าการที่เขาเลือกมาอยู่กับรพีพงษ์ ถือเป็นการเลือกที่ถูกต้องที่สุด
“พอแล้ว รีบไปเรียกเจ้าของที่นี่มาเถอะ ฉันชนะเยอะ ขนาดนี้ เขาคงจะออกมาพบฉันได้แล้ว” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องเรียก เจ้านายของเรามาแล้ว” ขณะนั้นเองก็มี เสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ทุกคนต่างพากันหันไปมอง เห็นว่ามีชายร่างใหญ่กำลัง เดินเข้ามา
“เซียนพนันมาแล้ว ไอ้หมอนี่ซวยแล้ว”
“แม้ว่าสกิลการพนันของไอ้หมอนี่จะไม่เลว แต่ถ้า เปรียบกับเซียนพนันนับว่ายังต่างกันมาก ตอนนี้เขาคง มาจัดการมันแล้วล่ะ”
“ทำให้เซียนพนันออกมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่ว่า ความเก่งของเขาไม่ใช่ใครที่จะมาเทียบได้”
ชายร่างใหญ่ผลักนักพนันออกไปแล้วก็ยืนประจันหน้า
กับรพีพงษ์
เขามองสำรวจรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็ถาม ขึ้นมาว่า “นายเองเหรอที่ใช้เงินสิบหยวนชนะในกาสิโน ของฉัน”
“ใช่ ผมเอง” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพยักหน้า
ชายร่างใหญ่ยกมือขึ้นมาเกาหัวแล้วพูดว่า “นายเป็นคนแรกที่ทำอย่างนี้ในกาสโนของฉัน พูดมา ว่านาย อยากทำอะไรกันแน่”
รพีพงษ์มองไตรทศกับธฤตญาณที่ยืนอยู่ข้างๆ จาก นั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ผมจะทำอะไร พวกเขาสองคนคงจะ เคยพูดกับคุณแล้ว ขอแค่คุณยอมตกลงร่วมมือกับธฤต ญาณ เงินห้าล้านนี้ ผมจะคืนให้คุณ”
ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “นายคิดว่าเงินห้า ล้านจะซื้อฉันได้งั้นเหรอ ฉันจะบอกให้นะวิธีเดียวที่จะ ทำให้ฉันยอมก็คือชนะพนันฉันให้ได้ ! นายกล้าไหมล่ะ”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วพูดว่า “ทำไมผมจะไม่กล้า”
เมื่อคนที่อยู่รอบๆ ได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูด ต่างก็พากัน
หัวเราะออกมา
“ไอ้เด็กน้อย นายอาจจะไม่รู้ เขาคือเซียนพนันที่มีชื่อ เสียง บนโต๊ะพนันเขาไม่เคยแพ้ใครมาก่อน นายอย่า อวดดีไปหน่อยเลย หัดดูความสามารถของตัวเองหน่อย
เถอะ”
“ฮ่า ฮ่า กล้ายั่วยุเซียนพนันขนาดนี้ ฉันก็เพิ่งเคยเจอ ครั้งแรก วันนี้มีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้วล่ะ”
“เซียนพนันไม่ได้ง่ายอย่างที่นายคิดไว้นะ คนที่พนัน กับเขา สุดท้ายก็แพ้จนหมดตัว ไม่เหลือแม้แต่กางเกง
ใน”คนแรกที่ทำอย่างนี้ในกาสโนของฉัน พูดมา ว่านาย อยากทำอะไรกันแน่”
รพีพงษ์มองไตรทศกับธฤตญาณที่ยืนอยู่ข้างๆ จาก นั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ผมจะทำอะไร พวกเขาสองคนคงจะ เคยพูดกับคุณแล้ว ขอแค่คุณยอมตกลงร่วมมือกับธฤต ญาณ เงินห้าล้านนี้ ผมจะคืนให้คุณ”
ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “นายคิดว่าเงินห้า ล้านจะซื้อฉันได้งั้นเหรอ ฉันจะบอกให้นะวิธีเดียวที่จะ ทำให้ฉันยอมก็คือชนะพนันฉันให้ได้! นายกล้าไหมล่ะ”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วพูดว่า “ทำไมผมจะไม่กล้า”
เมื่อคนที่อยู่รอบๆ ได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูด ต่างก็พากัน หัวเราะออกมา
“ไอ้เด็กน้อย นายอาจจะไม่รู้ เขาคือเซียนพนันที่มีชื่อ เสียง บนโต๊ะพนันเขาไม่เคยแพ้ใครมาก่อน นายอย่า อวดดีไปหน่อยเลย หัดดูความสามารถของตัวเองหน่อย
เถอะ”
“ฮ่า ฮ่า กล้ายั่วยุเซียนพนันขนาดนี้ ฉันก็เพิ่งเคยเจอ ครั้งแรก วันนี้มีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้วล่ะ”
“เซียนพนันไม่ได้ง่ายอย่างที่นายคิดไว้นะ คนที่พนัน กับเขา สุดท้ายก็แพ้จนหมดตัว ไม่เหลือแม้แต่กางเกง
ใน”
เมื่อชายร่างใหญ่ได้ยันคำเยินยอจากคนรอบๆ เขาก็ ยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ
“ไอ้เด็กน้อย ได้ยินหรือยัง นายจะพนันกับฉันก็เตรียม หมดเนื้อหมดตัวได้เลย”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วพูดว่า “กลัวว่าคนที่จะหมดเนื้อ หมดตัวจะเป็นคุณนะสิ”
ชายร่างใหญ่มีสีหน้าไม่พอใจ เขาหันหน้าไปหาคนที่ อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ไปเอาลูกเต๋ามา”
ชายคนนั้นรีบหยิบที่ทอยลูกเต๋ามาสองอันและลูกเต๋า
อีกจำนวนหนึ่ง
“ฉันจะไม่แข่งอะไรที่ยุ่งยากกับนาย วันนี้ฉันจะแข่ง ทอยลูกเต๋ากับนาย แข่งเรื่องแต้ม ใครแต้มน้อยคนนั้นก็
เป็นผู้ชนะ เป็นไง”
เดิมทีรพีพงษ์คิดว่าเซียนพนันอะไรนี่จะเล่นตุกติกกับ เขามากกว่านี้ คิดไม่ถึงว่าจะแค่แข่งทอยลูกเต๋า
แม้จะแข่งกันว่าใครได้แต้มน้อย แต่สำหรับรพีพงษ์ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างอะไร
เกมทอยลูกเต๋าเป็นเกมที่เขาไม่เคยแพ้ใครมาตั้งแต่
สิบขวบ
“ได้” รพีพงษ์พูดตอบ
“ฮ่า ฮ่า ในเมื่อนายตกลงแล้ว งั้นฉันก็จะพูดเรื่องการเดิมพัน ถ้านายชนะ ฉันก็จะฟังนายและให้ร่วมมือกับธ ฤตญาณ ถ้าฉันชนะ นายไม่เพียงแต่จะต้องคืนเงินห้า ล้านให้ฉัน แต่นายต้องให้ฉันเพิ่มอีกห้าล้านรวมถึง เสื้อผ้าบนตัวนายด้วย ว่าไง” ชายร่างใหญ่พูด
ทุกคนที่เคยพนันกับชายร่างใหญ่รู้ดีว่าคำที่เขาชอบ พูดก็คือแพ้จนไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน ดังนั้นทุกครั้งที่ เขาเล่นพนัน เขาก็จะเดิมพันเรื่องนี้เสมอ คนที่แพ้ให้เขา ก็จะต้องเดินออกไปแบบเหลือแต่ตัว
นี่แหละความหมายของคำว่าแพ้จนไม่เหลือแม้แต่ กางเกงใน
“ให้ตายเถอะ ในที่สุดก็จะได้เห็นคนที่แพ้จนไม่เหลือ แม้แต่กางเกงในแล้ว ต่อจากนี้พวกนายก็ไม่ต้องมา หัวเราะเยาะฉันอีก” ชายร่างกายกำยำพูดขึ้น เขาแทบ จะร้องไห้ออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะขอบคุณรพีพงษ์เป็น อย่างมาก เพราะว่าเขาคือหนึ่งในคนที่แพ้จนเหลือแต่ตัว เปล่าๆ
ไตรทศและธฤตญาณเห็นว่ารพีพงษ์รับคำเดิมพันของ ชายร่างใหญ่ พวกเขาต่างก็กังวลใจ
“พี่รพี ไอ้อ้วนนี่มันมีฝีมือในการทอยลูกเต๋า ผมไม่เคย เห็นมันแพ้ใครเลย ถ้าพี่แพ้มัน พี่ต้องเหลือแต่ตัวเปล่า จริงๆ นะ” ไตรทศพูดเตือน
“วางใจเถอะ ฉันไม่มีทางแพ้หรอก” รพีพงษ์หัวเราะ แล้วพูด
เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์มีความแน่วแน่เช่นนี้ ทั้งสองคนก็ คงจะรั้งเขาไว้ไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงปล่อยให้เขาพนัน กับชายร่างใหญ่แบ่งลูกเต่าในมือออกเป็นสองกอง กอง ละ 12 ลูก จากนั้นก็ส่งให้รพีพงษ์
“นายกับฉันมีลูกเต๋ำคนละ 12 ลูก ใครทอยได้แต้ม น้อยคนนั้นคือผู้ชนะ” ชายร่างใหญ่พูด
ลูกเต๋า 12 ลูก แม้แต่นักพนันฝีมือดีอย่างชายร่างใหญ่ ก็ยังถือเป็นเรื่องยาก ยิ่งไปกว่านั้นต้องทอยให้ได้แต้ม น้อยที่สุดอีกด้วย
เมื่อคนโดยรอบเห็นชายร่างใหญ่หยิบลูกเต๋าออกมา เป็นจำนวนมาก พวกเขาต่างก็พากันสูดหายใจลึก
“ไอ้เด็กนี่ ซวยแล้วล่ะ ลูกเต๋า 12 ลูก มันทอยได้ยาก มากเลยนะ อีกอย่างตอนแรกเซียนพนันทอยได้ 12 แต้ม เป็นแต้มที่ยากมาก ไอ้เด็กคนนั้นไม่มีทางชนะแน่นอน”
ไตรทศเห็นชายร่างใหญ่หยิบลูกเต๋าออกมาเยอะ จึง รีบพูดโพล่งออกไป “ไอ้อ้วน นายเล่นตุกติกใช่ไหม ลูกเต๋าเยอะขนาดนี้ จะทอยยังไง”
ชายร่างใหญ่พูดอย่างหน้าตายว่า “ถ้าไม่กล้าแข่งก็ไม่ ต้องรับคำท้า ฉันไม่ได้เป็นคนอยากพนันนี่”
“ให้ตายเถอะ ฉันว่านายจงใจแล้วล่ะ พี่รพี พวกเราไม่ ต้องไปแข่งกับมันแล้ว ไอ้คนหน้าไม่อายแบบนี้ ไม่สำคัญ อะไรหรอก” ไตรทศพูดด้วยท่าทีโกรธเคือง
รพีพงษ์จ้องไตรทศแล้วพูดว่า “หุบปากแล้วดูเงียบๆ ไม่ งั้นฉันจะเตะนายออกไป”
ไตรทศยอมเงียบลง แต่ในใจก็ยังบ่นพึมพำ “ยังไงคน ที่ต้องถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ตัวก็เป็นพี่ ในเมื่อพี่อยากวิ่ง ออกไปตัวเปล่า ผมก็ไม่ห้ามแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า ฉันล่ะชอบคนกล้าหาญไม่คิดมากแบบนาย จริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันเริ่มก่อนแล้วกัน”
ชายร่างใหญ่พูดจบ เขาหยิบที่ทอยลูกเต่าเขย่าสองที ลูกเต๋าจำนวน 12 ลูกก็เข้าไปอยู่ในที่ทอยลูกเต๋า จากนั้น เขาก็เขย่ามันอย่างรวดเร็ว
ผู้คนรอบๆ ตาลายกับการใช้มือของเขา รพีพงษ์รู้สึก ตกตะลึงเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขามีรูปร่างใหญ่ขนาดนี้ แต่ท่าทางการใช้มือของเขากลับว่องไวเป็นอย่างมาก
รพีพงษ์ก็ไม่ลังเลเช่นกัน เขาเอาลูกเต๋ 12 ลูก ใส่ เข้าไปในที่ทอยจากนั้นก็เริ่มเขย่า
วิธีการใช้มือของเขาง่ายดายมาก แต่ทว่าแรงที่เขาใช้ ภายในนั้น ไม่มีทางที่คนอื่นจะมองเห็นได้
เมื่อทุกคนเห็นวิธีการใช้มือของรพีพงษ์ ก็ฟันธงว่าเขา คงจะชนะชายร่างใหญ่ไม่ได้อย่างแน่นอน
ภายในเวลาอันรวดเร็ว ชายร่างใหญ่เอาที่ทอยคว่ำลง บนโต๊ะ รพีพงษ์ก็ทำเช่นเดียวกัน
ชายร่างใหญ่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า”สืบสองลูก ลูกละหนึ่งแต้ม นายแพ้แล้ว”
ผู้คนต่างพากันตกตะลึง ขณะเดียวกันก็ชื่นชมความ เจ๋งของชายร่างใหญ่
สามารถทอยลูกเต่า 12 ลูกให้ได้แต้มน้อยที่สุด แน่นอนว่าคนทั่วไปไม่สามารถทำได้
รพีพงษ์หัวเราะแล้วส่ายหน้า จากนั้นก็พูดว่า “อาจจะ ไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้”
พูดจบ เขาก็หยิบที่ทอยของตัวเองขึ้นมา เห็นเพียงว่า ลูกเต๋าทั้ง 12 ลูกเรียงเป็นแถวยาว มีเพียงลูกเดียว เท่านั้นที่มีหนึ่งแต้ม
ลูกเต๋า 12 ลูก มีเพียงหนึ่งแต้ม
“ผมมีแค่แต้มเดียว แต่คุณมี 12 แต้ม คุณแพ้แล้ว” รพี พงษ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น