พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1020 จารุเดช
บทที่1020 จารุเดช
ในเวลานี้ชัยพัทธ์กำลังพาคนมารออยู่ไม่ไกลจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถ้าไพทยาหาตัวพนักงานทำความสะอาดคนนั้นเจอ วันนี้จะอยู่ที่นี่ตลอด
ต่อให้เขาไม่มีความสามารถพาคนตรงเข้าไปสั่งสอนพนักงานทำความสะอาดคนนั้นถึงในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลได้ พนักงานทำความสะอาดคนนั้นก็มีเวลาเลิกงาน ถึงเวลานั้นเขาก็พาคนไปขวางพนักงานทำความสะอาดคนนั้น ถึงตอนนั้นจะทำให้เขาได้ลิ้มลองความแข็งแกร่งของตัวเอง
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ เขาโทรหาไพทยาเพื่อถามไถ่สถานการณ์ หลังจากที่ไพทยาพูดคำพูดกำกวนอย่างเย็นชากับเขา ก็วางสายไป
สิ่งนี้ทำให้ชัยพัทธ์ค่อนข้างไม่พอใจ
เขาโทรศัพท์หาไพทยาหลายครั้ง แต่ไม่ว่าเขาจะโทรอย่างไร โทรศัพท์ของไพทยาก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป
“แม่งเอ๊ยผู้หญิงหยำฉ่า กลับบล็อกฉัน!”ชัยพัทธ์ตะโกนด่าทันที
“ให้ตายเถอะ! ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงหยำฉ่าคนนี้เจอกับอะไร กลับให้ฉันอย่าไปหาเรื่องพนักงานทำความสะอาดคนโง่คนนั้น อยู่ในเมืองเมฆา เป็นไปได้เหรอว่ายังมีคนที่ฉันชัยพัทธ์ไม่สามารถมีเรื่องได้?”
“ตลกสิ้นดี!”
“รอเดี๋ยวเถอะ วันนี้ก็ปล่อยแกไปก่อน รอจากนี้ไปเจอตัวแกอีก ฉันตีขาแกให้หักแน่!”
หลังจากพึมพำกับตัวเองไม่กี่คำ ชัยพัทธ์กำลังจะออกจากที่นี่ ในเวลานี้โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นอีกครั้ง คิดว่าไพทยาโทรกลับมา แต่หยิบโทรศัพท์ออกมาดู กลับเป็นพ่อของเขา ชนวิท
“ฮัลโหล พ่อ มีอะไรเหรอ?”ชัยพัทธ์เอ่ยปากถาม
เสียงตื่นเต้นของชนวิทดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“ลูก พ่อมีข่าวดีจะบอกลูก เมื่อกี้นี้ มีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ซื้อหุ้นของไฟลกรุ๊ปของพวกเราเป็นจำนวนมาก พ่อคาดการณ์ว่า พรุ่งนี้ราคาหุ้นของไฟลกรุ๊ปของพวกเราจะสูงขึ้น เพิ่มขึ้นเหมือนราวกับว่านั่งอยู่บนเครื่องบิน”
เมื่อชัยพัทธ์ได้ยินคำพูดของชนวิท บนใบหน้าก็ปรากฏท่าทางตื่นเต้น เอ่ยปากถามว่า: “พ่อ นั่นก็หมายความว่า ไฟลกรุ๊ปของพวกเรา จากนี้ไปตำแหน่งอยู่ในเมืองเมฆา ยิ่งมั่นคงมากขึ้นเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ที่สำคัญถ้าหากผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ยังคงลงทุนต่อไป ไม่แน่ไฟลกรุ๊ปของพวกเราก็ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมอยู่ในกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก”เสียงของชนวิทเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นเป็นใคร ทำไมจู่ๆเขาถึงได้ซื้อหุ้นของไฟลกรุ๊ปของพวกเราจำนวนมาก?”ชัยพัทธ์เอ่ยปากถาม
“ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เป็นใครตอนนี้พ่อยังไม่รู้ แต่เขาซื้อหุ้นของไฟลกรุ๊ปของพวกเรา คงจะเป็นเพราะมองเห็นศักยภาพของไฟลกรุ๊ปของพวกเรา”
“พ่อให้คนไปตรวจสอบฐานะตัวตนของผู้ยิ่งใหญ่คนนี้แล้ว น่าจะติดต่อเขาได้ในเร็วๆนี้ พ่อตั้งใจว่าหลังจากนี้สามวัน จะเชิญผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มารับประทานอาหาร ทำความรู้จักกัน คิดว่าเขาคงจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ถึงเวลาลูกต้องล่วงหน้ากลับมาก่อน ไม่อย่างนั้นพลาดโอกาสครั้งนี้ไป ในอนาคตอยากมีก็ยากแล้ว”
เมื่อชัยพัทธ์ได้ยินคำพูดของชนวิท ก็ยิ้มขึ้นมา เอ่ยปากพูดว่า: “พ่อสบายใจได้ ถึงเวลาผมไปถึงที่นั่นตรงเวลาอย่างแน่นอน”
ทั้งสองคุยกันอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสาย
บนใบหน้าของชัยพัทธ์แสดงสีหน้าเหลือเชื่อ และก็พูดพึมพำกับตัวเองว่า: “ไฟลกรุ๊ปของเราก็จะก้าวหน้ามาอีกขั้นแล้ว อยู่ในเมืองเมฆา ยิ่งไม่มีคนไม่มีสิทธิ์มามีเรื่องกับฉันได้ ไอ้โง่คนนั้นที่ตบตีฉัน อย่าให้ฉันหาตัวแกเจอ ไม่อย่างนั้นถึงเวลา ฉันจะทำให้แกรู้ถึงความแข็งแกร่งของฉัน!”
……
เช้าวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์กำลังเล่นกับหนูลินอยู่ในห้อง ในเวลามีโทรศัพท์โทรเข้ามา เขาส่งหนูลินให้อารียา และรับโทรศัพท์
คนที่โทรศัพท์มาเป็นพนักงานของเทือกเขากิสนา บอกกับรพีพงษ์ว่าคนของไฟลกรุ๊ปอยากจะเชิญรพีพงษ์ไปรับประทานอาหารด้วยกัน ขอความคิดเห็นจากรพีพงษ์
รพีพงษ์คาดไม่ถึงว่าคนของไฟลกรุ๊ปกลับจะเชิญตัวเองไปทานอาหาร คาดว่าคงจะคิดว่าเขาซื้อหุ้นของไฟลกรุ๊ปเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการลงทุน
เมื่อคิดถึงเรื่องของชัยพัทธ์ยังไม่จัดการไม่ได้เรียบร้อยทั้งหมด ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เอาตัวเองไว้ในสาย เขาไม่มีทางปล่อยไฟลกรุ๊ปไปอย่างง่ายดายเป็นธรรมดา
ดังนั้นรพีพงษ์จึงให้พนักงานของเทือกเขากิสนาตอบตกลงรับปากไฟลกรุ๊ป บอกว่าถึงเวลาจะไปอย่างแน่นอน
รอจนถึงวันนั้น รพีพงษ์จะทำให้ชัยพัทธ์เข้าใจ ไม่เข็ดหลาบ จะต้องมีของแลกเปลี่ยน
เพิ่งจะวางสาย โทรศัพท์ของรพีพงษ์ก็ได้รับข้อความ เป็นสำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโตที่ส่งมา
หลังจากที่เห็นข้อความ รพีพงษ์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ในข้อความบอกว่าจารุเดชอันดับรางวัลนำจับอันดับสองของกลุ่มสิงโตช่วงนี้เพิ่งปรากฏในเมืองเมฆา ตอนนี้มีเจตนาอะไรก็ยังไม่รู้ และจารุเดชนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของนิรภัฏที่อยู่ห่างไกลในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่นิรภัฏได้เบาะแสของจารุเดช ก็ได้มาถึงที่เมืองเมฆาแล้ว
ข้อความนี้ธัชธรรมตั้งใจให้คนส่งให้รพีพงษ์โดยเฉพาะ เขารู้ว่าช่วงนี้รพีพงษ์อยู่ที่เมืองเมฆา ดังนั้นให้รพีพงษ์ช่วยระมัดระวังบ้าง ถ้าหากมีโอกาส ก็ร่วมงานกับนิรภัฏ และขุดรากถอนโคนจารุเดชคนนี้
จารุเดชสามารถอยู่ในอันดับสองของอันดับรางวัลนำจับ ความแข็งแกร่งไม่ควรมองข้าม ที่สำคัญมีข่าวลือว่าจารุเดชกับนิรภัฏเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียว แต่รูปลักษณ์ของเขายังคงหยุดอยู่ที่อายุยี่สิบปี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จารุเดชคนนี้ค่อนข้างรักสวยรักงาม บำรุงดูแลรักษาผิวของตัวเองได้ดีกว่าเด็กผู้หญิงอายุยี่สิบปี ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำได้อย่างไรกันแน่
ตอนนั้นหลังจากที่รพีพงษ์เห็นข้อมูลเกี่ยวกับจารุเดชคนนี้ ในใจก็รู้สึกไม่อาจยอมรับได้ เมื่อคิดถึงคนคนหนึ่งที่มีชีวิตมานานมากว่าหนึ่งร้อยปี แต่ดูไปแล้วอายุกลับมีเพียงยี่สิบปี ที่สำคัญคนที่หลงตัวเองเป็นพิเศษปรากฏตัวต่อหน้าตัวเอง ขนในบนร่างกายของเขาก็ลุกออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
คาดไม่ถึงว่าจารุเดชจะหนีมาถึงที่เมืองเมฆา สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์กังวล เนื่องจากปีศาจแก่มีชีวิตมามากกว่าหนึ่งร้อยปีจู่ๆปรากฏตัวขึ้นในสังคมทางโลก เพียงใช้กลยุทธ์เล็กน้อย ก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายที่คาดการณ์ไม่ได้
และรพีพงษ์ในฐานะเจ้านายของกลุ่มสิงโต ก็มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตอันตรายเช่นนี้
ในข้อความที่ได้รับบนโทรศัพท์มือถือ มีเบาะแสของคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นจารุเดช รพีพงษ์จ้องมองไปที่เบาะแส ประมาณโดยคร่าวๆได้ว่าจารุเดชจะปรากฏตัวที่ไหน
เขาหันหน้ามองไปที่อารียาแวบหนึ่ง เพราะหนูลินต้องการพักผ่อน ดังนั้นวันนี้พวกเขาไม่มีการเตรียมการอะไร
ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ รพีพงษ์อยากให้อารียาและหนูลินอยู่ในโรงแรม ตัวเองจะออกไปดูว่าสามารถหาเบาะแสของจารุเดชพบมั้ย
หลังจากที่อธิบายกับอารียา รพีพงษ์ก็เดินออกจากโรงแรมคนเดียว
เบาะแสของจารุเดชคนนั้นกับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ดังนั้นรพีพงษ์ก็ไม่ต้องกังวลว่าจารุเดชจะมาหาถึงที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เนื่องจากว่าเขาและจารุเดชไม่รู้จักกันเลย
มาถึงที่ถนนด้านนอก รพีพงษ์เรียกรถมาหนึ่งคัน และตรงไปยังอีกเมืองหนึ่ง
ตามข้อมูลที่ได้รับมา ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านจารุเดชปรากฏตัวในบาร์แห่งหนึ่ง ดังนั้นรพีพงษ์ตั้งใจไปดูสถานการณ์ที่บาร์แห่งนั้น