พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน
บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน
ทุกคนต่างมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความตกตะลึง คาดไม่ถึงเขาจะเดินออกไปไกลสิบเมตรได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ ปกติตอนที่พวกเขาจะแบกกล่องใบนี้เดิน ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่านี้มาก่อน
นิศมาที่ตอนเริ่มแรกรู้สึกว่ารพีพงษ์อวดดีในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยความตื่นตกใจเช่นกัน ความแข็งแกร่งของเธอเป็นแดนปรมาจารย์ชั้นยอด กล่องใบนั้นก่อนหน้านั้นเธอเคยแบกมาแล้ว ค่อนข้างจะรู้ดีเป็นธรรมดา จะแบกกล่องนี้และเดินไปทางด้านหน้ายากมากแค่ไหน
แต่ตอนนี้รพีพงษ์ก็เหมือนกับว่ากำลังแบกกล่องหนักห้ากิโลกรัมเดินไปด้านหน้า ดูไม่ออกมาว่ามีความยากมากแค่ไหน
ในเวลานี้เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจรพีพงษ์ผิด ที่แท้เขาไม่ได้กำลังอวดดี แต่มีความมั่นใจในตัวเองอย่างแน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้ นิศมาก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
นฤชัยจ้องมองรพีพงษ์เป็นเวลานานโดยไม่พูด วินาทีแรกเขายังคิดว่ารพีพงษ์คงจะเดินไปได้ไม่ไกลมาก ปรากฏว่าวินาทีต่อมารพีพงษ์ก็เดินออกมาสิบเมตรทำให้เขาอับอายขายหน้า
ไม่ว่าเปลี่ยนเป็นใคร ในเวลานี้คงจะต้องกระอักกระอ่วนอย่างแน่นอน
สิ่งที่สำคัญคือ รพีพงษ์สามารถทำแบบทดสอบนี้ได้สำเร็จอย่างง่ายดาย เดิมทีเขาต้องการอาศัยการทดสอบนี้มาทำให้รพีพงษ์อับอาย ปรากฏว่ากลับทำให้รพีพงษ์แสดงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาออกมาต่อหน้าทุกคน ตอนนี้ทุกคนคงจะยอมรับคำชมที่อาจารย์ชมรพีพงษ์ก่อนหน้านั้นแล้ว
แต่ไม่ว่าในใจจะคิดอย่างไร ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ นฤชัยไม่สามารถแสดงสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในใจออกมาได้
เขากระแอมเบาๆ เอ่ยปากพูดว่า: “ถือว่านายยังพอผ่านการทดสอบไปได้ ดูเหมือนว่าอาจารย์จะไม่ได้ดูพลาดไป ไม่ได้รับคนไร้ประโยชน์กลับมาเป็นลูกศิษย์”
หลังจากที่ผู้คนได้ยินคำพูดของนฤชัย รู้สึกว่าความต้องการของศิษย์พี่ใหญ่นั้นแข็งก้าวเกินไป พวกเขาในบรรดาผู้คนที่บรรลุถึงแดนปรมาจารย์ ถึงจะสามารถฝืนทนแบกกล่องใบนี้เดินไปห้าเมตร แต่รพีพงษ์มาถึงก็เดินไปได้สิบเมตร สิ่งนี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว
แต่นฤชัยกลับบอกว่ายังพอผ่านไปได้ ทำให้พวกเขารู้ว่าความต้องการสูงมากเกินไป
บาวันที่เดิมทียังคงรอดูเรื่องขายหน้าของรพีพงษ์ในเวลานี้ก็ตกตะลึง หลังจากที่สายตาจับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์ก็ไม่เคยละสายตาออกไป
ในฐานะเด็กสาวอายุสิบแปดเก้าปี บาวันเกิดมีความรู้สึกดีๆให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเป็นธรรมดา
แม้ว่าเธอจะจงใจทำให้นฤชัยเกิดความเป็นปรปักษ์ต่อรพีพงษ์ แต่นั่นเป็นเพราะรพีพงษ์ไม่ให้เธอดูสิ่งของในกระเป๋า
แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมา ได้ทำให้เธอสิ้นฤทธิ์อย่างสมบูรณ์แล้ว
“นี่ก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว เดินไปสิบเมตรได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ฉันอยากจะแบกกล่องใบนั้นขึ้นมายังยาก”
“ไม่แปลกใจที่อาจารย์ชอบชมเขาขนาดนี้ ดูเหมือนเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ”
“โธ่เอ๊ย ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เขาแล้ว ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ ที่สำคัญมีบุคลิกนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อเทียบกับศิษย์พี่เหล่านั้นที่ต้องการจะเอาเปรียบฉันก็แตกต่างมาก”
“ถ้ารู้ก่อนฉันก็จะบอกว่าเขาเป็นแฟนของฉันแล้ว”
บาวันพึมพำพูดกับตัวเอง เพราะใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้เธอเป็นคนบุ่มบ่าม โดยทั่วไปคิดอะไร ก็พูดออกมาทันที
รวมทั้งทุกคนบนเกาะต่างก็เอาใจเธอ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วเธอคิดอะไรได้ก็ทำอะไร ไม่เคยมีความยับยั้งชั่งใจอะไรมาก่อน
ดังนั้นหลังจากที่เกิดเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อรพีพงษ์ เธอก็เดินพุ่งไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “รพีพงษ์ เรื่องก่อนหน้านั้นคือฉันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรพูดจาเหลวไหล ความจริงแล้วนายกับศิษย์พี่นิศมาไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”
เมื่อรพีพงษ์เห็นบาวันชี้แจง มุมมองที่มีต่อเธอในใจก็เกิดการเปลี่ยนไปเล็กน้อย และยังพยักหน้าให้เธอ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึง ประโยคถัดมาของบาวันเกือบทำให้เขาพุ่งตรงไปหยิกยัยเด็กนี่ให้ตาย
“ทุกคน ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์พวกพี่ก็ได้เห็นแล้ว เขาเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ที่อาจารย์ชื่นชมจริงๆ ดังนั้นเขามีสิทธิ์อยู่บนเกาะ ต่อไปฉันจะประกาศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รพีพงษ์ก็คือแฟนของฉัน พวกพี่ใครก็ห้ามรังแกเขา!”
หลังจากพูดจบ บาวันหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “นายสบายใจได้ จากนี้ไปเป็นคนของฉันแล้ว ฉันรับรองอยู่บนเกาะนี้ทำให้นายได้อยู่ดีกินดี”
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความเซ็ง สำหรับวงจรสมองของบาวัน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีคนสามารถเข้าใจได้
รพีพงษ์หมดคำพูดอย่างฉับพลัน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกคำพูดของบาวันหยุดไว้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ดูเหมือนว่าเขายังคงประเมินประสิทธิภาพการต่อสู้ของบาวันต่ำไป เมื่อกี้นี้ยังคิดว่าเธอชี้แจ้งเพื่อตัวเองก็ยังไม่เลว ตอนนี้ดูเหมือนว่า ตัวเองจะไร้เดียงสาเกินไป
นิศมาก็มองไปที่บาวันอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยปากพูดว่า: “เธอทำตัวบ้าๆบอๆอีกแล้ว รพีพงษ์เพิ่งมาถึงบนเกาะได้ไม่นาน เธอก็ให้คนอื่นเขาเป็นแฟนของเธอแล้ว”
ใบหน้าของบาวันดูไม่พอใจ เอ่ยปากพูดว่า: “ทำไมล่ะ หรือว่าไม่ได้เหรอ? ศิษย์พี่ พี่รีบร้อนพูดแบบนี้ หรือว่าก็สนใจรพีพงษ์เหรอ?”
นิศมาก็แสดงร่องรอยแห่งความเขินอายออกมา และเอ่ยปากพูดว่า: “เธอพูดจาเหลวไหลอะไร! ฉันทำอะไรไม่เข้าท่าเหมือนกับเธอที่ไหนกัน”
“แฮะๆ ศิษย์พี่ หน้าพี่แดงแล้ว การแสดงออกของพี่หลอกคนไม่ได้”บาวันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูด
นิศมารีบลูบหน้าของตัวเอง แล้วพูดว่า: “พูดจาเหลวไหล”
นฤชัยเห็นท่าทางของนิศมาอยู่ในสายตา ความเป็นปรปักษ์ต่อรพีพงษ์ในใจ ก็ลึกล้ำขึ้นอีกหลายเท่า
ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความอิจฉา แน่นอนว่าพวกเขาสามารถเห็นท่าทีของนิศมาและบาวันที่มีต่อรพีพงษ์ได้ เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมาเมื่อกี้นี้นั้น พิชิตทุกคนได้แล้ว
“เฮ้อ ฉันอุตส่าห์ตามจีบศิษย์พี่นิศมามาขนาดนี้ เธอก็เย็นชาต่อฉัน รพีพงษ์เพิ่งมาบนเกาะไม่นาน ศิษย์พี่นิศมาก็หน้าแดงเพราะเขา ช่องว่างนะ”คนที่ยืนอยู่ด้านข้างนฤชัยพูดด้วยความทอดถอนหายใจ
คำพูดนี้ของเขาทำไมจะไม่ใช่เสียงในใจของนฤชัย เมื่อได้ยินคำพูดของคนคนนั้น สีหน้าของนฤชัยก็เปลี่ยนเป็นยิ่งดูไม่ดีมากขึ้น
“เหอะ แค่ย้ายกล่องเดินไปได้สิบเมตรเท่านั้นเอง สิ่งนี้มีอะไรน่าอวด คนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ให้ความสำคัญกับการต่อสู้จริง มีกำลังมากแค่ไหน ไม่สามารถทำออกแรงต่อสู้จริงได้ ก็ไม่มีประโยชน์”นฤชัยพูดด้วยความโกรธ
ทุกคนต่างพยักหน้า รู้สึกว่าสิ่งที่นฤชัยพูดนั้นสมเหตุสมผล
“พูดได้ถูก ผู้คนที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับกำลังอันยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ความแข็งแกร่งบรรลุถึงชั้นยอดแต่มีไม่กี่คน เว้นแต่ว่ารพีพงษ์คนนั้นจะบรรลุถึงระดับเดียวกับศิษย์พี่นฤชัย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเทียบกับศิษย์พี่นฤชัยได้”
“ใช่ แดนถึงจะเป็นหนทางยุติธรรม แดนดั่งเทพขั้นกลางของศิษย์พี่นฤชัยถึงจะถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
“ก็แค่เด็กผู้หญิงที่ยังไม่เติบโตอย่างบาวันถึงจะมองเห็นว่าคนอื่นมีตรงที่ไม่ธรรมดาเพียงเล็กน้อย ก็จะประหลาดใจ เธอก็ยังไร้เดียงสา”
เมื่อนฤชัยได้ยินทุกคนพูดเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาก สายตาที่มองไปทางรพีพงษ์ก็ยิ่งดูถูกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่า ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ บรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว มีความแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากจนไล่ตามไม่ทัน