พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1450 ชนะสงครามโดยไม่ต้องใช้กำลัง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1450 ชนะสงครามโดยไม่ต้องใช้กำลัง
ยามวิกาล หนูลินนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว แต่ในเวลาดึกดื่น รพีพงษ์กลับจุดเทียนพูดคุยอยู่กับอารียาสองต่อสอง
ประเด็นในการสนทนาไม่มีอะไรมากไปกว่าการเตรียมการขั้นต่อไป
เมื่อได้ยินรพีพงษ์วางแผนให้หนูลินอยู่ที่เกียวโต ช่วงเวลาที่พาตนเองไปยังป่าหมอกเพื่อการฝึกตน อารียายังแสดงออกถึงความไม่พอใจออกมา
“ตั้งแต่หนูลินเกิดมา รพีพงษ์ยังไม่เคยห่างจากเธอเลย ตอนนี้คุณต้องพาฉันไปยังป่าหมอก และถอดทิ้งหนูลินไว้ที่เกียวโตอีก อย่างไรก็แล้วแต่ฉันก็ยังไม่วางใจจริง ๆ” อารียาพูดตอบ : “หากต้องทำอย่างนี้จริง ๆ งั้นฉันยอมที่ไม่ไปฝึกตนเสียดีกว่า”
“ไม่ฝึกตน?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย : “ฉันก็รู้ การเลือกที่จะทำเช่นนี้ กลับเป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่บ้าง ขณะเดียวกัน ฉันก็ทนไม่ได้ที่จะจากหนูลินไป เธอน่ารักขนาดนั้น น่ารักน่าเอ็นดู ขนาดนั้น”
“แต่ว่า หนูลินยังเด็กเกินไป มิเช่นนั้นก็พาเธอไปฝึกตนด้วยกันก็ยังได้ อีกทั้ง หนูลินมีความเหมาะสมมากต่อการฝึกตนมาตั้งแต่กำเนิด” รพีพงษ์พูดตอบ
“งั้นควรทำอย่างไรดีล่ะ?”
อารียาพูด ด้านหนึ่งตัวเองก็ไม่ต้องการแยกจากรพีพงษ์ สักวันหนึ่งในอนาคต และอีกด้านหนึ่งเธอก็ไม่อยากแยกจากหนูลิน
“เฮ้อ บางครั้งก็อยากให้เธอรีบโตไว ๆ แต่บางเวลาก็ยังอยากให้เธอเป็นเด็กเล็กอย่างนี้ตลอดไป รพีพงษ์คุณว่าความคิดของฉันมันตลกไหม” อารียาพูดกับตัวเองแล้วมองไปยังหนูลินที่กำลังนอนหลับสนิท
“ไม่” รพีพงษ์กุมมืออารียาอย่างความอ่อนโยน: “ความคิดของผมนั้นเรียบง่ายมาก ผมแค่หวังวให้หนูลินมีสุขภาพดี มีความสงบสุข”
อารียาพยักหน้า สุขภาพดีมีความสุข นี้เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่พ่อแม่มีต่อลูกแล้ว
“รพีพงษ์ งั้นคุณว่า เรื่องการฝึกตนของคุณกับฉันควรจะรอให้กลับถึงเกียวโตแล้ว ค่อยปรึกษากันดีไหม?” อารียาเอ่ยปากถาม: “อย่างไรก็ตาม ให้ฉันแยกจากหนูลิน กลับเป็นเรื่องยากสำหรับฉันแม้ว่าการแยกจากเธอนั้นจะเป็นการฝึกตนกับคุณก็ตาม เกรงว่าฉันคงทำสมาธิได้ยาก”
“คุณพูดก็ถูกต้อง ความจริงแล้ว ตอนนี้ผมก็เริ่มเปลี่ยนความคิดของผมแล้วล่ะ” รพีพงษ์พูด แล้วนำ คำภีร์หยินหยางออกมาจากหน้าอก
“นี่คือ?”
“นี่คือวิชาลับที่ญาณิดาฝากไว้ในผมก่อนจากไป เหมาะสำหรับการฝึกฝนสำหรับชายหญิงที่สุด” รพีพงษ์กล่าว
จากนั้น อาศัยแสงเทียน รพีพงษ์เริ่มเปิดวิชาลับหน้าแรกขึ้น
“วิชาหยินหยาง รวมองค์ประกอบธาตุทั้งห้า พลังจิตสอดประสาน หลอมรวมเป็นหนึ่ง!”
แค่คำสั้น ๆเพียงเท่านี้ กลับคือบทบัญญัติของวิชาลับนี้
แน่นอนว่าอารียานั้นไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนรพีพงษ์จะมองเห็นบางอย่างในบทบัญญัตินี้
“แท้จริงสิ่งที่เรียกว่าวิชาการฝึกตนคู่นั้น สิ่งสำคัญประการแรก ทั้งสองคนต้องมีจิตใจที่หลอมรวมกันก่อน” รพีพงษ์ถอนหายใจเบา ๆ
“เฮ้อ จิตใจยังต้องหลอมรวมกันอีก เกี่ยวกับปัญหาของหนูลินแล้ว พวกเรายังมีความคิดเห็นต่างกัน ดูไปแล้ว การฝึกตนคู่นี้คงจะไม่สามารถทำต่อได้แล้ว”
อารียาถอนหายใจ ตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
รพีพงษ์มองอารียา ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม เขารู้อยู่แก่ใจว่าภรรยาของตนตั้งใจพูดคำเหล่านี้ออกมา
“อารียาคุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ” รพีพงษ์เผยรอยยิ้มในแววตา
“แล้วคุณล่ะ? จะไปอีกไหม?” อารียารีบพูดขึ้น จับมือของรพีพงษ์จนแน่น
รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “วางใจได้ ผมไม่ไปไหน ไม่จากคุณไปไหนอีกแล้ว”
“งั้นคุณหมายความว่า?” อารียาถามด้วยความสงสัย
“พรุ่งนี้ต้องไปแล้ว เมื่อครู่ผมลืมมอบหมายเรื่องอะไรบางเรื่อง คุณไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวผมกลับมา”
พูดพลาง รพีพงษ์เดินไปถึงประตูห้อง ทันใดนั้นเขาหันหลังกลับแย้มยิ้มพูดว่า: “ สิ่งที่คุณพูดมาเมื่อครู่ผมจดจำไว้หมดแล้ว วางใจได้ ปัญหาของหนูลิน ผมจะให้คำตอบที่คุณพอใจอย่างแน่นอน”
พูดแล้ว รพีพงษ์ก็เดินออกจากห้องไป……
อารียามองรพีพงษ์เดินออกไป ค่ำมืดดึกดื่น รพีพงษ์เขาจะไปหาใครกันนะ?
ภายนอกกลุ่มสิงโต ร่างสูงใหญ่ของรพีพงษ์และจิรภัทรยืนอยู่ท่ามกลางความมืด
“รพีพงษ์ ก่อนหน้านี้ช่วยเหลือคุณได้ไม่มากนัก อย่าได้ถือโทษเลยนะ” จิรภัทรพูด
รพีพงษ์ส่ายศีรษะ: “ เจ้าจิรภัทรเกรงใจไปแล้ว แม้แต่พี่น้องสมาคมสยบเซียนของพวกคุณก็ยังมาช่วยผม นั่นคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมแล้ว อีกอย่าง ยาเม็ดที่คุณนำมาให้นั้น สำหรับทุกคนแล้วเป็นของที่หาได้ยากมากจริง ๆ”
จิรภัทรพูดถ่อมตนว่า: “พูดถึงยาเม็ด ใครจะเทียบชั้นคุณรพีพงษ์ได้อีกล่ะ?”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพราะความจริงก็เป็นเช่นนี้ เกี่ยวกับการกลั่นยาของตนเอง นับได้ว่ามีพรสรรค์อยู่บ้าง
“รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าการมาพบคุณในครั้งนี้ กลับเป็นการจากกันที่รวดเร็วอะไรขนาดนี้ ว่าไปแล้ว เกรงว่าจิลลาเด็กสาวคนนั้น คงจะเสียใจมากที่สุด” จิรภัทรยิ้มแล้วพูด
รพีพงษ์ถามกลับว่า: “ทำไม ทำไมเธอเสียใจเหรอ?”
“แม้ผมจะอายุมากแล้ว แต่มองออกว่า หลังจากออกจากสำนักเทพยาเซียนแล้ว สาวน้อยจิลลานั้นได้เห็นคุณเป็นไอดอลของเธอ การมาที่กลุ่มสิงโตครั้งนี้ เธอหวังที่จะสามารถช่วยเหลือคุณได้ แต่ว่า ผลลัพธ์กลับทำให้เธอผิดหวัง” จิรภัทรกล่าวตอบ
รพีพงษ์มีสีหน้าเรียบเฉย คราวก่อนช่วงที่ตกอยู่ในอันตราย ในขณะที่ตอบโต้กลับทวีปโอชวิน แม้ผู้อาวุโสธีรพัฒน์ยังต้องจบชีวิตอยู่ที่นั้น
แม้จิลลาจะมีพรสวรรค์สูง แต่อายุยังน้อยเกินไป ในด้านการฝึกตนเมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้วถือว่ายังด้อยกว่ามาก ถ้าหากรีบเร่งไปทวีปโอชวินแล้ว อาจเกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้
“กลับไปบอกจิลลา บางทีอีกไม่นาน พวกเราจะได้พบกันอีก” รพีพงษ์แย้มยิ้มแล้วพูดขึ้น
“อ่อ?รพีพงษ์ คุณหมายความว่า?” จิรภัทรแววตาแฝงไปด้วยความดีใจ พูดกับรพีพงษ์
“ผมได้ตัดสินใจแล้วว่า จะพาอารียาไปป่าหมอกเพื่อฝึกตนด้วยกัน ถึงเวลานั้น คงต้องรบกวนเจ้าจิรภัทรแล้ว” รพีพงษ์กุมมือคำนับพูดขึ้น
“มิกล้า มิกล้า สัตว์วิญญาณในป่าหมอกล้วนเคารพนับถือคุณ หากไม่ใช่สิ่งที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ คนของสำนักเทพยาเซียนของพวกเรา ไม่มีทางเข้าไปในป่าหมอกแม้แต่ก้าวเดียว!”
จิรภัทรพูดสำทับต่ออีกว่า: “รพีพงษ์ คุณพาภรรยาของคุณไปยังป่าหมอก ผมก็จะไปรอคุณอยู่ที่นั่น”
ว่าแล้ว จิรภัทรหันหลังคิดจะกลับไป
“จะรีบไปไหน?”
“ผมจะรีบนำข่าวนี้ไปบอกกับจิลลา เด็กคนนั้นได้ยินแล้วเขาคงจะดีใจมาก” จิรภัทรยิ้มแล้วพูด
รพีพงษ์ส่ายศีรษะอย่างเสียไม่ได้ พูดไปแล้ว จิรภัทรตามใจเด็กสาวจิลลาจนเสียนิสัยแล้วจริง ๆ
“อย่ารีบร้อน ผมยังมีอีกเรื่อง ที่จะปรึกษากับเจ้าจิรภัทร” รพีพงษ์พูดขึ้น
“อ่อ? เรื่องอะไรเหรอ?” จิรภัทรถามด้วยความประหลาดใจ
แววตารพีพงษ์เปลี่ยนไป พูดกับจิรภัทรเบา ๆ ว่า: “ผมวางแผนที่จะ……”
บนเขาคุนหลุน สายลมพัดผ่าน ต้นไม้เขียวชอุ่มส่งเสียงพลิ้วไหว
ครู่เดียว ขอบฟ้าทางตะวันออกเผยให้เห็นสีแดงระเรื่อ ดวงอาทิตย์สีแดงฉานกำลังขึ้นอย่างช้า ๆ!
บนยอดเขาคุนหลุน ใบพัดขนาดใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์รุ่นอาปาเช่ใหม่เอี่ยมกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์ใส่ชุดสูทสวมแว่นตาดำ ข้างกายของเขาก็คือหนูลินและอารียา
“ทุกท่านโปรดส่งเพียงเท่านี้”
รพีพงษ์ยืนอยู่หน้าผู้คน กวาดสายตาไปยังคนเหล่านั้น
มังกร หงส์ พยัคฆ์ ธัชธรรม ธมกร นฤชัย นิศมา จิรภัทร…… ใบหน้าแต่ละคนตราตรึงอยู่ในสมองของรพีพงษ์
นับดูแล้ว ตนเองเข้ามาอยู่ในกลุ่มสิงโตเป็นเวลานานมาก
ตอนที่รพีพงษ์เพิ่งเข้ามานั้น ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องพบกับความท้าทายและอันตรายอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ รอจนถึงเวลาที่รพีพงษ์จะต้องจากไป กลับทำภารกิจจอมมารชูร่าได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำไม่สำเร็จ!
สิ่งที่เขาทำไม่เพียงแต่สามารถกำจัดทวีปโอชวิน แล้วยังรวบรวมทวีปโอชวินกับทวีปการฝึกตน ประเทศจีนให้เป็นหนึ่งเดียว จากนั้นเป็นต้นมาไม่มีข้อพิพาทอีกต่อไป!
ชนะสงครามโดยไม่ต้องใช้กำลัง รพีพงษ์ได้ทำให้ประโยคนี้เป็นจริงขึ้นมาได้
เฮลิคอปเตอร์รุ่นอาปาเช่ค่อย ๆ ลอยขึ้นไป มุ่งหน้าสู่เกียวโต
บนยอดเขาคุนหลุน สายของทุกคนต่างจับจ้อง พวกเขารู้ดี รพีพงษ์เหมือนเฉกเช่นจอมมารชูร่า ได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว และตนเองก็มีความสุขที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานฉบับนี้!
เกียวโต วันนี้เดิมทีเป็นวันที่ปกติธรรมดาอีกวันหนึ่ง แต่เป็นเพราะเรื่องนี้ กลับทำให้วันนี้เป็นวันที่ไม่ปกติไปแล้ว
“ประมุกรพีกลับมาแล้ว!”
ข่าวนี้ไม่นานได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเกียวโต แม้จะไม่โด่งดังไปทั่วทุกตรอกซอกซอย แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างความสั่นสะเทือนได้!