พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่181
บทที่181 รถฮาเลย์นำทาง
“คุณบอกว่าท่านยุดต้องต้อนรับบุคคลสำคัญไม่ใช่ หรอ?” ปรางทิพย์เอ่ยปากถาม
“ใช่สิ หรือบุคคลสำคัญที่คุณยุดต้องต้อนรับ อยู่ที่ นี่? คุณมองรถมอเตอร์ไซด์เหล่านี้ เหมือนกับมานำทาง ปะ บุคคลสำคัญจึงจะได้รับบริการแบบนี้นะ” โมไนย กล่าว
ปรางทิพย์พยักหน้า ในชั่วพริบตาก็ไม่คิดอิจฉารถ ปอร์เช่คันนั้นของครอบครัวอารียาอีก
ในความคิดของเธอ ตอนนี้โมไนยอยู่กับจิรายุศ อนาคตก็สามารถที่จะไต่เต้าไปจุดที่สูงอย่างจิรายุศได้ ถึงตอนนั้น เธอก็สามารถนั่งรถโรสลอยด์ได้แล้ว แล้ว ให้ผู้คนขับนำทางเธอ
อารียาแต่งกับไอ้สวะรพีพงษ์นี้ แม้ครอบครัวเธอ จะซื้อปอร์เช่ แต่ยังไงก็เปลี่ยนความจริงอะไรไม่ได้ ไม่ ว่าอารียาจะเก่งยังไง ถึงจุดนี้ ก็สุดทางแล้ว
“ท่านยุดคือใคร?” ศศินัดดาเพ่งไปที่รถโลสรอยด์ คันนั้น และรถฮาเลย์สองข้างทาง ใบหน้าเต็มไปด้วย ความสงสัย
“ท่านยุดคือเจ้าของกิจการที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ หยกของพวกเรา กิจการเกี่ยวกับหยกทั้งหมดของ อำเภอหยก ล้วนพึ่งคุณยุดในการพัฒนากิจการ ในอำเภอหยก ท่านยุดคือพระเจ้า คนที่ยั่วโมโหเขา มีไม่ก คน” ปรางทิพย์อธิบาย
เมื่อศศินัดดาและศักดาได้ยิน ก็ตกใจไปตามๆกัน ไม่คาดคิดเมื่อพวกเขามาถึง จะได้เจอกับคนที่เก่งกาจ ที่สุดของอำเภอหยก
ปรางทิพย์รีบฉวยโอกาสนี้ กล่าว “คุณป้า คุณลุง ฉันจะบอกพวกคุณให้ ตอนนี้โมไนยอยู่กับท่านยุด เขา คือผู้ช่วยของท่านยุด รออนาคตเจริญก้าวหน้าอีกสัก หน่อย ไม่แน่อาจจะเป็นคนดังที่อยู่ข้างกายท่านยุดก็ เป็นได้ ถึงเวลานั้นโมไนยก็สามารถที่จะได้รับการ บริการนำทางพิเศษแบบนี้”
โมไนยเต็มสะใจ โบกมือแล้วโบกมืออีก แล้วกล่าว “น้อยๆหน่อยน้อยๆหน่อย ตอนนี้ยังอยู่ไม่ถึงจุดนั้น”
ปรางทิพย์มองไปที่อารียา หัวเราะพลางกล่าว “ไม่ เห็นจะเป็นไรเลย อย่างน้อยก็มีความหวัง ไม่เหมือน ใครบางคน ชั่วชีวิตนี้ก็เป็นได้แค่ไอ้สวะ แกว่าจริงไหม อารี”
อารียามองหล่อนอย่างไม่สบอารมณ์ ภายในใจ เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าโมโนยจะเก่งกาจอะไรนักหนา ถ้าพูด
ว่าเก่ง รพีพงษ์ถึงจะเก่งที่สุด
ใบหน้าของศศินัดดากับศักดาทั้งคู่ไม่สบายใจ พวกเขาไม่รู้ตัวตนของรพีพงษ์ ได้ยินปรางคุยโว โอ้อวด ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าลูกสาวของตนเสียเปรียบที่ แต่งกับรพีพงษ์
“รพีพงษ์ แกก็เรียนรู้จากเค้าบ้าง อย่าอะไรก็ได้ไป วันๆ” ศศินัดดาชักตาแล้วกล่าว
รพีพงษ์ไม่ได้ใส่ใจเธอ แต่กลับเพ่งไปที่รถโรว สลอยด์นั้น
ปรางทิพย์เห็นรพีพงษ์กำลังเพ่งไปที่รถโรวสลอย ด์คันนั้น กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “หยุดดูเค้าได้แล้ว ไม่ว่าจะยังไง เค้าก็ไม่มีทางมารับแก”
ขณะนี้มีคนออกมาจากรถโรวสลอยด์ คือจิรายุศที่ สวมใส่ชุดสูทอันแสนแพงทั้งตัวพอดี วันนี้รพีพงษ์มา ต้องอลังการหน่อย จึงได้สวมชุดที่แพงที่สุดที่ตนมี
โดยหลักแล้วเวลานี้รพีพงษ์ต้องมาถึงอำเภอหยก แล้ว จิรายุศมองไปรอบๆ เห็นรพีพงษ์ยืนอยู่ข้างรถ ปอร์เช่ นัยน์ตาลุกวาว แล้วรีบเดินไปที่รพีพงษ์
“ท่านยุดนั้นเดินตรงมาที่เราหรือเปล่าเนี่ย?” อารี
ยากล่าว
ใบหน้าปรางทิพย์และโมไนยเต็มไปด้วยความ ตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมจิรายุศถึงได้เดินมาทางพวก
เขา
มีเพียงรพีพงษ์เท่านั้นที่รู้ จิรายุศพุ่งมาที่เขา แต่ เขาไม่อยากกระโตกกระตาก ดังนั้นจึงขมวดคิ้วแล้ว ขมวดคิ้วอีก
“โมไนย ท่านยุดคงไม่ได้มาหาคุณหรอกนะ” ปราง ทิพย์พูดขึ้นมาทันที
โมไนยตื่นเต้นขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “อาจจะเป็น
ไปได้ หรือเขาอยากจะแนะนำฉันต่อหน้าบุคคลสำคัญ ท่านนั้น ถ้าแบบนั้นผมก็มีโอกาสเจริญในหน้าที่การ งานแล้วล่ะสิ?” ปรางทิพย์ตื่นเต้น แล้วกล่าว “โมไนย ฉันว่าน่าจะ
เป็นไปได้นะ ไม่งั้นทำไมท่านยุดจะเดินมาทางเราตอน เขาต้องเห็นแล้วว่าคุณก็อยู่ที่นี่ ก็อยากจะแนะนำคุณ ให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นรู้จัก”
โมไนยรู้สึกได้ว่าตัวเองตื่นเต้นมากจนใจจะออกมา เต้นอยู่ข้างนอกแล้ว เมื่อก่อนท่าทีของจิรายุศที่มีต่อ เขาก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่น เขาก็ไม่คาดคิดว่าวันนี้จิรา ยุศจะให้ความสำคัญกับเขา ทำให้เขารู้สึกประหลาด ใจกับความรู้สึกนี้
ตอนที่จิรายุศใกล้จะเดินมาถึงรพีพงษ์และพวก เขาตรงนี้ โมไนยเตรียมพร้อมที่จะเดินไปทักทายจิรา ยุศแล้ว
ในตอนนี้รพีพงษ์เพ่งไปที่จิรายุศ ด้วยสายตาที่บ่ง
บอกว่าอย่าเข้ามา
จิรายุศรีบหยุดเดินอยู่ที่เดิมในทันที เขามองไปที่ รพีพงษ์อย่างไม่รู้จะทำยังไง เขาคิดว่ารพีพงษ์ต้องดีใจ ที่เขามาต้อนรับ ตอนนี้ดูๆแล้ว รพีพงษ์เหมือนจะไม่ สบายใจ
เขานึกขึ้นได้ว่ารพีพงษ์ชอบติดดิน แล้วเขาก็บอก
กับตนแล้วว่าไม่ต้องต้อนรับ เขานึกว่ารพีพงษ์โกรธแผ่นหลังเต็มไปจึงเต็มไปด้วยเหงือ
รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมา แล้วส่งข้อความให้จิรา ยุศหนึ่งฉบับ
“อย่าเพิ่งเข้ามา ไว้เดี๋ยวฉันจะไปหาแกเอง แกกลับ ไปก่อน”
จิรายุศได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น แล้วรีบหยิบขึ้นมา ดู จากนั้นไม่พูดอะไรแล้วรีบเดินกลับไปที่รถโรวสลอย ด์นั่น หลังจากที่นั่งบนรถแล้ว ให้โรวสลอย์ขับเข้าข้าง ทาง
“พี่รพี คุณรีบขับเราออกไปเถอะ ไม่งั้นอีกแป๊ปที่นี่ คนจะเยอะมาก จะขับรถออกไปไม่ได้นะ” จิรายุศส่ง ข้อความหารพีพงษ์
อารียาได้เห็นเหตุการณ์นี้ เธอมั่นใจมาก ว่าหลัง จากที่รพีพงษ์ได้เอามือถือขึ้นมาแล้วจิรายุศก็รีบวิ่ง กลับไปที่รถ แล้วจิรายุศก็ดูมือถือเช่นกัน หรือ เมื่อกี้รพี พงษ์ส่งข้อความให้จิรายุศ
ในใจของอารียาเต็มไปด้วยความตกใจ หากเป็น เช่นนี้จริงๆ นั่นก็หมายความว่าคนที่จิรายุศมารับวันนี้ ก็ คือรพีพงษ์
ใบหน้าปรางทิพย์และโมไนยเต็มไปด้วยความ ตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมจิรายุศเดินมาได้ครึ่งทาง ก็รีบวิ่ง
กลับไป
รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่อารียา แล้วกล่าว “ขึ้นรถเถอะ”
อารียาพยักหน้า เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง แล้วเรียก ศศินัดดาและศักดาให้ตามขึ้นมานั่ง
รพีพงษ์มองไปที่ปรางทิพย์และโมไนย แล้วกล่าว “ตอนนี้ไม่มีใครขวาง พวกแกก็รีบไปขึ้นรถเถอะ ไม่งั้น อีกแป็ปก็ออกไปไม่ได้อีกหรอก”
ปรางทิพย์ชักตาขึ้นมา แล้วกล่าว “รพีพงษ์ แกบ้า ไปแล้วหรอ นี่เป็นท่านยุดเปิดทางให้กับคนสำคัญขับ นั้น แกกล้าไปทางนี้?
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “ถนนนี้ เป็นของสาธารณะ ไม่มีกฎว่าให้แค่พวกเขาได้ใช้หรอ
กั้ง”
พูดจบ รพีพงษ์ก็เข้าไปนั่งในรถ สตาร์ทรถ แล้ว
ขับไปทางหน้า
ปรางทิพย์ยังคิดจะห้าม โมไนยดึงแขนเธอเอาไว้ หัวเราะพลางกล่าว “เขารนหาที่ตายเอง ก็ให้เขาไป เถอะ ฝีมือของท่านยุดไม่ใช่คุณไม่รู้ เดี่ยวรถของพวก เขาขับไป ท่านยุดจะต้องทำลายรถของเขาทิ้ง ถึงเวลา
LEGO นั้นแล้วเขาจะร้องไม่ออก” ปรางทิพย์คิดได้ดังนี้ จึงได้มองไปที่รถที่กำลังวิ่ง
ไปข้างหน้านั้นของรพีพงษ์อย่างเยาะเย้ย ศศินัดดาและศักดาที่อยู่บนรถทั้งสองก็รู้สึกแปลก
ใจนิดหน่อย ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะวิ่งบนถนนที่เปิดทางไว้ให้แขกของเขา นี่ไม่ใช่ว่าหาเรื่องเค้าหรอ
“รพีพงษ์ แกทำอะไรหนะ รีบจอดเดี่ยวนี้ เดี๋ยวเค้า
มาหาเรื่อง พวกเราจะแย่เอานะ” ศศินัดดากล่าว รพีพงษ์ยิ้มแล้วยิ้มอีก แล้วกล่าว “ไม่น่าจะมีปัญหา อะไรนะ ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีรถคันไหนวิ่งไป”
ศศินัดดาเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที แล้วด่า อย่างรุนแรงว่า “ไอ้รพีพงษ์ แกอยากตายก็อย่าพาพวก เราไปด้วย
หยุดรถให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงไป!”
“พี่เขย คุณเจ๋งเกินไปแล้วป่ะเนี่ย นั่นเป็นทางที่ ท่านยุดเปิดทางไว้นะ” ธีริทธิ์ค่อนข้างตกใจ
อารียาหันไปมองศศินัดดาพวกเขาทั้งสาม แล้ว
กล่าว “เชื่อรพีพงษ์เค้าเถอะ พวกเราขับจากตรงนี้ไป น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
“แกรู้ได้ไง? นั่นคือคนใหญ่คนโตของอำเภอหยก นะ เค้าจะให้พวกเราไปหรือไง?” ศศินัดดากล่าว
อารียาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายศศินัดดาอย่างไรดี แล้ว กล่าว “ฉันเชื่อรพีพงษ์”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วเหยียบคันเร่ง ออกไปจากถนน เส้นนี้ผ่านเข้าไป LEGO
เห็นท่าทางที่สงบของคนเหล่านั้นของท่านยุด ราวกับถนนเส้นนี้เปิดทางไว้เพื่อพวกเขาได้ขับออกมาโดยเฉพาะแล้ว ใบหน้าของศศินัดดาและศักดาก สะท้อนความงงงวยออกมา
หรือผู้ใหญ่ของอำเภอหยกนี้จะเป็นมิตร ไม่หา เรื่องพวกเรา?” ศักดากล่าว
“อาจจะใช่ รพีพงษ์ ครั้งนี้แกโชคดี ครั้งหน้าถ้าแก ยังเป็นแบบนี้อีก แกก็อย่าหวังจะได้ขับรถอีกต่อไป”ศศิ นัดดาเห็นว่าไม่เกิดปัญหา ก็หมดกังวล เพียงแค่พึมพำ
นิดหน่อย
“รอดูล่ะกัน เดี่ยวคนของท่านยุดจะพุ่งเข้าไป ทำลายรถของพวกเขา” โมไนยกล่าวอย่างเยาะเย้ย
ปรางทิพย์ก็รอดูอย่างใจจดใจจ่อ
แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่า รถของรพีพงษ์ได้ผ่าน หน้ารถโรวสลอยด์แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครพุ่งเข้าไป ทำลายรถพวกเขาแต่อย่างใด
แต่กลับเป็นหลังจากที่รถของรพีพงษ์ขับผ่านไป แล้วนั้น จิรายุศก็ได้ลงมาจากรถ แล้วส่งสายตาร่ำลา ไปยังรถของรพีพงษ์ไป
ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ นี่ ไม่ใช่สไตล์ของท่านยุดหนิ คิดไม่ถึงว่าจะให้รถของรพี พงษ์ผ่านไปได้ซะงั้น?” LEGO
แล้วยังเห็นจิรายุศรอจนรถของรพีพงษ์ขับไปไกล แล้ว จึงจะกลับขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วนำทีมรถฮาเลย์ ของตนไป ออกจากที่นี่
ปรางทิพย์และโมในยมองไปยังหมู่คนที่เริ่มกลับ มาแออัดกันอีกครั้งบนถนนเส้นนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วย ความงง ตอนนี้พวกเขาอยากออกไป ทำได้เพียง เบียดๆข้างนอกไป
ปรางทิพย์โมโหจนกัดฟัน แล้วตะโกนออกมา “ไอ้ พวกนี้ทำไมโชคมันดีจัง ทำขนาดนี้แล้วท่านยุดยังไม่ จัดการพวกเขาอีก!”
โมไนยน้ำเสียงเย็นชา แล้วกล่าว “น่าจะเป็นตอน นั้นที่ท่านยุดเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันกับผม คิดว่าความ สัมพันธ์พวกเขากับผมดี ถึงได้ปล่อยพวกเขาไป”
ปรางทิพย์รีบพยักหน้า แล้วกล่าว “ต้องเป็นแบบนี้ แน่นอน พวกเขานี่ไร้ยางอายจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ รถของพวกเขาต้องโดนทุบไปแล้ว”
“ชั่งเถอะ ยังไงพวกเขาก็เป็นญาติของคุณ เดี๋ยว ท่านยุดถามขึ้นมา ผมก็จะตอบเขาไป แต่ถ้าต่อไปเขา ยังทำอะไรไม่ให้เกียรติผมอีก ผมก็จะไม่สนใจพวกเขา เป็นญาติคุณหรือไม่” โมไนยบึนปากแล้วกล่าว
“โมไนย คุณใจกว้างจริงๆ ถ้าครั้งหน้าพวกเขายัง ทำแบบนี้อีก คุณก็ให้ท่านยุดจัดการพวกเขาเลย ไม่ ต้องสนใจว่าพวกเขาจะเป็นญาติฉันหรือไม่” ใบหน้า ปรางทิพย์มองโมไนยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ ศรัทธา
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปที่รถ ค่อยๆเบียดข้างๆไป