พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่562 สัมภาษณ์
บทที่562 สัมภาษณ์
หลังจากที่พวกนิษฐาเข้าไปในอาคารลานคอน จึงรู้สึกสะดุดตากับการตกแต่งภายในอาคาร อาคารที่สูงตระหง่านแบบนี้ เป็นของกรุ๊ป ลานคอนทั้งหมด
ด้านในมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน แต่ละแผนกมีการจัดวางกันอย่างเหมาะสม ภายในอาคารมีมุมพักผ่อน มุมออกกำลังกาย และห้องอาหารอยู่ตามจุดต่างๆ
“โอ้โห นี่เป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้้สินะ สุดยอดไปเลย”นิษฐาอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้
“พอคิดว่าอีกหน่อยพวกเราจะได้มาทำงานที่นี่ รู้สึกตื่นเต้นจังเลย”ชนุดมเองก็พูดขึ้นมาคำหนึ่ง
แม้ว่าเยาวเรศจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเธอเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย พวกเขามาเรียนที่มหาวิทยาลัยฟูตัน ก็เพื่อที่จะเรียนจบแล้วมีงานดีๆทำ กรุ๊ปลานคอน เป็นสถานที่ในฝันของพวกเขา การที่ได้มาทำงานที่นี่ย่อมเป็นความภูมิใจของครอบครัว
ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงตะลานกับการตกแต่งภายในของอาคารลานคอน ผู้จัดการที่สวมสูทเรียบแต่ดูดีก็มาหยุดตรงหน้าพวกเขา ยิ้มให้ทุกคนแล้วพูดว่า“ทุกท่านคะ ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของกรุ๊ปลานคอน ดีใจที่ทุกคนมาสัมภาษณ์ในบริษัทเรานะคะ”
เมื่อทุกคนเห็นว่าคนที่เดินมาคือผู้จัดการฝ่ายบุคคล จึงรีบหันไปมองอย่างหญิงสาวผู้นั้นอย่างตั้งใจ ทุกคนอยากจะเหลือความทรงจำที่ดีไว้ให้กับหล่อน
“พูดได้ว่าวันนี้พวกเราโชคดีมากเลย หวังว่าทุกคนจะพกพาความโชคดี สัมภาษณ์งานได้อย่างราบรื่นนะคะ”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลกล่าวขึ้น จากนั้นจึงพาทุกคนเดินเข้าไปข้างใน
คำว่าโชคดีของหล่อน หมายความว่าวันนี้รพีพงษ์ขับรถมาส่งพวกเขาด้วยตัวเองเลยทีเดียว ถือว่าได้รับการปฏิบัติที่ดีมาก ในมุมมองของผู้จัดการฝ่ายบุคคลแล้ว นี่เป็นโอกาสที่โชคดีมาก
ทุกคนเดินตามหลัง นิษฐารู้สึกสงสัยเล็กน้อย หันกลับไปถามชนุดมว่า“ทำไมหล่อนถึงบอกว่าวันนี้เราโชคดีมากล่ะ”
ชนุดมเองก็สงสัยเช่นกัน พอคิดแล้ว จึงพูดขึ้น“หล่อนพูดประโยคนี้กับเราสามคนไงล่ะ เพราะญาติของฉันได้คุยกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลไว้เรียบร้อยแล้ว หล่อนเลยบอกแบบนั้น คิดว่าคงอยากจะให้เราสามคนสบายใจ ว่าสัมภาษณ์งานวันนี้ได้แน่นอน”
นิษฐาฟังแล้วรู้สึกสมเหตุสมผล จึงยิ้มขึ้นมาด้วยอีกคนหนึ่ง พูดว่า“ดูทีญาติของนายคนนี้พึ่งพาได้อยู่นะ ไว้พวกเราสัมภาษณ์งานผ่านแล้ว ฉันกับเยาวเรศจะขอเลี้ยงข้าวนายสักมื้อ”
ชนุดมรีบโบกปัดมือ พูดด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง“เรื่องเล็ก เรื่องเล็ก ก็แค่สัมภาษณ์งานน่ะ สำหรับฉันแค่คำพูดคำเดียวก็จบ”
ไม่นาน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็พาทุกคนมาถึงห้องประชุมใหญ่ วันนี้การสัมภาษณ์งานจะ จัดขึ้นที่นี่
ตอนนี้วิไลพรนั่งอยู่กลางห้องประชุม ในฐานะประธานบริหารของกรุ๊ปลานคอน และดาวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว วิไลพรต้องออกมากล่าวเปิดงานสัมภาษณ์สัก สองสามคำ
“ท่านนี้เป็นประธานบริหารกรุ๊ปลานคอนของเรานะจ๊ะ คุณวิไลพร คิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อท่านประธานของเรา ก็เพราะท่านนี่แหละ กรุ๊ปลานคอนของเราจึงพัฒนามาได้ถึงทุกวันนี้”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลแนะนำ
ทุกคนต่างเคลิบเคลิ้มไปกับความงามของวิไลพร นอกจากนิษฐากับเยาวเรศ
ในตอนที่พวกเธอสองคนจ้องมองวิไลพร ก็ตกตะลึงขึ้นมา จากนั้นมองสบตากัน ในแวว ตามีความเหลือเชื่อแฝงอยู่
“นี่……นี่คนที่ไปรับรพีพงษ์ที่สนามบินวันนั้นนี่”นิษฐาพูดพึมพำ
เยาวเรศพยักหน้ารับ หล่อนเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าคนที่ไปรับรพีพงษ์วันนั้น จะเป็นประธานบริหารของกรุ๊ปลานคอน ชนุดมเห็นปฏิกริยาของคนทั้งสอง ยิ้มแล้วพูดขึ้น“เป็นอะไร หรือเธอสองคนก็ตะลึงในความงามของท่านประธานเข้า แต่จะว่าไปนะท่านประธานนี่สวยจริงๆ ออร่าจับ จนน่าหลงใหลเลยทีเดียว”
นิษฐามองไปที่ชนุดม แล้วเปิดปากพูด“คนๆนั้น ที่เลี้ยงดูรพีพงษ์ไง”
ชนุดมตกตะลึง ในใจเกิดความริษยาขึ้น เดิมทีเขาคิดว่าคนที่เลี้ยงดูรพีพงษ์น่าจะเป็น เพียงป้าแก่ๆคนหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นประธานสาวสวยของกรุ๊ปลานคอน
ของสวยๆงามๆแบบนี้ คิดว่าผู้ชายทั้งโลกก็คงไม่มีวันปฏิเสธ ถ้าเป็นเขา เขาก็ยินดีให้เลี้ยงดูเหมือนกัน แต่ว่าไม่นานเข้าก็ปลง เพราะตอนนี้รพีพงษ์ก็เป็นแค่คนขับรถของกรุ๊ปลานคอนคนหนึ่งเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า เขา“ตกกระป๋อง”ไปแล้ว และไม่แน่ว่างานคนขับรถของเขาในตอนนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาเกาะไม่ปล่อยก็ได้ ดังนั้นเขาไม่มีความจำเป็นต้องอิจฉารพีพงษ์
“คิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะดวงดีขนาดนั้น เสียดายนะ มันไม่คู่ควรกับสาวสวยแบบนั้นเลย ตอนนี้มันก็เป็นได้แค่คนรถ ดูท่า เป็นเรื่องตลกน่าขบขัน”ชนุดมพูดเสียงค่อย
นิษฐาพยักหน้า รู้สึกว่ารพีพงษ์นั้นช่างน่าขันสิ้นดี ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตะลึงที่รพีพงษ์ไปคั่วประธานสาวของกรุ๊ปลานคอนได้ ดูท่าก่อนที่เขามีปัญหากับตระกูลพงศ์ธนธดา รพีพงษ์ก็เป็นคนฉกาจไม่เบา
ไม่ได้คิดอะไรมาก สองสามคนต่างตั้งสมาธิ เพื่อฟังผู้จัดการฝ่ายบุคคลกับวิไลพรคุยกัน
กระบวนการสัมภาษณ์ได้จัดลงมติไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลแนะนำวิไลพรเรียบร้อยแล้ว วิไลพรก็มองไปรอบๆพูดสองสามคำ ก็ไม่พ้นการสรรเสริญข้อดีของบริษัทตนเองหรอก อีกอย่างถ้าพวกผู้สัมภาษณ์ได้เข้ามาทำงานในบริษัท จะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง
หลังจากนั้น เมื่อมาถึงขั้นตอนที่ผู้สัมภาษณ์แนะนำตัวเอง ทุกคนต่างก็พยายามที่จะแสดงจุดเด่นของตนเองกันอย่างเต็มที่ หวังว่ากรุ๊ปลานคอนจะประทับใจตนเอง
จากกระบวนการสัมภาษณ์ ชนุดมก็ยิ่งตัดสินใจที่จะทำงานที่กรุ๊ปลานคอน ด้านหนึ่งเป็น เพราะสวัสดิการค่อนข้างดี ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะวิไลพร
ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่ชอบของสวยๆงามๆหรอก ชนุดมเองก็ไม่ต่างกัน พอได้เห็นวิไลพร ชนุดมก็ได้วาดภาพอนาคตตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เขาเข้าร่วมงานกับกรุ๊ปลานคอน ต้องค่อยๆปีนขึ้นไป แล้วเขาจะไปนั่งในตำแหน่งสูงสุด แล้วเขาจะจีบวิไลพร เขาเองก็มั่นใจมาก
และเมื่อถึงเวลาเขาต้องจีบวิไลพรมาให้ได้ กรุ๊ปลานคอนก็จะเป็นของเขา แบบนี้เขาก็จะ ได้ทั้งผลประโยชน์ ทั้งสาวงาม ช่างเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ
คิดแบบนี้ ชนุดมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
วิไลพรสังเกตเห็นคนที่ยิ้มออกมาคนนี้ ในใจก็รู้สึกต่อต้าน สำหรับดาวมหาวิทยาลัยดัง อย่างหล่อนแล้ว ยิ้มแบบนี้หล่อนเห็นมาเยอะแล้ว หล่อนย่อมรู้ดีว่าคนที่ยิ้มแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
หากแต่หล่อนไม่สนใจ อย่างไรเสียผู้ชายที่หล่อนเคยเจอ เก้าในสิบต่างก็ยิ้มแบบนี้แหละ
ส่วนรพีพงษ์ เป็นคนเดียวที่ไม่ยิ้ม
ในตอนที่การสัมภาษณ์ใกล้จะสิ้นสุด คนๆหนึ่งผลักประตูห้องประชุมเปิดออก เดินเข้าไป
ผู้คนต่างหันไปดู หลังจากที่เห็น ต่างก็ตกอกตกใจ
เพราะว่าคนที่เดินเข้ามา ก็คือคนขับรถที่ไปรับพวกเขามา รพีพงษ์