พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่603 เวลาที่อยู่บนเกาะ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่603 เวลาที่อยู่บนเกาะ
บทที่603 เวลาที่อยู่บนเกาะ
“พี่ชายพี่สาว พวกคุณจองโรงแรมไว้หรือยัง ผมจะช่วยพวกคุณเอากระเป๋าไปไว้ที่โรงแรมก่อน ค่อยแนะนำสถานการณ์บนเกาะของให้พวกคุณ”
ทั้งสามคนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เด็กชายแนะนำตัวเองกับรพีพงษ์และอารียา ชื่อของเขาคือณัท และอาศัยอยู่บนเกาะพระจันทร์กับพ่อแม่ พ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆบนเกาะพระจันทร์ ทั้งบ้านอาศัยการทำมาหากินโดยร้านอาหารนี้
ณัทเกิดบนเกาะ แม้ว่าเขาจะอายุเกือบถึงสอบเข้าวิทยาลัยได้แล้ว แต่สถานภาพการศึกษาบนเกาะก็แย่เกินไป แม้ว่าจะมีโรงเรียนมัธยม แต่ก็ไม่มีโอกาสสอบเข้าวิทยาลัยได้
คนที่ร่ำรวยบนเกาะ โดยทั่วไปมักจะส่งลูกเรียนในตัวเมือง คนที่ตั้งถิ่นฐานบนเกาะเช่นณัท แต่ไม่ถือว่าร่ำรวย มักจะเลือกให้ลูกๆอยู่บ้านเพื่อช่วยเหลือ
ตอนนี้เป็นฤดูกาลการท่องเที่ยว โรงเรียนมัธยมบนเกาะก็ปิดด้วยเช่นกัน ณัทมาที่ท่าเทียบเรือสำราญทุกวัน เพื่อดูว่าสามารถรับไกด์นำเที่ยวส่วนตัวได้หรือไม่ นอกจากค่าชดเชยรายจ่ายของครอบครัวแล้ว เขายังสามารถได้ฟังหลายสิ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกจากลูกค้า
เด็กชายคนนี้ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กนั้นโหยหาโลกภายนอกมาก
เดิมทีรพีพงษ์อยากจะบอกว่าเขายังไม่ได้จองโรงแรม ให้ณัทแนะนำโรงแรมดีๆไม่กี่แห่งให้หน่อย แต่เมื่อคิดดูแล้ว โรงแรมต่างๆทั่วโลกก็เหมือนกัน ในเมื่อเป็นการเดินทางท่องเที่ยว พักที่โฮมสเตย์น่าจะได้ความรู้สึกมากกว่า
เขาจึงยิ้มแล้วถามณัท: “บ้านพวกนายมีห้องที่เกินมาไหม ฉันอยากสัมผัสวิถีชีวิตของคนที่นี่ของพวกนาย ฉันจะจ่ายเงินในราคาเท่ากับโรงแรมให้กับนาย”
ณัทนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะต้องการพักอยู่ในบ้านของเขา ลังเลและกล่าวว่า: “มีห้องนอนอยู่ แต่ว่า….สภาพบ้านของผมไม่ดีเท่าที่อยู่ในโรงแรม แม้ว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านบังกะโลสองชั้นที่สร้างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว แต่เตียงของบ้านฉันอาจจะไม่นุ่มเท่าของโรงแรม”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “พวกนี้ไม่สำคัญเลย เหตุผลหลักคืออยากจะสัมผัสกับประเพณีท้องถิ่นของพวกนาย เพียงแค่พ่อแม่ของนายตกลงก็พอ”
หลังจากพูดเสร็จ รพีพงษ์ก็ถามอารียาอีกครั้ง ดูว่าเธอมีความเห็นหรือไม่
การแสดงออกของอารียาเธอเคยอยู่ในโรงแรมจนชินแล้ว และก็อยากสัมผัสความรู้สึกของการอยู่โฮมสเตย์
ณัทโทรหาพ่อแม่ของเขาทันที และถาม หลังจากแน่ใจว่าพวกเขาสามารถอาศัยอยู่ได้ ทั้งสามคนจึงเดินไปที่บ้านของณัทพร้อมกัน
ระหว่างทางณัทได้แนะนำจุดเด่นของที่นี่ให้รพีพงษ์และอารียามากมาย และพูดคุยเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของจุดชมวิวหลายแห่ง และเตือนรพีพงษ์และอารียาถึงสถานที่หลอกลวงที่ไม่ควรไป
ข้อดีของการหาไกด์เถื่อน คือสามารถหลีกเลี่ยงสถานที่ที่น่าเบื่อและหลอกลวงเงินได้ และประหยัดเวลาได้มาก หากเปลี่ยนเป็นไกด์มืออาชีพบนเกาะ เกรงว่านักท่องเที่ยวจะต้องไปทุกที่ที่หลอกเอาเงิน ท้ายที่สุดไกด์นำเที่ยวบริการเพื่อให้กับจุดชมวิว ไม่ใช่เพื่อให้กับนักท่องเที่ยว
ไม่นานนัก พวกเขาทั้งสามก็มาถึงบ้านของณัท ผู้ที่อยู่อาศัยที่นี่บ้านสร้างแบบเดียวกัน คนที่ร่ำรวยก็สามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าใจกลางเกาะได้ ครอบครัวของณัทอยู่ในฐานะปานกลาง แม้ว่าบ้านจะเหมือนๆกัน ก็เห็นได้ว่าการตกแต่งบ้านของพวกเขาค่อนข้างแย่
รพีพงษ์และอารียาไม่ใช่คนที่พิถีพิถัน ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจพวกนี้มากนัก
พ่อของณัทต้อนรับรพีพงษ์และอารียาอย่างอบอุ่น ทำอาหารให้พวกเขาเต็มโต๊ะ ทำความสะอาดห้องที่พวกเขาพักอยู่อย่างละเอียดรอบคอบ
รพีพงษ์ต้องการจ่ายค่าห้องและอาหารให้ครอบครัวของณัทในราคาโรงแรม แต่ณัทต้องการรู้เรื่องภายนอกจากรพีพงษ์และอารียา ดังนั้นเขาจึงบอกกับพ่อแม่ว่ารพีพงษ์เป็นเพื่อนของเขา เพื่อนมาพักที่บ้านไม่กี่วัน ก็ไม่เก็บเงินเป็นธรรมดา
รพีพงษ์รู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่เหมาะสม และยืนยันที่จะให้เงิน ให้ตายยังไงณัทและพ่อแม่ของเขาก็ไม่รับอยู่ดี รพีพงษ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากรอให้ตอนที่จากไป เอาเงินไว้ให้พวกเขา
การเดินทางของทั้งสองคนบนเกาะพระจันทร์เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ณัทในฐานะคนท้องถิ่น ความรู้ของณัทเกี่ยวกับพื้นที่ในท้องถิ่นนั้นไม่เลวร้ายไปกว่าไกด์นำเที่ยวมืออาชีพ ในเวลาไม่กี่วันนี้ นำพารพีพงษ์และอารียาไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะ
จนกระทั่งณัทพาทั้งสองคนไปยังสถานที่ที่ยังไม่พัฒนาบนเกาะ แต่ทิวทัศน์ก็เป็นสถานที่ที่สวยงาม ที่สำคัญไม่ต้องใช้ตั๋ว
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รพีพงษ์และอารียาอยู่ที่บ้านของณัทก็ได้สัมผัสกับชีวิตของชาวเกาะ วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่แตกต่างจากคนในตัวเมืองมาก เนื่องจากอยู่บนเกาะ ดังนั้นทุกบ้านทุกครัวเรือนที่อยู่ที่นี่จะออกไปจับปลา
รพีพงษ์และอารียาได้สัมผัสกับชีวิตของชาวประมง และได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารทะเลมากมายจากพ่อแม่ของณัท
ชีวิตที่ไร้กังวลแบบนี้มันทำให้คนมึนเมา ถ้าไม่ใช่เพราะความรับผิดชอบอันหนักอึ้งในการล้างแค้นให้ปู่ รพีพงษ์คิดแม้กระทั่งอยากจะซื้อบ้านไว้ที่บ้านเกาะหนึ่งหลัง และใช้ชีวิตแบบสันโดษกับอารียาที่นี่
ในวันที่สามของการมาที่บนเกาะ ณัทได้รู้ว่าอารียากำลังตั้งครรภ์ จึงแนะนำคลับเฮาส์บ่อน้ำพุร้อนให้กับเธอ โดยบอกว่าบ่อน้ำพุจากธรรมชาตินั้นดีต่อสุขภาพของผู้คน และเหมาะกับอารียามาก
รพีพงษ์และอารียาไปที่คลับเฮาส์บ่อน้ำพุร้อนด้วยกัน แต่ที่นี่แยกชายหญิงออกจากกัน รพีพงษ์ไม่ค่อยสนใจแช่น้ำพุร้อนมากนัก ดังนั้นทุกครั้งจะรอที่ข้างนอก และปล่อยให้อารียาเข้าไปแช่คนเดียว
หลังจากผ่านไปหลายวัน อารียารู้สึกว่าเป็นเพราะน้ำพุร้อนนี้สุขภาพร่างกายของตัวเองดีขึ้นมาก การแช่น้ำพุร้อน จึงกลายเป็นรายการที่อารียาต้องมีวันทุก
ภายในสองวัน อารียาบอกรพีพงษ์ว่าเธอได้รู้จักกับเพื่อนสวยคนหนึ่งที่คลับเฮาส์บ่อน้ำพุร้อน เข้ากันกับเธอได้ดี ทั้งสองคนคุยกันได้ทุกเรื่อง ที่สำคัญคนคนนั้นก็อ่อนโยน นิสัยดีมาก อารียาและเขาพึ่งพบแต่รู้สึกเหมือนว่ารู้จักกันมานาน เข้ากันได้อย่างกับเพื่อนสนิท
เป็นเพราะมี “เพื่อนน้ำพุร้อน”คนนี้แช่น้ำพุร้อนด้วยกัน อารียาจึงไม่ให้รพีพงษ์ตามเธอ แต่ไปที่คลับเฮาส์น้ำพุร้อนกับเพื่อนน้ำพุร้อนคนนี้ทุกวัน รพีพงษ์ก็ไม่ต้องรออย่างเบื่อๆอยู่ข้างนอกทุกวัน
รพีพงษ์สงสัยกับความเร็วของมิตรภาพของหญิงสาว แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดมาก อารียายังบอกว่าถ้ามีเวลาจะพาเธอไปพบเพื่อนน้ำพุร้อนคนนี้
ในช่วงเวลานี้ รพีพงษ์ก็พบว่าณัทพาพวกเขาออกไปเที่ยวเล่นทุกวันกลับมาแล้ว ทันทีที่มีเวลา ก็จะหยิบหนังสือมาอ่าน และจดบันทึกมากมาย เป็นเด็กที่ขยันขันแข็งมาก
ยิ่งไปกว่านั้นณัทถามเขาหลายเรื่องเกี่ยวกับโลกภายนอก ทุกครั้งที่รพีพงษ์เล่าให้เขา ดวงตาของณัทจะเปล่งประกาย
เมื่อนึกถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นของครอบครัวณัทในช่วงเวลานี้ รพีพงษ์รู้สึกว่าก่อนที่ตัวเองจะจากไป สามารถช่วยเหลือณัทได้ ให้เขามีโอกาสได้ไปเห็นโลกภายนอก
บ่ายวันนี้ อารียาและเพื่อนน้ำพุร้อนคนนั้นนัดกันไปแช่น้ำพุร้อน รพีพงษ์อยู่ที่บ้านของณัทคนเดียวรู้สึกเบื่อ จึงตั้งใจว่าจะไปชวนณัทเพื่อออกไปเดินเล่นรอบๆด้วยกัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นเงาของณัทที่บ้านเลย ก็รู้สึกสงสัยในใจ ตามหลักแล้วณัทจะอยู่รอที่บ้านตลอด พร้อมที่จะพารพีพงษ์และอารียาออกไปได้ทุกเมื่อ
ในเวลานี้รพีพงษ์ได้ยินเสียงทะเลาะดังมาจากนอกบ้าน จึงเดินออกไป เห็นณัทถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มผู้ชายที่อายุประมาณเขา
ชายที่เป็นผู้นำคนนั้น กำลังยกมือขึ้น และตบไปที่หน้าของณัทหนึ่งครั้ง