พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่670 งานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ต
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่670 งานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ต
บทที่670 งานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ต
กลับมาถึงบ้าน รพีพงษ์มายังห้องของอารียา เห็นอารียากำลังจ้องไปที่ขวัญนลินหมูกลมๆ ด้วยรอยยิ้มแห่งความรัก
อารียาเห็นรพีพงษ์กลับมา ก็ตกใจ แล้วถาม “ทำไมกลับมาเร็วจัง? คุณจัดการฑวัตเรียบร้อยแล้ว”
รพีพงษ์ยักไหล่อย่างเบื่อหน่าย กล่าว “เพื่อนคนนี้ของคุณติดต่อคุณมา ไม่ใช่เพราะสะดวกในการอยู่เกียวโต เขาก็แค่อยากโอ้อวดตัวเองก็แค่นั้น”
อารียาชะงัก แล้วถาม “หมายความว่าไง?”
รพีพงษ์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารบลูดรีมอย่างละเอียดให้อารียาฟัง หลังจากที่อารียาได้ยินแล้วนั้น ก็ไม่เข้าใจแล้วถาม “ไม่น่าใช่นะ ตอนเรียน ฑวัตเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคน ทำไมตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้ล่ะ? เกิดความเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”
รพีพงษ์นิ่งสงบ แล้วถาม “ตอนอยู่มหาลัย เขาช่วยคุณยังไง?”
อารียาทบทวน เล่าเรื่องระหว่างเธอกับฑวัตให้รพีพงษ์ฟัง แสดงให้รพีพงษ์เห็นว่าตอนนั้นเธอรู้สึกว่าฑวัตเป็นคนดีมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะให้เขาทำอะไร เขาก็ช่วย ไม่เคยปฏิเสธเลย
หลังจากที่รพีพงษ์ฟังแล้วนั้น ก็ยิ้มออกมา กล่าว “แม้ผมจะเป็นคนตรงๆ แต่ผมก็เข้าใจผู้ชายด้วยกันอยู่นะ ไม่มีใครทำดีต่อใครอย่างไม่หวังผลใดๆ ถ้าผมเดาไม่ผิด ตอนเรียนอยู่ เขาน่าจะชอบคุณ แต่คุณเพียงแค่คิดว่าเขาดี นี่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณกำลังดูถูกเขาอยู่ ดังนั้นหลังจากที่กลับมาแล้ว เขาอยากโอ้อวดต่อหน้าคุณ” อารียาได้ยิน ก็ถอนหายใจอย่างเซ็ง ไม่คาดคิดว่าคนที่เธอคิดว่าดี จะเป็นแบบนี้ ทำเอาเธอรู้สึกค่อนข้างรับไม่ได้
“หรือเกิดความเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า คุณคิดมากไป” อารียากล่าว
ไม่นาน เธอก็ได้รับข้อความจากฑวัต
อารียา อย่าคิดว่าคุณให้สามีสวะนั่นของคุณจองห้องเพลสสิเดนท์สูทให้เรา แล้วผมจะยกโทษที่ตอนนั้นคุณหยิ่งกับผมได้ วันนี้ผมกลับมาจากเรียนต่อ เซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ เทียบไม่ได้กับตอนนั้นแล้ว แล้วคุณก็กลายเป็นหญิงวัยกลางคนสำหรับผม ผมจะไม่ให้เกียรติใดๆกับคุณอีก”
“ผมให้คุณรีบให้ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมาขอโทษเราเร็วๆซะ มิเช่นนั้น ผมจะใช้ทุกวิถีทางให้พวกคุณเสียใจ”
อารียายื่นมือถือให้รพีพงษ์ แล้วกล่าว “โอเค คุณพูดถูก”
รพีพงษ์ดูข้อความที่ฑวัตส่งมา ด้วยความดูแคลน คิดในใจว่าเขาทั้งสองคนส่งข้อความนี้มาในตอนที่อยู่ห้องเพลสสิเดนท์สูทแน่นอน
เขายังไม่เคยเจอใครที่ไร้ยางอายได้มากขนาดนี้ บูชาต่างชาติก็ว่าแย่แล้ว ยังจะใช้อุบายให้เขาและอารียาเสียใจอีก เค้าข่มขู่ขนาดนี้แล้ว รพีพงษ์จะทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้แล้ว
อย่างน้อย HXกรุ๊ป ไม่มีทางร่วมมือกับบริษัทที่ดูถูกคนจีนแน่นอน
“คุณไม่ต้องคิดถึงมันแล้ว ผมจัดการเอง” รพีพงษ์กล่าว
อารียาพยักหน้า ตอนนี้เธอมีลูกสาว คิดถึงแต่เรื่องของลูกสาว ไม่มีอารมณ์ไปสนใจเรื่องอื่น
เมื่อก่อนเพื่อนๆจะมองเธอยังไง เธอไม่สนใจไปนานแล้ว แล้วปัญหาแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เธอเชื่อว่ารพีพงษ์จะจัดการได้
รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมา โทรไปหาเธียรวิชญ์ “เอ็กเซลเลนซ์นั่นจะเปลี่ยนผู้จัดการทั่วไปแล้วหรอ ชื่อฑวัต?”
“ใช่ ช่วงนี้พวกเขาพยายามจะร่วมมือทางการค้ากับพวกเรา ถึงตอนนั้นผู้จัดการทั่วไปคนใหม่นี้จะมาพูดคุยกับเราเรื่องแผนการพัฒนาในอนาคต อีกสองสามวันจะมีงานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ต ผมวางแผนว่าจะฟังความคิดของผู้จัดการทั่วไปคนใหม่นี้ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะร่วมมือด้วยไหม” เธียรวิชญ์ตอบ
“ไม่ต้องตัดสินใจแล้ว ต่อไปนี้ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการร่วมมือทางการค้ากับเอ็กเซลเลนซ์ ยกเลิกให้หมด อีกอย่าง งานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ตนี้ฉันจะไปด้วย แกช่วยจัดการที” รพีพงษ์กล่าว
“ได้ครับ พี่รพี
……
ญ วันประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ต
ฑวัตและเดซี่ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงแรม ทั้งสองเปลี่ยนสวมทางการ ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับงานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ตนี้อยู่บ้าง
“ไม่รู้ว่าไอ้รพีพงษ์มันจองไว้กี่วัน พวกเราพักมานานขนาดนี้ ไม่มีใครให้เราเช็คเอาท์เลย ที่นี่ขั้นต่ำก็น่าจะหลายพันอยู่นะ ไอ้สวะรพีพงษ์รับไหวหรอเนี่ย?” ฑวัตพึมพำ
“แหม จะสนทำไม ยังไงพวกเราก็ไม่ได้จ่ายเงิน คุณรีบคิดว่าอีกเดี๋ยวในงานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ตจะสร้างสัมพันธไมตรีอันดีงามยังไงกับHXกรุ๊ปเถอะ เพียงแค่คุณสามารถทำมันสำเร็จได้ พ่อของฉันจะต้องเห็นดีเห็นงามไปกับคุณ แล้วเขาจะได้ไม่มีอคติใดๆกับงานแตต่งงานของเราอีก ถึงตอนนั้นคุณก็จะได้สัญชาติอเมริกาง่ายขึ้น” เดซี่กล่าว
“สบายใจได้ ด้วยความสามารถของผม จะคุยเรื่องการร่วมมือกับHXกรุ๊ปนั้นไม่ยาก คุณยืนอยู่ข้างๆก้พอแล้ว” ฑวัตกล่าวอย่างมั่นใจ
งานประชุมใหญ่อินเตอร์เน็ตของเกียวโตจัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าไฮเทค แต่ล่ะบริษัทที่เข้าร่วมงานนี้ล้วนมีบูธของตัวเอง เพื่อเสนอสินค้าของบริษัทตัวเอง
ปัจจัยหลักของงานประชุมใหญ่ครั้งนี้ คือส่งเสริมการร่วมมือกันระหว่างบริษัทต่างๆ ถึงตอนนั้นตัวแทนของแต่ล่ะบริษัทจะรวมตัวกัน แลกเปลี่ยนคสามคิดเห็น
ในงานนิทรรศการ หลังจากที่ฑวัตและเดซี่มาถึงแล้วนั้น ก็ไม่ได้สนใจบูธต่างๆของแต่ล่ะบริษัท แต่มุ่งหน้าไปที่ส่วนกลาง ขณะนี้ผู้นำของแต่ล่ะบริษัทอยู่บริเวณนั้น พวกเขาจะไปหาตัวแทนของบริษัทHXกรุ๊ปเพื่อคุยเรื่องการร่วมมือทางการค้า
ณ พื้นที่ส่วนกลาง มีคนจำนวนไม่น้อยยืนอยู่ตรงนี้ ในนั้นมีผู้บริหารวงการอินเตอร์เน็ตอยู่จำนวนมาก เธียรวิชญ์ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น และคนส่วนใหญ่ก็ล้อมรอบเขา เป็นวง มองออกถึงตำแหน่งของเขาในงานนี้
เมื่อฑวัตมาถึงที่นี่แล้วนั้น ก็ตะลึง แล้วกล่าว “ว้าว ล้วนเป็นระดับผู้บริหารทั้งนั้นเลย ที่นี่มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ บริษัทของพวกเขา ที่ต่างประเทศก็มีหลายที่ที่มีชื่อเสียง ดูๆแล้วกิจการอินเตอร์เน็ตในประเทศ พัฒนาไปไม่เลวเลยนะ”
เดซี่ชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ก็แค่พัฒนาไปไม่เลวเท่านั้น เทียบกับต่างประเทศยังห่างกันอีกเยอะ ไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด”
ฑวัตไม่กล้าพูดอะไรอีก
ทั้งคู่เดินไปด้านหน้าพร้อมกัน ฑวัตทักทายเธียรวิชญ์อย่างกระตือรือร้น แล้วได้เข้าร่วมการสนทนาของพวกเขา
เธียรวิชญ์ไม่รู้ว่าคนด้านหน้าเป็นใคร พอถาม ก็ตอบไปบ้าง
“คุณเธียรวิชญ์ โชคดีจริงๆที่ไ่ด้เจอคุณที่นี่ สองวันก่อนผมเจอเข้ากับชายจนๆคนหนึ่ง บอกว่ารู้จักกับคนของHXกรุ๊ป ตอนนี้คิดๆดูแล้วชั่งน่าขำจริงๆ ในHXกรุ๊ปล้วนเป็นคนเก่งทั้งนั้น ไอ้ยากจนนั่นจะมีเพื่อนแบบนี้ได้ไงกัน” ฑวัตยิ้มแล้วกล่าว
เธียรวิชญ์จ้องไปที่เขา ได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร
“คุณเธียรวิชญ์ ความจริงครั้งนี้ที่ผมมา เพื่อมาคุยเรื่องการร่วมมือทางการค้า ไม่ทราบว่าคุณสะดวกคุยไหม?” ฑวัตถามต่อ
“คุณเป็นมาจากบริษัทไหน?” เธียรวิชญ์ถาม
ฑวัตยื่นมาออกไปให้เธียรวิชญ์ แล้วกล่าว “ผมมาจากเอ็กเซลเลนซ์ ชื่อฑวัต ก่อนหน้านี้บริษัทของเราน่าจะเคยส่งข้อมูลของคุณให้พวกคุณบ้างแล้ว”
เธียรวิชญ์รับรู้ แต่ไม่ได้จับมือกับฑวัต ก็ยิ้มพลางจ้องไปที่เขา ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
ฑวัตรู้สึกอับอาย ไม่รู้ว่าจะยื่นมือต่อไปดี หรือจะเก็บมือกลับมาดี เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวๆขึ้นมา
“คุณเธียรวิชญ์ การร่วมมือทางการค้าของพวกเรา……” ฑวัตเก็บมือตัวเองกลับมา แล้วเอามือสอดเข้าไปในชุดด้วยความอาย
“ผมไม่สามารถตัดสินใจในการร่วมทำการค้ากับพวกคุณได้ เดี๋ยวประธานของพวกเราจะมา บางทีคุณอาจไปหาท่านประธานเพื่อพูดคุยได้” เธียรวิชญ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย