พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป
ทที่726 ต่อสู้กับชินาธิป
“แค่เน่ยจิ้งขั้นกลางเท่านั้นเอง เพียงแค่ดีดนิ้วก็หายสาบสูญ”
ชินาธิปนั่งอยู่บนหินไม่ขยับ เพียงแค่ดีดนิ้วของตัวเบาๆ ก้อนหินเล็กๆพุ่งมาด้วยความเร็วที่ประเมินด้วยสายตาไม่ได้ บินพุ่งไปที่ตำแหน่งคิ้วของรพีพงษ์
เสียงระเบิดดังขึ้น และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตกตะลึง ต่างก็คาดไม่ถึงว่าชินาธิปจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงมือฆ่ารพีพงษ์เลย
ปรมาจารย์ ยอดฝีมือเน่ยจิ้งเสร็จสมบูรณ์ ดีดนิ้วก็ฆ่าคนได้ ใบไม้บินก็ฆ่าคนได้
ก้อนหินเล็กที่ชินาธิปดีดออกมา อานุภาพไม่อ่อนไปกว่ากระสุนมากนัก
รพีพงษ์หรี่ตาลง รู้สึกถึงพลังของหินก้อนนั้น ในเวลาเดียวกันเน่ยจิ้งพลังวิเศษเสนก็เคลื่อนที่หมุนเวียน จากนั้นยกมือขึ้นอย่างรุนแรง หมุนแขนเสื้อ เปลี่ยนทิศทางของหินด้วยทักษะ ยิงพุ่งตรงบนเสาหินของอาคารใหญ่ในคุก
มีรูขนาดเท่านิ้วปรากฏขึ้นบนเสาหินทันที และรอยแตกคล้ายใยแมงมุมก็แพร่กระจายไปรอบๆอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างก็รู้สึกวิตกกังวลแทนรพีพงษ์ ถ้าหากหินเมื่อกี้นี้ยิงไปบนตัวรพีพงษ์ ตอนนี้รพีพงษ์คงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
ในขณะเดียวกันพวกเขาก็นับถือความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ เมื่อต้องเผชิญกับวิธีการของปรมาจารย์ รพีพงษ์สามารถจัดการกับมันได้อย่างใจเย็น ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเขา ก่อนที่จะตอบสนองกลับมา ก็ตายไปแล้ว
ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชินาธิป ก้อนหินที่เขาเพิ่งดีดออกไปก้อนนั้น มันมากเกินพอที่จะฆ่ายอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางได้ ต้องการต้านทาน อย่างน้อยก็ต้องมีความแข็งแกร่งของแดนเครึ่งปรมาจารย์ แต่รพีพงษ์สามารถคลี่คลายท่วงท่านี้ของเขาได้ สิ่งนี้ทำให้เขาแทบอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อรพีพงษ์
“ดูเหมือนว่าแกจะสุดยอดกว่าที่ฉันคิดไว้นะ เมื่อเทียบกับอนันยชแล้ว ความสามารถของนายทำให้คนประหลาดใจยิ่งกว่า แต่ทว่าน่าเสียดาย ลูกศิษย์ของฉันคืออนันยชไม่ใช่แก ดังนั้นวันนี้แก ต้องตาย!”
ชินาธิปลุกยืนขึ้นจากหินก้อนใหญ่
รพีพงษ์หรี่ตาลง ไม่มีความประหม่าแม้แต่น้อย เอ่ยปากว่า: “งั้นก็ให้ฉันประลองดูว่า พลังของปรมาจารย์ จะแข็งแกร่งแค่ไหน!”
ทุกคนในคุกจำที่ห้ามองไปรพีพงษ์ด้วยความเสียดาย แม้ว่าเขาเพิ่งจะคลี่คลายกระบวนท่วงท่าของชินาธิปได้อย่างง่ายดาย แต่ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ ไม่ธรรมดาเพียงแค่ดีดก้อนหิน รพีพงษ์อยากจะมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือของชินาธิป ยังคงเป็นความหวังลมๆแล้งๆ
“ความสามารถของรพีพงษ์ไม่มีใครเทียบได้เลยจริงๆ ได้ในบรรดาคนที่มีความสามารถที่ฉันเคยพบเห็นมาหลายปี ไม่มีใครสามารถเหนือกว่าเขาได้เลย อย่างไรก็ตามสวรรค์อิจฉาวีรบุรุษ ทำให้เขามีเรื่องกับยอดฝีมือปรมาจารย์ น่าเสียดายจริงๆ”
“ลองนึกถึงสี่เดือนที่ผ่านมานี้ รพีพงษ์ได้สร้างความสนุกให้พวกเรามากมาย ตอนนี้ฉันยังมีความอาลัยอยู่เลย ถ้าฉันมีความแข็งแกร่งของแดนปรมาจารย์ คงจะขึ้นไปช่วยเขาอย่างแน่นอน”
“เฮ้ อยากจะมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือของปรมาจารย์ ง่ายที่ไหนกันล่ะ อย่างพวกเราแบบนี้ ขึ้นไปก็คือตาย รพีพงษ์สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ก็แข็งแกร่งมากมายอยู่แล้ว”
……
ชินาธิปใช้แรงใต้เท้า หินก้อนใหญ่ที่อยู่ใต้ตัวเขาก็แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยจำนวนนับไม่ถ้วน ต่อจากนั้น เขาก็เตะเศษหินเหล่านั้นไปทางรพีพงษ์
รพีพงษ์กระโดดอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงเศษซากหินส่วนใหญ่ จากนั้นเตะไปทางชินาธิปไม่กี่ก้อน
ชินาธิปทำให้เศษหินเหล่านั้นให้กลายเป็นผงได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้รพีพงษ์ได้พุ่งไปที่ตรงหน้าชินาธิปแล้ว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย หลอมรวมเน่ยจิ้งกับพลังวิเศษเสนไว้ที่ฝ่ามือ ฟาดไปที่ตรงใบหน้าของชินาธิป
“ฝ่ามือดาวฟ้า!”
รพีพงษ์ผู้ที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของอาจารย์อย่างลึกซึ้ง รู้ดีว่าท่วงท่าธรรมดาไม่สามารถก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บกับชินาธิปได้ ดังนั้นเริ่มแรกก็ใช้ฝ่ามือฟ้าดาวหนึ่งในสามของกลยุทธ์
ชินาธิปรู้สึกได้ถึงพลังที่ถ่ายทอดมาจากฝ่ามือของรพีพงษ์ ขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาคิดว่าวินาทีที่รพีพงษ์เข้าใกล้เขา จะสามารถฆ่ารพีพงษ์ด้วยหมัดอย่างง่ายๆในทันที
แต่ทว่าท่วงท่าของรพีพงษ์ตอนนี้บีบบังคับให้เขาต้องรับมือกับมันอย่างจริงจัง ถ้าเขาไม่สนใจท่วงท่านี้ของรพีพงษ์ เขาที่เป็นปรมาจารย์ อาจจะได้รับบาดเจ็บด้วยเงื้อมมือของรพีพงษ์แล้ว
“ท่วงท่านี้ของแก ทำไมถึงแตกต่างจากศิลปะการต่อสู้โบราณแบบดั้งเดิมมากขนาดนี้? พลังนั้นทรงพลังมาก? แกไปเรียนมาจากที่ใด?”หลังจากที่ชินาธิปต้านทานกับฝ่ามือของรพีพงษ์ได้ ขมวดคิ้วแล้วถามเขา
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ทำไมฉันจะต้องบอกคุณด้วยล่ะ?”
สีหน้าของชินาธิปเคร่งขรึม แล้วไม่ชักช้าแม้แต่น้อย เขารู้ดี แม้ว่าคนตรงหน้าอายุจะแค่ยี่สิบปีกว่า แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขารับมืออย่างจริงจัง
ทุกคนของฝ่ายบริหารของเรือนจำเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะความแข็งแกร่งที่แสดงออกมาในตอนนี้ ตอนแรกพวกเขาคิดว่ารพีพงษ์จะยืนหยัดในเงื้อมมือของชินาธิปได้ไม่กี่ท่วงท่า แต่กลับคาดไม่ถึงว่าทั้งสองคนต่อสู้กัน รพีพงษ์ก็ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ซึ่งเหนือจินตนาการของพวกเขา
“ระ….รพีพงษ์สามารถสู้เท่าเทียมกับระดับปรมาจารย์ได้ พระเจ้าช่วย หรือว่าเด็กคนนี้จะบรรลุถึงแดนเครึ่งปรมาจารย์แล้วเหรอ?”
“โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด จนถึงตอนนี้ เรายังประเมินเด็กคนนี้ต่ำไป เขาซ่อนตัวอยู่ลึกแค่ไหน หรือว่าเขาจะเริ่มเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ดังนั้นถึงได้มีความแข็งแกร่งในตอนนี้เหรอ?”
……
รพีพงษ์และชินาธิปต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่า ไม่เสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเขาเข้าใจดี สาเหตุที่เขาสามารถทำเช่นนี้ได้ มันเป็นผลมาจากการที่เน่ยจิ้งกับพลังวิเศษเสนสามารถออกแรงถึงขีดสูงสุด
เวลาที่เขาสามารถรักษาสถานะนี้ได้นั้นสั้นมาก เมื่อพลังวิเศษเสนและเน่ยจิ้งในร่างกายหมดฤทธิ์ลง งั้นก็เขาจะกลายเป็นลูกแกะที่ถูกเชือด ถึงเวลานั้นจบเห่จริงๆ ดังนั้นเขาต้องใช้วิธีการที่รวดเร็วฉับไว
ชินาธิปก็เป็นเพราะสิบกว่าท่วงท่าของตัวเองก็ไม่สามารถกำจัดรพีพงษ์ได้ และเริ่มกลายเป็นใจร้อนขึ้นมา ที่สำคัญเขามักจะรู้สึกว่าพลังของรพีพงษ์แปลกๆ เหมือนกับเน่ยจิ้ง แต่ก็มีความแตกต่างมาก สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความคาดเดาบางอย่างในใจ
ในฐานะยอดฝีมือปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียง ความรู้ของชินาธิป ก็ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถเทียบได้
“เด็กน้อย แกบอกฉันว่าท่วงท่าที่แกใช้อยู่ไปเรียนมาจากที่ไหนกันแน่ ฉันสามารถพิจารณาที่จะไว้ชีวิตแกได้”ชินาธิปจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้วเอ่ยปาก
“ฝันไปเถอะ!”รพีพงษ์ตะโกนใส่ชินาธิป จากนั้นฟาดฝ่ามือไปที่เขา
“เชิญพระจันทร์!”
ท่าที่สองของในสามกลยุทธ์ ฟาดตรงไปที่หน้าอกของชินาธิป ดวงตาของชินาธิปแน่วแน่ ไม่กล้าที่ชักช้าแม้แต่น้อย ใช้กำลังทั้งหมดอย่างเต็มที่ ต้านทานท่วงท่าของรพีพงษ์ในทันที
ปรมาจารย์ระเบิดพลังอย่างสุดกำลังทั้งหมด รพีพงษ์รู้สึกว่าแน่นหน้าอกทันที ร่างกายก็บินถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว มีเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก
ชินาธิปก็ก้าวถอยหลังไปหลายเมตรเนื่องจากพลังที่เชิญพระจันทร์ระเบิดออกมา เขามีความรู้สึกเสียวชาที่ฝ่ามืออย่างฉับพลัน แค่เน่ยจิ้งขั้นกลางคนหนึ่ง สามารถบีบบังคับให้เขามาถึงจุดนี้ได้ มันก็น่าตกใจมากพอแล้ว
รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ ทรงตัวให้อยู่ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ผลกระทบก็ไม่มากเกินไป เขายังคงมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป
ดวงตาทั้งสองข้างของชินาธิปจ้องมองไปที่รพีพงษ์ จากนั้นราวกับว่าเขาคิดอะไรบางอย่างออก คนทั้งคนก็เปลี่ยนเป็นบ้าบิ่นขึ้นมา เขาบินพุ่งไปหน้ารพีพงษ์ และถามว่า:
“พลังวิเศษเสน! แกใช้พลังวิเศษเสน ใช่มั้ย!”