พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่729 ชาลิสาที่กระอักกระอ่วน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่729 ชาลิสาที่กระอักกระอ่วน
บทที่729 ชาลิสาที่กระอักกระอ่วน
ไชน่าทาวน์ในอเมริกา สำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน
ในห้องรับแขก ชาลิสากำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้ สามารถมองเห็นความโศกเศร้าบนใบหน้าของหล่อนออกมาได้ ในดวงตาที่สวยงามไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ในเวลานี้โศศุจเดินเข้ามา เห็นท่าทางของลูกสาวตัวเอง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “ลิสา คิดถึงรพีพงษ์อีกแล้วเหรอ?”
คำพูดของโศศุจทำให้ชาลิสาดึงสติกลับมา หลังจากที่รู้ว่าโศศุจพูดอะไร ใบหน้าที่เรียวสวยของหล่อนก็แดงขึ้น
“พ่อ พ่อพูดจาเหลวไหลอะไร หนูกำลังคิดถึงเรื่องสี่ตระกูลใหญ่ หนูกับผู้คนชายคนนั้นเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ทำไมหนูต้องคิดถึงเขาด้วยล่ะ”ชาลิสารีบเอ่ยปากอธิบายอย่างรวดเร็ว
สีหน้าท่าทางของโศศุจราวกับมองทุกสิ่งออก กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ลิสา อยู่ต่อหน้าฉัน แกอย่าพูดจาโกหก ถ้าแกไม่คิดถึงเด็กนั้น ถุงหอมสิบกว่าใบในห้องนอนแกปักให้ใครกันล่ะ?”
ชาลิสาเบิกตากว้างทันที ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเอ่ยปากว่า: “พ่อ พ่อแอบดูข้าวของในห้องของหนูเหรอ?”
“ฉันไม่ได้แอบดูนะ ครั้งก่อนตอนที่ฉันหากวาดอยู่บังเอิญเห็นเข้า ลิสา แกเป็นเด็กผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่จะชอบผู้ชายที่ดีเลิศคนหนึ่ง แกก็ยอมรับมาเถอะ”โศศุจเอ่ยปาก
ชาลิสาพูดไม่ออกทันที ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้มีพ่อที่พูดโผงผางไม่รู้จักยั้งคิดแบบนี้
“หึ ผีนะสิถึงจะยอมรับกับพ่อ หนูคิดถึงเขาแล้วจะทำไม แต่ว่าหนูก็จะไม่ยอมรับมัน ยกเว้น…..ยกเว้นว่าพ่อสามารถทำให้เขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหนูได้ตอนนี้”ชาลิสาพูดอย่างไม่พอใจ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าคำพูดของหล่อนนั้นได้เท่ากับกลายเป็นว่ายอมรับแล้ว
โศศุจจ้องมองชาลิสาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม กำลังอยากจะบอกว่าตัวเองคงจะไม่มีความสามารถนี้ ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าอยู่ด้านนอก ต่อจากนั้น ประตูห้องนั่งรับแขกก็ผลักออก
“พวกคุณกำลังคุยอะไรกัน ดูท่าทางมีความสุขกันจัง?”
เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงนี้ ทั้งคู่ก็หันหน้าไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เห็นรพีพงษ์และไออ้วนยืนอยู่ที่ประตู อาการตกใจหวาดกลัวก็ปรากฏที่ใบหน้า
“ระ…..รพีพงษ์ นายมาได้ยังไง!”ชาลิสามองดูรพีพงษ์ด้วยความเหลือเชื่อ จากนั้นมองไปที่โศศุจแวบหนึ่ง โดยสงสัยว่าโศศุจและรพีพงษ์วางแผนสมรู้ร่วมคิดกันอยู่
เมื่อกี้หล่อนเพิ่งเป็นคนบอกเองว่าถ้าหากรพีพงษ์ปรากฏตัวขึ้น หล่อนก็จะยอมรับว่าหล่อนกำลังคิดถึงรพีพงษ์ ปรากฏว่าในวินาทีต่อมารพีพงษ์ก็ปรากฏตัวขึ้น ถ้าหากว่าเป็นเรื่องบังเอิญ งั้นก็บังเอิญเกินไปแล้ว
โศศุจยังมีใบหน้าที่มึนงง แสดงสีหน้าท่าทางให้เห็นว่าฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เมื่อกี้นี้เขาแค่กำลังล้อชาลิสาเล่น ใครจะไปรู้ในขณะที่พูดอยู่รพีพงษ์ก็กระโดดออกมา
“รพีพงษ์ นายควรจะอยู่ที่คุกที่ห้าไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับมาได้ล่ะ? หรือว่านายแหกคุกเหรอ?”โศศุจเอ่ยปากถาม
รพีพงษ์ยิ้มแล้วเดินเข้าไป พูดว่า: “พวกเขาเป็นคนปล่อยฉันออกเอง”
ชาลิสามองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ใจเต้นเร็วขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ คนที่ตัวเองคิดถึงทั้งวันทั้งคืนจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้หล่อนทำอะไรไม่ถูกเป็นอย่างมาก
“เฮ้ ทำไมหน้าคุณแดงจัง? ไม่สบายเหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
“ฮ่าๆ เมื่อกี้นี้พวกเรากำลังพูดถึงนายอยู่พอดี ยัยเด็กนี้บอกว่าถ้านายปรากฏตัวขึ้นมา เธอก็จะยอมรับว่าเธอคิดถึงนาย ผลปรากฏว่านายก็ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเตรียมการของพระเจ้าด้วยเช่นกันนะ”โศศุจพูดออกอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
ใจของชาลิสาแทบอยากจะหยิกโศศุจให้ตาย หล่อนไม่เข้าใจจริงๆว่าพ่อของตัวเองโง่จริงๆหรือว่าแค่แกล้งโง่ บอกรพีพงษ์ไปตรงๆโดยที่ไม่คิดอะไร ต่อไปจะให้หล่อนไปพบปะผู้คนได้อย่างไร
รพีพงษ์ก็รู้สึกกระอักกระอ่วน คาดไม่ถึงว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องแบบนี้
ในตอนนี้ไออ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆรพีพงษ์คิดในใจว่ายังไงตัวเองก็เป็นลูกน้องของรพีพงษ์ ถึงยังไงก็ต้องทำตัวดีๆ ดังนั้นจึงพูดกับชาลิสาว่า: “สวัสดีครับพี่สะใภ้ พี่สวยมาก เหมาะสมกับลูกพี่ของพวกเราจริงๆ”
เมื่อพูดคำเหล่านี้ของเขาออกจากปาก ทำให้ใบหน้าเรียวสวยของชาลิสาที่เดิมทีไม่มีหน้าจะไปพบปะกับผู้คนอยู่แล้วก็ยิ่งแดงขึ้นมา สายตาที่จ้องมองไปที่รพีพงษ์ก็กลายเป็นวูบวาบขึ้นมา แม้ว่าคำพูดของไออ้วนจะทำให้หล่อนอับอาย แต่กลับมีคนรู้สึกว่าหล่อนและรพีพงษ์เหมาะสมกัน สิ่งนี้ทำให้หล่อนประทับใจ
รพีพงษ์เตะตรงไปที่ก้นของไออ้วนทันที ทำให้เขาล้มลงกับพื้น แล้วตะโกนว่า: “แกพูดเพ้อเจ้ออะไรของแก พี่สะใภ้ของแกอยู่ที่ประเทศจีน คนนี้คือลูกสาวของประธานสำนักงานใหญ่สหพันธ์สหภาพจีน สบายใจได้เลยเดี๋ยวประธานโศศุจจัดการแกแน่!”
ทันใดนั้นสีหน้าของไออ้วนก็ดูเสียใจ คาดไม่ถึงว่าสาวสวยจะไม่ใช่ภรรยาของรพีพงษ์ ก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย จึงรีบขอโทษชาลิสาอย่างรวดเร็ว
หลังจากจบเรื่องตลกแล้ว บรรยากาศในห้องรับแขกก็กลับมาเป็นปกติ แต่ชาลิสาก็ยังไม่กล้าที่จะมองรพีพงษ์ตรงๆ คุณหนูที่ปกติเย่อหยิ่งเย็นชา ในขณะนี้ลักษณ์ท่าทางของหญิงสาวที่แสดงออกมาอย่างดี
หลายคนนั่งลงบนเก้าอี้ โศศุจมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เอ่ยปากถามว่า: “รพีพงษ์ คุกที่ห้าที่เรียกถูกขนานนามว่านรก นายออกมาจากคุกนั้นได้อย่างไร?”
ก่อนที่รพีพงษ์จะพูด ไออ้วนที่อยู่ด้านข้างก็ได้เริ่มเล่าเรื่องราวการกระทำของรพีพงษ์ที่อยู่ในคุกที่ห้า
เมื่อรู้ว่ารพีพงษ์ปลูกมันฝรั่งในคุกที่ห้า โศศุจและชาลิสาต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆที่ว่ารพีพงษ์จะคิดวิธีการเช่นนี้ออกมาได้ เพื่อให้ตัวเองอยู่ในคุกที่ห้าได้อย่างสบาย
ทั้งสองคนตั้งใจฟังไออ้วนเล่าการกระทำของรพีพงษ์ จนกระทั่งไออ้วนได้เล่าเรื่องที่รพีพงษ์ใช้มันฝรั่งแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนโหวต ใบหน้าก็แสดงออกมาถึงความทอดถอนใจ
ความคิดของรพีพงษ์ แน่นอนว่าไม่สามารถใช้ความคิดปกติทั่วไปมาคาดเดาได้
“คิดไม่ถึงจริงๆ ทั้งคุกที่ห้า เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้เป็นเพราะนาย ถ้าหากว่าคนข้างในเริ่มเลิกฆ่ากันเองเพราะนายจริงๆ ทั้งหมดก็เริ่มปลูกมันฝรั่งแล้ว ฝ่ายบริหารของเรือนจำ ก็คงจะปวดหัวตาย”โศศุจกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ความจริงแล้วนายไม่เห็นจะต้องรีบร้อนออกมาขนาดนี้เลย นายก็น่าจะรู้ดี ชินาธิปไม่มีทางปล่อยนายไปแน่ ตอนนี้นายออกมา ถ้าเกิดชินาธิปรู้เข้า เขาคงจะรีบมาไล่ฆ่านายอย่างแน่นอน”ชาลิสาพูดกับรพีพงษ์ด้วยความเป็นห่วง
ทันใดนั้นไออ้วนก็หัวเราะขึ้นมา แล้วพูดว่า: “เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมออกจากคุกกับลูกพี่ ก็เผชิญหน้ากับชินาธิปแล้ว”
สีหน้าของโศศุจและชาลิสาเปลี่ยนไป และมีความตึงเครียดที่อธิบายไม่ได้ในใจ
“พวกนายเผชิญหน้ากับชินาธิปเหรอ? เขาไม่ได้ลงมือกับพวกนายเหรอ?”โศศุจเอ่ยปาก
“แน่นอนว่าลงมือ เพียงแต่ว่า จุดจบอาจเหนือจินตนาการของพวกคุณ”ไออ้วนยิ้มอย่างมีเลศนัย ต่อจากนั้นก็เล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่างรพีพงษ์และชินาธิปที่ด้านนอกคุกด้วยน้ำเสียงที่เกินจริง
“อะไรนะ! รพีพงษ์ฆ่าชินาธิปแล้ว!!!”
หลังจากที่ฟังไออ้วนเล่าจนจบ โศศุจและชาลิสาต่างก็ลุกขึ้นกะทันหัน และตะโกนพร้อมกัน