พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่763 ผมใช้พลังนิดเดียวก็พอแล้ว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่763 ผมใช้พลังนิดเดียวก็พอแล้ว
ทที่763 ผมใช้พลังนิดเดียวก็พอแล้ว
คู่รักฝ่ายหญิงได้ยินคำพูดของอาจารย์ชี่กงแล้วนั้น ก็มองไปรอบๆ ที่รพีพงษ์แล้วกล่าว “คุณบอกว่าตัวเองเก่งกาจไม่ใช่หรอ ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เค้ากำลังกาคนประลองอยู่ไม่ใช่หรอ คุณกล้าขึ้นไปไหม?”
ฝ่ายชายหัวเราะออกมา แล้วกล่าว “เอาหน่า เมื่อกี๊เขาก็แค่โอ้อวดต่อหน้าพวกเราเท่านั้น ถ้าขึ้นไปจริงๆ เขาก็โดนต่อยตายสิ”
รพีพงษ์หันไปมองอาจารย์ชี่กงบนเวที จากนั้นก็มองไปที่คู่รัก กล่าว “พวกคุณรอดูอยู่ด้านล่างนะ”
พูดจบ รพีพงษ์ก็เดินขึ้นเวทีไป
คนที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับรพีพงษ์ มีหลายคน คนพวกนี้ล้วนสงสัยในฝีมือของอาจารย์ชี่กงทั้งนั้น อยากขึ้นไปลิ้มลองว่าจริงแท้แค่ไหน
“ตลกชิบหาย คนนี้กล้าขึ้นไปจริงๆ เค้าเป็นกังฟูจริงๆ แม้จะไม่ลงมือต่อแขกผู้มาเยือนจริงๆ แต่ถ้าออกท่วงท่าสักท่าสองท่า ก็สามารถทำให้เขาตกใจได้แล้ว เขาตั้งใจจริงๆแหะ” ฝ่ายชายดูแคลน
“ไปสนเขาทำไม เดี๋ยวได้ลิ้มลองกังฟูของเค้า ดูสิว่าเขายังกล้าอวดเก่งอีกไหม” ฝ่ายหญิงเยาะเย้ย
อารียาได้ยินทั้งคู่พูดแบบนี้ ก็โมโหขึ้นมา แต่เธอมีความมั่นใจในรพีพงษ์ เธอเชื่อว่าสามีของเธอเก่งกาจที่สุดแล้ว
หลังจากที่ขึ้นบนเวที อาจารย์ชี่กงให้ผู้คนได้ลิ้มลองกังฟูของเขา ก็คือให้คนเหล่านี้ได้แลกหมัดกับเขา คนที่อยู่ข้างหน้ากระตือรือร้นที่อยากจะลอง ล้วนคิดว่าถ้าตัวเองใช้กำลังทั้งหมดที่มี ไม่มีทางแย่ไปกว่าอาจารย์ชี่กงแน่นอน
แต่ทว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปอย่างที่พวกเขาคิดไว้ อาจารย์ชี่กงยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน คนพวกนี้กัดฟันใช้พลังดันอาจารย์ชี่กง
อาจารย์ชี่กงใช้พลังเล็กน้อยแลกหมัดกับพวกเขา คนพวกนี้ก็กระเด็นออกอย่างไรทิศทาง ล้มลงไปนั่งกับพื้นทันใด ไม่มีใครแตกต่างกัน
ทุกคนในเหตุการณ์ล้วนตะลึงไปกับฝีมือของอาจารย์ชี่กงนี้ ผู้ที่ขึ้นไปบนเวทีเหล่านั้นล้วนมากับเพื่อนๆ ดังนั้นทุกคนล้วนรู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่คนของอาจารย์ชี่กงเชิญมา และฝีมือที่อาจารย์ชี่กงแสดงออกมานั้น ไม่ดูเหมือนปลอมแม้แต่น้อย
ตอนที่อาจารย์ชี่กงแสดงฝีมือออกมานั้น ทุกคนล้วนรับรู้ได้ถึงพลังในตัวของเขา
“เห็นหรือยัง ฝีมือของอาจารย์ชี่กงแปลกตาแปลกใจขนาดไหน คนนั้นยังกล้าพูดอีกว่าตัวเองฝีมือเก่งกว่าอาจารย์ชี่กง ตลกจริงๆ” หญิงคนนั้นพูดกับอารียาอย่างสะใจ
“อีกไม่นานก็ได้เห็นคนนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้มันคิดอะไรอยู่ น่าจะกลัวจนหัวหดแล้วล่ะมั้ง ไอ้นี่มันถ้าไม่หาเรื่องใส่ตัวก็ไม่เจอหรอก แม้อาจารย์ชี่กงจะไม่ใช้พลังทั้งหมด แต่ให้มันได้บทเรียนบ้างก็ดีนะ” ฝ่ายชายกล่าวต่อ
อารียามองทั้งสองอย่างเยือกเย็น แล้วกล่าว “ก่อนที่ยังไม่เห็นผลสรุป พวกคุณกรุณาอย่าคิดไปเอง”
ทั้งสองบึนปาก ไม่พอใจกับคำพูดของอารียา
บนเวที รพีพงษ์เป็นคนสุดท้ายที่จะได้ลิ้มลองฝีมือของอาจารย์ชี่กง หลังจากที่เขายืนอยู่ด้านหน้าของชี่กงแล้วนั้น อาจารย์ชี่กงยิ้มพลางกล่าวกับเขาว่า “ใช้พลังทั้งหมดที่มีของคุณ มาต่อสู้กับฉัน”
“ไม่ค่อยดีมั้ง ถ้าผมใช้พลังทั้งหมดจริงๆ เดี๋ยวคุณต้องไปโรงพยาบาลเลยนะ ผมใช้พลังนิดหน่อยก็พอแล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว
อาจารย์ชี่กงได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็ชะงัก ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา แล้วกล่าวต่อผู้ชมด้านล่างเวทีว่า “ดูๆไปผู้ชมท่านนี้ไม่ค่อยเชื่อในความสามารถของผมสักเท่าไหร่ กล้าพูดไว้ใช้พลังนิดหน่อยก็จะเอาชนะผมได้”
ผู้คนด้านล่างเวทีล้วนโห่ร้องออกมา พวกเขาที่ได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของอาจารย์ชี่กงขณะนี้ล้วนนับถืออาจารย์ชี่กงอย่างมาก
“ในเมื่อคุณคิดว่าตัวเองยอดเยี่ยม งั้นเดี๋ยวฉันจะใช้พลังทั้งหมดที่มีต่อกรกับคุณ แต่จุดจบของคุณจะอนาถสุดๆ เบาสุดก็นอนโรงพยาบาล หนักสุดก็ถึงชีวิต ไม่ทราบว่าคุณกล้าไปต่อไหม?” สายตาของอาจารย์ชี่กงสะท้อนความดุร้ายออกมา
ในสายตาเขา ฝีมือของเขานั้นไร้ที่ติ หลังจากที่รพีพงษ์ได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้คนก่อนหน้านี้ แล้วยังกล้าพูดยโสโอหังแบบนี้อีก ถ้าเขาไม่สั่งสอนรพีพงษ์สักหน่อย ต่อไปการแสดงนี้ของเขาก็ไม่น่าจะมีใครดูอีกแล้ว
“ไม่มีปัญหา” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ
อาจารย์ชี่กงเห็นรพีพงษ์ตอบรับ ก็ยิ้มออกมา ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นสักขีพยาน แม้รพีพงษ์จะโดยต่อยจนเกิดปัญหาขึ้นมา นั่นก็เป็นเพราะเขาฝีมือด้อยกว่า จะไม่มีใครมาเรียกร้องอะไรได้
“งั้นคุณเตรียมตัวดีๆ จากนี้ไปถ้าเสียใจ ก็สายเกินไปแล้ว”
อาจารย์ชี่กงยืนปล่อยท่าอยู่กับพื้น กล่าว “มาเถอะ”
คู่รักด้านล่างเวทีล้วนมองไปที่รพีพงษ์อย่างดูแคลน รู้สึกว่าที่รพีพงษ์ทำแบบนี้นั้นเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ เมื่อกี๊เค้าแค่ใช้พลังเล็กน้อยก็สามารถผลักคนให้ล้มลงกับพื้นได้ ถ้าตอนนี้จะใช้แรงทั้งหมดที่มีล่ะก็ เกรงว่าจะต่อยจนคนลอยไปได้เลยล่ะ ตอนนี้พวกเขากำลังรอดูตอนที่รพีพงษ์โดนต่อยจนลอยไปอยู่
รพีพงษ์ไม่ลังเล เพียงแค่พลังเล็กน้อย ผลักไปที่อาจารย์ชี่กง
อาจารย์ชี่กงเห็นดังนั้น ก็ดูแคลน ใช้พลังทั้งหมดที่มีในร่างกายรวมกันไว้ที่หมัด จากนั้นก็ฮึบเสียงดัง แล้วต่อยไปที่รพีพงษ์
ทุกคนล้วนมองเหตุการณ์อย่างไม่กระพริบ กำลังรอดูฉากที่รพีพงษ์ลอยออกไปนอกเวทีอยู่
แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ รพีพงษ์ไม่ได้ลอย แต่กลับเป็นหลังจากที่อาจารย์ชี่กงได้ต่อหมัดกับรพีพงษ์แล้วนั้น สีหน้าถอดสี จากนั้นก็ร้องโอดครวญออกมา แล้วลอยออกไปนอกเวทีโดยตรง
ทุกคนชะงักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่คาดคิดว่าคนฝีมือดีอย่างอาจารย์ชี่กง จะโดนหมัดรพีพงษ์แค่หมัดเดียวต่อยลอยไปได้
แบบนี้ดูๆไปแล้ว รพีพงษ์สิถึงจะเป็นอาจารย์ตัวจริง
ขุ่นพระ ตอนแรกคิดว่าแค่ไอ้พวกคุยโวโอ้อวด ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนที่มีฝีมือจริงๆ นี่มันเปิดโลกทัศน์เลยนะเนี่ย”
“ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ แต่นี่ก็สรุปได้ว่า ในโลกนี้มีกังฟูอยู่จริงๆด้วย ไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปวัดมังกร ไม่แน่พระอาจารย์ท่านนั้นอาจมีตัวตนจริงๆก็ได้”
ทุกคนในเหตุการณ์เริ่มครึกครื้นขึ้นมา เพราะรพีพงษ์ภายในเวลาแป๊ปเดียวทำให้ทุกคนมองเขาด้วยสายตาที่เลื่อมใส
หลังจากที่อาจารย์ล้มลงกับพื้นแล้วนั้นสีหน้าก็ไม่ค่อยดี ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเจอเข้ากับตอเสียแล้ว
เขากัดฟันจ้องไปที่รพีพงษ์ จากนั้นก็เดินจากไป
คู่รักที่ยืนอยู่ข้างอารียานั้นตอนนี้ก็อ้างปากค้าง ด้วยความคาดไม่ถึง
อารียาหันไปมองพวกเขา ด้วยใบหน้าสะใจ
ขณะนี้รพีพงษ์ลงมาจากเวที เดินไปด้านหน้าคู่รัก ยิ้มพลางถามว่า “ไม่ทราบว่าตอนนี้ทั้งสองท่านยังคิดว่าผมขี้โม้อยู่ไหม?”
คู่รักคู่นั้นเป็นใบ้ชั่วขณะ รู้สึกเสียหน้ามาก ฝ่ายหญิงไม่สนใจคำพูดของรพีพงษ์ รีบจับฝ่ายชายไว้ แล้วหันตัวกลับอย่างอับอาย