พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่844 ร้อยล้านดอลล่าร์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่844 ร้อยล้านดอลล่าร์
บทที่844 ร้อยล้านดอลล่าร์
“ว้าว ดาบนี้สวยจัง แค่ดูแบบนี้ ก็รู็สึกมีพลังอำนาจเหลือล้น ไม่แปลกที่เป็นดาบที่มีชื่อที่สุดของประเทศญี่ปุ่น” อุเอสึงิ ฮาระจ้องไปที่ดาบในกล่องแล้วอุทานขึ้นมา
รพีพงษ์ก็ได้เห็นตอนที่พนักงานนำดาบขึ้นมา แว็บเดียวก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา แล้วนั่งหลังตรงขึ้นมา จ้องไปที่ดาบกล่องอย่างละเอียด
ดูจากภายนอก รพีพงษ์ก็รับรู้ได้ถึงความคมของมัน สำหรับมีดาบที่ดี คนจีนจะเปรียบกับการเรียกนี้คือตัดเหล็กเหมือนโคลน มุรามาสะนี่แหละทำให้คนมีความรู้สึกแบบนี้
รพีพงษ์รับรู้ได้ ถ้าตนเองมีดาบนี้ไว้ในครอบครอง จะทำให้การระเบิดพลังของพลังวิเศษเสน เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ดูๆไปครั้งนี้ถูกแล้วที่มา
ฮารุฮิ กันตะที่อยู่ข้างๆเห็นความสนใจของรพีพงษ์ทั้งสามคนอยู่กับดาบเล่มนี้ ก็เดาออกว่าคืนนี้ที่มาเป็นเพราะดาบเล่มนี้
เขาหันไปยิ้มต่อรพีพงษ์ กล่าว “ไง ชอบดาบนี้หรอ? ตกลงกับฉันก่อน แล้วฉันจะประมูลดาบนี้ให้แก ไง?”
รพีพงษ์ยิ้มกแล้วกล่าว “ไม่จำเป็น ฉันซื้อเอง”
ฮารุฮิ กันตะเหยียดหยาม กล่าว “ดาบนี้ชื่อมุรามาสะ เป็นดาบที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น แกรู้มั้ยว่าดาบนี้ราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ ที่กล้าพูดว่าจะซื้อเองหนะ”
รพีพงษ์ยักไหล่ ไม่สนใจเขา
หลังจากที่มุรามาสะได้ถูกลากขึ้นมา พิธีกรก็แนะนำที่มา ข่าวลือ และสุดท้ายคือการผลิต ความพิเศษและรายละเอียดของมุรามาสะอย่างยินดีปรีดา ล้วนทำให้คนตะลึง แปลกประหลาดใจ
“โอเค เราจะไม่พูดมาก จากนี้ไปจะเป็นการประมูลของมุรามาสะ ราคาเริ่มต้นของดาบเล่มนี้คือสิบล้านดอลล่าร์ สหายที่ชอบสะสมดาบห้ามพลาดโอกาสนี้เด็ดขาด” พิธีกรยิ้มพลางกล่าว
ได้ยินราคาประมูลเริ่มต้น คนจำนวนไม่น้อยเริ่มถอนหายใจออกมา สิบล้านดอลล่าร์ เปลี่ยนเป็นเงินหยวน ก็เกือบเจ็ดสิบล้านแล้วถ้าแลกเป็นเงินเยน พันล้านเยนยิ่งน่าตกใจยิ่งกว่า
แม้ในงานส่วนใหญ่จะเป็นเศรษฐี มีงานนี้ได้ น้อยสุดก็มีสิบล้านดอลล่าร์ แต่นี่เป็นราคาเริ่มประมูลของมุรามาสะ สุดท้ายดาบนี้จะประมูลได้ในราคาเท่าไหร่ ยังไม่รู้ แต่ลองคิดๆดูก็พอจะรู้ ว่าราคาจะต้องทำให้คนจำนวนไม่น้อยล้มละลายแน่นอน
แต่ในงานก็มีคนจำนวนมากที่มีทรัพย์สินเกินกว่าจำนวนนี้ ดังนั้นจึงทำให้คนอยากลองประมูลดู
หลังจากที่พิธีกรบอกราคาเริ่มต้นประมูลแล้วนั้น ฮารุฮิ กันตะได้มองไปที่รพีพงษ์ พบว่ารพีพงษ์สงบนิ่ง ราวกับไม่สะทกสะท้านต่อราคาแต่อย่างใด ก็ยิ้มอย่างไม่พอใจออกมา
“ไม่คิดว่าแกจะเสแสร้งได้เก่งขนาดนี้ แต่นี่ก็แค่เริ่มต้น เดี๋ยวเริ่มแข่งประมูล จึงจะเริ่มมีสีสันขึ้นมา ดูสิว่าถึงเวลานั้นแล้วแกจะยังเสแสร้งได้อีกมั้ย” ฮารุฮิ กันตะดูแคลน
จากการชักจูงของพิธีกร ในงานเริ่มมีคนเสนอราคา อยากจะได้ดาบมารที่มีชื่อเสียงนี้
ไม่ถึงห้านาที ราคาของดาบนี้ไปถึงสามสิบล้านดอลล่าร์
ผู้คนที่อยากลองประมูลดูในตอนแรกนั้นตอนนี้เริ่มวางมือ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากได้มีด แต่ราคานี้มันน่าตะลึงเกินไป พวกเขารับไม่ได้
ฮารุฮิ กันตะหันมองรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “แกอยากได้ดาบนี้ไม่ใช่หรอ? ทำไมไม่เสนอราคาล่ะ? หรือจะบอกว่า ราคานี้ แกรับไม่ได้?”
พูดจบ ฮารุฮิ กันตะก็ยกป้ายในมือขึ้น ตะโกน “สามสิบห้าล้าน!”
ผู้คนในงานส่งเสียงโหวกเหวก ทุกสายตาจับจ้องไปที่ฮารุฮิ กันตะ ด้วยความอิจฉา
“ไม่แปลกที่เป็นคุณชายของตระกูลฮารุฮิ ทีหนึ่งก็เพิ่มห้าล้านดอลล่าร์ ความกล้านี่ ไม่ใช่ใครจะมีนะ”
“
“ในเมื่อคุณชายฮารุฮิ กันตะเริ่มเสนอราคา งั้นวันนี้พวกเราไม่น่าจะมีความหวังแล้วล่ะ ในงานจะมีใครชนะเขาได้อีกล่ะ”
“แค่ราคาของดาบเล่มเดียวแทบจะเท่าราคาหุ้นในตลาดหุ้นของบริษัทแล้ว เทียบกันไม่ได้จริงๆ ไม่แปลกที่ตระกูลฮารุฮิเป็นตระกูลชั้นนำของโลก ผลาญเงินเหมือนผลาญดินแบบนี้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ”
……
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของฮารุฮิ กันตะแล้วก็บึนปาก ที่เขาไม่เสนอราคาในตอนแรกนั้น เพราะรู้ว่าตอนนี้ถ้าแข่งราคาก็มีแต่เสียเวลาเปล่า เขาเพียงรอให้ถึงราคาที่สูงที่สุดแล้วค่อยเสนอราคา เท่านี้ก็ไม่มีใครแข่งกับเขาแล้ว
ตอนนี้เห็นฮารุฮิ กันตะเริ่มเสนอราคา รพีพงษ์ก็ไม่รีรอ
เขายกป้ายในมือขของตัวเองขึ้น แล้วกล่าว “ห้าสิบล้าน!”
ทุกคนในงานตะลึงอีกครั้ง แต่ระดับการตะลึงในครั้งนี้ มากกว่าเมื่อกี๊หลายเท่าตัว ถ้าพูดว่าฮารุฮิ กันตะแว็บเดียวก็เพิ่มราคาเป็นห้าล้านแล้วถือว่ากล้าแล้ว งั้นรพีพงษ์ที่เพิ่มขึ้นไปสิบห้าล้านดอลล่าร์จะอธิบายยังไง?
ทุกคนมองรพีพงษ์อย่างคาดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าเวลานี้จะมีม้ามืดมา
“พระเจ้า บ้าไปแล้วหรือเนี่ย? อ้าปากก็ห้าสิบล้านดอลล่าร์ นี่มันไม่ให้โอกาสคนอื่นเลยนะเนี่ย!”
“ไอ้นั่นมันมาพร้อมกับคุณหนูของฮารุฮิไม่ใช่หรอ คนนี้พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน หรือเขาไม่ใช่จะพึ่งคุณหนูตระกูลฮารุฮิถีบตัวเองขึ้นไปหรอ ทำไมตอนนี้เริ่มแข่งกับคุณชายฮารุฮิ กันตะแล้วล่ะ? หรือพวกเราเดาผิดไป?”
“ดูๆไปที่มาของเด็กนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เราคิดไว้นะ ที่เขานั่งแถวแรกได้ น่าจะไม่ใช่พึ่งคุณหนูของตระกูลฮารุฮิและตระกูลอุเอสึงิสองตระกูลนี้แล้วล่ะ มิเช่นนั้นตอนนี้ไม่มีทางแข่งกับคุณชายตระกูลฮารุฮิหรอก แล้วอ้าปากก็บวกเพิ่มไปสิบห้าล้านดอลล่าร์ ชั่งน่ากลัวจริงๆ”
“น่ากลัวฉะมัด ไม่รู้ว่าเขากับคุณชายฮารุฮิ กันตะ สุดท้ายใครจะได้มีดนี้ไป จากนิสัยของคุณชายฮารุฮิ กันตะ ไม่น่าจะยอมแพ้ง่ายๆ”
……
ตอนนี้ฮารุฮิ กันตะก็มองรพีพงษ์อย่างไม่คาดคิด ตอนแรกเขาคิดว่าที่รพีพงษ์ไม่เสนอราคา เพราะว่าราคาสูงเกินไป เขาจึงไม่กล้าเอ่ยปาก
แต่นี่รพีพงษ์เอ่ยปากก็ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก ทำเอาเขาอึ้งไปตามๆกัน
แต่ไม่นาน ฮารุฮิ กันตะก็นิ่งลง ในเมื่อเด็กนี่จะแข่งกับตน งั้นตนก็จะไม่เกรงใจอีก เรื่องเงิน เขาไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว
“หกสิบล้าน!” ฮารุฮิ กันตะตะโกน
จากนั้นเขาก็หลับตาไปมองรพีพงษ์ ดูแคลนแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อย แกจะแข่งกับฉันไม่ใช่หรอ วันนี้พวกเรามาดูกัน ว่าใครจะหัวเราะที่หลังดังกว่า”
รพีพงษ์มองเขาอย่างเซ็ง ดาบเล่มนี้รพีพงษ์ต้องได้มันมา นี่จะทำให้เขาพัฒนาไปอีกขั้นได้ เทียบกับเงิน ดาบนี้มีค่าเกินกว่าจะประเมินราคาได้ ดังนั้นรพีพงษ์ไม่มีทางยอมคนอื่นแน่
ตอนนี้ฮารุฮิ กันตะจะแข่งกับรพีพงษ์ ก็มีแต่จะเสียเวลา
เขามองฮารุฮิ กันตะ แล้วกล่าว “หวังว่าต่อจากนี้ไปแกจะยังกล้าเสนอราคา”
พูดจบ รพีพงษ์ก็ยกป้ายในมือขึ้น แล้วตะโกน
“ร้อยล้านดอลล่าร์