พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่847 ตะลึง
บทที่847 ตะลึง
ฝนสุดาเห็นตัวเองกลับ แล้วฮารุฮิ สินใส่อารมณ์กับตัวเองมากขนาดนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจ ได้ตะคอกกลับไปทันทีว่า “ใครอยากเป็นลูกพ่อ พ่อทำเพื่ออนาคตของตัวเอง แล้วส่งให้หนูไปอยู่กับปีศาจ หนูต่างหากที่ไม่มีพ่อแบบนี้!”
ฮารุฮิ สินเห็นฝนสุดากล้าพูดแบบนี้กับเขา ก็จะมาสั่งสอนเธอทันใด
ฝนสุดาหลบอยู่หลังของรพีพงษ์ มีรพีพงษ์อยู่ที่นี่ เธอไม่กลัวฮารุฮิ สินแต่อย่างใด
วันนี้ที่รพีพงษ์มาที่นี่ เพื่อมาพูดเกี่ยวกับความจริงของตระกูลอุเอสึงิให้คนของตระกูลฮารุฮิเข้าใจ เขาไม่มีทางให้ฮารุฮิ สินลงมือกับฝนสุดาอย่างแน่นอน
ฮารุฮิ สินจ้องรพีพงษ์ กล่าว “แกเป็นใคร? นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของฉัน คนนอกอย่ายุ่ง รีบออกไปซะ”
รพีพงษ์ยังไม่ทันพูด ฮารุฮะ กันตะที่อยู่ข้างๆก็รีบพูดว่า “พ่อ ไอ้นี่แหละ ที่แย่งน้องสาวไป แล้วมันยังลงมือกับผมด้วย วันนี้ยิ่งแล้วใหญ่กักตัวผมเลย มันอยากมาวุ่นวายเรื่องงานแต่งของพวกเรากับตระกูลอุเอสึงิ”
หลังจากที่ฮารุฮิ สินได้ยังคำพูดของฮารุฮิ กันตะแล้วนั้น ก็มองรพีพงษ์ด้วยสายตาแค้นเคือง กล่าว “แกเป็นใคร กล้ามาวุ่นวายเรื่องงานแต่งของเรา!”
ขณะนี้แม่ของฝนสุดาทาจิมะ ฮิซาโกะเห็นลักษณะของรพีพงษ์ว่าเหมือนลักษณะของภาพคนที่อยู่ในห้องของฝนสุดา ก็แน่ใจว่านี่เป็นหนุ่มจีนที่ฝนสุดาพร่ำเพ้อทั้งวันแน่นอน
เธอก้าวมาด้านหน้า กล่าว “ฉันรู้ว่ามันเป็นใคร มันก็คือหนุ่มจีนที่ทำให้ลูกสาวของเราหลงหัวปักหัวปำยังไงล่ะ เพราะมัน บูกสาวของเราจึงไม่ยอมแต่งกับตระกูลอุเอสึงิ
หลังจากที่ฮารุฮิ สินได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ไม่มองรพีพงษ์ในด้านดี พูดกับรพีพงษ์โดยตรงว่า “ไม่คิดว่าจะเป็นแกที่หลอกลูกสาวฉัน ทำให้เธอไม่สนงานแต่งกับตระกูลอุเอาสึงิ แกคิดว่าแกคู่ควรกับตระกูลฮารุฮิยังไง? ฉันขอให้แกรีบไสหัวไป ต่อไปอยู่ห่างๆลูกสาวฉันหน่อย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
รพีพงษ์มองไปที่พ่อของฝนสุดาอย่างเซ็ง ไม่คิดว่าเมื่อตัวเองมาถึง ก็จะถูกประชดประชันเลย
แม้ฮารุฮิ กันตะจะรู้ถึงตัวตนของรพีพงษ์ว่าไม่ธรรมดา แต่เมื่อเห็นรพีพงษ์ถูกพ่อสั่งสอน ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
“พวกคุณมีสิทธิ์อะไรพูดแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่คู่ควรกับตระกูลฮารุฮิ พ่อน่าจะพูดว่าตระกูลฮารุฮิไม่คู่ควรกับเขามากว่า!” ฝนสุดาเกรี้ยวกราด
“เหอะ ฉันว่าแกหลงมันเกินไปล่ะ มันหนุ่มยากจนจากจีน จะคู่ควรกับตระกูลฮารุฮิได้ไง อย่างมัน ฉันเห็นมามากล่ะ แม้ตอนนี้ฉันจะฆ่ามัน แล้วมันจะทำอะไรฉันได้!” ฮารุฮิ สินกล่าวอย่างไม่พอใจ
ทาจิมะ ฮิซาโกะมองรพีพงษ์อย่างเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าใครมาก่อนได้ก่อนนั้นทำให้เธอดูถูกรพีพงษ์
รพีพงษ์รู้ดี ว่าการแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุดในตอนนี้ ก็คือให้พ่อของฝนสุดารู้ว่าตัวเองโง่ขนาดไหน
เขาจ้องฮารุฮิ สิน แล้วกล่าว “ผมอยากจะรู้ ว่าคุณจะฆ่าผมยังไง”
ฮารุฮิ สินเห็นรพีพงษ์ท้าทายเขา ก็กล่าวทันใดว่า “มานี่! กดไอ้เด็กนี่เดี๋ยวนี้ ให้มันได้เห็นฝีมือของตระกูลฮารุฮิ!”
ฮารุฮิ กันตะเดินไปข้างๆฮารุฮิ สิน กล่าว “พ่อ ฝีมือมันไม่ธรรมดานะ นักเลงพวกนั้นของตระกูลเรา เอามันไม่อยู่นะ”
ฮารุฮิ สินไม่ฟัง แล้วกล่าว “มันเด็กอายุยี่สิบกว่าปี ฝีมือไม่ธรรมดา แล้วจะเก่งขนาดไหนเชียว ฉันไม่เชื่อว่านักเลงที่ตระกูลฮารุฮิฝึกฝนมาหลายปีนี้ จะต่อกรกับมันไม่ได้!”
เขาเพิ่งพูดจบ ก็มีคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอก มองๆไปฝีมือเก่งกาจมาก
หลังจากที่คนพวกนี้เข้ามาแล้ว ก็ล้อมรพีพงษ์เตรียมลงมือ
ขณะนี้รพีพงษ์ได้เอามุรามาสะออกมา จากนั้นก็ไหลเวียนพลังวิเศษเสนไปที่ดาบ หลับตาลงแล้วมองไปที่คนพวกนั้น
ฮารุฮิ สินหัวเราะ กล่าว “ก็แค่ดาบของเล่นเด็ก คิดว่ามีดาบ แล้วจะต่อกรกับคนของตระกูลฮารุฮิได้หรอ
รพีพงษ์ยกมุรามาสะในมือขึ้น มีเสียงดังออกมา เอามือลูบลงมา จากนั้น ก็มีแสงปรากฏต่อหน้าทุกคน ยาวมาก ยาวจนออกไปนอกประตูของคฤหาสน์
ไฟที่อยู่บนเพดานถูกแบ่งเป็นสองท่อน ประตูเหล็กที่หันหน้าเข้ามาก็พังทลายลงในพริบตา บนพื้นมีรอยแตกร้าว จนเห็นเป็นโคลนออกมา
ทุกคนรู้สึกเพียงแค่คฤหาสน์เกิดสั่นสะเทือนขึ้น พวกนักเลงที่ห้อมล้อมรพีพงษ์ไว้ถูกแสงทำให้พื้นสั่นจนนั่งลงกับพื้น
ถ้าดาบนี้ลงไปที่ร่างกายของเขาล่ะก็ นักเลงพวกนี้ของตระกูลฮารุฮิ ก็ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้
แค่ควันหลง ก็ทำเอาพวกนักเลงพวกนี้เกือบร้องออกมา
“น่า น่ากลัวจริงๆ นี่มันภูตผีปีศาจจุติลงมานี่หว่า น่ากลัวจริงๆ!” นักเลงคนหนึ่งล้มลงกับพื้น ด้วยสีหน้าผวามองไปที่รพีพงษ์แล้วตะโกนออกมา
ฮารุฮิ สินและภรรยาถูกรพีพงษ์ทำให้ตกใจ กำลังมองไปยังห้องโถงที่พัง ทั้งสองก็เกิดความกลัวขึ้นมา
นี่มันจะเป็นสิ่งที่คนทำลายได้ไงกัน มีแค่ภูตผีปีศาจเท่านั้นที่ทำอะไรที่มันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ได้แบบนี้
ฮารุฮิ กันตะก็มองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่คาดคิด เขารู้ถึงความร้ายกาจของรพีพงษ์ แต่ไม่คิดว่าจะเก่งกาจได้ถึงขนาดนี้
“หรือ…..หรือดาบมารนั่น จะเยี่ยมยอดได้ขนาดนี้ ถึงขั้นส่องแสงทำลายล้างได้?” ฮารุฮิ กันตะพูดเสียงสั่น
เขาไม่เพียงตกใจ แม้แต่ฝนสุดาและฮารุฮิ ฮารุที่รู้ฝีมือของรพีพงษ์ว่ามีมากกว่าที่คนธรรมดาจะทำได้ก็ถูกดาบนี้ของรพีพงษ์ทำให้กลัวไปตามๆกัน
มีแว็บหนึ่งที่ฝนสุดาสงสัยว่ารพีพงษ์เป็นเซียนที่มาจากสวรรค์ ไม่งั้นสร้างสถานการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดินได้อย่างไรกัน
อุเอสึงิ ฮารุดีกว่าฝนสุดานิดหน่อย เพราะตอนที่อยู่สำนักเทพยาเซียน เธอได้เห็นหมัดที่รพีพงษ์ปล่อยออกมาแล้ว
หลังจากที่ลงดาบไป ทั้งคฤหาสน์ก็สงบนิ่งลง
รพีพงษ์ก็มองมุรามาสะที่อยู่ในมือของตัวเองอย่างไม่เชื่อ ไม่คิดว่ามันจะสามารถทำให้พลังของตนเป็นได้ถึงระดับนี้ เมื่อกี๊เขาแค่ทดลองทำเท่านั้น ไม่คิดว่าจะทำลายล้างได้มากขนาดนี้
เขาหันมองฮารุฮิ สินและทาจิมะ ฮิซาโกะ แล้วถาม
“ตอนนี้ จะพูดกันดีๆได้แล้วยัง?”