พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่853 วันแต่งงาน
บทที่853 วันแต่งงาน
“รพีพงษ์ เมื่อกี้นี้นายหล่อมากจริงๆ นั่นคืออาจารย์ทั้งสี่ท่านที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นฉันอยากจะไหว้พวกเขาเป็นอาจารย์ แต่พวกเขาทั้งหมดขับไล่ฉันออกไปโดยตรง เมื่อกี้นี้ดูนายถกเถียงกับพวกเขา สะใจจริงๆ”ฮารุฮิ กันตะมองไปที่รพีพงษ์อย่างนับถือเลื่อมใส
รพีพงษ์ยักไหล่ เมื่อกี้นี้เขายังไม่ถือว่าถกเถียงกับอาจารย์สี่คนนั้น แต่พูดความจริงเท่านั้นเอง
“ทำไมตอนนี้นายวิ่งมาชมรพีพงษ์แล้วล่ะ ก่อนหน้านี้นายยังจะจัดการรพีพงษ์อยู่ไม่ใช่เหรอ?”ฝนสุดาจ้องมองไปที่ฮารุฮิ กันตะ
ฮารุฮิ กันตะก็ยิ้มอย่างละอายเล็กน้อย: “ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่ารพีพงษ์แข็งแกร่งขนาดนี้ ตอนนี้ฆ่าฉันให้ตายฉันก็ไม่กล้าหาเรื่องรพีพงษ์ ความจริงแล้วถ้าหากสามารถพูดได้ ให้ฉันไหว้รพีพงษ์เป็นอาจารย์ก็ได้”
หลังจากพูดจบ เขารีบถามรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว: “รพีพงษ์ ว่าแต่ว่าฉันสามารถเป็นลูกศิษย์ของนายได้มั้ย? ฉันรับรองว่าจะเชื่อฟังเป็นอย่างดี นายให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำตามทุกอย่าง”
รพีพงษ์หัวหน้าเหลือบมองไปที่เขา เอ่ยปากว่า: “นายฝึกฝนเรียนรู้แนวทางการทำธุรกิจกับพ่อนายดีๆเถอะ นายไม่คุณสมบัติที่จะฝึกฝนเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้”
เมื่อฮารุฮิ กันตะได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ บนใบหน้าก็แสดงถึงความผิดหวัง เอ่ยปากถาม: “จริง….จริงเหรอ? ฉันคิดมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นคนมีความสามารถศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก”
รพีพงษ์มองไปที่ฮารุฮิ กันตะอย่างพูดไม่ออก แล้วพูดว่า: “ถ้านายเป็นคนมีความสามารถศิลปะการต่อสู้ล่ะก็ หมูก็ยังสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ได้”
หลังจากที่ฝนสุดาและอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
สีหน้าฮารุฮิ กันตะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง คาดไม่ถึงว่าคุณสมบัติของตัวเอง ยังสู้หมูตัวหนึ่งไม่ได้
รพีพงษ์ว่าให้เขาแบบนี้ ก็ไม่ได้กำลังล้อเล่น ถึงระดับอย่างรพีพงษ์ คนคนหนึ่งมีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้หรือไม่ มองแวบเดียวก็สามารถมองออกมาได้
ฮารุฮิ กันตะไม่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้จริงๆ สำหรับเขาแล้ว รับช่วงต่อจากตระกูลฮารุฮิถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เวลาผ่านไป ในพริบตาก็เป็นวันที่ตระกูลอุเอสึงิกับตระกูลฮารุฮิจัดงานแต่งงานกัน
แม้ว่าคนในตระกูลฮารุฮิจะรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของตระกูลอุเอสึงิอยู่แล้ว แต่เพื่อการแสดงที่ตามปกติ ขั้นตอนที่ควรมีในงานแต่งงาน ตระกูลฮารุฮิก็ไม่ขาดตกบกพร่องไปแม้แต่ข้อเดียว
ตระกูลอุเอสึงิเห็นว่าฝั่งตระกูลฮารุฮิไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้นจึงไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเขา
ตอนนี้งานแต่งงานครั้งนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญคือการต่อสู้ระหว่างอุเอสุงิ ทาคิโนะกับอาจารย์นินโดทั้งสี่ท่าน
ฝ่ายตระกูลอุเอสึงิก็บ่งบอกชัดเจนว่า ครั้งนี้เป็นเพียงแต่งภรรยาน้อย ดังนั้นขั้นตอนทั้งหมดของงานแต่งงานจึงเรียบง่าย ฝนสุดาเพียงแค่ต้องไปที่ห้องของอุเอสุงิ ทาคิโนะในตอนกลางคืนเท่านั้น ส่วนพิธีอื่นในงานแต่งงานจะมีหรือไม่มีก็ได้ ฝ่ายตระกูลอุเอสึงิต้องจัดการการต่อสู้ระหว่างอุเอสุงิ ทาคิโนะกับอาจารย์ทั้งสี่ท่านให้ดีที่สุด
แม้ว่าเดิมทีฝนสุดาตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานกับอุเอสุงิ ทาคิโนะ แต่ท่าทีของตระกูลอุเอสึงิทำให้หล่อนโกรธมากอย่างเห็นได้ชัดว่างานแต่งงานของหล่อนกับอุเอสุงิ ทาคิโนะ สุดท้ายหล่อนกลับกลายเป็นคนคนหนึ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้
แต่แม้ว่าในใจจะไม่พอใจ หล่อนก็ทำได้เพียงแค่อดทน และให้ความร่วมมือกับรพีพงษ์เล่นละครแสดงฉากนี้ให้จบ จนกว่ารพีพงษ์จะกำจัดอุเอสุงิ ทาคิโนะทิ้งได้
งานแต่งงานจัดขึ้นในคฤหาสน์ของตระกูลอุเอสึงิ รพีพงษ์ตามฮารุฮิ กันตะ เข้าสู่คฤหาสน์ของตระกูลอุเอสึงิได้สำเร็จ
ในตอนนี้ข้างในจัดเตรียมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ในสวนลานบ้าน มีการจัดตั้งเวทีประลองขึ้นมาหนึ่งแห่ง รอบเวทีประลองเต็มไปด้วยโต๊ะ บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร ทุกคนที่มาอวยพรในงานแต่งงานสามารถนั่งได้ลงทานอาหารได้ที่โต๊ะ
เพียงแต่ว่าทุกคนที่มางานแต่งงานในวันนี้เป็นเพราะอาจารย์นินโดทั้งสี่ท่านถึงมา ดังนั้นโดยพื้นฐานทุกคนต่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาจารย์ทั้งสี่ท่าน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พูดถึงงานแต่งงาน
หลังจากที่รพีพงษ์ตามฮารุฮิ กันตะเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลอุเอสึงิ ไม่นานก็มองเห็น คาโต้ แดนโซพวกเขาทั้งสี่ที่มาถึงที่นี่
มีคนมากมายยืนอยู่รายล้อมรอบพวกเขาทั้งสี่คน หลังจากที่ฮารุฮิ กันตะเห็นเข้า ก็เอือมระอาทันที แล้วพูดว่า: “คนแก่พวกคนนี้ชอบที่จะให้คนอื่นประจบสอพลอพวกเขาจริงๆ อาจารย์ที่แท้จริง จะไม่มาเสียเวลากับคนธรรมดาพวกนี้”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย ไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือไม่ถูก
เมื่อทั้งสองคนกำลังจะไปหาอะไรทาน ผู้ชายหลายคนที่มีดาบคาดไว้ที่เอวก็เดินมาตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน ด้วยสีหน้าไม่ดี
“นายก็คือคนที่อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย หาเรื่องอาจารย์ของพวกเราเหรอ?”ผู้นำคนนั้นมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
รพีพงษ์มองไปที่พวกเขาแวบหนึ่ง ถามด้วยรอยยิ้ม: “ทำไม พวกนายคิดจะทำอะไร?”
“ขยะอย่างนาย ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในที่เดียวกันกับอาจารย์ของพวกเรา วันนั้นนายโชคดีที่หนีออกมาได้ ก็น่าจะไตร่ตรองดูให้ดีๆ คาดไม่ถึงนายยังกล้ามาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ตอนนี้นายรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ก็อย่าหากว่าพวกเราไม่เกรงใจ”ผู้นำคนนั้นเอ่ยปาก
“ถ้าหากจำไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นงานแต่งงานระหว่างตระกูลอุเอสึงิกับตระกูลฮารุฮิ หรือว่าพวกนายจะเป็นคนของตระกูลอุเอสึงิ บอกให้พวกเราไปพวกเราก็ต้องไปเหรอ?”รพีพงษ์ถามกลับ
ฮารุฮิ กันตะที่อยู่ข้างก็รีบพูดว่า: “เขาเป็นแขกผู้เกียรติของพวกเรา มาร่วมงานแต่งงานนี้ก็เป็นอย่างที่ควรจะเป็น พวกนายคิดจะทำอะไร? หรือคิดว่าพวกเราตระกูลฮารุฮิจะกลัวนินโดอย่างพวกนายเหรอ?”
คนที่เป็นผู้นำมองไปที่ฮารุฮิ กันตะอย่างเย็นชา และไม่ได้สนใจเขา แต่ยังคงพูดกับรพีพงษ์ต่อไปว่า: “อย่าหน้าด้าน ไม่อย่างนั้น ก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”
หลังจากพูดเสร็จ คนไม่กี่คนก็เอามือจับด้ามดาบรอบเอว
ในเวลานี้ทุกคนรอบๆกำลังมองมาที่พวกเขา และคนไม่น้อยที่อยู่การบรรยายในวันนั้นแล้วเคยเห็นรพีพงษ์ถกเถียงกับอาจารย์ทั้งสี่คนในหอศิลปะการต่อสู้
พวกเขาเห็นลูกศิษย์ของอาจารย์ทั้งสี่ท่านขวางรพีพงษ์ไว้ บนใบหน้าก็เต็มไปความยินดีกับความโชคร้ายของคนอื่น
“คาดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะกล้าหาญขนาดนี้ วันนั้นเพิ่งจะหาเรื่องใหญ่ขนาดนั้นกับอาจารย์ทั้งสี่ท่าน ตอนนี้กลับยังกล้ามาที่ตระกูลอุเอสึงิ นี่เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ”
“อาจารย์ทั้งสี่ท่านลงมือกับเด็กคนนี้เท่ากับว่าผู้ใหญ่รังแกคนด้อยกว่า แต่ลูกศิษย์ของอาจารย์ทั้งสี่ท่านมาจัดการเขา คงจะไม่มีใครว่าอะไร มาดูกันว่าในวันนี้เด็กคนนี้จะมีจุดจบอย่างไร”
คาโต้ แดนโซก็สังเกตเห็นสถานการณ์ของที่นี่ แต่พวกเขาต่างก็ไม่ได้หักห้ามลูกศิษย์ของตัวเอง เด็กกำเริบเสิบสานคนนี้ สมควรที่จะถูกสั่งสอนจริงๆ
“นี่คืองานแต่งงานของคนอื่น ฉันไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเขา ถ้าหากพวกนายจะต่อสู้กับฉัน สามารถรอหลังจากที่งานแต่งงานจบลงแล้ว”รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบ
“อย่าหาข้อแก้ตัวตรงนี้เลย ถ้าตอนนี้นายยังไม่ไสหัวออกไป พวกเราก็จะลงมือทันที!”ผู้นำคนนั้นพูดด้วยความโหดเหี้ยม
ขณะที่ดาบทั้งสองข้างถูกชักออก เสียงอันน่าเกรงขามก็ดังขึ้นมา: “พวกนายก่อความวุ่นวายที่ตระกูลอุเอสึงิของฉัน เอาฉันนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิไว้ในสายตาหรือเปล่า?”
ทุกคนหันหน้ามองไปทันที เมื่อเห็นอุเอสุงิ ทาคิโนะและฝนสุดาทั้งสองคน ต่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้า และเดินออกมาจากข้างใน
เมื่อลูกศิษย์เหล่านั้นเห็นอุเอสุงิ ทาคิโนะปรากฏตัว ทั้งหมดก็เก็บด้ามดาบในทันที
“หลังงานแต่งงาน พวกเราจะทำให้นายได้ลิ้มถึงรสชาติความทรมาน”ชายที่เป็นผู้นำได้แต่กัดฟันและพูดกับรพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่ได้สนใจพวกเขา แต่มองไปทางอุเอสุงิ ทาคิโนะ ในวินาทีที่เห็นอุเอสุงิ ทาคิโนะ รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที
พลังอานุภาพของนายใหญ่ตระกูลอุเอสึงิ อยู่เหนือแดนปรมาจารย์ บรรลุถึงระดับยอดฝีมือแดนดั่งเทพถึงจะมีได้