พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่941 แสดงอำนาจ
บทที่941 แสดงอำนาจ
ชนสรณ์ได้ยินคำพูดของทัตดา ก็ยิ้ม แล้วกล่าว “เดี๋ยวคุณดูนะ ผมจะให้ครูฝึกคนใหม่คนนี้ของเราเข้าใจ ว่าในกองทัพ เทียบไม่ได้กับการเป็นนายใหญ่อยู่ในสังคม”
ไม่นาน รพีพงษ์ก็เดินมาถึงด้านหน้าของรถจิ๊บ เขาไม่ได้เอาของมามาก เอามาแค่กระเป๋าใบเดียว ในกระเป๋ามีเสื้อผ้าเอาไว้ใส่แล้วซักและยังมีของมีค่าบางอย่าง
แม้จารุวิทย์ไม่ได้บอกเขาว่าการเป็นครูฝึกครั้งนี้ต้องเป็นนานขนาดไหน แต่รพีพงษ์รู้สึกแค่ว่าตัวเองต้องฝึกฝนเหล่าทหารทหารมังกรให้ดีก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้น และการที่จะทำได้นั้นก็ไม่ยาก ดังนั้นเขาจึงคิดว่าตัวเองไม่น่าจะต้องอยู่ที่เปร์คิงนานมากนัก
ก่อนที่จะเดินทาง รพีพงษ์ได้วางแผนเรื่องทุกอย่างของตระกูลลัดดาวัลย์ไว้เรียบร้อยแล้ว และหลายวันก่อนหน้าที่จะแจ้งกับคนของเปร์คิง ก็ได้เริ่มอยู่เป็นเพื่อนอารียาและขวัญนลินสองแม่ลูกอย่างจริงจัง
การไปเปร์คิงครั้งนี้ แม้อารียาจะไม่อยากให้ไป แต่อารียาก็รู้ดีว่ารพีพงษ์ไปทำธุระ เธอไม่สามารถที่จะให้รพีพงษ์อยู่อย่างใจตัวเองต้องการได้
ดังนั้นทั้งคู่จึงตกลงกัน รพีพงษ์ทำงานข้างนอก อารียาทำงานบ้าน ดูแลเรื่องต่างๆของตระกูลลัดดาวัลย์ บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่สามีภรรยาพึ่งต้องมี
หลังจากที่มาถึงด้านหน้าของรถจิ๊บ รพีพงษ์ก็มองเข้าไปด้านใน มีชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เขารู้มานานแล้วว่าคนที่มารับเขาเป็นใคร และรู้ชื่อของสองคนนี้ดี
เขายืนอยู่ข้างๆรถรอให้สองคนลงมา แต่ผ่านไปสักพัก ทั้งคู่ก็เหมือนว่าจะไม่ลงมา
เดินทีทัตดาอยากลงจากรถเพื่อไปทักทายรพีพงษ์ แต่ถูกชนสรณ์ห้ามไว้
ความหมายของเขาคือ อยากจะเห็นว่าถ้ารพีพงษ์ถูกมองข้ามแล้วจะทำอย่างไร แล้วก็ทำลายอำนาจของรพีพงษ์ด้วยเลย ให้เขารู้ว่าคนของกองทัพไม่ใช่จะแตะต้องได้
รพีพงษ์เห็นชนสรณ์และทัตดาทั้งสองไม่ลงมา แล้วเห็นว่าคนบนลงแสร้งทำเป็นไม่เห็นเขา ก็รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร
เขายิ้มมุมปาก จากนั้นก็ตะโกนเข้าไปในรถ “ชนสรณ์ ทัตดา! ลงมาเดี๋ยวนี้!”
ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือแดนเทพ เสียงของรพีพงษ์ดังกังวาน ทะลุปรุโปร่ง ต่อให้มีกระจกกั้น ก็ดังกระแทกไปยังโสตประสาทของคนได้
ชนสรณ์และทัตดาฉลาด จึงรีบลงมาจากรถ
ชนสรณ์จ้องไปที่รพีพงษ์ จากนั้นก็ยิ้ม แล้วกล่าว “คุณคือรพีพงษ์ใช่มั้ย ขอโทษจริงๆนะ เมื่อกี้พวกเรากำลังพูดคุยกัน ไม่ทันได้สนใจคุณ”
ทัตดาก็กล่าวตาม “สวัสดีค่ะหัวหน้าครูฝึก ฉันคือผู้แนะนำของคุณ ทัตดา”
รพีพงษ์ดูแคลน แล้วกล่าว “ภารกิจครั้งนี้ของพวกคุณคืออะไร?”
ทัตดารีบกล่าว “รับหัวหน้าครูฝึกไปเปร์คิงค่ะ”
“ผมเดินผ่านพวกคุณไป พวกคุณไม่เห็น นี่ถือว่าพวกคุณบกพร่องในงานมั้ย?” รพีพงษ์ถาม
ทั้งสองชะงัก คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะตัดคะแนนบกพร่องในหน้าที่ของพวกเขา
“ครูฝึกรพี พวกเราก็แค่ไม่มีสมาธิเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องพูดรุนแรงขนาดนั้นก็ได้”ชนสรณ์มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความไม่พอใจ
รพีพงษ์มองชนสรณ์ กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ผมหรือคุณเป็นหัวหน้าครูฝึก? ผมจะทำอะไร ต้องฟังคุณงั้นหรอ?”
ชนสรณ์เห็นรพีพงษ์ใช้ตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกบีบตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าจะต่อต้านอย่างไร จึงตอบกลับไปว่า “หัวหน้าครูฝึกพูดถูก ผมพูดมากไป”
แค่เรื่องรับคนยังทำไม่ได้ ก็เห็นถึงความสามารถของพวกคุณแล้ว ไม่แปลกที่ผู้บัญชาการของพวกคุณให้ผมไปเป็นหัวหน้าครูฝึก” รพีพงษ์วิจารณ์ชนสรณ์และทัตดาอย่างไม่ไว้หน้า
ชนสรณ์ก็ไม่คิด เดิมทีเขาคิดจะสั่งสอนรพีพงษ์ แต่กลับถูกรพีพงษ์มองว่าไม่มีความสามารถ นี่จะอธิบายก็ไม่มีโอกาสแล้ว
ทัตดาเกลียดชนสรณ์เข้าไส้ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้แต่แรก เธอไม่ฟังชนสรณ์หรอก
“ตอนนี้พวกคุณทั้งสองวิดพื้นคนล่ะร้อยครั้ง ถือเป็นการลงโทษ ถ้ายังมีครั้งหน้า จะไม่ใช่แค่วิดพื้นแล้ว” รพีพงษ์กล่าว
ชนสร์และทัตดามองหน้ากัน ตอนนี้อยู่บนถนน รพีพงษ์ให้พวกเขาวิดพื้น จะต้องถูกคนหัวเราะเยาะแน่นอน
“ทำไม คำสั่งของหัวหน้าครูฝึกอย่างผมไม่มีค่างั้นหรอ? ดูๆแล้วผมต้องไปหาผู้บัญชาการของพวกคุณหน่อยแล้วล่ะ” รพีพงษ์กล่าว
จะทำเดี๋ยวนี้!” ชนสรณ์รีบกล่าว ถ้าหากผู้บัญชาการรู้ว่าเขาตั้งใจไม่สนใจหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ ต่อไปตำแหน่งหัวหน้าครูฝึก เขาเลิกคิดไปได้เลย
พูดจบ ชนสรณ์ก็ฟุบกับพื้นเริ่มวิดพื้น
คนจำนวนไม่น้อยเดินผ่าน ล้วนล้อมเข้ามาดู
แม้ชนสรณ์จะไม่พอใจ แต่เจอเข้ากับคำสั่งของผู้ที่ใหญ่กว่าก็ทำได้แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น ในเวลาเดียวกันก็ยิ่งมั่นใจว่ารพีพงษ์ไร้ความสามารถ ทำได้แค่ใช้หัวหน้าครูฝึกตัวตนนี้มาบังคับเขาเท่านั้น
ทัตดาเห็นชนสรณ์เริ่มวิดพื้น ก็อึดอัด ตอนที่อยู่เปร์คิงเป็นเธอทำงานฝ่ายพลเรือน ปกติน้อยมากที่จะเข้าฝึก วิดพื้นร้อยครั้งสำหรับเธอแล้วมันชั่งเหมือนตกนรก ยิ่งไปกว่านั้นยังทำบนถนนอีก
รพีพงษ์เห็นทัตดาไม่ปฏิบัติ จึงถาม “คุณต่อต้านคำสั่ง?”
ทัตดารีบส่ายหัว แล้วกล่าว “หัวหน้าครูฝึก ฉันเป็นผู้หญิง…….”
รพีพงษ์ดูแคลน แล้วกล่าว “ขอโทษนะ หญิงชายเท่ากัน ทำผิด ก็ต้องรับโทษ”
ทัตดาเห็นรพีพงษ์ไม่ไว้หน้า ก็ทำได้แค่ฟุบลง แล้ววิดพื้น
ชนสรณ์ยอดฝีมือมวยไทย วิดพื้นสำหรับเขาเป็นเรื่องขี้เล็บ ไม่นานก็ทำเสร็จแล้ว
ทัตดาต่างหากที่ค่อนข้างเจ็บบปวด แม้เธอจะแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงทั่วไปอยู่บ้าง แต่วิดพื้นร้อยครั้งก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี วิดเกือบเสร็จ แขนก็ยกไม่ขึ้นแล้ว
ชนสรณ์มองไปที่ทัตดา ด้วยความรู้สึกผิด คิดในใจว่าเป็นเพราะตนทัตดาจึงต้องถูกลงโทษ ถ้ารู้ว่ารพีพงษ์เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่หาเรื่องตั้งแต่แรกแล้ว
ในขณะเดียวกันเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีต่อรพีพงษ์มากขึ้น สาบานว่าจะต้องให้รพีพงษ์เห็นความเก่งกาจของเขาให้ได้ เมื่อถึงเปร์คิง เขาจะทำให้รพีพงษ์รู้ ว่านี่เป็นถิ่นของใครกันแน่
รพีพงษ์ไม่กลัวว่าตัวเองจะทำผิดต่อชนสรณ์หรือทัตดา แม้เขาจะไม่เคยเป็นทหารมาก่อน แต่รู้ว่าค่ายทหารเป็นที่ยังไง ถ้าตัวเองแสดงออกว่าง่ายต่อการถูกรังแกตั้งแต่แรก ทหารที่หัวรั้นพวกนี้อยู่ต่อหน้าเขาก็ยังผยองขึ้นมาได้
รพีพงษ์ก็ดูออกว่าชนสรณ์รู้สึกว่าตัวเองไม่พอที่จะให้พวกเขาเชื่อมั่น แต่เขาก็ไม่รีบร้อน รอให้ถึงเปร์คิง รพีพงษ์มีโอกาสให้พวกเขาได้รู้ ว่าหมัดของตัวเอง ไม่ได้ธรรมดา
สุดท้าย ทัตดาก็วิดพื้นที่ยากสำเร็จ ยืนขึ้นมาจากพื้น มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความแค้น
รพีพงษ์ไม่สนใจ ขึ้นนั่งบนรถโดยตรง
ทัตดาหันไปมองชนสรณ์ ชนสรณ์ฉวยโอกาสตอนที่รพีพงษ์ขึ้นรถ พูดกับทัตดาเบาๆว่า “สบายใจได้ ผมจะสั่งสอนเขาเอง ไม่ใช่ว่าเป็นหัวหน้าครูฝึก แล้วจะยโสโอหังต่อหน้าพวกเราได้”