พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่944 ฝีมือสะท้านโลกันต์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่944 ฝีมือสะท้านโลกันต์
บทที่944 ฝีมือสะท้านโลกันต์
ทุกคนกำลังดูรพีพงษ์ดึงดาบออกอย่างไม่เข้าใจ พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆว่ารพีพงษ์จะใช้ดาบในการเอาธงรบออกมาได้ไงกัน
“เขาคิดจะใช้ดาบตัดธงรบลงมางั้นหรือ? ไม่พูดเรื่องพลังของเขาก่อนนะ ถ้าตัดธงรบล่ะก็ ก็มีแต่จะยั่วโมโหเหล่าทหารของทหารมังกรเท่านั้นแหละ” ชนสรณ์ดูแคลนพลางกล่าว
เขามั่นใจแน่แล้วว่ายังไงรพีพงษ์ก็ไม่มีทางเอาธงรบลงมาได้ภายในเวลาหนึ่งนาที วันนี้เขาต้องเสียหน้าแน่นอนแล้ว
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้มันได้ตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง บนหน้าดูแคลนของเขาต้องหุบไป กลับเป็นตะลึงขึ้นทันใด
เห็นเพียงแค่ตอนที่รพีพงษ์เอามุรามาสะออกมาเท่านั้น บนดาบก็มีออร่าประกายออกมา เหตุการณ์นี้ มันก็ประหลาดมากพอแล้ว
จากนั้นร่างของรพีพงษ์ก็เริ่มขยับ ลอยขึ้นไปบนหน้าผาอย่างรวดเร็ว ตามก้าวของเขา พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา
และความเร็วของรพีพงษ์ได้ไปถึงจุดที่คนธรรมดาจินตนาการไม่ออกแล้ว ชนสรณ์ที่ยืนดูอยู่ไกลๆเห็นเพียงแค่ภาพติดต่อเท่านั้น ความรู้สึกนั้น เหมือนกับใช้คอมพิวเตอร์ตัดต่อออกมาอย่างไรอย่างนั้น
ในขณะที่รพีพงษ์พุ่งขึ้นไปที่หน้าผานั้น เขาใช้เท้าเหยียบพื้นอย่างแรง จากนั้นทั้งตัวก็ปรากฏการเคลื่อนไหลของพลังที่ปล่อยออกมา จากนั้นตัวเขาก็เหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ พุ่งขึ้นไปข้างบน
เพียงเว็บเดียว รพีพงษ์ก็พุ่งผ่านสิบกว่าเมตรไป ทำให้ทุกคนตะลึง
หลังจากที่ความเร็วลดลงแล้ว รพีพงษ์ได้ยื่นมุรามาสะในมือของตัวเองเสียบเขาไปในภูเขา แล้วเหยียบบนดาบที่ลงพลังวิเศษเสนไว้
มุรามาสะระเบิดพลังอันมหาศาลออกมาทันใด รพีพงษ์ใช้พลังโจมตีนี้ พุ่งขึ้นต่อไปอีก แค่สองอึดใจ เขาก็ไปถึงจุดที่ธงรบปักอยู่
หลังจากที่ยื่นมือไปหยิบธงรบออกแล้ว รพีพงษ์ไม่หยุด ได้ขึ้นไปด้านบนต่อ จากนั้นก็นั่งบนหน้าผา
เขาเอาธงรบวางไว้ข้างตัว มองลงไปยังผู้คนที่ฐานทัพ รพีพงษ์ในเวลานี้ ราวกับเป็นเทพสงครามองค์หนึ่ง ทุกคนในสายตาเขา เป็นแค่มดเท่านั้น
ทุกคนด้านล่างล้วนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกกดดันบนตัวของรพีพงษ์ ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่หัวหน้าครูฝึกจะทำได้
“นี่……นี่ยังเป็นคนอยู่มั้ย? เขาทำได้อย่างไรกัน? ปีนเขาร้อยเมตร……แบบนี้เนี่ยนะ?” เฮียดำตะลึง
“พระเจ้า เมื่อกี้ฉันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมเหมือนกับดูหนังอยู่อย่างไรอย่างนั้นเลย หัวหน้าครูฝึกคนนี้ของเรา คงไม่เชิญคนตัดต่ออยู่ใกล้ๆหรอกนะ?” เฮียเบิดพูดกับตัวเอง
“น่ากลัวชะมัด ยอดฝีมือวงการบู๊ในตำนาน เกรงว่าจะไม่เก่งกาจเท่าหัวหน้าครูฝึกคนนี้ของเราหรอกนะ?”
……
ชนสรณ์มองเหตุการณ์อย่างเหม่อลอย ถ้าบอกว่าเมื่อก่อนค่อนข้างเหยียดหยามรพีพงษ์ ตอนนี้เขาไม่กล้าจะมีความคิดนี้แม้แต่สักครึ่งเดียว
ความสามารถที่รพีพงษ์แสดงออกมาทั้งหมดนั้น เกรงว่าแม้แต่ยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ก็เทียบไม่ได้ เขาไม่คาดคิดจริงๆว่าหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ที่ผู้บัญชาการหามาคนนี้ จะมีฝีมือขนาดนี้
“ฉันมองผิดไปจริงๆ คนที่ผู้บัญชาการหามาเองนั้น จะไร้ซึ่งความสามารถได้อย่างไรกัน ฉันยังคิดจะแสดงอำนาจกับเขาอีก แล้วยังคิดว่าตัวเองใช้อุปกรณ์ปีนเขาใช้เวลาสามสิบนาทีเอาธงรบลงมานั้นเก่งกาจมาก สุดท้ายเค้าใช้แค่สองครั้งก็ลอยขึ้นไปเป็นร้อยๆเมตรได้ ฉันนี่มันน่าตลกจริงๆ”
ชนสรณ์ส่ายหัวอย่างไม่มีทางออก ด้วยอารมณ์อึดอัดจนไม่รู้จะทำอย่างไร
ทัตดาที่อยู่ข้างๆก็ประหลาดใจ จ้องรพีพงษ์ที่ยืนอยู่บนหน้าผาอย่างไม่กล้าเชื่อ เหม่อลอยอยู่สักพักใหญ่
เมื่อก่อนเป็นเพราะชนสรณ์ เธอจึงรู้สึกว่ารพีพงษ์เป็นคนที่โชคดี ที่ผู้บัญชาการเลือก เรียกให้มาเป็นหัวหน้าครูฝึก สิ่งสำคัญที่สุด ความจริงก็คือมาฝึกฝนจิตใจของเหล่าทหารมังกร
ตอนนี้เห็นฝีมือทุกอย่างที่รพีพงษ์ปล่อยออกมา เธอเพิ่งจะรู้ ว่าชนสรณ์นั้นคิดผิดเสียแล้ว ที่รพีพงษ์ถูกผู้บัญชาการเลือกนั้น ไม่ใช่เพราะโชคหรืออะไรนั่น และที่ให้รพีพงษ์มาเป็นหัวหน้าครูฝึก ไม่ใช่แค่มาฝึกสภาพจิตใจของทหารมังกรแค่นี้อย่างแน่นอน
“คนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเก่งขนาดนี้ ดู……ดูไม่ออกจริงๆ” ทัตดาอุทาน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดนี้ทำให้เธอยิ่งมองว่ารพีพงษ์รุนแรงเข้าไปอีก ถ้ารพีพงษ์แสดงฝีมือแบบนี้ออกมาแต่แรก เธอก็คงจะไม่มีอาการแบบตอนนี้
“ชิ เห็นแก่ความแข็งแกร่งของคุณ ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่คุณทำโทษฉันโดยการวิดพื้นอีก” ดวงตาของทัตดาแสดงออกถึงความขี้เล่นความแค้นที่มีต่อรพีพงษ์ได้สลายไป
“หัวหน้าครูฝึกเก่งจริงๆ แต่เขาขึ้นไปแบบนี้ แล้วจะลงมายังไง? ลงโดยทางลาดชันนั้นขั้นต่ำก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยนะ” ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกับฝีมือของรพีพงษ์อยู่นั้น ทหารมังกรคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมา
ทุกคนก็อยากรู้ขึ้นมาแล้วว่ารพีพงษ์จะลงมาอย่างไร เพราะตอนที่เขาขึ้นไปมันชั่งทำให้คนตะลึงเหลือเกิน ถ้าตอนลงมาลงทางลาดชันนั้น ก็จะฮาแน่
“ไม่ว่าจะลงมาอย่างไร ฝีมือของหัวหน้าครูฝึกคนนี้ก็ทำให้พวกเรานับถือ ฝีมือในการขึ้นหน้าผานี้ของเขา ชาตินี้ฉันไม่เห็นเป็นครั้งที่สอง”
“ใช่ ฝีมือเมื่อกี้ก็น่าตกใจแล้ว แต่แม้จะพูดแบบนี้ แต่ก็อยากดูว่าตอนเข้าลงมาจะทำให้คนตะลึงได้อีกมั้ย”
“พวกแกดูเร็ว เหมือนกับหัวหน้าครูฝึกยืนบนหน้าผาแล้ว หรือเข้าจะกระโดดลงมา?”
“เชรด อย่าตลก นี่มันหน้าผาสูงร้อยเมตรนะเว้ย แม้เขาจะเก่ง ถ้ากระโดดลงมา ก็กระดูกหักหมดอะ ด้านล่างนี้ไม่มีโคลนนะ”
……
ชนสรณ์และทัตดาทั้งสองมองรพีพงษ์อย่างเป็นห่วง แม้รพีพงษ์ฝีมือที่รพีพงษ์ใช้เมื่อกี้จะเหนือความคาดหมายของพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่คิดว่าร้อยเมตรลงมา จะสามารถยืนขึ้นมา
ทัตดากำหมัดของตัวเองอย่างแน่น ขมวดคิ้วมองรพีพงษ์ที่อยู่บนหน้าผา แล้วพึมพำ “ทุกคนรู้ว่าคุณเก่งกาจแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องทำมันอีกต่อไป กระโดดจากที่สูงขนาดนั้น ต่อให้กระดูกเหล็กก็แตกได้นะ”
ชนสรณ์เดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังไปที่รพีพงษ์ “หัวหน้าครูฝึก คุณรออยู่ข้างบนก่อนนะ ผมจะให้ฮอร์ไปรับคุณลงมาเดี๋ยวนี้! ใจเย็นๆ หน้าผาสูงขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องตลกที่จะกระโดดลงมา!”
แม้รพีพงษ์จะได้ยินที่ชนสรณ์ตะโกนมา แต่ก็ไม่สนใจ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้น
กระโดดลงจากที่สูงขนาดนี้ เขาไม่เคยลองทำมาก่อน ไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกยังไง
ไม่คิดมาก รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้า ลอยไปยังพื้น