พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่959 ตราคุมจิต
บทที่959 ตราคุมจิต
ฐานยินมองรพีพงษ์ที่อยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยความโกรธ หน้าอกเริ่มมีอาการพองขึ้นและลง ต่อสู้กับคนที่ฝีมือเหมือนกัน เขาไม่สบายที่จะสงบเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว
“เชี้ยเอ้ย มึงเก่งกว่าที่กูคิดไว้อีก คิดว่ามึงแค่ไอ้โง่ที่รนหาที่ตาย ไม่คิดว่ามึงจะมีความสามารถขนาดนี้” ฐานยินกล่าว
“ในเมื่อมึงรู้แล้ว ก็ยอมแพ้แต่โดยดี ยืดคอมาซะ อย่าเสียเวลาอยู่” รพีพงษ์กล่าว
ฐานยินดูแคลน แล้วกล่าว “มึงคิดว่าฝีมือแค่นี้ของมึง จะมีสิทธิ์พูดแบบนี้กับกูได้งั้นหรอ?”
“เด็กน้อย การเพิ่มพลัง ไม่ใช่แค่มึงคนเดียวที่ทำได้!”
พูดจบ ฐานยินเอาขวดหยกที่อยู่ในชุดตัวเองออกมา แล้วหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ด
“เดิมทียาตัวนี้เอาไว้ใช้ปกป้องชีวิตในยามจำเป็น แต่ไม่คิดว่ามึงจะจัดการยากขนาดนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นกูก็ทำได้เพียงกินมันเข้าไป”
ฐานยินโชว์ยาเม็ดนั้นให้รพีพงษ์ดู จากนั้นก็ใส่เข้าไปในปาก
รพีพงษ์หลับตา หลังจากที่รู้ว่าฐานยินได้ยินยาเข้าไปแล้ว เขาจะไม่ได้เปรียบอีกต่อไป
ดวงจิตที่อยู่ในสมองเขาตอนนี้กำลังเสร็จพิธีพอดี บนร่างของดวงจิตปรากฏแสงออร่าขึ้นมา จากนั้นข้างๆร่างกายของตนได้ปรากฏตราที่ประหลาดออกมา
รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็รีบพุ่งไปที่ฐานยิน
“เกรงว่ามึงกินยาตอนนี้ ก็ช้าไปแล้ว!”
ฐานยินดูแคลน ไม่กังวลว่ารพีพงษ์จะลงมือกับเขาในตอนนี้
แม้การที่ยาจะออกฤทธิ์ได้นั้นต้องใช้เวลา แต่ฐานยินในตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นไม่มีแรงที่จะแลกหมัดได้ ดังนั้นจึงไม่กังวลว่ารพีพงษ์จะปล่อยท่าอะไรในตอนนี้
เห็นรพีพงษ์จะพุ่งมาด้านหน้าของตัวเอง ฐานยินก็บึนปาก จากนั้นก็โบกมือทำดาบในมือของตัวเอง เตรียมพร้อมรับการต่อสู้ของรพีพงษ์
ในขณะเดียวกันนี้เอง รพีพงษ์ได้ใช้ท่าที่แปลกประหลาด จากนั้นก็ตะโกน “ตราคุมจิต!”
จากนั้น ตราสีทองที่แอบอยู่ในสมองของเขาได้ลอยขึ้น จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นกลลวงตาตราที่ใหญ่มาก จากนั้นร่างกายของฐานยินก็ตกลงไป
ฐานยินกำลังรอรพีพงษ์ปล่อยพลัง ไม่คิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้นมา รู้สึกตั้งตัวไม่ทัน
เขาไม่เคยเห็นการโจมตีแบบนี้มาก่อน จึงเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เป็นแดนดั่งเทพขั้นกลาง หลังจากที่สงสัยแล้ว ดาบที่อยู่ในมือ ได้ฟันไปที่ตรากลลวงตาอันใหญ่โตนั่น
ลำแสงดาบฟันไปที่ตรา เดิมทีฐานยินคิดว่าแบบนี้จะสามารถโต้ตอบการจู๋โจมของรพีพงษ์ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่คิดก็คือดาบนั้นได้ฟันผ่านตราไป เหมือนกับฟันไม่โดนอย่างไรอย่างนั้น จึงได้พลาดไป
ฐานยินประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่รู้ว่าควรจะต่อกรอย่างไรขึ้นมากะทันหัน
เขาจะจู่โจมต่อไป เพื่อต้านทานตราที่รพีพงษ์ปล่อยออกมา แต่เขายังไม่ทันได้ลงมือ ตรานั้นได้ชนเข้าไปที่ร่างของเขา
ร่างกายของฐานยินไม่มีการบาดเจ็บใดๆเกิดขึ้น แต่ตอนที่ตราโดนเข้ากับฐานยิน ฐานยินรู้สึกเหมือนตัวเองจะถูกควบคุมอย่างไรอย่างนั้น การรู้สึกตัวของตัวเอง ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ด้วยตัวเองอีกต่อไปได้อีกแล้ว
เขาจับไปที่ดาบ เหมือนคนที่ไม่บ้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ตาสองข้างที่ว่างเปล่ามองไปยังรพีพงษ์ ไร้ซึ่งปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ
หลังจากที่รพีพงษ์มาถึงด้านหน้าของฐานยินแล้วนั้น ก็ฟันลงไป ที่คอของฐานยิน
ด้วยความคมของมุรามาสะ บนคอของฐานยินปรากฏรอยเลือดไหลออกมา จากนั้นก็แยกออกจากร่าง ล้มลงไปกับพื้น
เห็นฐานยินถูกตัวเองจัดการแล้ว รพีพงษ์ก็โล่งอก
ในขณะเดียวกันก็ไม่รู้จักกับ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณเทพในอีกรูปแบบ
ตราคุมจิตเมื่อกี้ที่รพีพงษ์ปล่อยออกมา เป็นวิธีการโจมตีชนิดหนึ่งที่บันทึกอยู่ในวิชาฝึกจิตวิญญาณที่ได้มาจากตระกูลตรีศาสตร์
หลังจากที่เริ่มฝึกจิตวิญญาณเทพแล้วนั้น รพีพงษ์ก็พยายามศึกษาเกี่ยวกับตราคุมจิต แม้การควบคุมนั้นจะยาก แต่ดูจากผลลัพธ์เมื่อกี้ รพีพงษ์ควบคุมได้ไม่เลว
ที่ดาบของฐานยินไม่มีผลอะไรกับตราคุมจิตนั้น ก็เป็นเพราะว่าตราคุมจิตคือวิธีการโจมตีของจิตวิญญาณ พลังระหว่างสองสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าไม่มีทางทำอะไรได้
บวกกับเมื่อก่อนฐานยินไม่เคยรู้เกี่ยวกับวิธีจู่โจมของจิตวิญญาณ จึงพูดได้ว่าไม่มีการป้องกันมาแต่อย่างใด ดังนั้นรพีพงษ์จึงได้จัดการฐานยินอย่างง่ายดาย
แม้ฐานยินจะกินยาเพิ่มพลังเข้าไป เพื่อเพิ่มพลังให้ร่างกาย แต่ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับจิตวิญญาณเทพ ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่สนใจใดๆ
แต่เสียดายตอนที่ฐานยินเข้าใจในสิ่งนี้ หัวก็ได้ถูกตัดออกไปแล้ว
ต่อให้เขาเสียใจ แต่ก็ทำได้เพียงไปเสียใจกับพยายมที่นู่นแล้ว
รพีพงษ์รับรู้ได้ว่าตราคุมจิตนี้ของตนยังอยู่ในขั้นพื้นฐาน ไม่ได้ปล่อยพลังทั้งหมดที่มีออกมา
ครั้งนี้ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาดีขนาดนี้ ก็เป็นเพราะฐานยินไม่ได้เตรียมการว่ารพีพงษ์จะใช้วิธีจู่โจมจิตวิญญาณเทพกับเขา
ถ้าฐานยินได้เตรียมการไว้ก่อนล่ะก็ แม้เขาไม่มีจิตวิญญาณเทพตื่นภวังค์ แต่ด้วยความสามารถของแดนดั่งเทพขั้นกลาง จะตั้งรับการจู่โจมจิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แน่นอน ตอนที่รพีพงษ์ต่อสู้อยู่นั้น ไม่มีทางบอกคู่ต่อสู้แน่นอน ว่าตัวเองใช้วิธีโจมตีของจิตวิญญาณเทพ
วิธีโจมตีจิตวิญญาณเทพในตอนนี้มีประโยชน์อย่างมาก เป็นการโจมตีแบบไม่ทันได้ระวังตัว
นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของท่าไม้ตายของรพีพงษ์ ที่จะไม่บอกใคร
จ้องไปที่หัวของฐานยินที่ตัวเองฟันขาด รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมาเป็นอันดับแรก เก็บหลักฐานที่ตัวเองได้ฆ่าฐานยินตายเอาไว้ เพื่อเอาไว้แสดงกับกลุ่มสิงโตเพื่อรับผลงาน จากนั้นก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์
ขณะนี้คนในคฤหาสน์กำลังวิตกกังวล การเคลื่อนไหวของการประลองในป่าละเมาะเมื่อกี้มันสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน แค่เสียง ก็ทำให้พวกเขาสั่นสะเทือนไปทั้งร่างกายได้แล้ว
ในขณะเดียวกันนี้ มีคนยื่นมือไป แล้วตะโกน “รีบดู รพีพงษ์กลับมาแล้ว!”
ทุกคนมองไป หลังจากที่เห็นรพีพงษ์เดินเข้ามา ก็ตื่นเต้น
ไม่นาน รพีพงษ์เดินไปอยู่ต่อหน้าผู้คน จากนั้นก็กล่าว “ไอ้แก่นั่นถูกผมฆ่าแล้ว รบกวนพวกคุณช่วยเก็บกวาดสถานที่ต่อสู้ตรงนั้นด้วยนะ”
ทุกคนล้วนตกใจ
คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ได้ฆ่าฐานยินแล้ว!
มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเยอะขนาดนี้!
แต่ขณะนี้ไม่มีใครสงสัยในคำพูดของรพีพงษ์แต่อย่างไร เพราะถ้าไม่ใช่ตอนจบแบบนี้ รพีพงษ์ก็ไม่มีทางเดินมาอยู่หน้าทุกคนได้