พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่962 คิดอย่างไรกับการแต่งภรรยาน้อย

บทที่962 คิดอย่างไรกับการแต่งภรรยาน้อย

“แกล้ง….แกล้งออกมาเหรอ?”เมธชนันมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เชื่อ “รพีพงษ์ คุณก็อย่าล้อเล่นกับฉัน เรื่องแบบนี้จะสามารถแกล้งเป็นได้ตามใจชอบได้อย่างไร ฉันว่าระหว่างคุณและทัตดา ก็ค่อนข้างหวานซึ้งกัน”

รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่ทัตดา แล้วพูดว่า: “เธอมาอธิบายเถอะ

ทัตดาไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงมองไปที่เมธชนันแล้วพูดว่า: “คุณปู่ สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง พวกเราสองคนแกล้งเป็นแฟนกันจริงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการนัดดูตัวที่ปู่นัดให้ฉันเท่านั้นเอง”

ใบหน้าของเมธชนันเต็มไปด้วยความไม่พอใจในทันที มองไปที่ทัตดาอย่างกระหืดกระหอบ เอ่ยปากพูดว่า: “ยัยเด็กบ้านี่ ทำให้ฉันโกรธจริงๆ เรื่องแบบนี้แกแกล้งทำได้อย่างตามใจชอบได้อย่างไร!”

“โธ่เอ๊ย นี่ก็เป็นเพราะว่าหนูไม่ชอบคู่ดูตัวที่ปู่หามาให้หนูก่อนหน้านี้ หนูกลัวว่าปู่จะใจร้อนตกลงรับปากงานแต่งงานของหนู ดังนั้นจึงทำได้เพียงคิดวิธีนี้”ทัตดาอธิบายด้วยความลำบากใจ

เดิมทีเมธชนันที่จมอยู่กับความสุขที่ได้มีคนที่มีศักดินาสูงสุดจริงๆมาเป็นหลานเขย ตอนนี้กลับได้รับรู้ว่าทั้งสองคนแกล้งออกมา ความรู้สึกสูญเสียแบบนั้น ก็เหมือนราวกับเหมือนนั่งรถไฟเหาะ

เขาเขม็งตาใส่ทัตดาอย่างโหดๆ จากนั้นแววตาจับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์ กลอกตาไปมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “รพีพงษ์ ความจริงไม่ว่าจะแกล้งเป็นหรือไม่ก็ตาม พวกคุณอยู่ด้วยกัน ดูเหมาะสมมากอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นพวกคุณก็แกล้งเล่นละครให้กลายเป็นจริงไปหนึ่งครั้งไม่ดีกว่าเหรอ คุณกับทัตดาของพวกเราลองพูดคุยกันดู ไม่แน่อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้”

รพีพงษ์ส่ายหัว แล้วพูดว่า: “ผู้อาวุโสเมธชนันพูดล้อเล่นแล้ว ความจริงผมแต่งงานแล้ว ที่สำคัญยังมีลูกสาวหนึ่งคน ทัตดาอายุยังน้อย อยากจะใครสักคนที่เหมาะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ดังนั้นผู้อาวุโสเมธชนันไม่ต้องเป็นห่วงปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ”

หลังจากที่เมธชนันได้ยินว่ารพีพงษ์แต่งงานและมีลูกสาวหนึ่งคนแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง

เขาเหลือบมองไปที่ทัตดา เอ่ยปากพูดว่า: “ทำไมแต่งงานเร็วขนาดนี้ หรือว่าฉันไม่มีโชคที่จะได้หลานเขยคนนี้จริงๆเหรอ?”

ทัตดาก็มองไปที่เมธชนันอย่างทำอะไรไม่ถูก และพึมพำว่า: “ไม่ใช่ว่าตัวฉันเองไม่พยายามช่วงชิง ทำได้แต่เพียงโทษที่ตัวฉันเองเกิดมาสายเกินไป”

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของทัตดา ก็รีบหันหน้ามองไปที่หล่อนทันที ทัตดาก็รีบหลบสายตาของตัวเองทันที เหมือนราวกับว่าเมื่อกี้นี้ไม่ได้พูดอะไร

“รพีพงษ์ ไม่ทราบว่าสำหรับนายแล้วการแต่งภรรยาน้อย มีความคิดอย่างไร?”หลังจากเงียบอยู่นาน เมธชนันเอ่ยปากถามรพีพงษ์

รพีพงษ์พูดไม่ออก ทัตดาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าปู่ของตัวเองจะพูดเรื่องแต่งภรรยาน้อยแบบนี้กับรพีพงษ์

“ผู้อาวุโสเมธชนัน ฉันไม่มีความคิดที่จะแต่งภรรยาน้อย ท่านอย่าได้คิดเรื่องแบบนี้”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด “นอกจากนี้ฉันจะให้ข้อนำแนะกับท่าน ความรู้สึกเป็นเรื่องคนคนหนึ่ง สิ่งที่คนอื่นบังคับไม่มีทางที่จะมีจุดจบที่ดี นอกจากนี้ตอนนี้ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดแล้ว หนุ่มสาวควรจะมีเสรีภาพในความรัก จากนี้ไปท่านอย่าได้ยุ่งเรื่องของทัตดา”

เมธชนันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงแค่แสดงรอยยิ้มขมขื่นให้รพีพงษ์

……

ในรถกลับไปเปร์คิง

ทัตดาดูท่าทางไม่มีความสุขตลอดทาง เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อยที่รพีพงษ์ให้หล่อนไปชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน

“ตอนที่นายออกมาน่าจะเห็นใบหน้าที่แก่เฒ่าไปสิบกว่าปีของปู่ฉัน ไม่เข้าใจจริงๆทำไมนายต้องพูดความจริงออกไป ให้ปู่ฉันมีความสุขบ้างไม่ได้เหรอ สิ่งนี้เป็นเพียงการโกหกที่มีความปรารถนาดีเท่านั้นเอง นายใจแคบจริงๆ”ทัตดาเอ่ยปากบ่นว่ารพีพงษ์

รพีพงษ์ก็เหลือบมองไปที่หล่อน แล้วพูดว่า: “ตอนนี้ปิดบัง วันหน้าเขาจะผิดหวังมากกว่านี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็ปิดบังไปตลอดก็พอแล้ว”ทัตดาพูดอย่างโกรธๆ

“หือ? ตามความหมายของเธอ คือตั้งจะให้ฉันแกล้งเป็นแฟนของเธอไปตลอดเหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

ความคิดของทัตดาถูกมองทะลุ ทันใดนั้นก็รู้สึกละอายขึ้นมา พึมพำว่า: “เชอะ ใครคาดหวังให้นายแกล้งเป็นแฟน หลงตัวเองจริงๆ”

หลังจากพูดจบ หล่อนก็หันหน้าไป และไม่สนใจรพีพงษ์

กลับมาถึงเปร์คิง ทัตดาก็สวมเครื่องแบบของตัวเองอีกครั้ง ฟื้นฟูความสามารถก่อนหน้า เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายชี้แนะของรพีพงษ์อีกครั้ง

รพีพงษ์ใช้ฐานะของผู้บังคับบัญชาสั่งทัตดา จากนี้ไปห้ามใช้เขาเป็นเกราะป้องกันตามอำเภอใจ ไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษตามกฎระเบียบ

ทัตดานั้นค่อนข้างไม่พอใจ แต่นี่เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเชื่อฟังมันโดยปริยาย

หลังจากกลับมา รพีพงษ์ได้ลาดตระเวนสถานการณ์การฝึกซ้อมของทหารมังกร แน่ใจจากสภาพร่างกายพวกเขาในช่วงไม่กี่วันที่ตัวเองจากไป หลังจากที่พวกเขาไม่ได้แอบขี้เกียจ รพีพงษ์ก็พึงพอใจเช็กสถิติ จากนั้นจึงเพิ่มระดับความเข้มข้นในการฝึกซ้อมให้กับพวกเขาตามความเหมาะสม

ทุกคนในทหารมังกรเดิมทียังเป็นเพราะการกลับมาของรพีพงษ์ การแสดงออกก็ยิ่งมีความกระตือรือร้นมากขึ้น แต่กลับคาดไม่ถึงทันทีที่รพีพงษ์กลับมา จะเพิ่มจำนวนการฝึกของพวกเขามากขึ้น ทั้งในทหารมังกร ทันใดนั้นกระหึ่มพึมพำไปทั่วอีกครั้ง

ในขณะที่การฝึกฝนดำเนินไป สมรรถภาพทางกายและความแข็งแกร่งของทหารมังกรก็ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ถ้าพูดถึงพวกเขาในอดีต ทุกคนสามารถเรียกได้ว่าเป็นราชาทหาร ทหารมังกรในตอนนี้ แต่ละคน ต่างเป็นทหารยอดเยี่ยมมีความสามารถสูงสุดของต่างประเทศ

กองทัพที่สร้างขึ้นโดยทหารยอดเยี่ยมมีความสามารถนั้นมีความน่ากลัวเพียงใด แค่คิดก็รู้แล้ว

เมื่อผ่านการฝึกไปครึ่งทาง รพีพงษ์ก็เริ่มสอนเทคนิคท่วงท่าการต่อสู้ที่ค่อนข้างเรียบง่ายให้ทหารมังกร และยังได้พัฒนาชุดเทคนิคท่วงท่าร่วมมือกันของทีมสำหรับพวกเขาออกมาโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ของทีมเมื่อทำการต่อสู้

หลังจากที่ทุกคนในทหารมังกรเรียนรู้การต่อสู้กับรพีพงษ์ ถึงได้เข้าใจว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ทรงพลังเพียงใด ท่วงท่าที่เดิมทีดูไปแล้วธรรมดาๆ หลังจากคำแนะนำของรพีพงษ์ กลับสามารถระเบิดพลังที่เหนือจินตนาการออกมาได้

ชนสรณ์ในฐานะยอดฝีมือมวยไทย หลังจากที่เรียนรู้ท่วงท่าที่รพีพงษ์สอนให้ ถึงได้ตระหนักถึงความกว้างขวางลึกล้ำยิ่งใหญ่ไพศาลของศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน และภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษทิ้งไว้นั้น ไม่สามารถเทียบได้อย่างง่ายๆ

ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ประหลาดใจคือ ในบรรดาทหารมังกรมีคนอาศัยวิชาหายใจออกฉบับย่อของเขา มีแนวโน้มว่าจะฝึกฝนเน่ยจิ้งออกมาได้อย่างคลุมเครือ

แม้ว่าแนวโน้มจะมีเพียงไม่กี่คนที่มีแบบนี้ แต่ก็น่าแปลกใจมากอยู่แล้ว

เนื่องจากอยากจะก้าวเข้าสู่เน่ยจิ้งพื้นฐาน ก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นทหารที่แข็งแกร่ง ตอนนี้มีคนไม่กี่คนที่มีแนวโน้มที่จะฝึกฝนเน่ยจิ้งออกมาได้อย่างคลุมเครือ

ถือได้ว่าเป็นข่าวดีอยู่แล้ว

การฝึกฝนดำเนินเป็นไปอย่างคึกคักเต็มที่ รพีพงษ์ก็ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ทำให้จิตวิญญาณเทพของตัวเองดีขึ้นหลายเท่า สำหรับพลังของตราคุมจิต ก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น

ในพริบตาหนึ่งเดือนผ่านไป แผนการฝึกของรพีพงษ์สำหรับทหารมังกรสำเร็จสมบูรณ์ กองทัพที่เกิดใหม่และประสบความสำเร็จ ปรากฏตัวบนฐานฝึกทหารมังกร

และการแข่งกันความยิ่งใหญ่ของทหารมังกรกับกลุ่มหมาป่า ก็เกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆในวันนี้