พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่966 แผนการลอบสังหาร

บทที่966 แผนการลอบสังหาร

กองบัญชาการเปร์คิง

ในห้องของจารุวิทย์

รพีพงษ์นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องของจารุวิทย์ในเวลานี้ มองดูการตกแต่งภายในห้องนี้

การตกแต่งภายในห้องเรียบง่าย นอกจากเตียงหนึ่งเตียง โต๊ะหนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว แล้วยังมีตู้กระจก ที่ด้านในมีหนังสือและแฟ้มบางส่วนอยู่ด้วย นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่มีของสิ่งอื่นอีก

หลังจากการแข่งขันความยิ่งใหญ่ระหว่างทหารมังกรและกลุ่มหมาป่าผ่านไป ทหารมังกรอยู่ในกองกำลังของเปร์คิง ก็มีชื่อเสียงอีกครั้ง สามารถรับรู้ได้จากผลการแข่งขันที่ไม่พ่ายแพ้แม้แต่รายการเดียวกับกลุ่มหมาป่า ทหารมังกรยึดตำแหน่งกองทัพเทพอันดับหนึ่งของประเทศจีนได้อย่างมั่นคง จากนี้ไปไม่มีใครสั่นคลอนตำแหน่งได้ง่ายๆ

นอกจากรพีพงษ์จะไปเป็นครูฝึกให้กลุ่มหมาป่าในช่วงเวลาหนึ่ง

ชื่อรพีพงษ์นี้ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลการสนทนาของกองทัพในเปร์คิงเนื่องจากการแข่งขันความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทุกคนนับถือรพีพงษ์เป็นแบบอย่าง โดยคิดว่าจะต้องกลายเป็นคนแบบอย่างรพีพงษ์ในอนาคต

จารุวิทย์ไม่นานหลังจากการแข่งขันความยิ่งใหญ่ระหว่างสองกองทัพ จึงได้ย้ายรพีพงษ์ไปกองบัญชาการ ตอนนี้การฝึกฝนของทหารมังกรกำลังเป็นไปอย่างถูกต้อง จากนี้ไปพวกเขาเพียงต้องฝึกฝนตามโอกาสที่รพีพงษ์กำหนดไว้ให้ แต่ละวันจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้คนในทหารมังกรต่างก็อาลัยอาวรณ์รพีพงษ์เป็นธรรมดา โดยเฉพาะทัตดา แต่รพีพงษ์ไม่สามารถที่จะเป็นหัวหน้าครูฝึกไปตลอดชีวิต ดังนั้นการแยกจากกันเป็นเรื่องที่แน่นอน

เดิมทีทัตดาจะสมัครมาเป็นผู้ชี้แนะของรพีพงษ์ต่อไป จะตามติดรพีพงษ์ตลอดเวลา

แต่รพีพงษ์เพื่อหลีกเลี่ยงเกิดปัญหาในอนาคต ขอให้จารุวิทย์ปฏิเสธใบสมัครของทัตดา

ผลการแข่งของทหารมังกร จารุวิทย์ค่อนข้างพอใจ ดังนั้นจึงจัดงานเลี้ยงพิเศษสำหรับรพีพงษ์ ตั้งใจที่จะให้คนใหญ่ทั้งหมดในเปร์คิงรู้จักกับรพีพงษ์

รพีพงษ์มาในวันนี้ ก็เพื่อมาร่วมงานเลี้ยงนี้

ในเวลานี้จารุวิทย์กำลังชงชาให้รพีพงษ์ หลังจากที่รินชาให้รพีพงษ์แล้ว ก็นั่งบนเก้าอี้อีกด้านหนึ่ง

“ครั้งนี้นายถือได้ว่าเป็นคนดังในเปร์คิงแล้ว แต่แม้ว่าทหารมังกรจะก้าวหน้าไปมาก แต่ยังคงมีคนไม่น้อยรู้สึกว่านายอายุยังน้อยเกินไป ยากที่จะรับตำแหน่งสำคัญได้ และยังมีความสงสัยในความแข็งแกร่งของตัวนายเองด้วย บอกว่านายอาศัยเอาใจฉันถึงได้มีตำแหน่งในตอนนี้ เดี๋ยวตอนที่ไปร่วมงานเลี้ยง นายน่าจะได้เจอคนเหล่านี้ คนในกองทัพค่อนข้างจะเอาแต่ใจ พูดจากไม่เกรงกลัว ถึงเวลานานก็ให้อภัยด้วย อย่าได้ทำให้เกิดปัญหามากเกินไป”จารุวิทย์เอ่ยปากพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากพูดว่า: “ท่านวิทย์สบายใจเถอะ ที่ผ่านมาตอนที่ผมแต่งเข้า ได้ฝึกฝนอารมณ์ออกมาแล้ว”

เมื่อจารุวิทย์ได้ยิน ก็หัวเราะขึ้นมา

“เมื่อคิดดูแล้วก็ทำให้คนทอดถอนใจจริงๆ ตอนนั้นฉันเพียงแค่เห็นว่านายมีความพิเศษอยู่บ้าง ไม่เหมือนกับคนธรรมดา คิดว่าตายไปแบบนี้ก็น่าเสียดาย ดังนั้นถึงได้ออกมือช่วยเหลือ ไม่ว่ายังไงก็คาดไม่ถึง ตอนนี้นายกลับบรรลุถึงความสำเร็จแบบนี้ ดูเหมือนว่าการตัดสินในตอนนั้นของฉัน ถูกต้องมากจริงๆ”จารุวิทย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

บนใบหน้าของรพีพงษ์ก็ปรากฏความทอดถอนใจ เอ่ยปากพูดว่า: “สิ่งนี้ต้องขอบคุณท่านวิทย์สำหรับการช่วยเหลือของท่าน ไม่อย่างนั้น ผมก็คงจะเสียชีวิตไปอยู่ในนรกแล้ว แล้วจะมีเรื่องราวหลังจากหน้านี้ได้อย่างไร”

จารุวิทย์ส่ายหัว แล้วพูดว่า: “หลักๆคือศักยภาพของตัวนายเอง ถ้าตอนนั้นฉันช่วยคนไม่เอาไหน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้นายก็ไม่มีทางนั่งอยู่ที่นี่พูดคุยกับฉันในตอนนี้”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย และไม่พูดอะไร

ทั้งสองคุยกันสักพัก หลังจากดื่มชาเสร็จแล้ว จารุวิทย์มองดูเวลาแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้แล้ว พวกเราออกไปกันเถอะ”

รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นเดิมตามจารุวิทย์ออกไปข้างนอกพร้อมกัน

ในเวลาเดียวกัน พรมแดนระหว่างประเทศจีนกับประเทศรัสเซีย ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังลาดตระเวนบนเนินเขา บนร่างกายของพวกเขาพกพาเครื่องมือที่มีความซับซ้อน เกิดคนของประเทศรัสเซียต้องการแอบเข้าไปในประเทศจีน เครื่องมือจะส่งเสียงเตือนออกมา

พวกเขาเพิ่งเดินผ่านเนินเขานี้ มีร่างก็ห้าร่างปรากฏการณ์ขึ้นบนเนินเขา ทั้งห้าคนนี้รูปร่างสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อที่โดดเด่น และมีลักษณะทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศรัสเซีย

ในเวลานี้บนร่างกายของทั้งห้าคนกำลังเปล่งแสงจางๆออกมา ถ้าหากรพีพงษ์อยู่ที่นี่ ก็จะพบว่าบนร่างกายของทั้งห้าคนนี้แผ่กระจายลมปราณยอดฝีมือแดนดั่งเทพออกมา

แสงสว่างบนร่างกายของพวกเขา เป็นพลังภายในร่างกายที่แผ่ปกคลุมก่อตัวไปทั่วร่างกาย

พวกเขากำลังอาศัยวิธีนี้หลบหนีการตรวจจับของเครื่องมือ

ถ้าหากคนประเทศรัสเซียต้องการใช้อาวุธเทคโนโลยีชั้นสูงจัดการกับประเทศจีน ประเทศจีนจะสามารถค้นพบได้ตั้งแต่แรก

แต่ถ้าประเทศรัสเซียส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพทั้งห้าคนมา ด้วยวิธีการของกองทัพประเทศจีนแล้ว อยากจะค้นพบก็ยังค่อนข้างยากลำบาก

“กลยุทธ์ที่ผู้ชำนาญลึกลับคนนั้นสอนให้พวกเรานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ คาดไม่ถึงจะหลบพ้นจากการตรวจสอบของคนประเทศจีนจริงๆ”คนคนหนึ่งของประเทศรัสเซียเอ่ยปากพูด

“กลยุทธ์ของผู้ชำนาญย่อมไม่มีปัญหาเป็นธรรมดา พวกเราพึ่งพาเขาได้มาซึ่งพลังเหล่านี้ ต้องใช้ประโยชน์จากมันให้ดี คราวนี้ภารกิจในการลอบสังหารผู้นำของประเทศ จะต้องไม่ล้มเหลว”ผู้นำในบรรดาทั้งห้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

คนนี้เป็นหัวหน้าของการลอบสังหารในครั้งนี้ ชื่อว่าแม็กซิม

“หัวหน้า แม้ว่าตอนนี้พวกเราจะมีพลังพิเศษ แต่คนที่พวกเราจะลอบสังหารเป็นถึงผู้นำของประเทศจีน การคุ้มกันรอบตัวเขาต้องเข้มงวดมาก อาศัยแค่พวกเราห้าคน สามารถที่จะลอบสังหารผู้นำของประเทศจีนได้จริงๆเหรอ?”มีคนคนหนึ่งเอ่ยปากถาม

แม็กซิมหันหน้าไปมองเขาแวบหนึ่ง และเอ่ยปากพูดว่า: “ความแข็งแกร่งของทหารประเทศจีนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ถ้าหากเริ่มทำสงครามจริงๆ พวกเราอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา”

“ที่สำคัญที่ผ่านมา พวกเขามีการอารักขาที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โอกาสในการลอบสังหารอย่างพวกเรา ก็คือไปหาที่ตายอย่างชัดเจน”

“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน พวกเราได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญลึกลับคนนั้น เขาทำให้พวกเราได้รับพลังอันทรงพลัง ฉันได้ยินมาว่าประเทศจีนมีคนที่แข็งแกร่งเหมือนพวกเรา แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ในประชากรพลเรือน ไม่มีทางปรากฏตัวอยู่ในกองทัพ”

“ความแข็งแกร่งของพวกเราเพียงคนเดียว ก็เพียงพอที่จะต่อกรกับกองทัพขนาดใหญ่ ตอนนี้พวกเราห้าคนร่วมมือกัน สามารถสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถจินตนาการขึ้นมาได้”

“ข้างกายของผู้นำประเทศจีนคงจะไม่มีผู้แข็งแกร่งเหมือนพวกเราอย่างแน่นอน ตราบใดที่เรามีโอกาสเข้าใกล้เขา ต้องการสังหารเขา ก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย”

สี่คนที่เหลือฟังคำพูดของหัวหน้าจบ ก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที

“ฐานะของยอดฝีมือลึกลับที่พวกนายพูดถึงคนนั้นคืออะไร ทั้งๆที่เขามีใบหน้าเป็นคนประเทศจีน ยังมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่เขากลับเลือกที่จะช่วยประเทศรัสเซียของพวกเรา พวกนายว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไรกันแน่?”มีคนคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย

“ฉันได้ยินมาว่าผู้ชำนาญลึกลับคนนั้นต้องการสิ่งของบางอย่างจากประเทศจีน แต่ฝั่งนั้นมีการอารักขาที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ เขาต้องการทำให้เกิดสงคราม ทำให้คนที่อารักขาของประเทศแยกออกจากกันไม่ได้ ดังนั้นจึงเลือกที่ช่วยพวกเรา”อีกคนหนึ่งพูด

แม็กซิมเขม็งตาใส่พวกเขา เอ่ยปากพูดว่า: “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ พวกเราจะต้องรีบไปถึงสถานที่ที่ผู้นำอยู่โดยเร็วที่สุด ภารกิจนี้ต้องสำเร็จเท่านั้น ไม่สามารถล้มเหลวได้!”

หลายคนพยักหน้า จากนั้นภายใต้การนำของแม็กซิม ทั้งห้ารีบมุงไปยังทิศทางของกองบัญชาการเปร์คิง ภายในเวลาไม่นาน ก็หายตัวไปที่พรมแดน