พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่981 คนจีนเหยียดหยามไม่ได้
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่981 คนจีนเหยียดหยามไม่ได้
บทที่981 คนจีนเหยียดหยามไม่ได้
รพีพงษ์กำลังจ้องไปที่บนเวที ขณะนี้มีมือกำลังตบไหล่เขาอยู่ เขาหันไปดู พบว่าเป็นการ์ดของจันทร์ปรีชาไม่รู้ว่ายืนอยู่หลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาที่นี่
“เด็กน้อย ไม่รู้ว่าจะบอกว่ามึงโชคดีหรือโชคร้าย คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเจอกันที่นี่” การ์ดกล่าวอย่างดูแคลนต่อรพีพงษ์
“พวกมึงคิดจะทำอะไร?” รพีพงษ์จ้องไปที่คนเหล่านั้น แล้วถาม
การ์ดที่เป็นผู้นำดูแคลนขึ้นมา ลูบหมัดตัวเอง แล้วกล่าว “ทำอะไร? เก็บมึงไง! ตอนที่อยู่บนเครื่องพวกกูทำอะไรมึงไม่ได้ แต่ที่นี่ ไม่มีใครมายุ่งพวกกูได้!”
พูดจบ การ์ดคนนั้นก็ต่อยไปที่หน้าของรพีพงษ์
รพีพงษ์หลบหมัดนั้นของเขาอย่างเร็ว เห็นหลายๆคนกำลังพุ่งเข้ามา เขาจึงไม่เกรงใจใดๆ
เขายกขาขึ้น แล้วถีบไปที่ท้องของการ์ดคนนั้น จนเขาล้มลงกับพื้น
คนด้านหลังเหล่านั้นเห็นเหตุการณ์ ก็รีบพุ่งเข้าไป
ผู้คนรอบๆเห็นทางนี้ชกต่อยกัน ก็รีบหลีกทาง จะได้ไม่โดนลูกหลง
“แม่งชิบ กดมันไว้ วันนี้ไม่หักขามัน ต่อไปกูจะไม่เป็นการ์ดอีกต่อไป!”
การ์ดที่โดนถีบจนล้มลงกับพื้น ทนกับความเจ็บปวดแล้วเข้าไปต่อสู้อีกครั้ง
รพีพงษ์เห็นดังนี้ ก็ได้ถีบไปที่ท้องของเขาอีกครั้ง
ครั้งนี้การ์ดนั้นถูกถีบลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น ความเจ็บของท้องได้ดันขึ้นมา ส่งผลให้เขาไม่มีพลังที่จะลุกขึ้นมาอีกแล้ว
การ์ดคนนี้ก็แค่คนทั่วไปที่แข็งแรงก็เท่านั้น ความสามารถของพวกเขาเก่งไม่เท่ากับสองคนที่อยู่บนเวที รพีพงษ์ไม่มีทางให้พวกเขาทำอะไรเขาได้แน่นอน
แต่ไม่นาน การ์ดพวกนั้นก็ถูกต่อยล้มลงกับพื้นทั้งหมด หยุดโอดครวญไว้ไม่อยู่
ผู้คนรอบๆล้วนปรบมืออย่างกระตือรือร้น ขณะนี้พวกเขาได้หันมามองการต่อสู้ของรพีพงษ์ ไม่มีใครสนใจการต่อสู้บนเวทีของทั้งสองคนแล้ว
ทั้งสองที่อยู่บนเวทีก็มึนงง หยุดต่อสู้ลง แล้วมองไปยังด้านล่างของเวที
จันทร์ปรียาที่หลบอยู่ในหมู่คนเห็นการ์ดที่ตัวเองหามาแล้วถูกต่อยง่ายดายขนาดนี้ ก็สีหน้าไม่ดี
“ไอพวกสวะเอ๊ย กลับไปครั้งนี้ก็เอาพวกแกออกให้หมด คนเยอะขนาดนี้ยังเอาคนเดียวไม่ได้ น่าโมโหชะมัด” จันทร์ปรียากัดฟันพึมพำ
หลังจากที่รพีพงษ์จัดการกับการ์ดพวกนั้นแล้ว ก็มองไปรอบๆ แว็บเดียวก็เห็นจันทร์ปรียาที่หลบในฝูงชนแล้ว
จันทร์ปรียารีบหลบด้านหลังของชายร่างสูงใหญ่ของตัวเองคนหนึ่ง ดูออกชัดเจนว่าไม่กล้าแม้จะสบตาของรพีพงษ์
รพีพงษ์อยากจะไปคุยกับจันทร์ปรียาให้รู้เรื่อง จึงได้เดินที่ทางเธอ
ในขณะเดียวกันนี้ การ์ดคนนั้นที่รพีพงษ์ถีบลงไปคุกเข่ากับพื้นได้กัดฟันลุกขึ้นมา ตะโกนไปที่เวที “มันบอกว่าอยากจะต่อสู้กับราชามวยอย่างพวกแก! แล้วยังบอกว่าราชามวยอย่างพวกแกในสายตามันก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น!”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ส่งเสียงเรียกร้องดังสนั่นออกมา
มีคนท้าทายราชามวย แน่นอนว่าพวกเขาต้องสนใจอยู่แล้ว
ไม่รู้จะเป็นที่ไหน ก็มีพวกที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่เสมอ
คนพวกนี้เริ่มตะโกนเรียกรพีพงษ์ให้ขึ้นไปบนเวทีต่อสู้กับราชามวย เสียงดังสนั่น กระหึ่มไปทั่ว
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าการ์ดพวกนั้นจะใช้วิธีนี้
ในขณะเดียวกันนี้ ร่างบึกบึนราวกับภูเขากระโดดขึ้นบนเวที ถีบนักมวยสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆลงไปโดยตรง
จากนั้นเขาก็มองไปที่รพีพงษ์ ยืนมือออกมาอย่างเยือกเย็น ยกนิ้วโป้งให้รพีพงษ์
“แก ขึ้นมา ต่อยกับฉัน!” คนนั้นกล่าว
ขณะนี้คนรอบๆก็เริ่มส่งเสียงดังขึ้นมา คนจำนวนไม่น้อยเริ่มผิวปากอย่างตื่นเต้น
เพราะชายที่ยืนอยู่บนเวที รูปร่างเหมือนภูเขานั้น เป็นราชามวยที่เก่งที่สุด ของผับนี้พอดี!
ทุกคนดูรพีพงษ์อย่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย หวังว่าเขาจะขึ้นเวทีไปต่อยกับราชามวยบนเวที
เพราะน้อยนักที่ราชามวยจะออกโรง พวกเขาต้องโชคดีเท่านั้นจึงจะได้เห็น
ดังนั้นตอนนี้ราชามวยมีโอกาสจะออกโรง แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากพลาดโอกาสอย่างแน่นอน แม้ว่ารพีพงษ์จะขึ้นเวทีแล้วโดนต่อย พวกเขาก็อยากที่จะดู
รพีพงษ์ไม่อยากต่อยกับราชามวยอะไรนี่ทั้งนั้น เพราะสำหรับเขาแล้ว ราชามวยคนนี้กับการ์ดที่ล้มอยู่กับพื้นทั้งหลายนั้นไม่ได้ต่างอะไรกันมาก
เขายักไหล่ให้กับราชามวย จากนั้นก็เดินไปที่จันทร์ปรียา
“ที่แท้คนจีนก็ขี้ขลาดนี่เอง!” ราชามวยคนนั้นตะโกนออกมา
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดนี้ ก็หยุดลงทันใด
เขาไม่สนใจคนอื่นจะมองเขายังไง แต่เขายอมไม่ได้ ที่มีคนพูดดูถูกคนจีน
เขาหันไปมองราชามวย แล้วดูแคลน “มึงกำลังรนหาที่ตาย!”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่เวลา จากนั้นก็กระโดด ขึ้นไปบนเวที
ทุกคนเห็นรพีพงษ์ขึ้นเวที ก็ตื่นเต้นขึ้นมา เพราะพวกเขามีโอกาสได้เห็นราชามวยออกโรงแล้ว
การ์ดเห็นรพีพงษ์ขึ้นไปบนเวที ก็ดูแคลน จากนั้นก็เดินไปที่จันทร์ปรียาด้วยความเจ็บปวด
จันทร์ปรียาเห็นรพีพงษ์ขึ้นเวที จะต่อสู้กับราชามวย ก็รู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่เจียมตัว
แต่ถ้ารพีพงษ์ถูกจัดการได้ เธอก็จะดีใจ
เห็นการ์ดเดินมา จันทร์ปรียากล่าวอย่างรำคาญว่า “พวกแกไม่ต้องตามฉันมา ซื้อตั๋วแล้วกลับไปเองก็แล้วกัน”
ได้ยินคำพูดของจันทร์ปรียา การ์ดก็รู้สึกอับอายขึ้นมา รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองขายขี้หน้าเกินไป จันทร์ปรียาถึงได้โกรธมากขนาดนี้
จันทร์ปรียาไม่อยู่ดูการต่อสู้แต่อย่างไร งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้น เธอต้องรีบไปให้ทัน ดังนั้นหลังจากที่เหลือบมองรพีพงษ์แล้ว ก็เดินเข้าไปในผับ
การ์ดหันหลังอย่างทำอะไรไม่ถูก มองไปบนเวที แล้วกล่าวต่อรพีพงษ์อย่างรุนแรงว่า “แม่ง เพราะมึงไอ้เชี้ย ทำให้กูขายขี้หน้าต่อหน้าประชาชี ถ้าวันนี้มึงตายแล้วกูจะดีใจ!”
บนเวที รพีพงษ์มองไปที่ราชามวย กล่าวอย่างดูแคลน “ท่าเดียว ให้มันรู้ถึงความแข็งแกร่งของคนจีนอย่างกู”
ราชามวยเยาะเย้ยออกมา แล้วกล่าว “คนจีนอย่างพวกมึงก็เป็นแค่ไอ้พวกขี้ขลาด ตัวเล็กอย่างมึง ตบทีเดียวก็ตาย ไปพบเทวดาแล้วล่ะ”
รพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้ท่าไปที่ราชามวย แล้วกล่าว “คนจีน เหยียดหยามไม่ได้!”
“วันนี้จะให้มึงรู้ถึงความเก่งกาจของคนจีนอย่างกู!”
ราชามวยบึนปาก จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหารพีพงษ์อย่างเร็ว คิดจะจัดการรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว ให้ทุกคนเห็นถึงความอ่อนแอของคนจีน
ในขณะที่ราชามวยพุ่งไปหารพีพงษ์นั้น รพีพงษ์ปล่อยหมัดออกไป ชกเข้ากับหน้าอกที่ราชามวย
ราชามวยยังไม่ได้ทันเตรียมตัว ก็ลอยออกนอกเวทีไปแล้ว