พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่985 พรหมลิขิต
บทที่985 พรหมลิขิต
บรรยากาศงานเลี้ยง เพราะฟีน่ามา ก็แปลกไปอย่างมาก ผู้คนไม่ดื่มอย่างเต็มที่แบบก่อนหน้านี้ แล้วเพ่งเล็งไปที่รพีพงษ์กับฟีน่าทั้งสอง
รพีพงษ์เบื่อหน่าย เค้าจะอยู่นี่ไม่ยอมไป รพีพงษ์ก็ไล่ไม่สามารถเธอไปได้
ฟีน่าก็เหมือนปีศาจ สายตาทั้งสองคู่มีเพียงรพีพงษ์ ไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธออย่างไร
ในฐานะที่เป็นคุณหนูของตระกูลอังเดร ความคิดความอ่านของเธอต่างจากคนทั่วไปอย่างมาก
ฟีน่าถามคำถามเกี่ยวกับวงการบู๊แห่งหัวเซี่ยจำนวนมาก รพีพงษ์ตอบอย่างง่ายๆ พูดเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปของวงการบู๊แห่งหัวเซี่ย
ฟีน่าตกใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าสิ่งที่รพีพงษ์พูดเป็นสัจธรรมอย่างมาก ทำเอารพีพงษ์ถึงกับหมดคำพูด
รพีพงษ์ฉวยโอกาสนี้ถามฟีน่าว่าทำไมถึงได้สนใจในคนที่แข็งแกร่ง
ฟีน่าอธิบายว่าตั้งแต่เล็กเธอร่างกายอ่อนแอ รู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงอยากหาผู้ที่มีความสามารถ ให้เขาส่งต่อความชำนาญนั้น เพื่อใ้หร่างกายของเธอแข็งแรงขึ้น
แน่นอน เธอยังพูดถึงอีกวิธีที่จะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย นั่นก็คือแต่งงานกับชายที่แข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะดูยังไง รพีพงษ์ก็เหมาะสมกับมาตรฐานที่เธอตั้งไว้ทั้งหมด
รพีพงษ์ฟังการอธิบายของฟีน่า ไม่เพียงไม่รู้สึกสงสารเธอ แต่กลับอยากอยู่ห่างออกไปอีกด้วย
พวกเขายังไม่กันไม่กี่ประโยค ฟีน่าก็ได้พูดถึงเรื่องที่จะหาคนให้ความรู้สึกปลอดภัยแต่งงานด้วยแล้ว ทำให้รพีพงษ์ปวดหัวอย่างมาก
เขาไม่อยากมีปัญหา ดังนั้นในใจจึงหวังว่าฟีน่ารีบไปให้เร็วที่สุด
แต่ฟีน่าเหมือนกับจะหลงใหลรพีพงษ์ แม้แต่รพีพงษ์หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มก็ยังชม
ถ้าไม่ใช่เพราะปิยวัฒน์อธิบายว่าเธอคือคุณหนูของตระกูลอังเดร รพีพงษ์ก็ไม่มีทางปฏิบัติต่อเธออย่างคนบ้าหรอก
สุดท้าย งานเลี้ยงก็มาถึงโค้งสุดท้าย ปิยวัฒน์และเพื่อนของเขาเหล่านั้นเริ่มยืนขึ้นกล่าวลากัน รพีพงษ์ก็ฉวยโอกาสนี้ รีบออกจากห้องรับรองไป
“นายน้อย ให้ผมไปส่งนะ” ปิยวัฒน์ตะโกนไปหารพีพงษ์
“ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้” รพีพงษ์ไม่มองกลับมา ออกจากห้องไปโดยตรง
ฟีน่าเห็นรพีพงษ์จากไปอย่างเร่งรีบ สักพัก จึงพึมพำขึ้นมา “ชายคนนี้ แม้แต่แผ่นหลังยังน่าหลงใหลขนาดนี้”
ผู้ดูแลเดินมาด้านหน้าของฟีน่า แล้วถาม “คุณหนู มิทราบว่าคุณชอบเขามั้ย?”
“ชอบมาก” ฟีน่าตอบ
“งั้นเราจะตามเขาไปมั้ย?” ผู้ดูแลถาม
“ไม่ต้อง คู่แล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน” ฟีน่าไม่คิดจะตามรพีพงษ์ไป
เรื่องแบบนี้ ฟีน่าค่อนข้างจะเชื่อในพรหมลิขิต เธอเชื่อว่าระหว่างรพีพงษ์กับตัวเอง จะต้องมีพรหมลิขิตต่อกันอย่างแน่นอน
รพีพงษ์เพิ่งเดินถึงด้านนอกของห้องรับรอง ก็เห็นจันทร์ปรียาที่ยืนรออยู่ข้างนอกตลอด
จันทร์ปรียาเห็นรพีพงษ์ออกมา จึงรีบเดินไปดักข้างหน้า แล้วกล่าว “คุณผู้ชาย ฉันรู้สึกผิดมาจากเบื้องลึกแล้วจริงๆ ขอคุณกรุณาเมตตา ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะ”
รพีพงษ์ไม่มีอารมณ์จะสนใจเธอ กล่าวไปตรงๆว่า “ผมจะกลับแล้ว อย่าขวางทาง”
พูดจบ เขาก็รีบเดินไปอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ฟีน่าผู้ดูแลและการ์ดทั้งสามเดินออกมาจากด้านใน เห็นฉากที่จันทร์ปรียาขวางรพีพงษ์ไว้พอดี
ฟีน่ารีบเดินไปที่จันทร์ปรียา จ้องไปที่เธอพลางกล่าว “รพีพงษ์ เป็นคนของฟีน่าตระกูลอังเดร ต่อไปหวังว่าคุณจะอยู่ห่างเขาไว้”
จันทร์ปรียามองฟีน่าอย่างประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมมาถึงก็พูดแบบนี้กับเธอ
“ปัญญาอ่อนป้ะ? ทำไมต้องให้ฉันออกห่างจากเขา?” จันทร์ปรียากล่าวอย่างไม่เกรงใจ
ถ้าจำเป็นจริงๆ เธอได้คิดหาวิธีเพื่อที่จะให้รพีพงษ์ชอบแล้ว
ดังนั้นตอนนี้รพีพงษ์ก็ถือได้ว่าเป็นเหยื่อของเธอแล้ว เธอไม่มีทางที่จะแพ้ให้กับผู้หญิงคนอื่นได้
ขณะนี้ปิยวัฒน์เดินออกมาจากห้องรับรอง ได้ยินจันทร์ปรียาว่าฟีน่าว่าปัญญาอ่อนพอดี
เขาหน้าบึ้งขึ้นมาอีกครั้ง รีบเดินไปหาจันทร์ปรียา แล้วกล่าว “วันนี้คุณบ้าไปแล้วหรือไง! คุณเพิ่งจะทำผิดต่อนายน้อยของเรา ตอนนี้ยังมาหาเรื่องคุณหนูของตระกูลอังเดรอีก? ไม่กลัวตายหรือไง?”
จันทร์ปรียาได้ยินคำพูดของปิยวัฒน์ ก็หน้าซีดลงทันใด มองไปที่ฟีน่าอย่างไม่เชื่อ ยังไงก็คิดไม่ถึง ว่าหญิงสาวคนนี้จะเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอังเดรที่มีชื่อเสียงของประเทศรัสเซีย
เธอรู้สึกว่าวันนี้ดวงซวยจริงๆ ตอนแรกก็ทำผิดต่อคนใหญ่คนโตที่ปิยวัฒน์เชิญมา ตอนนี้ยังว่าคุณหนูของตระกูลอังเดรว่าปัญญาอ่อนอีก
ต่อให้เธอเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ก็ต้านทานความเกรี้ยวกราดของคนพวกนี้ไม่ได้หรอก
เธอรีบมองฟีน่า แล้วกล่าว “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ฟีน่ากำลังมองไปที่เธออย่างแน่นิ่ง แล้วกล่าว “ช่างมัน เพียงแค่คุณไม่แย่งรพีพงษ์กับฉันก็พอ”
“คุณวางใจได้ ฉันไม่มีทางแย่งเขากับคุณแน่นอน เดี๋ยวฉันจะซื้อตั๋วกลับประเทศจีนเดี๋ยวนี้” จันทร์ปรียารีบกล่าว
ฟีน่าพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก
จันทร์ปรียาโล่งอก บนหน้าผาก เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ต้องรีบไปล่ะ ถ้ายังอยู่ที่นี่อีก ไม่แน่อาจจะทำผิดกับใครเค้าอีก” จันทร์ปรียาตัดสินใจ รีบไปสนามบิน
ขณะเดียวกันเธอก็ตัดสินใจ ว่าต่อไปก่อนออกจากบ้านต้องดูปฏิทินหวงลี่ก่อน และถ้าเห็นคนที่ธรรมดาๆ ก็จะทำผิดต่อเขาไม่ได้
รพีพงษ์นั่งรถไปหมู่บ้านคฤหาสน์ที่ปิยวัฒน์จัดไว้ให้ เดินเข้าไปยังคฤหาสน์นั้น
ในขณะ รถปอร์เชสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตูของคฤหาสน์ ผู้ที่ขับรถ คือการ์ดของฟีน่าคนนั้น
และคนที่นั่งอยู่ด้านใน คือฟีน่าและผู้ดูแลคนนั้น
“คุณหนู ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคนที่เดินมาเมื่อกี้นั้น เหมือนกับผู้แข็งแกร่งคนนั้นที่ชื่อรพีพงษ์?” ผู้ดูแลจ้องไปข้างหน้า แล้วถามอย่างสงสัย
ฟีน่ากำลังมองไปด้านหลังของรพีพงษ์ที่เลือนราง แล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
“ไม่ใช่เหมือน แต่เป็นเขาจริงๆ” ฟีน่ากล่าวอย่างมั่นใจ
“คุณหนูดูเร็ว เหมือนว่าเขาจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังนั้นข้างๆของเรา” ผู้ดูแลตาโต ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะอยู่หลังข้างๆ
ฟีน่ายิ้มมากขึ้นไปอีก ดูออก ว่าตอนนี้เธอค่อนข้างมีความสุข
“ฉันบอกแล้ว คู่แล้ว ย่อมไม่แคล้วกัน”
“ความจริงปรากฏ ฉันกับรพีพงษ์ มีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ”