พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่989 เชือกหลุดแล้ว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่989 เชือกหลุดแล้ว
บทที่989 เชือกหลุดแล้ว
ถึงแม้คนที่ลองบังจี้จั๊มพ์ไม่มาก แต่ก็ยังคงมีคนจำนวนไม่น้อยรอคิว
รพีพงษ์และฟีน่าทั้งสองกำลังยืนต่อถอยอยู่ด้านหลัง รอคนข้างหน้าขึ้นไป
ยาคอฟจ้องไปที่พวกเขาทั้งสอง ยิ้มพลางกล่าว “พวกคุณรอที่นี่กันก่อนนะ ผมขึ้นไปจัดการให้พวกคุณก่อน”
พูดจบ เขาก็เดินขึ้นไปที่แท่นบังจี้จั๊มพ์
ผ่านไปไม่นาน ยาคอฟได้เดินลงมาจากข้างบนอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มแห่งการรอคอย
“ด้านบนผมได้จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว เดี๋ยวพวกคุณขึ้นไปเล่นเลยก็โอเคแล้ว ผมให้พวกเขาเตรียมอุปกรณ์ที่ปลอดภัยที่สุดให้กับพวกคุณ เพราะเครื่องเล่นแบบนี้ ไม่แน่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ นั่นหมายถึงชีวิตเลยนะ” ยาคอฟยิ้มพลางกล่าว แล้วเหลือบไปมองรพีพงษ์
“เอิ่ม เตรียมแค่ของฟีน่าคนเดียวก็พอแล้ว ผมไม่เล่น” รพีพงษ์กล่าว
ได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ยาคอฟก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา แล้วรีบกล่าว “เล่นสิ ผมบอกกับเค้าไว้แล้ว ไหนๆก็มาแล้ว ไม่เล่นเสียดายแย่”
“ใช่รพีพงษ์ ความจริงฉันก็กลัวๆนะ คุณเล่นกับฉันเถอะนะ คุณกระโดดก่อน เป็นผู้นำให้ฉัน” ฟีน่ากล่าวพลางตาโต
เห็นทั้งสองพูดแบบนี้ รพีพงษ์ทำได้เพียงพยักหน้า กล่าว “‘งั้นก็ได้”
แม้ความระทึกของบังจี้จั๊มพ์ ไม่เท่ากับการที่เขากระโดดลงมาจากหน้าผาสูงร้อยเมตร แต่บังจี้จั๊มพ์มีความปลอดภัย รพีพงษ์ก็ยังไม่เคยลองความรู้สึกแบบนี้ ลองสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไร
ผ่านไปไม่นาน คนที่เข้าแถวอยู่ด้านหน้ารพีพงษ์เหล่านั้นได้เล่นบังจี้จั๊มพ์เสร็จแล้ว ถึงคิวของรพีพงษ์พวกเขาแล้ว
รพีพงษ์สามคนยืนอยู่ที่จุดเตรียมตัว ฟีน่ามองไปด้านล่างจากรั้วเหล็ก กล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “ว้าว สูงจัง ถ้ากระโดดจากที่สูงขนาดนี้ นี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ”
ยาคอฟยิ้ม กล่าว “ฟีน่า คุณกล้ามากจริงๆ ผมยังไม่กล้ากระโดดเลย”
พูดจบ เขาเหลือบมองพนักงาน แล้วส่งสายตาให้เขา
พนักงานคนนั้นรับคำสั่ง พยักหน้าให้ยาคอฟ กล่าว “พวกคุณทั้งสามใครจะมาก่อน?”
ยาคอฟรีบมองไปที่รพีพงษ์ กล่าว “ตอนนั้นฟีน่าบอกว่าให้คุณมาก่อน เป็นผู้นำเธอหน่อย งั้นแกมาก่อนมั้ย?”
รพีพงษ์ไม่สนใจ แล้วพยักหน้า กล่าว “งั้นผมก่อนแล้วกัน”
พนักงานหยิบเชือกมา เริ่มคล้องไว้กับขาของรพีพงษ์
ตอนนั้นยาคอฟมาบอกพนักงานไว้แล้ว ตอนที่ผู้เชือกให้เขาลงมือ
พนักงานคนนี้พยายามมัดเชือก แสร้งให้ดูเหมือนเชือกมีปัญหา จะได้ง่ายไม่เสียเวลา
ไม่นาน พนักงานก็มัดเชือกให้รพีพงษ์เสร็จ ให้เขายืนอยู่ที่จุดรอ
รพีพงษ์เดินมาข้างๆ ดูลงไปด้านล่าง ด้านล่างเป็นแม่น้ำ บนแม่น้ำมีเรืออยู่หลายลำ ดูจากตรงนี้ เรือพวกนั้นเหมือนมดก็มิปราณ
“รพีพงษ์ ให้ฉันพูดใ้ห้กำลังใจคุณมั้ย ตอนนี้คุณตื่นเต้นมากใช่มั้ย?” ฟีน่าจ้องรพีพงษ์แล้วกล่าว
เห็นท่าทีของเธอ เหมือนจะตื่นเต้นมากกว่ารพีพงษ์อีก
รพีพงษ์หันไปมองรพีพงษ์แล้วยิ้ม กล่าว “ไม่ต้อง ก็แค่บังจี้จั๊มพ์ ไม่มีอะไรต้องซีเรียส”
พูดจบ เขาก็กระโดด ลงไปจากตรงนั้น
ฟีน่าเห็นเขากระโดดลงไปอย่างไม่คิดอะไร ก็เลื่อมใสขึ้นมา
ยาคอฟก็ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะกล้ากระโดดลงไปง่ายขนาดนี้ รีบเดินไปที่รั้ว แล้วมองลงไป
ร่างกายของรพีพงษ์ร่วงลงไปอย่างเร็ว หลังจากที่เชือกเหยียดตรงแล้ว เดิมทีต้องเป็นเพราะน้ำหนักตัวของคนทำให้เชือกเหยียดตรง แต่ตอนนี้มันกลับหลุดออกจากขาของรพีพงษ์
รพีพงษ์แว็บแรกก็สังเกตเห็นปัญหานี้ แล้วเหลือบไปมองขาของตัวเอง พบว่าเชือดได้หลุดออกแล้วจริงๆ
เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่พลังวิเศษเสนที่มีในร่างกายไหลเวียนในทันที รอบๆกายมีพลังห้อมล้อมไว้
แม้ด้านล่างจะเป็นแม่น้ำ แต่เพราะผิวน้ำ กระโดดลงมาจากที่สูงอย่างนั้น แรงกระแทกที่ชนเข้ากับผิวน้ำ ไม่ต่างจากแรงกระแทกที่ชนเข้ากับซีเมนต์แต่อย่างใด
แต่รพีพงษ์ที่มีประสบการณ์มาก่อนไม่ผวาใดๆ เพราะสำหรับเขา มาสุดก็แค่เสื้อผ้าเปียก
ยาคอฟที่อยู่บนจุดรอกระโดดเห็นเชือกหลุดออกจากขาของรพีพงษ์แล้ว ก็ส่งเสียงตกใจทันใด “เชือกหลุด!”
ฟีน่าที่เดิมทีที่เลื่อมใสกับความเด็ดเดี่ยวของรพีพงษ์ได้ฟังคำพูดของยาคอฟแล้วนั้น ก็หน้าถอดสี จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่รั้ว มองลงไปข้างล่าง พบว่าร่างกายของรพีพงษ์ได้หลุดออกจากเชือกแล้วจริงๆ
เธอหันไปมอง พนักงานคนนั้น แล้วถาม “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!”
พนักงานคนนั้นแสร้งทำเป็นผวา แล้วกล่าว “ผม……ผมไม่รู้ ผมมัดเชือกไว้ดีแล้ว”
ฟีน่าไม่มีกะจิตกะใจถามพนักงานคนนั้น รีบวิ่งไปข้างล่างของบังจี้จั๊มพ์
ยาคอฟเห็นดังนี้ ก็รีบตามไป แล้วตะโกน “ฟีน่า ช้าหน่อย ต่อให้คุณจะลงไป ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เดี๋ยวลื่นนะ”
ฟีน่าไม่สนใจเขา รีบใช้ความเร็วทั้งหมดที่ตัวเองมีวิ่งลงไปอย่างเร็ว
ไม่นาน ฟีน่าก็ไปถึงพื้น รีบวิ่งไปที่ข้างๆแม่น้ำ เห็นในแม่น้ำเกิดเป็นระลอกคลื่น
และขณะนี้คนจำนวนไม่น้อยก็มารวมตัวกันที่นี่ จ้องไปที่ตรงกลางของแม่น้ำ
“เมื่อกี้พวกคุณเห็นมั้ย เชือกของบังจี้จั๊มพ์หลุดออก!”
“พระเจ้า เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นแบบนี้น้อยกว่าถูกล็อตเตอร์รี่อีกไม่ใช่หรอ สหายคนนั้นโชคร้ายขนาดไหนเนี่ย ที่เจอกับเรื่องแบบนี้”
“ความสูงขนาดนี้ ผิวน้ำกับซีเมนต์ก็ไม่ต่างกันมาก ฟังเสียงที่เขาหล่นลงน้ำเมื่อกี้ก็รู้แล้ว ว่าสหายคนนี้รอดกลับมาได้ยากแน่นอน”
……
ฟีน่าได้ยินคำพูดของผู้คนรอบๆ ก็ร้อนรนขึ้นมา ตะคอกไปที่ยาคอฟ “สวนสนุกนี้เป็นของครอบครัวคุณไม่ใช่หรอ คุณรีบไปช่วยรพีพงษ์สิ!”
ยาคอฟมองเธอ แล้วกล่าวอย่างเสแสร้งว่า “ฟีน่า หล่นลงมาจากความสูงระดับนั้น จะมีชีวิต ก็เทียบจะไม่มีแล้ว ใครก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ คุณไม่ต้องกังวล คนตายไม่สามารถ……”
เขายังพูดไม่ทันจบ ทุกคนก็เห็นคนหนึ่งปีนขึ้นมา ยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน นั่นก็คือรพีพงษ์
ทุกคนเห็นดังนี้ ก็ตกใจจนพูดไม่ออก
ยาคอฟก็มองรพีพงษ์อย่างตะลึง อารมณ์นั้น เหมือนกับเห็นผี พูดไม่รู้เรื่อง
“แก……แกขึ้นมาได้ไง?”