พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่997 พลังของกระบี่สยบเซียน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่997 พลังของกระบี่สยบเซียน
บทที่997 พลังของกระบี่สยบเซียน
ผู้ลี้ลับจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างถี่ถ้วน หลังจากที่มั่นใจแล้ว ก็พบว่าแดนของรพีพงษ์ได้ไปถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว!
เขาเหมือนตัวประหลาดที่มองรพีพงษ์ ตอนนั้นแดนของรพีพงษ์แม้แต่แดนดั่งเทพขั้นต้นยังไม่ถึง แค่พลังเทียบได้กับแดนดั่งเทพขั้นต้นก็เท่านั้น
แต่ตอนนี้หลังจากที่เขาเลื่อนขั้นแล้ว ระดับแดนของเขาก้าวกระโดดไปถึงขั้นแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ต่อให้เป็นในทวีปโอชวิน ก็ไม่มีปีศาจตัวไหนที่ครั้งเดียวแล้วจะเลื่อนขั้นก้าวกระโดดแบบนี้ได้!
“บนโลกนี้ไม่ใช่ว่า สิ้นสุด การเลื่อนขั้นไปนานแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขั้นอีก?” ผู้ลี้ลับพึมพำกับตัวเอง
ผ่านไปสักพัก รูม่านตาของเขาขยายขึ้น ในหัวคิดความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง
คือกังฟูเสน!
มีแค่ความเป็นไปได้นี่ ที่จะทำให้ไอ้เด็กนี่แว็บเดียวก็เลื่อนขั้นได้หลายขั้นในครั้งเดียว
ครั้งนี้ที่เขามาโลก หากังฟูเสน เป็นหนึ่งในภารกิจเช่นกัน
ผู้ลี้ลับดูไปที่นัยน์ตาของรพีพงษ์แว็บเดียวก็เปลี่ยนเป็นระอุขึ้นมา เขาไม่คิดว่าเด็กนี้ที่อยู่ด้านหน้า จะมีกังฟูเสนอยู่ในตัว
ถึงแม้หลังจากที่รพีพงษ์เลื่อนขั้นแล้ว ฝีมือถึงระดับแดนดั่งเทพชั้นยอม แต่ระหว่างแดนเทพ ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำที่เหนือกว่า
ดังนั้นถ้าหุ่นเชิดจะกำจัดรพีพงษ์ ก็ยังคงไม่เป็นปัญหาเหมือนเดิม
เพียงแค่จับรพีพงษ์ไว้ให้ได้ แต่ให้ภารกิจในการมาโลกครั้งนี้ล้มเหลว เขาก็ไม่ถือว่าเสียเวลาแล้ว
ถ้าสามารถพากังฟูเสนกลับไปทวีปโอชวินได้ เขาก็จะทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติการณ์ได้
สูดหายใจเข้าลึกๆ ผู้ลี้ลับรีบตะโกนไปที่หุ่นเชิด “แกไม่ต้องสนใจไอ้แก่นั่นแล้ว รีบจับไอ้เด็กนั่นให้ฉัน มันสำคัญกับฉันมาก เร็ว!”
หุ่นเชิดรับคำสั่ง พุ่งไปหารพีพงษ์ทันใด
ทั้งคู่เริ่มต่อสู้กัน ด้วยความเร็ว มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว
รพีพงษ์ก็ตะลึงกับการเลื่อนขั้นในครั้งนี้ของตัวเองเช่นกัน ถึงแม้เมื่อก่อนเขาได้คาดเดาไว้ ว่าถ้าตัวเองเลื่อนขั้น จะต้องไม่ได้เลื่อนไปแดนดั่งเทพขั้นต้นนั้นแน่นอน
แต่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่คาดคิด ว่าแดนของเขาจะไปแดนดั่งเทพชั้นยอดโดยตรงเลย!
เขาเพียงแค่ต้องก้าวไปข้างอีกขั้นเดียว ก็เป็นแดนเทพแล้ว
ดังนั้น รพีพงษ์ก็เข้าใจ ว่ากังฟูเสนไม่ธรรมดา เทียบกับยอดฝีมือแดนเดียวกัน รพีพงษ์มีกังฟูเสน เหมือนกับมีไม้ตายเพิ่มขึ้นอีก
แม้ตอนนี้แดนของรพีพงษ์คือแดนดั่งเทพชั้นยอด มีความแตกต่างอย่างมากกับแดนเทพ แต่กังฟูเสนให้พลังที่มากกว่าปกติกับรพีพงษ์ ทำให้เขาสามารถต่อกรกับหุ่นเชิดได้
แน่นอน หนึ่งในนั้นเป็นเพราะธัชธรรมกับค่ายกลทำงานร่วมกันต่อกรกับหุ่นเชิดจึงทำให้หุ่นเชิดเสียศูนย์อย่างมาก
ทั้งสองต่อสู้กันเป็นร้อยๆท่า กล่าวได้ว่าในลานจัตุรัสเต็มไปด้วยลมสนั่นหวั่นไหว อย่างรวดเร็ว เสียงดังกังวาน
หลังจากผ่านการจู่โจมครั้งนี้ไป รพีพงษ์ถอยหลังไปอย่างเร็ว แล้วหายใจ
ขณะนี้ในมือของเขามีพลังวิเศษเสนรวมอยู่เป็นดาบยาว ลักษณะเหมือนมุรามาสะ
หลังจากที่ฝีมือถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว รพีพงษ์ก็ไม่ต้องใช้อาวุธในการเพิ่มพลังอีกต่อไป เขาใช้พลังรวบรวมเป็นดาบยาว พลังน่ากลัวกว่ามุรามาสะมาก
แต่เพราะเพิ่งจะเลื่อนขั้น ยังไม่มั่นคง บอกกับก่อนหน้านี้ที่รพีพงษ์บาดเจ็บหนัก ผลข้างเคียงของวิธีลับก็เริ่มจะชัดเจนขึ้น หลายๆเหตุผล ทำให้รพีพงษ์อดทนต่อไปได้ไม่นานแล้ว
เขาจ้องไปที่หุ่นเชิด หลับตาลง เขาจะต้องใช้เวลาไม่กี่นาทีต่อจากนี้ไป กำจัดมันให้ได้ มิเช่นนั้นเขาก็จะแพ้ด้วยน้ำมือของหุ่นเชิดอย่างแน่นอน
ผู้ลี้ลับจ้องรพีพงษ์ดูแคลน แล้วกล่าว “เด็กน้อย แม้ในตัวแกจะมีกังฟูเสน แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน แกให้จับโดยละม่อม ฉันจะไว้ชีวิตแก แกละอ่อนขนาดนี้ ไม่อยากตายที่นี่หรอกใช่มั้ย? ”
รพีพงษ์ฟังคำพูดของผู้ลี้ลับ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แล้วถาม “แกรู้จักกังฟูเสน?”
ผู้ลี้ลับหัวเราะ แล้วกล่าว “แสดงว่าที่ฉันเดานะถูก เด็กน้อย กังฟูเสนของแกมีผลมาก เพียงแค่แกยอมมา ฉันรับประกันว่าแกจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และแกจะได้รับการฝึกฝนอย่างไร้ขีดจำกัดที่ทวีปโอชวิน!”
รพีพงษ์ไตร่ตรองในใจ แสดงว่าตอนแรกที่เขาคาดเดาไว้นั้นเป็นความจริง ว่ากังฟูเสนไม่ธรรมดา คนนี้ที่บอกว่าตัวเองมาจากทวีปโอชวินรู้จักกังฟูเสน และเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับมันอีกด้วย
แต่เขาไม่มีทางจะถูกสิ่งที่เขาพูดมาดึงดูดแน่นอน ต่อให้แดนของเขาเทียบไม่ได้กับหุ่นเชิด แต่จะจัดการหุ่นเชิดนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“แกคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง? วันนี้ฉันไม่มีทางตาย หุ่นเชิดนี้ของแก ทำอะไรฉันไม่ได้!”
พูดจบ ดาบยาวในมือของรพีพงษ์สลายไป แต่เปลี่ยนเป็นกระบี่ยาวสีทอง นั่นคือกระบี่สยบเซียน!
หลังจากที่ถึงแดนดั่งเทพชั้นยอด จิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ก็เพิ่มขึ้นถึงขั้นสูงสุดแล้ว เพิ่งเลื่อนขั้นไม่นาน รพีพงษ์พบว่า กระบี่สยบเซียน มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน ในหัวของเขา ก็มีความทรงจำเกี่ยวกับกระบี่สยบเซียนอยู่บ้าง
จากความทรงจำเหล่านั้น รพีพงษ์เชื่อมัน จะใช้กระบี่สยบเซียน กำจัดหุ่นเชิดนั่นเสีย
ผู้ลี้ลับสังเกตเห็นในมือของรพีพงษ์จากดาบเปลี่ยนเป็นกระบี่ แต่เขาไม่สนใจ คิดว่ารพีพงษ์ก็แค่เปลี่ยนอาวุธเท่านั้น
“เด็กน้อย แกมีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แกอย่าคิดว่าฉันล้อเล่นนะ เมื่อกี้ที่ฉันพูดไปทั้งหมด จริงทุกอย่าง แกต้องอยู่ให้เป็น!” ผู้ลี้ลับตะโกนใส่รพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่สนคำพูดของเขา แต่กลับพุ่งไปที่หุ่นเชิดอย่างเร็ว
เขากำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นจะช้าไม่ได้อีกต่อไป
ผู้ลี้ลับเห็นรพีพงษ์ไม่ฟังเขา ก็หน้าโมโหอย่างมาก แล้วสั่งหุ่นเชิดว่า “ทำลายแขนขาของมัน ไม่ต้องทำลายถึงชีวิต!”
หุ่นเชิดไม่ลังเลใดๆ พลังในร่างกายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จนกดพลังในตัวของรพีพงษ์ลงไป
ผู้ลี้ลับเห็นรพีพงษ์ยังคงสู้ต่อไปอย่างห้าวหาญไม่หวั่นใดๆ ก็ดูแคลน แล้วกล่าว “เด็กน้อย แล้วแกจะเสียใจกับการเลือกของแก!”
รพีพงษ์พุ่งไปด้านหน้าของหุ่นเชิด พลังในมือของหุ่นเชิดระเบิดออก ตบไปที่อกของรพีพงษ์
รพีพงษ์หลบอย่างเร็ว หยิบกระบี่สยบเซียนฟันไปที่หุ่นเชิด
หุ่นเชิดเห็นเหตุการณ์ ก็รีบถอยหลัง หลบไป
ขณะนี้ใบหน้ารพีพงษ์ดูมีเล่ห์เหลี่ยมขึ้นมา จากนั้นมือที่จับกระบี่สยบเซียนก็คลายลง
“เชด!”
กระบี่สยบเซียนหลุดออกจากมือของรพีพงษ์ แล้วลอยไปที่หุ่นเชิดนั้น
ผู้ลี้ลับเห็นดังนี้ ก็เยาะเย้ยออกมา “คิดว่าพลังเล็กน้อยแค่นี้จะทำอะไรผู้แข็งแกร่งแดนเทพได้หรือไง? ตลกชะมัด!”
เขาเพิ่งพูดจบ บนกระบี่สยบเซียนเปล่งละแสงออกมา กลิ่นอายของการจู่โจมแดนเทพออกมา จากนั้นกระบี่ ก็แทงเข้าไปที่ร่างของหุ่นเชิดอย่างรุนแรง
แสงนั้นหายไป แว็บเดียวกระบี่สยบเซียนก็ได้กลับมาที่มือของรพีพงษ์
หุ่นเชิดนั้น ถูกกระบี่สยบเซียนผ่าออกไปสองส่วน!