พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 114
ตอน114เธอเป็นผู้หญิงที่นายกำลังมอง
หา
ตอนที่ 114 เธอเป็นผู้หญิงที่นายกำลังมองหา
จันวิภาเคลียร์ลำคอให้ชัดเจน ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มองสุ มิตรแล้วพูดอย่างจริงจัง “จริงๆ แล้วทำไมนายถึงแคร์นวาระ ขนาดนั้น นายเคยคิดบ้างมั้ย ว่าเธอไม่ใช่คนๆนั้นที่นายตาม หา”
ได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงหันตัวกลับมาจ้องมองจันวิภา ใบหน้าของเขาเยือกเย็น ริมฝีปากยิ้มขึ้นมาอย่างแปลก ประหลาดแล้วพูดขึ้น “ทำไม ที่แท้เธอจะพูดว่า เธอคือคนๆนั้นที่ ฉันตามหางั้นหรอ?”
สุมิตรในตอนนี้คิดว่าจันวิภาแค่ต้องการให้เขาปล่อยนรา วิชญ์ไป ดังนั้นจึงพูดเรื่องไร้สาระออกมาให้เขาฟัง
“ฉัน..” จันวิภาอ้าปากจะพูด แต่จู่ๆเธอก็คิดถึงการ วางตัวของสุมิตร หากตอนนี้เธอพูด คงจะถูกสุมิตรกล่าวหาว่า พูดโกหกเขาเป็นแน่ เกรงกลัวว่ามันจะเป็นความอัปยศในท้าย ที่สุด
เพราะสุมิตรไม่เชื่อเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว!
จันวิภาไม่หันหน้าไปมอง สายตามองไปที่อื่น แล้วพูดออก ไปอย่างลวกๆ “ฉันเปล่า ฉันแค่อยากบอกนาย ว่าอย่าสับสน กับเรื่องที่เป็นแค่ฉากหน้า สิ่งที่นายเชื่อ บางทีอาจจะหลอกนาย ก็ได้”
น้ำเสียงสิ้นสุดลง ทันใดนั้นสุมิตรก็หัวเราะออกมาเบาๆ เขาเดินไปที่เตียง ยื่นมือออกมาบีบคางของจันวิภา บังคับให้ เธอมองตนเอง “ฉันมีวิจารณญาณของตัวเอง ฉันรู้ ฉันจะเชื่อ ใครก็ได้ แต่จะไม่เชื่อนางร่านที่เกี่ยวผู้ชายไปทั่วอย่างเธอ ui! ”
กล่าวไป พร้อมกับสะบัดคางของจันวิภาออกไปอย่างแรง จากนั้นสุมิตรก็เดินออกจากห้องไป
จันวิภาถูกสุมิตรสะบัดจนล้มลงบนเตียง เธอยื่นมือออกมา ประคองตัวให้ลุกขึ้น ตาทั้งสองข้างจ้องมองสุมิตรที่เดินจากไป อย่างเย็นชา ในปากพูดออกมาเบาๆ “สุมิตร มันต้องมีสักวันที่ นายจะรู้ความจริง เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะทำให้นายเสียใจกับคำ พูดของนายในวันนี้!
หลังจากสุมิตรเดินจากไป จันวิภาก็นอนไม่หลับอยู่ตลอด ประจวบเหมาะกับฟ้าที่กำลังจะสว่างพอดี เธอจึงลืมตาขึ้นมา จนถึงรุ่งสาง
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว จันวิภาก็ลงไปกินข้าวชั้น หนึ่ง เมื่อมาถึงห้องโถงก็ได้พบว่าอาหารถูกวางไว้เรียบร้อย แล้ว แต่กลับไม่เห็นเงาของสุมิตร
หลังจากที่จันวิภานั่งลง สอบถามสาวใช้ที่เช็ตแจกันอยู่ แม้แต่น้อยว่าเธอถูกคนสะกดรอยตามมาข้างหลัง
เมื่อมาถึงบริษัทของนราวิชญ์ พบว่าเขายังมาทำงานตาม ปกติ เหมือนกับเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จันวิภาแอบย่องเข้าไป แล้วลากเขาเข้ามาในสำนักงานอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงพูดเรื่อง นี้ขึ้น
หลังจากที่จันวิภาและนราวิชญ์เข้ามาในสำนักงาน คนที่ ติดตามเธออยู่นั้นก็ค่อยๆออกไปอย่างช้าๆ
เคืออย่างนี้ ตอนนี้สุมิตรเข้าใจผิดว่าพี่ฆ่านวาระ ตอน นี้ถ้าออกไปไหนต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ถูกเขาจับได้!
ในสำนักงานของนราวิชญ์ จันวิภาพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ นราวิชญ์ฟัง ไม่สนใจเรื่องที่นวาระคิดจะฆ่าเธอ ในสายตา เร่าร้อน เธอไม่อยากให้นราวิชญ์ได้รับผลกระทบจากเรื่องของ เธออีก หากเขาฮึกเหิมที่จะออกไปต่อสู้กับสุมิตรอีกล่ะก็ คนที่ ขาดทุนก็คือเขา
ความแข็งแกร่งของสุมิตรนั้นจันวิภารู้ดี
“น่ารังเกียจ! ” หลังจากฟังจบ นราวิชญ์ก็ได้ทุบโต๊ะลงไป
อย่างแรง แล้วพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ที่แท้ก็ต้องการให้ เขาเข้าใจผิด! ครั้งที่แล้วที่กล่าวหาว่าฉันส่งมือสังหารไปฆ่า เขาฉันยังไม่ทันได้คิดบัญชีเลย! ครั้งนี้มาอีกแล้ว! ที่แท้ เป็นใครกัน ที่เกลียดชังฉันถึงขนาดนี้! ฉันคิดว่าเรื่องทั้งหมด
นี้เป็นตัวเขาเองที่สร้างมันขึ้นมา!
ท่าทางของนราวิชญ์นั้นดูโกรธ สายตาเขาจ้องเขม็งมอง ไปที่โต๊ะ ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่สุมิตรจะสร้างเรื่องขึ้นมาเอง! ” จัน วิภาเดินไปข้างๆเขา พยายามที่จะให้เขาใจเย็นลง “เธอคิดดู นวาระสำคัญขนาดนั้น เขาจะใช้ประโยชน์จากการตายของ นวาระมาสร้างปัญหาให้เธอทำไม เรื่องนี้มันต้องมีคนอยู่เบื้อง หลังแน่! ”
จันวิภาคิดถึงชายหน้ากากเงินคนนั้น แต่รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่ เวลาที่จะสงสัยเขา ทุกอย่างมันต้องการหลักฐาน ยิ่งไม่ต้องพูด ถึงว่าชายคนนั้นช่วยชีวิตเธอเอาไว้
“ใช่แล้ว ฉันก็กำลังคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ ไม่กี่วันมา นี้ฉันก็มองหาเงื่อนงำของเหตุการณ์นั้นอยู่ตลอด แต่คนพวกนั้น ก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว และไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่ น้อย มันหายไปอย่างกับระเหย! แปลก ทั้งหมดนี่มันแปลก จริงๆ! มือทั้งสองของนราวิชญ์จับโต๊ะจนแน่น ราวกับกำลัง อดกลั้นอะไรเอาไว้อยู่
จันวิภาไม่เคยคิดเกี่ยวกับมันอย่างลึกซึ้งมาก่อน เมื่อเห็น ใบหน้าที่สงสัยของนราวิชญ์ ก็รู้ได้ทันทีว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ ต้องซับซ้อนแน่ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดโน้มน้าวออกไป “ไม่ว่าจะ เป็นอย่างไง ช่วงนี้พี่ก็ควรจะหลบซ่อนตัวก่อน อย่าให้สุมิตรจับ ได้เป็นอันขาด! รอจนหัวของเรื่องนี้มันโผล่ออกมาแล้ว พี่ค่อย กลับมาก็ยังไม่สาย! ”
“ที่แท้ก็จะให้ฉันซ่อนตัวเหมือนหนูข้างถนนงั้นหรอ? นี่มัน ไม่ได้เด็ดขาด ฉันนราวิชญ์คนนี้ไม่ใช่คนที่กลัวตาย! ” นรา วิชญ์รีบลุกขึ้นยืน เขาเดินไปๆมาๆอยู่หลายก้าว ทันใดนั้นก็ หยุดแล้วพูดกับจันวิภาอย่างจริงจัง “ไม่เป็นไร เธอเชื่อฉันนะ ฉันจะหาหลักฐานมาให้ไว หลักฐานว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องนี้”
“ฉันเชื่อพี่ แต่..” มองนราวิชญ์ จันวิภามีลางสังหรณ์ บางอย่างในใจ จากความเข้าใจของเธอที่มีต่อสุมิตร เรื่องนี้มัน ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
แต่เมื่อมองดูความเชื่อมั่นอันเต็มเปี่ยมของนราวิชญ์ จัน วิภาก็ไม่อาจพูดความกังวลที่อยู่ในใจของเธอออกมาได้
กว่าสุมิตรจะกลับมาบ้านมันก็ตอนบ่ายแล้ว เขาพึ่งจะเดิน เข้าประตูมา ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา
เพราะสงสัยว่าจันวิภากับนราวิชญ์สมคบคิดกัน บวกกับ ความพิเศษของเรื่องนี้ ก่อนที่สุมิตรจะออกไปข้างนอกก็ได้ ติดต่อให้คนติดตามจันวิภาเป็นพิเศษ เพราะเขาคิดว่าเมื่อเกิด เรื่องนี้ขึ้น จันวิภาจะต้องรีบไปพึ่งพานราวิชญ์ด้วยความรู้สึก หวาดผวา
แม้จะไม่ไปหาที่พึ่ง ก็คงจะไปปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไร
ต่อไป
ตอนนี้สุมิตรเห็นชายคนนี้อยู่ในบ้าน ก็ชัดเจนแล้ว จันวิภา ออกไปพบกับนราวิชญ์จริงๆ
ทันใดนั้นใบหน้าของสุมิจรก็เย็นลง เขากวาดสายตามอง ชายคนนั้นอย่างเยือกเย็น หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นเขาจึงลุก ขึ้นยืน เดินมาทำความเคารพต่อหน้าเขา แล้วเอารูปภาพที่อยู่
ในมือส่งให้เขาดู
สุมิตรรับรูปที่อยู่ในมือของเขา เหลือบมองดู วินาทีต่อมา เขาก็ได้สะบัดรูปภาพทิ้งลงพื้นอย่างรุนแรง สีหน้าเปลี่ยนเป็นสี เขียว เห็นได้ชัดเลยว่าเขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว
“ชายโฉดหญิงชั่วสมควรตายจริงๆ ! ฆ่านวาระ และยังไป พูดคุยกันหนุงหนิงที่สำนักงานอีก! จันวิภา แกมันอีตัวที่น่า รังเกียจ! แกนี่มันจริงๆเลย!
ภายถ่ายที่ล่วงหล่นลงมาบนพื้น มันเป็นฉากที่จันวิภาจับ มือลากนราวิชญ์เข้ามาในสำนักงานจริงๆ