พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 116
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 116 ตาย!
สุพจน์มองตรงไปยังแววตาของจันวิภา ทำให้เธอเห็น ความรู้สึกลึกๆ ที่อยู่ในดวงตาของเขา มันช่างเข้มข้นและลึกซึ้ง
จันวิภามีนงง เธอคิดว่าสุพจน์พูดชอบเธอ แต่ว่าพูดเล่น ความจริงจังเช่นนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บรรยากาศเงียบสงบ มันเป็นเวลานาน จันวิภาจึงจะพูด
พึมพำออกมาเบาๆ “แต่ แต่ว่า…”
ในระหว่างการพูด สุพจน์ถูกดึงดูดด้วยภาพจากใน คอมพิวเตอร์ เมื่อเขาเห็นเนื้อหามันอย่างชัดเจนแล้ว ที่มุมปาก จึงยิ้มขึ้นมาอย่างไตร่ตรอง แล้วพูดกับจันวิภาออกไปว่า “คุณ อย่ามาขอร้องผมเลย ตอนนี้พูดอะไรไปก็สายไปแล้ว”
ครึ่งหนึ่งของอารมณ์ถูกขัดจังหวะ จันวิภามองสุพจน์ แล้ว พูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “นายหมายความว่าไง?”
นัยน์ตาของสุพจน์จ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วก
วัดมือเรียกจันวิภาเข้ามา
จันวิภาเดินไปข้างเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้ว มองไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ตามสายตาของเขา “นี่ มัน.ทำไมถึง..” คำพูดที่ยังไม่ทันพูดจบถูกหยุดค้างไว้อยู่ในลำคอ จันวิภา จ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก
ในขณะเดียวกัน สุพจน์ก็ได้เปิดเสียงอย่าระมัดระวัง จึง ทำให้สามารถได้ยินเสียงนักข่าวรายงานได้อย่างชัดเจน “จาก ข้อมูลภายในระบุว่า คุณนราวิชญ์ประธานบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ป จำกัด ที่เพิ่งก่อตั้งและมีชื่อเสียงมากในเมือง เพิ่งเสียชีวิตจาก อุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อไม่นานมานี้….เป็นที่เข้าใจกันว่า ประธานหนุ่มคนนี้เป็นหนุ่มโสกที่มีหญิงสาวหลายคนในเมือง ต่างหมายปอง เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาจากโลกนี้ไปตลอด กาลเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ด้วยวัยเพียงยี่สิบห้าปี และ เราก็ได้พบในที่เกิดเหตุ….
“ตึ่ง….”
หยดน้ำตาล่วงหล่นลงมาเล็กน้อย มันหยดลงมาลงบน หลังฝ่ามือของสุพจน์ เมื่อสุพจน์เห็นเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นมองจัน วิภา จึงพบว่าเธอร้องไห้จนน้ำตาไหลเต็มใบหน้า หยาดน้ำตา ตกลงมาเป็นเส้นอย่างต่อเนื่อง
ทำไม…ทำไม…
จันวิภาปิตริมฝีปากของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ให้ ตนเองส่งเสียงร้องไห้ออกมา หยาดน้ำตาค่อยๆเลื่อนไหลหยด ลงพื้นอย่างช้าๆ เธอกลัวเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่เบี่ยงสายตา หนี
ในคอมพิวเตอร์สะท้อนให้เห็นถึงฉากที่พึ่งดูไปเมื่อสักครู่นี้ จันวิภาแทบมาอยากจะเชื่อ ว่าคนที่อยู่ในข่าวคนนั้นจะเป็นนรา
วิชญ์!
“เป็นไปไม่ได้..เป็นไปไม่ได้! พี่นราวิชญ์ไม่มีทางตาย ง่ายๆอย่างนี้แน่! เขารับปากฉันไว้แล้ว! ว่าจะอยู่แก่ด้วยกัน เป็นเพื่อนฉัน! จันวิภาส่ายศีรษะอย่างยากที่จะเชื่อ อยากจะ สลัดสิ่งที่อยู่ในสมองออกไป
เมื่อเห็นจันวิภาเป็นเช่นนี้ สุพจน์จึงทำได้เพียงถอนหายใจ ออกมา ในใจ แล้วพูดเรื่องจริงที่โหดร้ายนี้ออกมา “สุมิตรลงมือ แล้ว”
“ม่ายย! ” จันวิภาแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าแล้วกรีดร้อง เธอ ผลักสุพจน์ที่อยู่ข้างหน้าออกไปอย่างรุนแรง แล้วรีบวิ่งออกไป สุพจน์คิดจะตามก็ตามไม่ทันเสียแล้ว
เมื่อบอดี้การ์ดที่ข้างนอกประตูเห็นจันวิภาวิ่งออกไป จึงใช้ สายตาส่งสัญญาณถามว่าจะให้ตามไปหรือไม่ สุพจน์สะบัดมือ มันแสดงถึงว่าไม่ต้องตามไป
ให้เธอไปเถอะ
จ้องมองแผ่นหลังของจันวิภา สุพจน์จึงตกลงสู่ห้วงความ คิดอย่างอดไม่ได้ พูดขึ้นมาพึมพำ “ไม่คิดเลย สุมิตรจะลงมือ เร็วขนาดนี้ วิธีการก็ยังดีเยี่ยม ถึงตาย”
จันวิภาวิ่งกลับไปที่บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์อย่างทุลักทุเล ตลอดทางเธอหมกมุ่นอยู่กับการตายของนราวิชญ์ มันสะเทือน ใจเสียจนไม่อาจคลี่คลายด้วยตัวเองได้ พึ่งจะเข้าประตูมา ก็ได้ห้องโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยความตื่น เต้น แชมเปญ ไวน์แดง หญิงงาม และใบหน้าอันแสนจะ เพลิดเพลินของสุมิตร!
พอเห็นเขา ดวงตาทั้งสองข้างของจันวิภาก็แดงขึ้นมาทันที บุกเข้าไปลากสุมิตรออกมาจากกองผู้หญิงพวกนั้น แล้วตะโกน ด้วยเสียงที่ดัง “นายเป็นคนทำใช่มั้ย! ที่อยู่ในข่าวมันจริงใช่ มั้ย ! ! หรือจริงๆแล้ว ในข่าวนั้นหลอก นราวิชญ์ยังไม่ตายใช่ มั้ย? ! ”
จันวิภาได้ถูกความโกรธกัดเซาะเหตุผลเข้าเสียแล้ว ค่ำ พูดที่พูดออกมาไม่มีตรรกะเลยแม้แต่น้อย
ถูกคนดึงออกมาจากความสนุกสนาน สุมิตรไม่พอใจอยู่ เล็กน้อย เขาปักมือของจันวิภา แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “ในข่าว เธอก็เห็นแล้ว ยังจะคิดว่าปลอมอีกหรอ?”
“ที่แท้ก็เป็นแกจริงๆ ! สุมิตรแกมันเดรัจฉาน! ” จันวิภา = ตะโกนไปทางสุมิตร น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้งอย่างยาก ที่จะกลั้นเอาไว้เพราะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมต่อนราวิชญ์
เพราะอะไร เพราะอะไรคนที่ดีกับเธอถึงขนาดนี้ คนที่ บริสุทธิ์ขนาดนี้ ถึงต้องมาถูกสุมิตรแย่งชิงเอาชีวิตไปเช่นนี้!
ในทางตรงกันข้าม จันวิภากลับยิ่งเกลียดความอ่อนแอ
และไร้พลังของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก!
ราวกับว่าจะขจัดปัญหาความเกลียดชังภายในใจ ทำให้ สุมิตรมีความสุขเป็นอย่างมาก ดังนั้นที่จันวิภาตะโกนใส่หน้า เขา จึงไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เขาจัดการปกเสื้อให้เรียบร้อย หัวเราะเยาะแล้วพูดออกมา “งั้นแล้วจะทำไมล่ะ กล้าแตะต้อง คนของฉัน นราวิชญ์ก็ควรจะจ่ายมันเช่นนี้! ”
ใบหน้าที่แสดงออกอย่างมีความสุขของสุมิตรได้ไป กระตุ้นจันวิภาเขา เธอกระโดดขึ้นมาบนร่างกายของสุมิตร ดี เขาไม่หยุดหย่อนด้วยความรู้สึกที่เกลียดชัง “เขาเป็นผู้ บริสุทธิ์ ! เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ตั้งแต่ต้นจนจบ! สุมิตร! คนที่นาย เกลียดนะมันคือฉัน! ทำไมถึงได้ลากเขามาเกี่ยวข้อง ทำไม? ! ”
สุมิตรส่งเสียงที่ออกมาอย่างเยือกเย็น ใช้มือดึงสะบัดจัน วิภาออกจากร่างกายของเขา แล้วพูดขึ้นอย่างดูถูกเหยียด หยาม “นางร่าน ชู้ตายแล้ว เธอเป็นทุกข์มาก? นิสัยชอบมั่วของ เธอเนี่ย กลัวว่าจะหาชู้คนที่สองไม่ได้หรือไง?”
เมื่อได้ยินดังนั้น จันวิภาจึงรู้สึกว่าตนเองได้รับความอัปยศ อดสู เธอจึงตบหน้าสุมิตรเข้าอย่างแรง แล้วตะโกนออกมา อย่างสุดชีวิต “สุมิตร! แกมันวิปริต ! เดรัจฉาน! ฉันจะสู้กับ แก! 6
สุมิตรไม่เคยถูกตบหน้ามาก่อน ความบ้าคลั่งของจันวิภา ในตอนนี้ ทำให้ความอารมณ์ดีของเขาหมดสิ้นไป
ไม่สนว่าคนอื่นจะอยู่ด้วย สุมิตรจับจันวิภาที่ต่อยเขาอย่าง ไม่หยุดหย่อนเอาไว้ โยนเธอไปบนโซฟา แล้วกดตัวเองทบลง
ไป เพียงไม่กี่ลมหายใจ สุมิตรก็ดึงเสื้อผ้าของจันวิภาออกจน เกลี้ยง ต่อหน้าทุกคน สุมิตรต้องการย่ำยีจันวิภาอย่างรุนแรง!
หญิงสาวที่ล้อมรอบอยู่ไม่กี่คน กับสาวใช้สองสามคนต่าง อุทานออกมาอย่างตกใจ จากนั้นจึงปิดหน้าไม่กล้าที่จะมอง มี คนใจกล้าบางคน เดินไปหาที่นั่งดีๆแล้วนั่งดู
เสียงน้ำดังกึกก้องในห้องโถง จันวิภาร้องให้จนตาทั้งสอง แดง ก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดหย่อน เธอกัดริมฝีปากอย่าง เอาเป็นเอาตาย ไม่ให้ตนเองร้องออกมา
ครั้งที่สองแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สุมิตรทำให้เธอขาย
หน้าต่อหน้าผู้คน!
จันวิภาปิดตาลงจนสนิท ไม่สนใจคนที่หัวเราะเยาะรอบ ๆ เธอรู้สึกเจ็บปวด จนแทบที่จะพังทลาย!
สุมิตร ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่ ไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด! ฉัน จะต้องล้างแค้น!
เหมือนกับที่แกทำกับนราวิชญ์ ไม่ช้าก็เร็วมันต้องมีสักวัน
ที่ฉันจะได้ทำกับแกเฉกเช่นเดียวกัน !
หลังจากรอจนสุมิตรเสร็จแล้ว จึงพ่นคำที่เยือกเย็นออกไป หาจันวิภา “ไสหัวไป”
ริมฝีปากของจันวิภาเกือบจะถูกเธอกัดเสียจนเลือดไหล ออกมาแล้ว เธอก้มตัวลงหยิบเสื้อผ้าที่ขาดกระจายขึ้นมา ปิดไว้ ที่หน้าอกแล้วเปลือยกายหนีไปจากสายตาของผู้คนอื่นๆ สุมิตรแกจำเอาไว้ วันนี้ฉันอับอาย เป็นเพราะแกทำ! ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะคืนมันทั้งหมดให้กับแก! ! !
ในวันต่อมา จันวิภาขังตัวเองอยู่ในห้อง และสุมิตรก็ยุ่ง วุ่นวายอยู่กับงานศพของนวาระ จึงไม่ได้มีเวลาไปสนใจเธอ
และจันวิภาก็ได้ใจเย็นลงหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็เข้าใจมาก ขึ้น เธอต้องการออกไปจากสุมิตร เธอไม่อยากอยู่ข้างกายกับ สัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีความเป็นมนุษย์คนนี้ เพื่อให้เขาย่ำยีได้ ตามใจชอบ
ถ้าหากว่าอยู่กับสุมิตรต่อไป เธอจะต้องถูกเขาทำให้เป็น
บ้าแน่!
ส่วนเรื่องพ่อ เธอจะหาวิธีการด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้อง พึ่งพาสุมิตร เขาที่มฆ่าแม้แต่คนบริสุทธิ์! ยังจะต้องคาดหวัง
อะไรอีก!
ตอนที่จันวิภากำลังเก็บสิ่งของเพื่อเตรียมออกไปนั้น จู่ๆ ก็ได้มีสายโทรศัพท์สายหนึ่งติดต่อเข้ามา
“ฮัลโหล ว่าไงพัชรี?”