พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 120
ตอนที่ 120 กระโดดตึก
จันวิภาลืมตาอย่างรวดเร็ว มองเพดานห้องอย่างคุ้นเคย เธอจึงรู้ว่าตนเองแค่ฝันไป! ภายในห้องยังคงมีด จันวิภาลุกขึ้นมานั่งและเอื้อมมือออก
ไปเปิดไฟ ในขณะที่โคมไฟสว่างขึ้นมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือ มาขวางกั้นเอาไว้ มันช่างแสบตาดีจริงๆ..
รอจนเริ่มคุ้นชินกับความสว่างของไฟแล้ว จันวิภาจึง ค่อยๆลดมือลง มองไปยังห้องที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นจึงได้รู้สึก เศร้าโศกและสูญเสีย เธออดไม่ได้ที่จะปิดใบหน้าเอาไว้แล้ว ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง
เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่ความฝัน มันเป็นความจริง พ่อ แม่ และพี่ นราวิชญ์ของเธอต่างก็พากันเสียชีวิตไปหมดแล้ว เสียชีวิตกัน หมดแล้ว..
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสุมิตรที่ทำร้าย!
จันวิภาร้องไห้สะอึกสะอื้น นอนไม่หลับจนถึงตอนเช้า จน กระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น เธอจึงจะลุกออกจากเตียงแล้วเปิดผ้า ม่าน เปิดระเบียง แล้วออกไปชมสวนดอกไม้และท้องฟ้าที่ชั้น หนึ่ง ตอน120กระโดดตึก
ตอนที่ 120 กระโดดตึก
จันวิภาลืมตาอย่างรวดเร็ว มองเพดานห้องอย่างคุ้นเคย เธอจึงรู้ว่าตนเองแค่ฝันไป! ภายในห้องยังคงมีด จันวิภาลุกขึ้นมานั่งและเอื้อมมือออก
ไปเปิดไฟ ในขณะที่โคมไฟสว่างขึ้นมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือ มาขวางกั้นเอาไว้ มันช่างแสบตาดีจริงๆ..
รอจนเริ่มคุ้นชินกับความสว่างของไฟแล้ว จันวิภาจึง ค่อยๆลดมือลง มองไปยังห้องที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นจึงได้รู้สึก เศร้าโศกและสูญเสีย เธออดไม่ได้ที่จะปิดใบหน้าเอาไว้แล้ว ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง
เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่ความฝัน มันเป็นความจริง พ่อ แม่ และพี่ นราวิชญ์ของเธอต่างก็พากันเสียชีวิตไปหมดแล้ว เสียชีวิตกัน หมดแล้ว..
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสุมิตรที่ทำร้าย!
จันวิภาร้องไห้สะอึกสะอื้น นอนไม่หลับจนถึงตอนเช้า จน กระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น เธอจึงจะลุกออกจากเตียงแล้วเปิดผ้า ม่าน เปิดระเบียง แล้วออกไปชมสวนดอกไม้และท้องฟ้าที่ชั้น หนึ่ง มองออกไปในสวนด้านนอกมันเป็นฉากที่ช่างเงียบสงบ และสบายตา ดอกไม้ที่อยู่บนพื้นดินถูกแสงแดดที่ร้อนระอุสาด ส่องอย่างเฉื่อยชา ท่าทางมันดูซุ่มชื้นและกระฉับกระเฉงเป็น อย่างมาก
แต่ทว่าจันวิภากลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธออยู่ในนรก ทั้งหนาว และเย็นจนสั่นเทา หัวใจของ เธอเย็นชา
จันวิภาในตอนนี้รู้สึกราวกับตนเองเป็นชากศพที่เดินได้ อย่างไรอย่างนั้น มันทั้งหนาวเย็น ไม่มีอารมณ์และความรู้สึก เลยสักนิดเดียว
มีชีวิตอยู่ต่อจะมีประโยชน์อะไร..กระโดลงไปตายดี กว่ามั้ง แล้วก็ตายไปทั้งอย่างนี้.
เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย ยืนอยู่ด้าน นอกราวระเบียง มองไปยังท้องฟ้าที่สดใส เธอหลับตาลง อ้า แขน แล้วล้มตัวลงอย่างช้าๆเข้าหาดวงอาทิตย์..
“ว้ากกก! ! ! ! ! ! ” สาวใช้ที่กำลังทำความสะอาด สวนเห็นฉากนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา รีบก้าวขาทั้ง สองข้างวิ่งตรงดิ่งไปที่บ้าน “มีคนตาย! มีคนตาย! ”
เพียงครู่เดียว บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์ก็เต็มไปด้วยความ วุ่นวาย ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดต่างก็ไม่ทราบถึงสาเหตุตั้งแต่ ต้น สุดท้ายจึงรู้ว่านายหญิงกระโดดตึกฆ่าตัวตาย!
ตอนที่สุมิตรได้ข่าวเขารู้สึกแต่เพียงอกสั่นขวัญหาย ใน มองออกไปในสวนด้านนอกมันเป็นฉากที่ช่างเงียบสงบ และสบายตา ดอกไม้ที่อยู่บนพื้นดินถูกแสงแดดที่ร้อนระอุสาด ส่องอย่างเฉื่อยชา ท่าทางมันดูซุ่มชื้นและกระฉับกระเฉงเป็น อย่างมาก
แต่ทว่าจันวิภากลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธออยู่ในนรก ทั้งหนาว และเย็นจนสั่นเทา หัวใจของ เธอเย็นชา
จันวิภาในตอนนี้รู้สึกราวกับตนเองเป็นชากศพที่เดินได้ อย่างไรอย่างนั้น มันทั้งหนาวเย็น ไม่มีอารมณ์และความรู้สึก เลยสักนิดเดียว
มีชีวิตอยู่ต่อจะมีประโยชน์อะไร..กระโดลงไปตายดี กว่ามั้ง แล้วก็ตายไปทั้งอย่างนี้.
เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย ยืนอยู่ด้าน นอกราวระเบียง มองไปยังท้องฟ้าที่สดใส เธอหลับตาลง อ้า แขน แล้วล้มตัวลงอย่างช้าๆเข้าหาดวงอาทิตย์..
“ว้ากกก! ! ! ! ! ! ” สาวใช้ที่กำลังทำความสะอาด สวนเห็นฉากนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา รีบก้าวขาทั้ง สองข้างวิ่งตรงดิ่งไปที่บ้าน “มีคนตาย! มีคนตาย! ”
เพียงครู่เดียว บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์ก็เต็มไปด้วยความ วุ่นวาย ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดต่างก็ไม่ทราบถึงสาเหตุตั้งแต่ ต้น สุดท้ายจึงรู้ว่านายหญิงกระโดดตึกฆ่าตัวตาย!
ตอนที่สุมิตรได้ข่าวเขารู้สึกแต่เพียงอกสั่นขวัญหาย ใน สมองขาวโพลนไปหมด ราวกับหัวใจได้ถูกคนบีบเอาไว้อย่าง รุนแรง วินาทีต่อมา เขาถึงคนที่แจ้งข่าวร้ายมาข้างหน้า ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ตอนนี้เธอล่ะ? ! อยู่ ไหน? ! ”
คนรับใช้ก็ถูกข่าวนี้ทำให้ตกใจกลัวไม่แพ้กัน แม้แต่การ พูดก็ยังพูดไม่ราบรื่น “อยู่….อยู่ที่ในสวน…สวนดอกไม้..” เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงผลักคนรับใช้ออกไปอย่าง
รุนแรง แล้วรีบวิ่งไปทางสวนดอกไม้
สุมิตรรู้สึกแต่เพียงว่าหัวใจของเขาแทบกระโดดพุ่งขึ้นมา ที่ตา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังกังวลอะไร ในตอนนี้กลัวว่า จะสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญ ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สังเกต
ตอนที่สุมิตรวิ่งเข้าไปในสวนแล้วเห็นจันวิภานอนกองอยู่ กับพื้น จันวิภาที่ขาทั้งสองข้างมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ทันใด นั้นเขาก็ได้ตื่นตระหนก รีบเข้าไปนั่งยองๆแล้วอุ้มจันวิภาขึ้นมา จากนั้นจึงตะคอกใส่ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างกระวนกระวาย ด้วยเสียงที่ดังลั่น “พวกแกจะยืนอึ้งกันทำไม? หมอ รีบเรียก หมอมาเร็ว ! ”
มีคนที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบวิ่งไปกดเบอร์หนึ่งสอง ศูนย์ซึ่งเป็นเบอร์รถพยาบาลด้วยความช็อก
“แค่กๆ..” ดูเหมือนจันวิภาจะยังมีสติอยู่ เธอใช้แรง ทั้งหมดยื่นมือออกไปจับบนมือของสุมิตร ลมหายใจอ่อนระทวย เสียงที่พูดกับเขาแผ่วเบาราวกับเสียงยุง “สุ สมองขาวโพลนไปหมด ราวกับหัวใจได้ถูกคนบีบเอาไว้อย่าง รุนแรง วินาทีต่อมา เขาถึงคนที่แจ้งข่าวร้ายมาข้างหน้า ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ตอนนี้เธอล่ะ? ! อยู่ ไหน? ! ”
คนรับใช้ก็ถูกข่าวนี้ทำให้ตกใจกลัวไม่แพ้กัน แม้แต่การ พูดก็ยังพูดไม่ราบรื่น “อยู่….อยู่ที่ในสวน…สวนดอกไม้..” เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงผลักคนรับใช้ออกไปอย่าง
รุนแรง แล้วรีบวิ่งไปทางสวนดอกไม้
สุมิตรรู้สึกแต่เพียงว่าหัวใจของเขาแทบกระโดดพุ่งขึ้นมา ที่ตา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังกังวลอะไร ในตอนนี้กลัวว่า จะสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญ ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้สังเกต
ตอนที่สุมิตรวิ่งเข้าไปในสวนแล้วเห็นจันวิภานอนกองอยู่ กับพื้น จันวิภาที่ขาทั้งสองข้างมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ทันใด นั้นเขาก็ได้ตื่นตระหนก รีบเข้าไปนั่งยองๆแล้วอุ้มจันวิภาขึ้นมา จากนั้นจึงตะคอกใส่ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างกระวนกระวาย ด้วยเสียงที่ดังลั่น “พวกแกจะยืนอึ้งกันทำไม? หมอ รีบเรียก หมอมาเร็ว ! ”
มีคนที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบวิ่งไปกดเบอร์หนึ่งสอง ศูนย์ซึ่งเป็นเบอร์รถพยาบาลด้วยความช็อก
“แค่กๆ..” ดูเหมือนจันวิภาจะยังมีสติอยู่ เธอใช้แรง ทั้งหมดยื่นมือออกไปจับบนมือของสุมิตร ลมหายใจอ่อนระทวย เสียงที่พูดกับเขาแผ่วเบาราวกับเสียงยุง “สุ มิตร..นาย…นายปล่อยให้ฉันตาย……ตายเถอะนะ…..
ใบหน้าของจันวิภาขาวซีดเสียจนน่ากลัว ริมฝีปากขาวเสีย จนไม่เห็นสีของเลือด ดวงตาลืมอยู่ครึ่งหนึ่ง ชมวดคิ้วด้วย สีหน้าที่เจ็บปวด ราวกับคนที่ต้องการจะไปทุกเวลา
“เธอหุบปากไป! ” สุมิตรตะคอกใส่จันวิภาอย่างโมโห
แต่กลับเขาใช้มือกุมฝ่ามือเล็กๆของจันวิภาเอาไว้ อุ้มเธอขึ้นมา พูดด้วยเสียงตะคอกอย่างร้อนรนซึ่งตัวเองก็ไม่เคยสังเกตมา ก่อน “จันวิภา หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เธอห้ามตาย ฉันไม่ อนุญาตให้เธอตาย! ”
สุมิตรไม่ชัดเจน เขากลัวว่าหลังจากที่จันวิภาตายตนเองจะ ไม่ได้ทรมานเธออีก หรือกลัวว่าจะสูญเสียเธอไป แต่เขาก็พึ่งอุ้ม เธอขึ้นมา เท้ารีบก้าวเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แล้วขับรถไป ส่งจันวิภาที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง
ระหว่างทาง สุมิตรจับมือของจันวิภาเอาไว้อย่างใจจดใจ จ่อ จันวิภานอนอยู่บนเบาะหลังรถ สุมิตรนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ แล้วหันไปมองจันวิภาเป็นครั้งคราว เพราะกลัวว่าจะไม่อาจรั้ง เธอเอาไว้ได้
ขับฝ่าไปแดงอย่างต่อเนื่อง สุมิตรได้มาถึงโรงพยาบาล อย่างรวดเร็ว รถยังไม่ทันได้จอดสนิท ทันทีที่เข้ามาถึงหน้า ประตูโรงพยาบาล สุมิตรก็จอดรถทันที อุ้มแผ่นหลังของจันวิภา แล้ววิ่งเข้าไปข้างใน
เมื่อเขาพบว่าตาของเธอกำลังจะผิดลงและไม่มีท่าทีตอบ มิตร..นาย…นายปล่อยให้ฉันตาย……ตายเถอะนะ…..
ใบหน้าของจันวิภาขาวซีดเสียจนน่ากลัว ริมฝีปากขาวเสีย จนไม่เห็นสีของเลือด ดวงตาลืมอยู่ครึ่งหนึ่ง ชมวดคิ้วด้วย สีหน้าที่เจ็บปวด ราวกับคนที่ต้องการจะไปทุกเวลา
“เธอหุบปากไป! ” สุมิตรตะคอกใส่จันวิภาอย่างโมโห
แต่กลับเขาใช้มือกุมฝ่ามือเล็กๆของจันวิภาเอาไว้ อุ้มเธอขึ้นมา พูดด้วยเสียงตะคอกอย่างร้อนรนซึ่งตัวเองก็ไม่เคยสังเกตมา ก่อน “จันวิภา หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เธอห้ามตาย ฉันไม่ อนุญาตให้เธอตาย! ”
สุมิตรไม่ชัดเจน เขากลัวว่าหลังจากที่จันวิภาตายตนเองจะ ไม่ได้ทรมานเธออีก หรือกลัวว่าจะสูญเสียเธอไป แต่เขาก็พึ่งอุ้ม เธอขึ้นมา เท้ารีบก้าวเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แล้วขับรถไป ส่งจันวิภาที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง
ระหว่างทาง สุมิตรจับมือของจันวิภาเอาไว้อย่างใจจดใจ จ่อ จันวิภานอนอยู่บนเบาะหลังรถ สุมิตรนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ แล้วหันไปมองจันวิภาเป็นครั้งคราว เพราะกลัวว่าจะไม่อาจรั้ง เธอเอาไว้ได้
ขับฝ่าไปแดงอย่างต่อเนื่อง สุมิตรได้มาถึงโรงพยาบาล อย่างรวดเร็ว รถยังไม่ทันได้จอดสนิท ทันทีที่เข้ามาถึงหน้า ประตูโรงพยาบาล สุมิตรก็จอดรถทันที อุ้มแผ่นหลังของจันวิภา แล้ววิ่งเข้าไปข้างใน
เมื่อเขาพบว่าตาของเธอกำลังจะผิดลงและไม่มีท่าทีตอบ สนองอะไร สุมิตรจึงร้อนรนเป็นอย่างมาก วิ่งไปพร้อมกับ ตะโกนไปหาเธอ “จันวิภา! เธอตื่นขึ้นมาหาฉันเดี๋ยวนี้ฉัน ไม่ยอมให้เธอตายอย่างนี้ได้ยินมั้ย! 4
“หมอล่ะ! รีบไปเรียกหมอมาเร็ว! ” สุมิตรพึ่งจะเข้ามา ในโรงพยาบาล ก็ตะโกนออกมาเสียงดังจนหน้าแดงเส้นเลือด ขึ้นคอ
ตอนที่พยาบาลเห็น จึงรีบโทรหาหมอเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด พยาบาลบางคนดันเตียงแพทย์ออกมาจัดเตรียมให้เรียบร้อย แล้วกล่าวกับสุมิตรอย่างรีบร้อน “คุณผู้ชายคะ คุณวางเธอลง
ก่อน พวกเราจะรีบส่งเธอไปที่ห้องผ่าตัด!
สุมิตรได้ยินดังนั้นจึงวางจันวิภาลง จากนั้นจึงวิ่งตามหลัง พญาบาลไปที่ห้องผ่าตัด ระหว่างทางเขาตะโกนไปทางจันวิภา ที่สติกำลังเลือนรางอยู่ไม่หยุดหย่อน “จันวิภา! ฉันไม่ยอมให้ เธอตาย! ได้ยินมั้ย! ถ้าเธอกล้าตายล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยคนที่ อยู่รอบตัวเธอไปแน่! เธอตายไม่ได้! ”
ไม่รู้ว่าตอบสนองกับคำพูดของสุมิตรหรือไม่ มือของจัน วิภาขยับอยู่เล็กน้อย แม้ว่าจะแค่นิดเดียว แต่มันก็ทำให้สุมิตรที่ กุมมือเธอเอาไว้อยู่ตลอดสัมผัสได้ทันที
มาถึงห้องผ่าตัด พญาบาลได้ขวางเขาให้อยู่นอกห้อง ไม่ ให้เขาตามเข้าไป
สุมิตรจึงจะหยุดเท้าที่วิ่งอยู่ลง เดินไปนั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ ข้างๆแล้วหายใจหอบ เขาเอานิ้วมือเข้าไปขยี้ผม บีบบังคับให้
# สนองอะไร สุมิตรจึงร้อนรนเป็นอย่างมาก วิ่งไปพร้อมกับ ตะโกนไปหาเธอ “จันวิภา! เธอตื่นขึ้นมาหาฉันเดี๋ยวนี้ฉัน ไม่ยอมให้เธอตายอย่างนี้ได้ยินมั้ย! 4
“หมอล่ะ! รีบไปเรียกหมอมาเร็ว! ” สุมิตรพึ่งจะเข้ามา ในโรงพยาบาล ก็ตะโกนออกมาเสียงดังจนหน้าแดงเส้นเลือด ขึ้นคอ
ตอนที่พยาบาลเห็น จึงรีบโทรหาหมอเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด พยาบาลบางคนดันเตียงแพทย์ออกมาจัดเตรียมให้เรียบร้อย แล้วกล่าวกับสุมิตรอย่างรีบร้อน “คุณผู้ชายคะ คุณวางเธอลง
ก่อน พวกเราจะรีบส่งเธอไปที่ห้องผ่าตัด!
สุมิตรได้ยินดังนั้นจึงวางจันวิภาลง จากนั้นจึงวิ่งตามหลัง พญาบาลไปที่ห้องผ่าตัด ระหว่างทางเขาตะโกนไปทางจันวิภา ที่สติกำลังเลือนรางอยู่ไม่หยุดหย่อน “จันวิภา! ฉันไม่ยอมให้ เธอตาย! ได้ยินมั้ย! ถ้าเธอกล้าตายล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยคนที่ อยู่รอบตัวเธอไปแน่! เธอตายไม่ได้! ”
ไม่รู้ว่าตอบสนองกับคำพูดของสุมิตรหรือไม่ มือของจัน วิภาขยับอยู่เล็กน้อย แม้ว่าจะแค่นิดเดียว แต่มันก็ทำให้สุมิตรที่ กุมมือเธอเอาไว้อยู่ตลอดสัมผัสได้ทันที
มาถึงห้องผ่าตัด พญาบาลได้ขวางเขาให้อยู่นอกห้อง ไม่ ให้เขาตามเข้าไป
สุมิตรจึงจะหยุดเท้าที่วิ่งอยู่ลง เดินไปนั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ ข้างๆแล้วหายใจหอบ เขาเอานิ้วมือเข้าไปขยี้ผม บีบบังคับให้
# ตัวเองใจเย็นลง จนกระทั่งหลังจากสงบอยู่เป็นเวลานาน สุมิตร จึงพบว่าตัวเองในวันนี้มันมีความผิดปกติอยู่เล็กน้อย
ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับจันวิภามากไป
หน่อย
ไม่ใช่ ไม่ใช่ เขากลัวแค่ว่าพอนางร่านนั่นตายแล้ว ความ แค้นของแม่เขาก็จะไม่มีใครมารับมัน ใช่ มันต้องเป็นอย่างนี้ แน่!
มันไม่มีอย่างอื่นแน่นอน!
หลังจากการเร่งช่วยชีวิตตลอดทั้งวันทั้งคืน สุมิตรกำลังรอ อยู่นอกห้องผ่าตัด แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ สุมิตรก็ ยิ่งร้อนใจมากเท่านั้น
ตอนสุมิตรต้องการที่จะบุกเข้าไปดูสถานการณ์อย่าง ร้อนรน ก็ได้เห็นไฟของห้องผ่าตัดดับลง จันวิภาถูกเปลี่ยนออก มาให้ไปที่หอผู้ป่วยทั่วไปเพื่อพักผ่อน
สุมิตรก็ต้องการที่จะตามไปดูด้วย แต่หมอกลับเรียกเขา ให้หยุด “คุณคือญาติของผู้ป่วยใช่มั้ยครับ?”
สุมิตรต้องการที่จะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่พอคิดว่าที่หมอ เรียกเขามาเพราะมีบางอย่างจะพูด จึงได้เอ่ยปากยอมรับ “ใช่ มีอะไร?”
หมอสายหัว พูดด้วยน้ำเสียงที่ตำหนิอยู่เล็กน้อย “คุณนี้ไม่ ตัวเองใจเย็นลง จนกระทั่งหลังจากสงบอยู่เป็นเวลานาน สุมิตร จึงพบว่าตัวเองในวันนี้มันมีความผิดปกติอยู่เล็กน้อย
ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับจันวิภามากไป
หน่อย
ไม่ใช่ ไม่ใช่ เขากลัวแค่ว่าพอนางร่านนั่นตายแล้ว ความ แค้นของแม่เขาก็จะไม่มีใครมารับมัน ใช่ มันต้องเป็นอย่างนี้ แน่!
มันไม่มีอย่างอื่นแน่นอน!
หลังจากการเร่งช่วยชีวิตตลอดทั้งวันทั้งคืน สุมิตรกำลังรอ อยู่นอกห้องผ่าตัด แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ สุมิตรก็ ยิ่งร้อนใจมากเท่านั้น
ตอนสุมิตรต้องการที่จะบุกเข้าไปดูสถานการณ์อย่าง ร้อนรน ก็ได้เห็นไฟของห้องผ่าตัดดับลง จันวิภาถูกเปลี่ยนออก มาให้ไปที่หอผู้ป่วยทั่วไปเพื่อพักผ่อน
สุมิตรก็ต้องการที่จะตามไปดูด้วย แต่หมอกลับเรียกเขา ให้หยุด “คุณคือญาติของผู้ป่วยใช่มั้ยครับ?”
สุมิตรต้องการที่จะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่พอคิดว่าที่หมอ เรียกเขามาเพราะมีบางอย่างจะพูด จึงได้เอ่ยปากยอมรับ “ใช่ มีอะไร?”
หมอสายหัว พูดด้วยน้ำเสียงที่ตำหนิอยู่เล็กน้อย “คุณนี้ไม่ ค่อยระวังเลย ทำไมถึงให้คนท้องกระโดดตีกลงมาได้ล่ะ? โชค ดีที่ชั้นสองของบ้านคุณไม่สูงเท่าไหร่ ร่างกายของคนท้องก็ไม่ ได้เป็นอะไร มีแต่เด็กเท่านั้นที่เสี่ยงต่อการแท้ง.. ”
เมื่อได้ยินว่าเด็กเกือบจะหายไปแล้ว สุมิตรจึงอึ้งอยู่เล็ก น้อย และไม่ส่งเสียงออกมา
หมอถอนหายใจ ตบไหล่ของสุมิตรแล้วพูดต่อว่า “คุณไม่ ต้องกังวล ต่อไปนี้ก็อย่าให้เธอทำเรื่องที่อันตรายแบบนี้อีกล่ะ ปล่อยให้เธอพักผ่อนอย่างสงบสักช่วงหนึ่ง พูดโน้มน้าวใจเธอ อย่าให้เดินไปมา ในช่วงนี้ ปล่อยให้ทารกในท้องค่อยๆฟื้น ตัว.” ค่อยระวังเลย ทำไมถึงให้คนท้องกระโดดตีกลงมาได้ล่ะ? โชค ดีที่ชั้นสองของบ้านคุณไม่สูงเท่าไหร่ ร่างกายของคนท้องก็ไม่ ได้เป็นอะไร มีแต่เด็กเท่านั้นที่เสี่ยงต่อการแท้ง.. ”
เมื่อได้ยินว่าเด็กเกือบจะหายไปแล้ว สุมิตรจึงอึ้งอยู่เล็ก น้อย และไม่ส่งเสียงออกมา
หมอถอนหายใจ ตบไหล่ของสุมิตรแล้วพูดต่อว่า “คุณไม่ ต้องกังวล ต่อไปนี้ก็อย่าให้เธอทำเรื่องที่อันตรายแบบนี้อีกล่ะ ปล่อยให้เธอพักผ่อนอย่างสงบสักช่วงหนึ่ง พูดโน้มน้าวใจเธอ อย่าให้เดินไปมา ในช่วงนี้ ปล่อยให้ทารกในท้องค่อยๆฟื้น ตัว.”