พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 125
ตอนที่ 125 ผู้ชายคนนี้ปลิ้นปล้อนจริงๆ
“ไม่ได้” จันวิภาปฏิเสธ โดยที่ไม่ต้องคิดเลย
“ใช่หรอ?” สุพจน์แสยะยิ้ม แล้วพูดเตือน “ในหมู่บ้านนี้ ไม่มีร้านค้าอื่นแล้ว คุณต้องคิดให้ดีๆ ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหนี ออกจากสุมิตร เธอรู้ดี”
“ฉัน…” จู่ๆจันวิภาก็พูดไม่ออก ใช่มันไม่เลวเลย การที่ จะหลบหนีออกจากสุมิตร มันเป็นเรื่องที่ยากมาก
เมื่อก่อนเธอไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน ทุกครั้งที่ทำต่าง ก็ถูกสุมิตรพากลับมาทั้งสิ้นจากนั้นจึงโดนขังอยู่ช่วงหนึ่ง ความ รู้สึกที่ล้มเหลวเช่นนั้น เธอไม่อยากที่จะนึกถึงมันอีกแล้ว
ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องออกจากสุมิตรให้ได้!
แต่เธอไม่คิดว่าจะต้องอยู่กับผู้ชายที่อยู่ต่อหน้า ชั่งน้ำหนัก อยู่เล็กน้อย จันวิภาจึงตัดสินใจพูดคุยเงื่อนไขกับเขา
“เอางี้ดีมั้ย นอกจากเงื่อนไขข้อนี้ ไม่ว่าอะไรฉันก็รับปาก นาย! ถ้านายพาฉันหนีออกไปจากสุมิตร!
เมื่อได้ยินดังนั้น สุพจน์กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก “แต่ ผมอยากได้คุณ ไม่ว่าอะไรผมก็ไม่เอา ต้องทำอย่างไงล่ะ เด็ก น้อยของผม! ” ตอน125ผู้ชายคนนี้ปลิ้นปล้อนจริงๆ
ตอนที่ 125 ผู้ชายคนนี้ปลิ้นปล้อนจริงๆ
“ไม่ได้” จันวิภาปฏิเสธ โดยที่ไม่ต้องคิดเลย
“ใช่หรอ?” สุพจน์แสยะยิ้ม แล้วพูดเตือน “ในหมู่บ้านนี้ ไม่มีร้านค้าอื่นแล้ว คุณต้องคิดให้ดีๆ ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหนี ออกจากสุมิตร เธอรู้ดี”
“ฉัน…” จู่ๆจันวิภาก็พูดไม่ออก ใช่มันไม่เลวเลย การที่ จะหลบหนีออกจากสุมิตร มันเป็นเรื่องที่ยากมาก
เมื่อก่อนเธอไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน ทุกครั้งที่ทำต่าง ก็ถูกสุมิตรพากลับมาทั้งสิ้นจากนั้นจึงโดนขังอยู่ช่วงหนึ่ง ความ รู้สึกที่ล้มเหลวเช่นนั้น เธอไม่อยากที่จะนึกถึงมันอีกแล้ว
ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องออกจากสุมิตรให้ได้!
แต่เธอไม่คิดว่าจะต้องอยู่กับผู้ชายที่อยู่ต่อหน้า ชั่งน้ำหนัก อยู่เล็กน้อย จันวิภาจึงตัดสินใจพูดคุยเงื่อนไขกับเขา
“เอางี้ดีมั้ย นอกจากเงื่อนไขข้อนี้ ไม่ว่าอะไรฉันก็รับปาก นาย! ถ้านายพาฉันหนีออกไปจากสุมิตร!
เมื่อได้ยินดังนั้น สุพจน์กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าโศก “แต่ ผมอยากได้คุณ ไม่ว่าอะไรผมก็ไม่เอา ต้องทำอย่างไงล่ะ เด็ก น้อยของผม! ” น่าสะอิดสะเอียน! ผู้ชายคนนี้ข่างปลิ้นปล้อนเสียจริง!
เจ้าเล่ห์จริงๆ!
จันวิภาต่าอยู่ในใจเงียบๆ คิดไปคิดมาอยู่ในสมอง สุดท้ายแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะยอมออกไป “เอางี้ ถ้านาย รับปากฉัน ฉันจะเป็นหนี้นาย ต่อไปถ้านายต้องการฉัน หรือ อยากให้ฉันทำอะไร ฉันจะต้องช่วยนายทำอย่างแน่นอน พูด แล้วไม่คืนค่า! ดีมั้ย?”
“ไม่ว่าจะเรื่องอะไร?”
“ใช่! ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ไม่ว่าจะยากแค่ไหนฉันก็จะทำ นอกจากว่าจะให้ฉันไปเป็นผู้หญิงของนาย” จันวิภาเงยคางขึ้น ตบหน้าอกของตนเองแล้วพูดอย่างการันตี
สุพจน์ขำขันกับการกระทำเช่นนี้ของเธอ ผู้หญิงคนนี้ ทำไม ถึงได้น่ารักน่าสนใจขนาดนี้ เขายิ่งชอบเธอมากขึ้นไปอีกทำ อย่างไงดี..
“ก็ได้ ผมรับปากคุณแล้ว” สุพจน์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก มา แล้วพูดอยากจริงจัง “ผมจะเตรียมการให้ดีที่สุด เมื่อถึง เวลาคุณแค่ฟังแผนของผมก็พอ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หินที่อยู่ในใจของจันวิภาในที่สุดก็ถูก ปล่อยลง เธอมองสุพจน์อย่างซึ้งใจ แล้วพูดออกมา “ขอบคุณ
uz! ”
“เทียบกับขอบคุณ.” สุพจน์บีบคางของจันวิภา โน้มตัว และมองเธอ แล้วพูดอย่างมอมเมา “คุณจูบผมสักหน่อย มันจะ น่าสะอิดสะเอียน! ผู้ชายคนนี้ข่างปลิ้นปล้อนเสียจริง!
เจ้าเล่ห์จริงๆ!
จันวิภาต่าอยู่ในใจเงียบๆ คิดไปคิดมาอยู่ในสมอง สุดท้ายแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะยอมออกไป “เอางี้ ถ้านาย รับปากฉัน ฉันจะเป็นหนี้นาย ต่อไปถ้านายต้องการฉัน หรือ อยากให้ฉันทำอะไร ฉันจะต้องช่วยนายทำอย่างแน่นอน พูด แล้วไม่คืนค่า! ดีมั้ย?”
“ไม่ว่าจะเรื่องอะไร?”
“ใช่! ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ไม่ว่าจะยากแค่ไหนฉันก็จะทำ นอกจากว่าจะให้ฉันไปเป็นผู้หญิงของนาย” จันวิภาเงยคางขึ้น ตบหน้าอกของตนเองแล้วพูดอย่างการันตี
สุพจน์ขำขันกับการกระทำเช่นนี้ของเธอ ผู้หญิงคนนี้ ทำไม ถึงได้น่ารักน่าสนใจขนาดนี้ เขายิ่งชอบเธอมากขึ้นไปอีกทำ อย่างไงดี..
“ก็ได้ ผมรับปากคุณแล้ว” สุพจน์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก มา แล้วพูดอยากจริงจัง “ผมจะเตรียมการให้ดีที่สุด เมื่อถึง เวลาคุณแค่ฟังแผนของผมก็พอ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หินที่อยู่ในใจของจันวิภาในที่สุดก็ถูก ปล่อยลง เธอมองสุพจน์อย่างซึ้งใจ แล้วพูดออกมา “ขอบคุณ
uz! ”
“เทียบกับขอบคุณ.” สุพจน์บีบคางของจันวิภา โน้มตัว และมองเธอ แล้วพูดอย่างมอมเมา “คุณจูบผมสักหน่อย มันจะ ติกว่าเสียงขอบคุณมากมายนัก”
จันวิภาใบหน้าหม่นหมอง พ่นประโยคหนึ่งออกมาจาก ปาก “ออกไป”
โรคขอบลวนลามของคนๆนี้เมื่อไหร่จะรักษาหายสักทีนะ
เมื่อพูดถึงชายคนนี้ จันวภายังไม่รู้จักชื่อของเขาเลย จึงรีบ เอ่ยถามออกไปทันที “พูดถึงนาย..นายชื่ออะไรหรอ? หรือฉัน ควรเรียกนายว่าอะไรดี”
“คุณอยากรู้มั้ย?” สุพจน์ทำท่าทางลึกลับแล้วพูดออกมา
จันวิภาพยักหน้า
“คุณมาเป็นผู้หญิงของผมก่อน แล้วผมจะบอกคุณ..”
“นายไปตายเถอะ! ” จันวิภาปาหมอนไปหาเขา
เธอมองชายคนนี้ไม่ออกจริงๆ
แต่ทว่าสิ่งที่จันวิภาไม่รู้ก็คือ ด้านที่กะล่อนเช่นนี้ของสุพจน์ มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่เคยเห็นมัน
ตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของ สุพจน์ก็ดังขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ สีหน้าของสุ พจน์เปลี่ยนไปทันที จ้องมองจันวิภาด้วยสีหน้าที่จริงจังแล้วพูด ออกมา “ผมไปก่อน ครั้งหน้าตอนที่เจอกันผมจะเอาอาหารมา
รอคุณ”
พูดจบ ไม่รอให้จันวิภามีท่าทีตอบสนอง เขาก็ออกไปจาก ติกว่าเสียงขอบคุณมากมายนัก”
จันวิภาใบหน้าหม่นหมอง พ่นประโยคหนึ่งออกมาจาก ปาก “ออกไป”
โรคขอบลวนลามของคนๆนี้เมื่อไหร่จะรักษาหายสักทีนะ
เมื่อพูดถึงชายคนนี้ จันวภายังไม่รู้จักชื่อของเขาเลย จึงรีบ เอ่ยถามออกไปทันที “พูดถึงนาย..นายชื่ออะไรหรอ? หรือฉัน ควรเรียกนายว่าอะไรดี”
“คุณอยากรู้มั้ย?” สุพจน์ทำท่าทางลึกลับแล้วพูดออกมา
จันวิภาพยักหน้า
“คุณมาเป็นผู้หญิงของผมก่อน แล้วผมจะบอกคุณ..”
“นายไปตายเถอะ! ” จันวิภาปาหมอนไปหาเขา
เธอมองชายคนนี้ไม่ออกจริงๆ
แต่ทว่าสิ่งที่จันวิภาไม่รู้ก็คือ ด้านที่กะล่อนเช่นนี้ของสุพจน์ มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่เคยเห็นมัน
ตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของ สุพจน์ก็ดังขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ สีหน้าของสุ พจน์เปลี่ยนไปทันที จ้องมองจันวิภาด้วยสีหน้าที่จริงจังแล้วพูด ออกมา “ผมไปก่อน ครั้งหน้าตอนที่เจอกันผมจะเอาอาหารมา
รอคุณ”
พูดจบ ไม่รอให้จันวิภามีท่าทีตอบสนอง เขาก็ออกไปจาก ห้องผู้ป่วยทันที
มองไปที่ประตูห้อง จันวิภาอดไม่ได้ที่จะพูดพิมพำออกมา “ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกจริงๆ…เขาเป็นใครกันแน่นะ”
สุพจน์จากไปเพียงไม่นาน ธนภาคก็เปิดประตูเข้ามาทันที เขาดูรีบร้อน เดินเข้ามาข้างหน้าจันวิภา ไม่มีเวลาหอบ ธนภาค เอ่ยปากพูดขึ้นมา “จันวิภา ฉันมีเรื่องจะถามเธอเรื่องหนึ่ง เธอ จะต้องตอบฉันตามตรงนะ”
ธนภาคทำหน้าเข้มขรึม จันวิภามองแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึก เครียด จึงรีบพูดออกไป “มีอะไรนายก็ถามมา”
“แปดกรกฎาคม คืนวันนั้นเธออยู่ที่ไหน?” พอธนภาคเอ่ย ปากพูด จันวิภาก็ถึงกับตกตะลึง
แปดกรกฎาคม! นั่นไม่ใช่วันที่เธอมีอะไรกันครั้งแรกกับ
สุมิตรที่โรงแรมนั่นงั้นหรือ!
ทำไมธนภาคจู่ๆก็ถามคำถามนี้กับเธอกัน? !
จันวิภามองธนภาคด้วยความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย และพูดไม่ออกเป็นเวลานาน
“จันวิภา? เธอเป็นอะไรไป?” ธนภาคเขย่าไหล่จันวิภา
แล้วพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “จันวิภา โปรดตอบฉันมาตามจริง เรื่องนี้มันสำคัญกับฉันมาก”
ธนภาคคงไม่ได้รู้เรื่องอะไรเข้าแล้วหรอกนะ? !
จันวิภาระงับความตกใจที่อยู่ในหัวใจตนเอง แสร้งทำเป็น ห้องผู้ป่วยทันที
มองไปที่ประตูห้อง จันวิภาอดไม่ได้ที่จะพูดพิมพำออกมา “ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกจริงๆ…เขาเป็นใครกันแน่นะ”
สุพจน์จากไปเพียงไม่นาน ธนภาคก็เปิดประตูเข้ามาทันที เขาดูรีบร้อน เดินเข้ามาข้างหน้าจันวิภา ไม่มีเวลาหอบ ธนภาค เอ่ยปากพูดขึ้นมา “จันวิภา ฉันมีเรื่องจะถามเธอเรื่องหนึ่ง เธอ จะต้องตอบฉันตามตรงนะ”
ธนภาคทำหน้าเข้มขรึม จันวิภามองแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึก เครียด จึงรีบพูดออกไป “มีอะไรนายก็ถามมา”
“แปดกรกฎาคม คืนวันนั้นเธออยู่ที่ไหน?” พอธนภาคเอ่ย ปากพูด จันวิภาก็ถึงกับตกตะลึง
แปดกรกฎาคม! นั่นไม่ใช่วันที่เธอมีอะไรกันครั้งแรกกับ
สุมิตรที่โรงแรมนั่นงั้นหรือ!
ทำไมธนภาคจู่ๆก็ถามคำถามนี้กับเธอกัน? !
จันวิภามองธนภาคด้วยความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย และพูดไม่ออกเป็นเวลานาน
“จันวิภา? เธอเป็นอะไรไป?” ธนภาคเขย่าไหล่จันวิภา
แล้วพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “จันวิภา โปรดตอบฉันมาตามจริง เรื่องนี้มันสำคัญกับฉันมาก”
ธนภาคคงไม่ได้รู้เรื่องอะไรเข้าแล้วหรอกนะ? !
จันวิภาระงับความตกใจที่อยู่ในหัวใจตนเอง แสร้งทำเป็น สงบแล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ฉันแค่พึ่งตื่นนอน เลยยังไม่ค่อยมี สติน่ะ และวันที่แปดกรกฎาคมมันคืออะไรงั้นหรอ? ฉันไม่ค่อย เข้าใจเลย..
“วันที่แปดของเดือนกรกฎาคมปีนี้ คืนวันนั้นเธออยู่ที่ไหน? บอกฉันที! ” ธนภาคถามอย่างใครรู้อีกครั้ง
“ฉัน…คืนนั้นฉันอยู่งานวันเกิดเพื่อน และดื่มเหล้าด้วย กันกับเพื่อน….” สมองของจันวิภาไม่แล่น เธอยังต้องการที่จะ เอ่ยถามอะไรสักอย่าง ใครจะรู้ว่าธนภาคจะไม่อธิบายให้
ชัดเจน
หลังจากที่จันวิภาพูดจบ ธนภาคก็อึ้งอยู่เล็กน้อย ต่อมา เขาจึงจ้องมองตาของจันวิภาอย่างจริงจัง แล้วพูดกับเธอด้วย ใบหน้าที่เคร่งขรึม “จันวิภา ตอนนี้ฉันไม่ล้อเล่น และก็ไม่ตลก ด้วย ฉันต้องการให้เธอตอบคำถามฉันอย่างจริงจัง คืนนั้นของ วันที่เจ็ดเดือนกรกฎาคม เธออยู่ที่ไหนกันแน่! !
ในตอนท้าย คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีท่าทีที่กระวนกระวายใจ
เป็นอย่างมาก
จันวิภากลืนน้ำลายไปอีกหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะ พูดด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอเอง “วันนั้นฉันฉลองวัน เกิดกับเพื่อน ฉันรู้แค่ว่าคืนนั้นฉันดื่มมากไป และจำอะไรไม่ได้ เลย ถ้านายไม่เชื่อนะ นายไปถามพัชรีได้เลย! หรือมีอะไรเกิด ขึ้นหลังจากคืนนั้นที่ฉันไม่รู้?”
” เมื่อได้ยินดังนั้น ธนภาคถึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“L58….. สงบแล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ฉันแค่พึ่งตื่นนอน เลยยังไม่ค่อยมี สติน่ะ และวันที่แปดกรกฎาคมมันคืออะไรงั้นหรอ? ฉันไม่ค่อย เข้าใจเลย..
“วันที่แปดของเดือนกรกฎาคมปีนี้ คืนวันนั้นเธออยู่ที่ไหน? บอกฉันที! ” ธนภาคถามอย่างใครรู้อีกครั้ง
“ฉัน…คืนนั้นฉันอยู่งานวันเกิดเพื่อน และดื่มเหล้าด้วย กันกับเพื่อน….” สมองของจันวิภาไม่แล่น เธอยังต้องการที่จะ เอ่ยถามอะไรสักอย่าง ใครจะรู้ว่าธนภาคจะไม่อธิบายให้
ชัดเจน
หลังจากที่จันวิภาพูดจบ ธนภาคก็อึ้งอยู่เล็กน้อย ต่อมา เขาจึงจ้องมองตาของจันวิภาอย่างจริงจัง แล้วพูดกับเธอด้วย ใบหน้าที่เคร่งขรึม “จันวิภา ตอนนี้ฉันไม่ล้อเล่น และก็ไม่ตลก ด้วย ฉันต้องการให้เธอตอบคำถามฉันอย่างจริงจัง คืนนั้นของ วันที่เจ็ดเดือนกรกฎาคม เธออยู่ที่ไหนกันแน่! !
ในตอนท้าย คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีท่าทีที่กระวนกระวายใจ
เป็นอย่างมาก
จันวิภากลืนน้ำลายไปอีกหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะ พูดด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอเอง “วันนั้นฉันฉลองวัน เกิดกับเพื่อน ฉันรู้แค่ว่าคืนนั้นฉันดื่มมากไป และจำอะไรไม่ได้ เลย ถ้านายไม่เชื่อนะ นายไปถามพัชรีได้เลย! หรือมีอะไรเกิด ขึ้นหลังจากคืนนั้นที่ฉันไม่รู้?”
” เมื่อได้ยินดังนั้น ธนภาคถึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“L58….. อย่างผิดหวังเป็นอย่างมาก เรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาราวกับจะ ถูกสูบหายไป แล้วพูดออกมาอย่างอ่อนแอ “ไม่เป็นไร ฉันแค่
ถามเฉยๆ เมื่อเห็นธนภาคมีท่าทีเช่นนี้ มันชัดเจนเลยว่าต้องมีเรื่อง
แน่นอน!
จันวิภาอยากจะถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เธอไม่อาจที่จะ ถามได้ เพราะเกรงว่าถ้าพูดมากไปอาจจะถูกธนภาคมอง ออก!
“นาย.นายไม่เป็นไรนะ?” จันวิภาประณามความรู้สึก ผิด และไม่อาจช่วยธนภาคที่มีใบหน้าสิ้นหวังได้
“ฉันไม่เป็นไร” เมื่อได้ยินความเป็นห่วงกังวลใจของจัน วิภา ธนภาคดูมีชีวิตชีวา เขาเผยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก ออกมาให้เห็น “ฉันยังมีเรื่องวุ่นๆอยู่ เธอพักผ่อนต่อไปเถอะ”
พูดจบ ก็เดินไปอย่างไม่หันหน้ากลับมามอง
ธนภาคที่มีท่าที่ผิดปกติเช่นนี้ทำให้จันวิภาสงสัยอยู่นิด หน่อย เขาต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ไม่เช่นนั้นจู่ๆจะวิ่งเข้ามาถาม เรื่องนี้กับตนเองงั้นหรือ จากนั้นก็ออกไปอย่างตื่นตระหนกอีก ครั้ง
จันวิภาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงปล่อยไปอีกครั้ง
แม้ว่าธนภาคจะรู้แต่ก็ไม่สนใจ เธอต้องการที่จะออกไป จากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด เติมทีเธอต้องการที่จะเก็บความลับนี้เอา อย่างผิดหวังเป็นอย่างมาก เรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาราวกับจะ ถูกสูบหายไป แล้วพูดออกมาอย่างอ่อนแอ “ไม่เป็นไร ฉันแค่
ถามเฉยๆ เมื่อเห็นธนภาคมีท่าทีเช่นนี้ มันชัดเจนเลยว่าต้องมีเรื่อง
แน่นอน!
จันวิภาอยากจะถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เธอไม่อาจที่จะ ถามได้ เพราะเกรงว่าถ้าพูดมากไปอาจจะถูกธนภาคมอง ออก!
“นาย.นายไม่เป็นไรนะ?” จันวิภาประณามความรู้สึก ผิด และไม่อาจช่วยธนภาคที่มีใบหน้าสิ้นหวังได้
“ฉันไม่เป็นไร” เมื่อได้ยินความเป็นห่วงกังวลใจของจัน วิภา ธนภาคดูมีชีวิตชีวา เขาเผยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก ออกมาให้เห็น “ฉันยังมีเรื่องวุ่นๆอยู่ เธอพักผ่อนต่อไปเถอะ”
พูดจบ ก็เดินไปอย่างไม่หันหน้ากลับมามอง
ธนภาคที่มีท่าที่ผิดปกติเช่นนี้ทำให้จันวิภาสงสัยอยู่นิด หน่อย เขาต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ไม่เช่นนั้นจู่ๆจะวิ่งเข้ามาถาม เรื่องนี้กับตนเองงั้นหรือ จากนั้นก็ออกไปอย่างตื่นตระหนกอีก ครั้ง
จันวิภาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงปล่อยไปอีกครั้ง
แม้ว่าธนภาคจะรู้แต่ก็ไม่สนใจ เธอต้องการที่จะออกไป จากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด เติมทีเธอต้องการที่จะเก็บความลับนี้เอา ไว้ในใจตลอดไป แม้ว่าตอนนี้มันจะถูกค้นพบเข้า ก็ไม่ได้เป็น
เรื่องใหญ่อะไร ไว้ในใจตลอดไป แม้ว่าตอนนี้มันจะถูกค้นพบเข้า ก็ไม่ได้เป็น
เรื่องใหญ่อะไร