พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 14
ตอนที่14 ผู้หญิงของเขา ห้ามคนอื่นมาแตะต้อง
“สุมิตร มันไม่ใช่อย่างนี้ นายฟังฉันอธิบายก่อน! “จัน วิภาเห็นสุมิตรที่มีสีหน้ายิ้มครีม จึงได้พูดออกมาทันที แต่พอ มองเห็นพวกอันธพาลนั้นกำลังจะเริ่มลงมือกับเขา จึงตระโกน ออกไปอย่างรีบร้อน “ระวัง! ! ! ”
แต่พวกอันธพาลนั้นได้หยิบขวดไวน์เพื่อจะโยนไปยังสุ มิตร พอได้ยินชื่อที่จันวิภาร้องตระโกนออกมา กลับหยุดชะงัก ลงอย่างรวดเร็ว แล้วรีบทิ้งขวดไวน์ไป หันตัววิ่งหนีไปด้วย ความหวาดผวา!
สุมิตร คาดไม่ถึงเลยว่าชายคนนั้นจะเป็นสุมิตร? สุมิตรที่ ในเมืองหลวงมีฉายาที่ว่าเป็นมีปีศาจอันชั่วร้าย จักรพรรดิมีด ที่เลือดเย็นนั้นหรอ? !
เวรเอ๊ย ถ้าหากว่าไม่รีบวิ่งไป ถูกเขาจับได้ เกรงว่าคงไม่
รอดพ้นแน่ๆ!
จันวิภาเบิกตากว้างขึ้นมาในทันที จ้องมองเหล่าอันธพาล พวกนั้นวิ่งหนีกันด้วยความหวาดกลัวอย่างแปลกประหลาดใจ จนเกือบที่จะคิดว่าตนเองตาลายไปเสียแล้ว
ในเวลานี้ สุมิตรกลับเดินเข้ามาข้างหน้า ยื่นมือออกไปดึง ข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากไปอีกทางหนึ่งอย่างแรง!
จันวิภาไม่ทันตั้งตัว เลยล้มลงสู่อ้อมแขนของสุมิตร แต่
สิ่งที่เธอได้สัมผัสไม่ใช่อ้อมกอดที่อบอุ่น กลับคือแผ่นหลังที่
แข็งๆ ชนเข้ากับจมูกของเธอจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา
“จันวิภา เธอกล้ามากนัก แต่กลับบ้านพ่อแม่ เธอก็ไป เที่ยวบาร์เสียแล้ว แล้วยังจะออกไปเกลือกกลั้วกับไอ้พวก ผู้ชายป่าเถื่อนนั่นอีก”
สุมิตรเข้าไปในห้องส่วนตัวอย่างคุ้นหูคุ้นตาดี หลังจาก โยนจันวิภาเข้าไปในห้องแล้ว ก็ปิดประตูอย่างรุนแรง พูดด้วย น้ำเสียงเย็นชาและเสียดสี
จันวิภารู้สึกหวาดผวาอย่างแปลกประหลาด เธออ้าปาก อยากจะอธิบาย แต่กลับได้ยินเสียงดูถูกเหยืดหยามไม่หยุด หย่อนของเขา”ผมดูถูกเธอจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอมีเลศนัย ขนาดนี้ ก็ถูก ลูกสาวของนังร่านก็คือนั่งร่าน รู้แต่ล่อล่วงผู้ชาย อยู่ตลอดเวลา”
เสียงของเขาช่างเย็นชาและดุดาล ทำให้จันวิภาจึงรู้สึก ไม่สบายมาก”มันไม่ใช่อย่างนั้น นายฟังฉันก่อน….
แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกสุมิตรขัดจังหวะอย่างไร้เยื่อ ใย”ทำไม ไม่ใช่อย่างนั้นหรอ แล้วเป็นอย่างไหน เธอคิดว่าผม เป็นคนตาบอดหรือไง เมื่อกี้นี้พึ่งจะเสแสร้งทำเป็นผู้หญิง บริสุทธิ์ต่อหน้าผม ลับหลังผมก็หาข้ออ้างวิ่งเข้าไปในบาร์เพื่อ เล่นสนุกกับผู้ชายเสียแล้ว ทำไม ผมทำให้เธอพอใจไม่ได้หรือ ไง”
สุมิตรพูดด้วยนัยน์ตาแดงฉาน ยื่นมือออกมาด้วยความ โกรธ จันคางของจันวิภาอย่างแรงๆ บีบบังคับให้เธอแหงน
หน้าขึ้นมามองตนเอง
ความเจ็บปวดบริเวณคางค่อยๆแผ่ข่านออกมา ทำให้จัน วิภาตื่นตัวอยู่ไม่น้อย จ้องมองดูสายตาที่ครีมคู่นั้นของสุมิตร เธอรีบเอ่ยปากพูดขึ้นมาทันที “นายฟังฉันอธิบายก่อน เรื่องไม่ ได้เป็นแบบที่นายคิด ฉันได้เห็นคนที่เหมือนกับพ่อของฉัน ก็ เลยตามเข้ามา แต่ยังไม่ทันที่จะหาพ่อเจอ ก็ไปชนกับพวก นักเลงกลุ่มนั้นเข้า…
“เฮ้อ! “จันวิภายังอยากจะอธิบายต่อ แต่ที่จะหัวเราะเยาะออกมา อย่างชั่วร้าย น้ำเสียงเยือกจะบอกว่าเธอเสแสร้งมากเกินไป จะเชื่อคำพูดตอแหลพวกนั้นที่เธอพูดงั้นหรอ? เธอคิดว่าตาที่จะมองมันหรือไง?”
เขาพูดพร้อมกับสะบัดมือ จันวิภาก็ล้มลงบนโซฟา
จันวิภาถูกโยนเสียจนทั่วทั้งเรือนร่างปวดร้าว แผลที่อยู่บน หน้าผากก็สะเทือนด้วยเช่นไม่ได้ที่จะสูดลม หายใจเข้ามา
“จันวิภา ถึงแม้ครั้งนี้เธอว่า ผมจะเชื่อในตัวเธอ! “พูดจบ หน่วง โดยไม่มีความสงสารใดๆ
การกระทำของสุมิตรนั้นช่างคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเอาเธออยู่ที่นี่เลย
เขาไม่เชื่อเธอ? แถมยังจะทำกับเธอเช่นนี้อีก
จันวิภารู้สึกปวดหัว ดิ้นรนต่อสู้กับสุมิตรอย่างสุดชีวิต แต่ ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธเพียงใด เขาก็ไม่สนใจใยดีอะไรทั้งสิ้น
แค่คิดถึงเรื่องจันวิภาไม่ใช่สาวพรหมจารี และคิดถึงภาพ
ที่เธอหลอกล่อผู้ชายอยู่ในบาร์นั่น สุมิตรก็โกรธจนถึงขีดสุด
ผู้หญิงของเขา ห้ามให้คนอื่นมาแตะต้อง